ตัวกรอง

เส้นทาง

ทัวร์อาซาฮิกาวะ

Lovely Smile Tour มีแพ็กเกจ ทัวร์อาซาฮิกาวะ หลากหลายแพ็กเกจให้เลือกหลายแบบ พักโรงแรมระดับ 3 ดาว มีทั้งบิน Full Service และ Low Cost โดยช่วงที่นักท่องเที่ยวนิยมไปมากที่สุด คือ ช่วงฤดูหนาวหรือช่วงที่มีหิมะตกนั่นเอง ซึ่งจะอยู่ในช่วงปลายเดือนพฤจิกายน ถึงเดือนต้นเดือนเมษายน หากสนใจจองแพ็กเกจไหน แอดไลน์หรือโทรสอบถามได้เลย

แนะนำ 5 ที่เที่ยว และการเตรียมตัวก่อนการเดินทางไปทัวร์อาซาฮิกาวะ

เมืองอาซาฮิกาว (Asahikawa) เมืองใหญ่อันดับสองของเกาะฮอกไกโด ถือเป็นเมืองที่มีความน่าสนใจ ด้วยบรรยากาศที่เต็มไปด้วยความสวยงามของธรรมชาติ หิมะสีขาวโพลน และกลิ่นอายวัฒนธรรมท้องถิ่น และยังมีกิจกรรมกลางแจ้งที่เหมาะทั้งสำหรับครอบครัว คู่รัก และมีสถานที่ช้อปปิ้งให้เดินเลือกซื้อมากมาย ถือเป็นอีกเมืองที่น่าสนใจหากมาเที่ยวที่ทัวร์ญี่ปุ่น และผู้ที่เดินทางมาเที่ยว ทัวร์อาซาฮิกาวะ

1. ที่เที่ยวทัวร์อาซาฮิกาวะ

1.1 สวนสัตว์อาซาฮิยามะ (Asahiyama Zoo)

สวนสัตว์แห่งนี้เป็นสวนสัตว์ทางเหนือสุดของญี่ปุ่น เปิดมาตั้งแต่ปี 1967 จุดเด่นคือแนวคิด “behavioral exhibition” หรือการจัดแสดงสัตว์ตามพฤติกรรมธรรมชาติ เช่น อุโมงค์ใต้น้ำของเพนกวินและหมีขั้วโลก ที่ช่วยให้เราเห็นสัตว์ในมุมมองใกล้ชิดและสมจริงมากขึ้น ไฮไลท์ของสวนสัตว์แห่งนี้คือ ชมการเดินขบวนเพนกวิน ในช่วงระหว่างเดือนธันวาคม–มีนาคม เพนกวิน (รวมทั้ง King Penguin) จะเดินตามทางในสวนสัตว์ 2 ครั้งต่อวัน ให้นักท่องเที่ยวได้ชมอย่างใกล้ชิด

credit : .mystays.com

1.2 หมู่บ้านราเม็งอาซาฮิกาวะ (Asahikawa Ramen Village)

หมู่บ้านนี้ก่อตั้งในปี 1996 เป็นอาคารชั้นเดียวที่รวบรวม ร้านราเม็งชื่อดัง 7‑8 ร้านมาไว้ด้วยกัน เช่น ร้าน Aoba , ร้าน Santoka , ร้าน Baikoken, ร้าน Ittetsu-an, และอื่นๆ นอกจะมีร้านราเม็งอร่อยๆหลากหลายร้านให้เลือกทานแล้ว ยังมีมุมถ่ายรูปเก๋ๆ รวมไปถึงร้านขายของที่ระลึกให้นักท่องเที่ยวได้ซื้อกลับไปฝากคนที่บ้านอีกด้วย

credit : gltjp.com

1.3 อุทยานแห่งชาติไทเซ็ตสึซัง (Taisetsuzan National Park)

ตั้งอยู่ใจกลางเกาะฮอกไกโด เป็นอุทยานแห่งชาติที่มีพื้นที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น (2,267 ตารางกม.) มีภูเขากว่า 16 ยอดความสูงเกิน 2,000 ม. อุทยานแห่งชาติไทเซ็ตสึซัง ประกอบด้วย 3 กลุ่มภูเขาไฟหลัก ได้แก่ Daisetsuzan, Tokachi และ Shikaribetsu ไฮไลท์หลักของอุทยานแห่งชาตินี้คือ ยอดเขาอาซาฮิดาเกะ ที่เป็นยอดเขาเป็นยอดเขาสูงที่สุดของฮอกไกโด ด้วยความสูง 2,291 ม. มี กระเช้าลอยฟ้า พานักท่องเที่ยวขึ้นไป และด้านบนมีเส้นทางเดินป่าชมบึงธรรมชาติ, น้ำพุร้อนใต้ดิน และวิวภูเขาไฟ นอกจากนี้ยังมีออนเซนธรรมชาติชื่อดังหลายแห่ง เช่น Asahidake Onsen อยู่ด้วย

credit : hokkaido-treasure.com

1.4 พิพิธภัณฑ์ศิลปะ Asahikawa Museum of Art

เป็นหนึ่งในพิพิธภัณฑ์ศิลปะระดับภูมิภาคที่น่าสนใจ โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบงานศิลป์ที่เกี่ยวข้องกับธรรมชาติ งานฝีมือ และประติมากรรม และได้มีการจัดแสดงผลงานศิลปะของศิลปินในฮอกไกโด และผลงานร่วมสมัยจากทั่วญี่ปุ่น ตั้งอยู่ในสวนโทคิวะ (Tokiwa Park) ที่มีบรรยากาศร่มรื่น สวยงามตลอดปี โดยเฉพาะในฤดูใบไม้เปลี่ยนสีและฤดูหิมะ

credit : map.uu-hokkaido.jp

1.5 ถนนช้อปปิ้งเฮวะ (Heiwa Shopping Street)

ถนนช้อปปิ้งเฮวะ เป็นแลนด์มาร์กสำคัญของอาซาฮิกาวะ เรียกได้ว่าเป็น “จตุรัสกลางเมือง” ของคนทุกวัย ทั้งนักท่องเที่ยวและคนท้องถิ่น ที่นี่มีสไตล์เรียบง่ายและครบครันในความเป็นเมืองญี่ปุ่นเป็นกันเอง ภายในถนนคนเดินมีร้านค้า-ร้านอาหารหลากหลาย มีตั้งแต่ห้างสรรพสินค้าอย่าง Feeeal, Marukatsu, Seibu ไปจนถึงร้านแฟชั่น 100 เยน ร้านขายของฝาก ของใช้ ของสด และร้านบิวตี้ซาลอน

credit : fr.m.wikipedia.org

2. การเตรียมตัวก่อนเดินทาง

2.1 เช็คสภาพอากาศ

ในการเดินทางท่องเที่ยวในแต่ละประเทศสิ่งที่ขาดไม่ได้เลยก็คือการเช็คสภาพอากาศในช่วงนั้นๆก่อนออกเดินทาง เพื่อทำการเตรียมตัว สภาพร่างกาย หรือเสื้อผ้าที่เหมาะสมสำหรับการเที่ยวในครั้งนั้นให้ราบรื่นที่สุด โดยประเทศญี่ปุ่นจะแบ่งเป็น 4 ฤดูหลักนั่นก็คือ ช่วงฤดูหนาว ฤดูใบไม้ผลิ ฤดูร้อน และฤดูใบไม้ร่วง ซึ่งอุณภูมิในแต่ละฤดูของญี่ปุ่นจะค่อนข้างต่างกัน ช่วงฤด฿ร้อนอากาศจะค่อนข้างร้อนชื้น ส่วนฤดูหนาวในบางเมืองอาจมีหิมะตกได้ ดังนั้นควรตรวจเช็คสภาพอากาศให้ดีก่อนออกเดินทาง โดยสามารถเช็คได้จากแอพลิเคชั่นในสมาร์ทโฟนได้ หรือสามารถเช็คได้จากเว็บไซต์ต่างๆได้เช่นกัน โดยจะแนะนำเป็นเว็บไซต์ AccuWeather

2.2 การใช้เงิน

2.2.1 เงินสด

ประเทศญี่ปุ่นนั้นใช้สกุลเงินที่เรียกว่า สกุลเงินเจแปนนีส เยน (Japanese yen or JPY) แยกได้เป็ น ธนบัตร 1,000 / 5,000 /10,000 เยนเหรียญ 1 / 5 / 10 / 50 /100 และ 500 เยน ที่ประเทศญี่ปุ่นจะใช้เป็นเงินเยนเท่านั้น และที่แลกงเินในประเทศญี่ปุ่นจะเหาได้ค่อนข้างยาก แนะนำให้แลกเงินไปก่อนจากประเทศไทย โดยจะแนะนำให้แลกที่ Superrich จะได้อัตราแลกเปลี่ยนที่ถูกที่สุด หรือหากไม่สะดวกสามารถแลกได้ที่ธนาคาร หรือร้านรับแลกเงินใกล้บ้านได้เช่นกัน

2.2.2 บัตรเครดิต

บัตรเครดิตจะสามารถใช้ได้เช่นกัน โดยตามสถนามบิน ห้าง หรือตามสถานที่แหล่งช้อปปิ้งใหญ่ๆก็เปิดรับบัตรเครดิตเช่นกัน

2.2.3 บัตรกดเงินสด

อีกหนึ่งวิธีการใช้เงินที่ค่อนข้างสะดวกคือสามารถพกบัตกดเงินสด แนะนำเป็นของ Youtrip โดยบัตรนี้สามารถใช้กดเงินสดที่ธนาคารหลัก ๆ ได้ นอกจากนี้เรายังสามารถใช้บัตรนี้แทนเงินสดเพื่อใช้จ่ายตามร้านค้าต่าง ๆ ได้ เพียงแค่เติมเงินเข้าบัตร ระบบจะตัดเป็นค่าเงินเยน ในเรทที่ดีที่สุด ณ เวลานั้นให้ โดยไม่มีค่าธรรมเนียมแลกเงิน 2.5% อีกด้วย

2.3 การเล่นอินเทอร์เน็ต

การใช้อินเตอร์เน็ตถือเป็นเรื่องสำคัญอีกอย่าง โดยนักท่องเที่ยวสามารถเปิดโรมมิ่งจากเครือข่ายที่ทุกท่านใช้งานอยู่ได้ โดยราคาจะขึ้นอยู่กับแพคเกจและเครือข่ายที่ใช้ หรืออีกหนึ่งวิธีที่ค่อนข้างสะดวกนั่นก็คือการซื้อซิมเพิ่มเติมเพื่อใช้งานโทรออกและใช้อินเตอร์เน็ตเมื่ออยู่ที่ต่างประเทศ โดยแนะนำเป็น Sim2Fly ของ AIS โดยสามารถติดต่อซื้อซิมได้ที่ศุนย์บริการ Ais ใกล้บ้านได้เลย

2.4 ปลั๊กไฟ

ที่ญี่ปุ่นใช้ระแสไฟฟ้า แบบ 110 V. (ไม่เหมือนประเทศไทย) ส่วนปลั๊กเสียบเป็นแบบขาแบน 2 ขา หากมีเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีปลั๊กหัวกลม หรือแบบ 3 ขา แนะนำเตรียม Universal Adapter ไปด้วย และหากมีเครื่องใช้ไฟฟ้าเยอะ แนะนำเตรียมปลั๊กพ่วงไปด้วย

สรุป

อาซาฮิกาวะเป็นเมืองที่ผสมผสานเสน่ห์ของธรรมชาติที่สวยงามเข้ากับวัฒนธรรมท้องถิ่นอย่างลงตัว ด้วยภูมิประเทศที่โอบล้อมด้วยภูเขาและฤดูหนาวอันยาวนาน เมืองนี้จึงกลายเป็นจุดหมายยอดนิยมของนักท่องเที่ยวที่ต้องการสัมผัสหิมะ ทิวทัศน์ และอาหารท้องถิ่นที่เป็นเอกลักษณ์ หากสนใจสอบถามโปรแกรมทัวร์อาซาฮิคาวะเพิ่มเติมสามารถแอดไลน์ LINE ID : @lovelysmiletour ได้เลย