ทัวร์ญี่ปุ่น
Lovely Smile Tour มีแพกเก็จ ทัวร์ญี่ปุ่น ให้เลือกหลากหลายเส้นทาง ไม่ว่าจะเป็น ฮอกไกโด โตเกียว โอซาก้า ทาคายาม่า ฟุกุโอกะ และมีหลากหลายสายการบินทั้ง Low Cost และ Full Service ซึ่งกรุ๊ปมีเดินทางทุกสัปดาห์ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ถ้าเป็นสงกรานต์ หรือปีใหม่ แนะนำให้จองล่วงหน้าอย่างน้อย 2 เดือน สนใจจองแพ็กเกจไหน แอดไลน์หรือโทรสอบถามได้เลย
ทัวร์ญี่ปุ่น – ฮอกไกโด ฮาโกดาเตะ โจซังเค โอตารุ
ทัวร์ญี่ปุ่น – ฮอกไกโด อาซาฮิกาวะ โอทารุ ฤดูหนาว
ทัวร์ญี่ปุ่น – โจซังเค โอตารุ ฟูราโน่
ทัวร์ญี่ปุ่น – โตเกียว นิกโก้ ฟุกุชิมะ ออทัม
ทัวร์ญี่ปุ่น – โอซาก้า เกียวโต คามิโคจิ ชมงานประดับไฟ
ทัวร์ญี่ปุ่น – HOKKAIDO WINTER HAKODATE OTARU
ทัวร์ญี่ปุ่น – ซุปตาร์ ฮอกไกโด หนาวนี้ยกใจให้เลย
ทัวร์ญี่ปุ่น – ฮอกไกโด ฟูราโน่ โอตารุ ออทัม
ทัวร์ญี่ปุ่น – โอซาก้า เกียวโต นาโกย่า ฟรีเดย์
ทัวร์ญี่ปุ่น – โตเกียว ฟูจิ นิกโก้ โรเมนติก ใบไม้เปลี่ยนสี
ทัวร์ญี่ปุ่น – มหัศจรรย์ JAPAN มัตสึตะ ฟูจิเท็น FREEDAY
การเตรียมตัวเที่ยวทัวร์ญี่ปุ่น
ญี่ปุ่น เป็นหนึ่งในประเทศที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยว ด้วยทั้งสถานที่เที่ยว อาหาร วัฒนธรรมต่างๆ ที่น่าสนใจ ซึ่งบอกได้เลยว่า ไปกี่ครั้งก็ไม่เบื่อ สำหรับทัวร์ญี่ปุ่นได้มีแพ็กเกจขายหลากหลายเส้นทาง อาทิ โตเกียว โอซาก้า ทาคายาม่า ฮอกไกโด ฟุกุโอกะ สำหรับการไปเที่ยวญี่ปุ่น ควรจะต้องเตรียมตัวอะไรบ้าง ลองอ่านรีวิว
สารบัญ
1. ควรเริ่มต้นเที่ยวเมืองไหนดี
สำหรับท่านที่ไปเที่ยวญี่ปุ่นครั้งแรก และไม่รู้จะไปที่ไหนก่อนดี แพ็กเกจทัวร์ก็มีให้เลือกเยอะไปหมด แนะนำว่า ไปเที่ยว ทัวร์ญี่ปุ่น โตเกียว ก่อน การไปเที่ยวที่โตเกียว จะทำให้เราได้รู้จักสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญๆ อาทิเช่น ภูเขาไฟฟูจิ วัดอาซากุสะ แหล่งช้อปปิ้งต่างๆ ชินจูกุ ชิบูย่า ฮาราจูกุ ซึ่งเรียกได้ว่า เป็นเมืองที่มีสถานที่เที่ยวหลากหลายทั้งธรรมชาติ ไหว้พร ช้อปปิ้ง ชมบ้านชมเมือง อีกทั้งยังมีสวนสนุก โตเกียวดิสนีย์แลนด์ และโตเกียวดิสนีย์ซี ตอบโจทย์ครอบครัวที่อยากพาเด็กๆ มาอีกด้วย หากได้มาแล้ว จะรู้เลยว่า เราจะอยากไปเที่ยวเมืองไหนต่อ
2. ช่วงเวลาไหนน่าไปเที่ยว
มีอยู่ 3 ช่วงเวลา ที่นักท่องเที่ยวนิยมไปเที่ยวญี่ปุ่น ดังนี้
2.1 ใบไม้เปลี่ยนสี
จะเป็นช่วงเดือน ปลายกันยายน - พฤศจิกายน ของทุกปี เป็นช่วงที่อากาศกำลังเย็นสบาย ไม่หนาวจัดจนเกินไป ถ่ายรูปออกมาก็สวย เพราะจะได้เห็นบรรยากาศใบไม้สีส้มๆ แดงๆ ตามสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ สวยงามไปหมด ถ้าอยากไปเจอไม้ใบเปลี่ยนสีเยอะๆ แนะนำไปทัวร์เกียวโต ตามวัดหรือศาลเจ้าต่างๆ เช่น วัดน้ำใส ปราสาททอง รับรองสวยแน่นอน
2.2 หน้าหนาว
จะเป็นช่วงเดือน ธันวาคม - กุมภาพันธ์ ของทุกปี ใครอยากไปเจอหิมะ อยากไปเล่นสโนว์โมบิล หรือไปล่องเรือตัดน้ำแข็งกับ ทัวร์ฮอกไกโด ต้องไปช่วงนี้เลย แต่บางครั้ง ถ้ามีพายุหิมะ หรือหิมะตกหนัก แหล่งท่องเที่ยวหรือร้านค้าต่างๆ ก็จะปิดเร็ว
นอกจากนี้ ยังมีช่วงปลายเดือน เมษายน - มิถุนายม. ที่คนชอบไปดูกำแพงหิมะ ทัวร์เจแปนแอลป์ ไปถ่ายรูปสวยๆ ท่ามกลางอากาศหนาวเย็น
2.3 ใบไม้ผลิ
จะเป็นช่วงเดือน มีนาคม - พฤษภาคม ของทุกปี ไฮไลท์สำคัญที่นิยมที่สุด คือ ไปดู ดอกซากุระ (Cherry Blossom) ซึ่งแต่ละเมืองก็จะบานช้าบานเร็วต่างกัน ต้องเช็คพยากรณ์กันอีกครั้ง นอกจากนี้ ยังการไปดูดอกทิวลิป ทุ่งดอกพิงค์มอส อีกด้วย
ส่วนเดือน มิถุนายน - ต้นเดือนกันยายน จะเป็นช่วงหน้าร้อนและมีฝนตก ทำให้นักท่องเที่ยวไม่นิยมไปกัน โดยเฉพาะคนไทยที่ตั้งใจไปเที่ยวญี่ปุ่นทั้งที ก็อยากไปเจออากาศเย็นสบาย เจอหิมะ เจอดอกไม้สวยๆ แต่ในทางกลับกัน ช่วงนี้จะเป็นช่วงที่ตั๋วเครื่องบินราคาถูก ทำให้ราคาทัวร์ญี่ปุ่นถูกด้วย ใครอยากไปช้อปกระหน่ำ Summer Sale แนะนำไปช่วงนี้เลย
3. ควรแลกเงินไปกี่บาท
จะแลกเงินไปเที่ยวญี่ปุ่นแต่ละทริป ขึ้นอยู่กับ 3 ปัจจัยหลัก ดังนี้
- แพ็กเกจทัวร์มีมื้ออิสระหรือไม่ ถ้ามีมื้ออิสระ อาจจะคิดง่ายๆ มื้อละ 500 บาท มีกี่มื้อ ก็คำนวณไป
- แพ็กเกจทัวร์มีอิสระเที่ยวเองหรือไม่ ถ้ามีวันอิสระ ท่านต้องวางแผนว่าจะไปเที่ยวที่ไหน บางท่านอยากไปสวนสนุก บางท่านอยากช้อปปิ้ง บางท่านอยากไปเดินเที่ยวหาร้านอาหาร ร้านกาแฟทานหรือถ่ายรูป ก็ต้องเตรียมงบสำหรับการเดินทาง และค่าเข้าสถานที่ต่างๆ
- ต้องการช้อปปิ้งมากน้อยแค่ไหน ใครมีออเดอร์เยอะ ก็ต้องแลกเงินไปเยอะ
หากสามารถประเมิน 3 เรื่องนี้ได้ ท่านก็จะเตรียมเงินไปได้ถูก แต่ถ้าให้แนะนำง่ายๆ แนะนำแลกไปท่านละ 20,000 บาท พร้อมกับเตรียมบัตรเงินสด (เช่น Planet SCB) หรือบัตรเครดิตไปเผื่อด้วย สำหรับที่แลกเงิน แนะนำแลกที่ Superrich ได้เลย อัตราแลกเปลี่ยนถูกที่สุด
4. อยากซื้อซิมเล่นเน็ต ซื้อที่ไหนดี
แนะนำเป็น Sim2Fly ของ AIS สามารถติดต่อศูนย์บริการใกล้บ้านได้เลย หรือจะไปซื้อที่สนามบินก็ได้ จะมีขายเช่นกัน แต่แนะนำให้เผื่อเวลาสำหรับไปรอคิวซื้อซิมด้วย ค่าซิมอันละ 399 บาท หรือท่านใดไม่อยากใช้ Sim2Fly จะเปิดโรมมิ่งก็ได้ โดยสามารถเช็คโปรโมชั่นกับเครือข่ายที่ท่านใช้ได้เลย
5. เอกสารที่ใช้ในการเดินทางมีอะไรบ้าง (อัปเดต 2 เม.ย. 66)
5.1 หนังสือเดินทาง (Passport)
หนังสือเดินทาง ต้องมีอายุเหลือมากกว่า 6 เดือน นับจากวันเดินทางกลับ จึงจะสามารถใช้เดินทางได้ ของท่านใดเหลือน้อยกว่า 6 เดือน ต้องไปทำเล่มใหม่ โดยเตรียมแค่บัตรประชาชน กับเงินค่าธรรมเนียมไป โดยค่าธรรมเนียมคิดดังนี้
ประเภทการทำหนังสือเดินทาง | ค่าธรรมเนียม (บาท) |
---|---|
แบบ 5 ปี 3 วันทำการ ได้เล่ม | 1,000 |
แบบ 5 ปี 2 วันทำการ ได้เล่ม | 2,000 |
แบบ 5 ปี ได้เล่มในวัน | 3,000 |
แบบ 10 ปี 3 วันทำการ ได้เล่ม | 1,500 |
สำหรับสถานที่ทำหนังสือเดินทางจะมีที่ไหนบ้าง สามารถเช็คได้จากปุ่มด้านล่าง ซึ่งจะมีบางที่ที่เปิดให้ทำวันเสาร์ด้วย ทั้งนี้แนะนำว่า ให้โทรไปเช็คก่อนว่าเปิดหรือไม่
5.2 ใบวัคซีนในแอปหมอพร้อม (ตั้งแต่เดือน พ.ค. 66 ไม่ดูใบวัคซีนแล้ว)
จะไปเที่ยวญี่ปุ่น ผู้ใหญ่ต้องฉีดวัคซีนอย่างน้อย 3 เข็ม ยี่ห้ออะไรก็ได้ และเข็ม 3 ควรฉีดมากกว่า 14 วันก่อนเดินทาง แต่ถ้าฉีดไม่ครบ 3 เข็ม ต้องไปตรวจ RT-PCR ไม่เกิน 72 ชั่วโมงก่อนเดินทาง สำหรับเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี เดินทางกับพ่อแม่ สามารถอ้างอิงวัคซีนของพ่อแม่ได้เลย
5.3 ลงทะเบียน Visit Japan (ตั้งแต่เดือน พ.ค. 66 ยกเลิก Visit Japan แล้ว)
เป็นการกรอกข้อมูลก่อนเดินทางเข้าประเทศญี่ปุ่น โดยจะมีข้อมูล 3 ส่วนหลัก คือ ข้อมูลส่วนบุคคล แผนการเดินทาง และข้อมูลการฉีดวัคซีนหรือตรวจ RT-PCR แนะนำว่า ควรลงทะเบียนอย่างน้อย 1 วันก่อนเดินทาง เพราะจะต้องส่งข้อมูลให้ทางญี่ปุ่นตรวจสอบ จนขึ้นสถานะ Review Complete
สรุป
การไปเที่ยวทัวร์ญี่ปุ่น ค่อนข้างสะดวกสบายๆ เตรียมตัวได้ง่ายๆ วีซ่าก็ไม่ต้องทำ ที่เหลือก็เป็นการจัดกระเป๋า เตรียมเสื้อผ้าไปเที่ยวในฤดูกาลหรือช่วงเวลาที่เราอยากไป แลกเงินให้เรียบร้อย ซื้อซิมสำหรับเล่นเน็ตหรือจะเปิดโรมมิ่งก็ได้ บอกเลยว่า ไปเที่ยวประเทศนี้ ไปกี่ครั้งก็ไม่เบื่อ ไปกับทัวร์ก็สบาย มีไกด์คอยดูแลตลอดการเดินทาง