ตัวกรอง

เส้นทาง

ทัวร์ญี่ปุ่น

Lovely Smile Tour มีแพกเก็จ ทัวร์ญี่ปุ่น ให้เลือกหลากหลายเส้นทาง ไม่ว่าจะเป็น ฮอกไกโด โตเกียว โอซาก้า ทาคายาม่า ฟุกุโอกะ และมีหลากหลายสายการบินทั้ง Low Cost และ Full Service ซึ่งกรุ๊ปมีเดินทางทุกสัปดาห์ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ถ้าเป็นสงกรานต์ หรือปีใหม่ แนะนำให้จองล่วงหน้าอย่างน้อย 2 เดือน สนใจจองแพ็กเกจไหน แอดไลน์หรือโทรสอบถามได้เลย

5 เรื่องต้องรู้ ก่อนไปเที่ยวทัวร์ญี่ปุ่น

ญี่ปุ่น เป็นหนึ่งในประเทศที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยว ด้วยทั้งสถานที่เที่ยว อาหาร วัฒนธรรมต่างๆ ที่น่าสนใจ ซึ่งบอกได้เลยว่า ไปกี่ครั้งก็ไม่เบื่อ สำหรับทัวร์ญี่ปุ่นได้มีแพ็กเกจขายหลากหลายเส้นทาง อาทิ โตเกียว โอซาก้า ทาคายาม่า ฮอกไกโด ฟุกุโอกะ สำหรับการไปเที่ยวญี่ปุ่น ควรจะต้องเตรียมตัวอะไรบ้าง ลองอ่านรีวิว

1. ทัวร์ญี่ปุ่นควรเริ่มต้นเที่ยวเมืองไหนดี

สำหรับท่านที่ไปเที่ยวญี่ปุ่นครั้งแรก และไม่รู้จะไปที่ไหนก่อนดี แพ็กเกจทัวร์ก็มีให้เลือกเยอะไปหมด แนะนำว่า ไปเที่ยวทัวร์โตเกียว ก่อน การไปเที่ยวที่โตเกียว จะทำให้เราได้รู้จักสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญๆ อาทิเช่น ภูเขาไฟฟูจิ วัดอาซากุสะ แหล่งช้อปปิ้งต่างๆ ชินจูกุ ชิบูย่า ฮาราจูกุ ซึ่งเรียกได้ว่า เป็นเมืองที่มีสถานที่เที่ยวหลากหลายทั้งธรรมชาติ ไหว้พร ช้อปปิ้ง ชมบ้านชมเมือง อีกทั้งยังมีสวนสนุก โตเกียวดิสนีย์แลนด์ และโตเกียวดิสนีย์ซี ตอบโจทย์ครอบครัวที่อยากพาเด็กๆ มาอีกด้วย

ทัวร์ญี่ปุ่นพาเที่ยวภูเขาไฟฟูจิ
ภูเขาไฟฟูจิ
วัดอาซากุสะ ทีเที่ยวยอดฮิตของทัวร์ญี่ปุ่น
วัดอาซากุสะ
ย่านช้อปปิ้งชินจูกุที่ทัวร์ญี่ปุ่นชอบมา
แหล่งช้อปปิ้งย่านชินจูกุ
โตเกียวดิสนีย์แลนด์สวนสนุกสุดฮิตของญี่ปุ่น
โตเกียวดิสนีย์แลนด์ สวนสนุกยอดฮิตที่ต้องมาสักครั้ง

เมื่อลูกค้าได้มาเที่ยวเส้นทางโตเกียวแล้ว ส่วนใหญ่ก็จะไล่เที่ยวเมืองต่างๆ ตามลำดับดังนี้

  1. โอซาก้า เกียวโต ทาคายาม่า ชิราคาวาโกะ จะนิยมไปช่วงใบไม้เปลี่ยนสี
  2. ฮอกไกโด ซัปโปโร อาซาฮิกาวะ โอตารุ โดยเฉพาะช่วงหิมะตก สามารถไปเล่นสกีได้
  3. ฟุกุโอกะ เบปปุ เที่ยวได้ทั้งปี
  4. โอกินาว่า เที่ยวได้ทั้งปี

นอกจากนี้ บางท่านยอมมาเที่ยวโตเกียว หรือโอซาก้าซ้ำ เพื่อไปเที่ยวเส้นทางธรรมชาติ เช่น ทัวร์คามิโคจิ ฮาคุบะ เจแปนแอลป์ เป็นต้น ซึ่งบอกได้เลยว่า ที่เที่ยวญี่ปุ่นเยอะมากจริงๆ ต้องมาเรื่อยๆ มากี่ครั้งก็ไม่เบื่อ

ทัวร์คามิโคจิช่วงใบไม้เปลี่ยนสี
ทัวร์คามิโคจิช่วงใบไม้เปลี่ยนสี
ทัวร์ญี่ปุ่นพาเที่ยวฮอกไกโดช่วงที่มีหิมะ
เที่ยวฮอกไกโดช่วงที่มีหิมะ

2. ช่วงเวลาไหนน่าไปเที่ยว

มีอยู่ 3 ช่วงเวลา ที่นักท่องเที่ยวนิยมไปเที่ยวญี่ปุ่น ดังนี้

2.1 ใบไม้เปลี่ยนสี

จะเป็นช่วงเดือน ปลายกันยายน - พฤศจิกายน ของทุกปี เป็นช่วงที่อากาศกำลังเย็นสบาย ไม่หนาวจัดจนเกินไป ถ่ายรูปออกมาก็สวย เพราะจะได้เห็นบรรยากาศใบไม้สีส้มๆ แดงๆ ตามสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ สวยงามไปหมด ถ้าอยากไปเจอไม้ใบเปลี่ยนสีเยอะๆ แนะนำไปทัวร์เกียวโต ตามวัดหรือศาลเจ้าต่างๆ เช่น วัดน้ำใส ปราสาททอง รับรองสวยแน่นอน

ดูใบไม้เปลี่ยนสีที่วัดคิโยมิสึ วัดน้ำใส
ช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสีที่วัดคิโยมิสึ หรือวัดน้ำใส ที่เกียวโต
ทัวร์ญี่ปุ่นพาถ่ายรูปใบไม้เปลี่ยนสีที่เกียวโต
ใบไม้เปลี่ยนสีที่เกียวโต

2.2 หน้าหนาว

จะเป็นช่วงเดือน ธันวาคม - กุมภาพันธ์ ของทุกปี ใครอยากไปเจอหิมะ อยากไปเล่นสโนว์โมบิล หรือไปล่องเรือตัดน้ำแข็งกับ ทัวร์ฮอกไกโด ต้องไปช่วงนี้เลย แต่บางครั้ง ถ้ามีพายุหิมะ หรือหิมะตกหนัก แหล่งท่องเที่ยวหรือร้านค้าต่างๆ ก็จะปิดเร็ว

หน้าหนาวที่คลองโอตารุ ฮอกไกโด
หน้าหนาวที่คลองโอตารุ ฮอกไกโด

นอกจากนี้ ยังมีช่วงปลายเดือน เมษายน - มิถุนายม. ที่คนชอบไปดูกำแพงหิมะ ทัวร์เจแปนแอลป์ ไปถ่ายรูปสวยๆ ท่ามกลางอากาศหนาวเย็น

ไปดูกำแพงหิมะ เจแปนแอลป์
กำแพงหิมะ ทาคายาม่า

2.3 ใบไม้ผลิ

จะเป็นช่วงเดือน มีนาคม - พฤษภาคม ของทุกปี ไฮไลท์สำคัญที่นิยมที่สุด คือ ไปดู ดอกซากุระ (Cherry Blossom) ซึ่งแต่ละเมืองก็จะบานช้าบานเร็วต่างกัน ต้องเช็คพยากรณ์กันอีกครั้ง นอกจากนี้ ยังการไปดูดอกทิวลิป ทุ่งดอกพิงค์มอส อีกด้วย

ทัวร์ญี่ปุ่นพาชมซากุระที่เกียวโต
ดอกซากุระ ที่เกียวโต
ชมดอกพิงค์มอสและวิวฟูจิ
พิงค์มอส

ส่วนเดือน มิถุนายน - ต้นเดือนกันยายน จะเป็นช่วงหน้าร้อนและมีฝนตก ทำให้นักท่องเที่ยวไม่นิยมไปกัน โดยเฉพาะคนไทยที่ตั้งใจไปเที่ยวญี่ปุ่นทั้งที ก็อยากไปเจออากาศเย็นสบาย เจอหิมะ เจอดอกไม้สวยๆ แต่ในทางกลับกัน ช่วงนี้จะเป็นช่วงที่ตั๋วเครื่องบินราคาถูก ทำให้ราคาทัวร์ญี่ปุ่นถูกด้วย ใครอยากไปช้อปกระหน่ำ Summer Sale แนะนำไปช่วงนี้เลย

3. ควรแลกเงินไปกี่บาท

จะแลกเงินไปเที่ยวญี่ปุ่นแต่ละทริป ขึ้นอยู่กับ 3 ปัจจัยหลัก ดังนี้

  1. แพ็กเกจทัวร์มีมื้ออิสระหรือไม่ ถ้ามีมื้ออิสระ อาจจะคิดง่ายๆ มื้อละ 500 บาท มีกี่มื้อ ก็คำนวณไป
  2. แพ็กเกจทัวร์มีอิสระเที่ยวเองหรือไม่ ถ้ามีวันอิสระ ท่านต้องวางแผนว่าจะไปเที่ยวที่ไหน บางท่านอยากไปสวนสนุก บางท่านอยากช้อปปิ้ง บางท่านอยากไปเดินเที่ยวหาร้านอาหาร ร้านกาแฟทานหรือถ่ายรูป ก็ต้องเตรียมงบสำหรับการเดินทาง และค่าเข้าสถานที่ต่างๆ
  3. ต้องการช้อปปิ้งมากน้อยแค่ไหน ใครมีออเดอร์เยอะ ก็ต้องแลกเงินไปเยอะ

หากสามารถประเมิน 3 เรื่องนี้ได้ ท่านก็จะเตรียมเงินไปได้ถูก แต่ถ้าให้แนะนำง่ายๆ แนะนำแลกไปท่านละ 10,000 บาท พร้อมกับเตรียมบัตรเงินสด (เช่น Youtrip) หรือบัตรเครดิตไปเผื่อด้วย สำหรับที่แลกเงิน แนะนำแลกที่ Superrich ได้เลย อัตราแลกเปลี่ยนถูกที่สุด

บัตร youtrip ใช้ที่ญี่ปุ่น
บัตร Youtrip

4. อยากซื้อซิมเล่นเน็ต ซื้อที่ไหนดี

แนะนำ 2 ทางเลือก ดังนี้

4.1 เปิดโรมมิ่ง (แนะนำ)

ไม่ว่าซิมที่ไทยของท่านจะเป็นแบบเติมเงินหรือรายเดือน ก็สามารถเปิดโรมมิ่งได้ โดยการเปิดโรมมิ่งหรือซื้อแพ็กเกจโรมมิ่งมี 3 วิธี ดังนี้

  1. ซื้อแพ็กเกจโรมมิ่งผ่านแอปของเครือข่ายที่ใช้อยู่ เช่น myAIS , True
  2. โทรหา Call Center ของเครือข่ายที่ใช้อยู่
  3. ติดต่อศูนย์บริการใกล้บ้าน
ข้อดีของการใช้โรมมิ่ง มีดังนี้
  1. ไม่ต้องเปลี่ยนซิม
  2. สามารถรับสายได้ โทรออกได้ รับข้อความได้ ใครจำเป็นต้องรับรหัสทางข้อความ เพื่อทำธุรกรรมทางการเงิน แนะนำให้เปิดโรมมิ่งเลย
ข้อความระวังในการใช้โรมมิ่ง

หากไม่ได้ซื้อโปรโทรออกรับสายที่ต่างประเทศไว้ หากมีคนโทรเข้าแล้วรับสายหรือกดตัดสาย จะเสียเงินด้วย แนะนำให้ปล่อยให้สายหลุดไปเอง แล้วใช้ไลน์โทรกลับ หรือให้คนที่เมืองไทยช่วยโทรกลับ

4.2 ซื้อซิมเติมเงิน

แนะนำเป็น Sim2Fly ของ AIS สามารถติดต่อศูนย์บริการใกล้บ้านได้เลย หรือจะไปซื้อที่สนามบินก็ได้ จะมีขายเช่นกัน แต่แนะนำให้เผื่อเวลาสำหรับไปรอคิวซื้อซิมด้วย ค่าซิมอันละ 399 บาท หรือท่านใดไม่อยากใช้ Sim2Fly จะเปิดโรมมิ่งก็ได้ โดยสามารถเช็คโปรโมชั่นกับเครือข่ายที่ท่านใช้ได้เลย

SIM2FLY AIS สำหรับใช้เน็ตที่ญี่ปุ่น
SIM2FLY ของ AIS แนะนำเลย
ข้อสังเกตของ SIM2FLY
  1. เบอร์ที่ไทยจะไม่ได้สามารถใช้งานโทรเข้าโทรออกได้ เพราะต้องเปลี่ยนซิมเป็น SIM2FLY
  2. ไม่สามารถรับข้อความได้

5. เอกสารที่ใช้ในการเดินทาง

ไปเที่ยวทัวร์ญี่ปุ่นจะใช้แค่หนังสือเดินทาง (Passport) เท่านั้น โดยหนังสือเดินทางจะต้องมีอายุเหลือมากกว่า 6 เดือน นับจากวันเดินทางกลับ จึงจะสามารถใช้เดินทางได้ ของท่านใดเหลือน้อยกว่า 6 เดือน ต้องไปทำเล่มใหม่ โดยเตรียมแค่บัตรประชาชน กับเงินค่าธรรมเนียมไป ซึ่งค่าธรรมเนียมคิดดังนี้

ประเภทการทำหนังสือเดินทางค่าธรรมเนียม (บาท)
แบบ 5 ปี 3 วันทำการ ได้เล่ม1,000
แบบ 5 ปี 2 วันทำการ ได้เล่ม2,000
แบบ 5 ปี ได้เล่มในวัน3,000
แบบ 10 ปี 3 วันทำการ ได้เล่ม1,500

สำหรับสถานที่ทำหนังสือเดินทางจะมีที่ไหนบ้าง สามารถเช็คได้จากปุ่มด้านล่าง ซึ่งจะมีบางที่ที่เปิดให้ทำวันเสาร์ด้วย ทั้งนี้แนะนำว่า ให้โทรไปเช็คก่อนว่าเปิดหรือไม่ นอกจากนี้ หากท่านเดินทางไปกับกรุ๊ปทัวร์ ไม่ต้องลงทะเบียน Visit Japan แล้ว ทางเจ้าหน้าที่ส่งทัวร์จะเตรียมใบ ตม. ให้ทุกท่านเซ็นต์ ซึ่งสะดวกสบายมากๆ

สรุป

การไปเที่ยวทัวร์ญี่ปุ่นถือว่าสะดวกสบายมากๆ เตรียมตัวได้ง่ายๆ แค่มีพาสปอร์ตที่มีอายุเหลือมากกว่า 6 เดือน ก็สามารถเดินทางได้แล้ว ไม่ต้องทำวีซ่าเหมือนไปยุโรป ที่เหลือก็เป็นการจัดกระเป๋า เตรียมเสื้อผ้าไปเที่ยวในฤดูกาลหรือช่วงเวลาที่เราอยากไป แลกเงินให้เรียบร้อย ซื้อซิมสำหรับเล่นเน็ตหรือจะเปิดโรมมิ่งก็ได้ บอกเลยว่า ไปเที่ยวประเทศนี้ ไปกี่ครั้งก็ไม่เบื่อ ไปกับทัวร์ก็สบาย มีไกด์คอยดูแลตลอดการเดินทาง หากสนใจแพ็กเกจทัวร์ญี่ปุ่น สามารถทักไลน์ @lovelysmiletour ได้เลย