ตัวกรอง

เส้นทาง

ทัวร์โกเบ

Lovely Smile Tour มีแพ็กเกจ ทัวร์โกเบ หลากหลายแพ็กเกจให้เลือกหลายแบบ พักโรงแรมระดับ 3 ดาว มีทั้งบิน Full Service และ Low Cost โดยช่วงที่นักท่องเที่ยวนิยมไปมากที่สุด คือ ช่วงใบไม้เปลี่ยนสี ในช่วงปลายเดือนตุลาคม ถึงเดือนพฤศจิกายน หากสนใจจองแพ็กเกจไหน แอดไลน์หรือโทรสอบถามได้เลย

5 ที่เที่ยวทัวร์โกเบ และการเตรียมตัวก่อนเดินทาง

เมืองโกเบ (Kobe) เป็นเมืองที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับที่ 5 และเป็นหนึ่งในเมืองท่าสำคัญของญี่ปุ่น ตั้งอยู่ใกล้เมืองโอซาก้า สามารถเดินทางได้ภายใน 30 นาที นอกจากจะขึ้นชื่อเรื่องเนื้อวากิลแล้วภายในเมืองโกเบก็เต็มไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย ทั้งแหล่งธรรมชาติที่สวยงาม ศาลเจ้าศักดิ์สิทธิ์ พิพิธภัณฑ์ สวนสัตว์ และแหล่งช้อปปิ้ง ที่เหมาะกับทุกเพศทุกวัย จึงทำให้ทัวร์โกเบเป็นอีกหนึ่งเมืองยอดนิยมของนักท่องเที่ยว

1. ที่เที่ยวทัวร์โกเบ

1.1. ศาลเจ้าอิคุตะ (Ikuta Shrine)

ศาลเจ้าอิคุตะ (Ikuta Shrine) เป็นหนึ่งในสามศาลเจ้าของเมืองโกเบที่มีประวัติศาสตร์มาอย่างยาวนานกว่า 1,800 ปี ก่อตั้งในปี ค.ศ. 201 โดยจักรพรรดินีจิงงุ หลังจากเสร็จสิ้นภารกิจในคาบสมุทรเกาหลี ตั้งอยู่ที่ย่านใจกลางเมืองซันโนะมิยะ (Sannomiya) จุดเด่นของศาลเจ้าจะอยู่ที่สถาปัตยกรรมที่โดดเด่นด้วยสีแดงสดของอาคารหลักและประตูโทริอิ ที่เป็นสัญลักษณ์ของการเข้าสู่พื้นที่ศักดิ์สิทธิ์ของญี่ปุ่น นอกจากนี้ภายในบริเวณศาลเจ้ายังมีสวนอิคุตะ (Ikuta Forest) ซึ่งเป็นป่าเล็กๆ ที่มีต้นไม้ใหญ่และแม่น้ำใสสะอาดไหลผ่านอีกด้วย นักท่องเที่ยวสามารถเดินเล่นในสวนนี้เพื่อสัมผัสกับความสงบและความงดงามของธรรมชาติได้

ศาลเจ้าอิคุตะมีชื่อเสียงในเรื่องของการขอพรด้านความรักและความสัมพันธ์ นักท่องเที่ยวสามารถเขียนคำอธิษฐานบนแผ่นเอมะ (Ema) หรือเสี่ยงเซียมซีลอยน้ำ (Mizu-ura Mikuji) ซึ่งเมื่อวางลงในน้ำจะปรากฏข้อความทำนาย นอกจากนี้ยังมีเครื่องรางหลากหลายแบบให้ได้เลือกซื้อกันอีกด้วย

5 ที่เที่ยวทัวร์โกเบ
เสาโทริอิสีแดงที่วางเรียงราย
5 ที่เที่ยวทัวร์โกเบ
ศาลเจ้าอิคุตะ

1.2. โกเบ ฮาร์เบอร์แลนด์ (Kobe Harborland)

โกเบ ฮาร์เบอร์แลนด์ (Kobe Harborland) หรือท่าเรือโกเบ เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวไฮไลท์ของเมืองโกเบ โดยโกเบ ฮาร์เบอร์แลนด์เป็นย่านริมอ่าวสุดทันสมัยที่ตั้งอยู่ริมอ่าวโกเบ เต็มไปด้วยแหล่งช้อปปิ้ง ร้านอาหาร คาเฟ่ และสถานที่พักผ่อนหย่อนใจมากมาย เหมาะสำหรับทั้งครอบครัว คู่รัก และนักท่องเที่ยวทุกเพศทุกวัย จุดเด่นของที่นี่คือ โกเบ พอร์ท ทาวเวอร์ (Kobe Port Tower) เป็นหอคอยสีแดงที่มีความสูง 108 เมตร โครงสร้างของหอคอยถูกออกแบบมาให้มีความทันสมัยและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว และยังเป็นหอคอยแรกของโลกที่มีการออกแบบด้วยรูปทรง “Hyperboloid” ซึ่งเป็นรูปทรงที่มีเส้นโค้งมาบรรจบกัน ทำให้โครงสร้างมีความยืดหยุ่นและแข็งแรง ภายในหอคอยมีทั้งหมด 5 ชั้น ในแต่ละชั้นก็จะมีร้านค้าต่างๆ และร้านอาหารมากมาย และยังมีจุดชมวิวดาดฟ้าที่สามารถมองเห็นวิวของอ่าวโกเบ และตัวเมืองโกเบได้แบบ 360 องศาเลย

นอกจากนี้อีกหนึ่งจุดเด่นของที่นี่ก็คือ วิวของท่าเรือในตอนกลางคืน ที่จะมีการเปิดไฟประดับสวยงามมากมาย ซึ่งให้ความสวยงามและเป็นเอกลักษณ์ต่างจากช่วงกลางวัน บริเวณนี้ยังมีกิจกรรมล่องเรือ ชิงช้าสวรรค์ และพิพิธภัณฑ์ให้เลือกชมมากมาย เป็นหนึ่งในจุดที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาเที่ยวทัวร์โกเบเลย

5 ที่เที่ยวทัวร์โกเบ
โกเบ ฮาร์เบอร์แลนด์
5 ที่เที่ยวทัวร์โกเบ
วิวโกเบ ฮาร์เบอร์แลนด์ยามค่ำคืน

1.3. สวนสัตว์โกเบ แอนิมอล คิงดอม (Kobe Animal Kingdom)

สวนสัตว์โกเบ แอนิมอล คิงดอม (Kobe Animal Kingdom) ตั้งอยู่ที่ Port Island เมืองโกเบ เป็นสวนสัตว์ที่รวมโซนจัดแสดงสัตว์หลายชนิดไว้กับสวนพฤกษศาสตร์ นักท่องเที่ยวสามารถชมสัตว์ต่างๆ และพันธุ์พืชหลายชนิดได้อย่างใกล้ชิด ภายในแบ่งเป็นโซนในร่มและกลางแจ้ง เช่น โซนป่าฝน ที่จะมีคาปิบารา เต่า และนกทูแคน, โซนนกหายาก, โซนสัตว์น้ำ, โซนสัตว์บก, โซนสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมขนาดเล็ก และโซนพฤกษศาสตร์ที่มีการจัดแสดงสวนดอกไม้และต้นไม้หลายพันธุ์ นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมมากมายให้ได้ทำ ทั้งชมการแสดงนกและสัตว์อื่นๆ ที่มีให้ชมทุกวัน ขี่อูฐ ขี่ม้า และให้อาหารสัตว์ เรียกได้ว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่เหมาะสำหรับครอบครัว คู่รัก และผู้ที่รักสัตว์ทุกเพศทุกวัยเลย

5 ที่เที่ยวทัวร์โกเบ
ให้อาหารสัตว์ได้อย่างใกล้ชิด Credit : kobe-oukoku.com
5 ที่เที่ยวทัวร์โกเบ
ทดลองขี่อูฐ Credit : kobe-oukoku.com

1.4. นันกินมาจิ (Nankinmachi)

นันกินมาจิ (Nankinmachi) เป็นย่านไชน่าทาวน์ของเมืองโกเบ และเป็นหนึ่งในสามย่านไชน่าทาวน์ที่ใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น ตั้งอยู่ที่ใจกลางเมืองโกเบ ก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 1868 หลังจากที่ญี่ปุ่นเปิดท่าเรือโกเบเพื่อทำการค้าระหว่างประเทศ พ่อค้าชาวจีนก็ได้มีการเข้ามาเพื่อค้าขายและตั้งถิ่นฐาน โดชื่อ "นันกิงมาจิ" มาจากชื่อเมืองหนานจิงในประเทศจีน ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงวัฒนธรรมของชาวจีนที่ได้ตั้งถิ่นฐานในโกเบมาอย่างยาวนาน ภายในย่านนันกินมาจิจะตกแต่งไปด้วยโคมไฟสีแดงตลอดสองข้างทาง เต็มไปด้วยร้านค้ามากมาย ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหารจีน ที่มีให้เลือกทานอย่างหลากหลาย ทั้งเกี๊ยวซ่า บะหมี่เป็ดปักกิ่ง ติ่มซำ และของหวานสไตล์จีน นอกจากนี้ก็ยังมีสินค้าที่นำเข้าจากจีน และของที่ระลึกให้เลือกซื้อมากมายอีกด้วย

5 ที่เที่ยวทัวร์โกเบ
ย่านช้อปปิ้งนันกินมาจิ

1.5. ภูเขาร็อคโกะ (Mt. Rokko)

ภูเขาร็อคโกะ (Mt. Rokko) เป็นภูเขาสูงที่ตั้งอยู่ทางเหนือของเมืองโกเบ สูงถึง 931 เมตรจากระดับน้ำทะเล สามารถมองเห็นวิวธรรมชาติและวิวเมืองโกเบได้แบบมุมกว้าง ที่มีความสวยงามทั้งตอนกลางวันและตอนกลางคืน จึงทำให้ภูเขาร็อคโกะได้รับการยกย่องให้เป็น “หนึ่งในวิวกลางคืนที่สวยที่สุดของญี่ปุ่น” (Ten Million Dollar Night View) นอกจากนี้ภายในภูเขาก็ยังมีกิจกรรมต่างๆ ให้ได้ทำ ไม่ว่าจะเป็นการเดินชมสวนพฤกษศาสตร์ พิพิธภัณฑ์กล่องดนตรี ฟาร์มแกะ สนามกอล์ฟแห่งแรกของญี่ปุ่น ระเบียงชมสวนบนภูเขาร็อคโกะ และดาดฟ้าชมวิว จึงทำให้ที่นี่เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติยอดนิยมของนักท่องเที่ยวทั้งชาวญี่ปุ่นและนักท่องเที่ยวต่างชาติเลย

5 ที่เที่ยวทัวร์โกเบ
วิวเมืองจากภูเขาร็อคโกะตอนกลางวัน
5 ที่เที่ยวทัวร์โกเบ
วิวเมืองจากภูเขาร็อคโกะตอนกลางคืน
5 ที่เที่ยวทัวร์โกเบ
ฟาร์มแกะ

2. การเตรียมตัวก่อนเดินทาง

การเตรียมตัวก่อนเดินทางไปญี่ปุ่น จะแนะนำทั้งหมด 7 เรื่องหลักๆ ดังนี้

2.1. เช็คสภาพอากาศ

การเช็คสภาพอากาศก่อนเดินทางเป็นสิ่งสำคัญ เพราะจะช่วยให้วางแผนการท่องเที่ยวได้อย่างราบรื่นและปลอดภัยมากขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยให้จัดเตรียมเสื้อผ้าต่างๆ ได้เหมาะสมกับสภาพอากาศอีกด้วย โดยเว็บไซต์ที่นิยมใช้กันนั่นก็คือ accuweather.com สามารถค้นหาเมืองที่ต้องการเช็คและเลือกช่วงเดือนได้เลย

2.2. การใช้เงิน

ที่ประเทศญี่ปุ่นรองรับการชำระเงินหายรูปแบบ โดยจะมีคำแนะนำทั้งหมด 3 แบบ ดังนี้

2.2.1. บัตรเงินสด

ในปัจจุบันร้านค้าส่วนใหญ่ในญี่ปุ่นยอมรับการชำระเงินแบบไร้เงินสดมากขึ้น สามารถใช้บัตรเงินสดในการชำระซื้อสินค้าต่างๆ ได้ การใช้บัตรเงินสดในญี่ปุ่นถือเป็นอีกทางเลือกที่สะดวกและปลอดภัยสำหรับนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะผู้ที่ไม่อยากพกเงินสดเยอะๆ หรือกังวลเรื่องความปลอดภัย บัตรเงินสดก็ถือเป็นทางเลือกที่แนะนำเลย โดยบัตรเงินสดที่นิยมใช้งานกันก็คือ บัตร YouTrip ของธนาคารกสิกรไทย สามารถสมัครได้ผ่านทางแอปของธนาคาร ใช้เวลาในการรอรับบัตรประมาณ 7 วัน หากต้องการใช้งานเพียงแค่เติมเงินบาทเข้าในแอป ตอนใช้บัตรรูดซื้อของ ระบบก็จะแลกเงินเป็นเงินเยนให้อัตโนมัติโดยจะได้อัตราแลกเปลี่ยนในวันนั้นๆ และไม่เสียค่าธรรมเนียมแลกเงิน 2.5% อีกด้วย

บัตรเงินสด YouTrip
2.2.2. เงินสด

ถึงแม้ว่าประเทศญี่ปุ่นจะมีการพัฒนาที่สามารถรับชำระได้ด้วยบัตรเงินสดแล้ว แต่ตามร้านค้าเล็กๆ บางร้าน วัด หรือศาลเจ้า ยังคงรับเฉพาะเงินสดอยู่ ดังนั้นการแลกเงินก็ยังคงจำเป็นอยู่เช่นกัน โดยประเทศญี่ปุ่นใช้เงินสกุลเยน 1 เยน มีค่าประมาณ 0.23 บาท อย่างไรก็ตามควรเช็คเรทอัตราแลกเปลี่ยนอีกครั้ง โดยจะแนะนำให้แลกที่ Superrich จะได้อัตราแลกเปลี่ยนที่ถูกที่สุด แต่สำหรับใครที่ไม่สะดวกแลกเงินที่นี่ ก็สามารถแลกกับธนาคารได้เช่นกัน จะแนะนำให้แลกเงินสดติดตัวไปประมาณ 3,000 - 5,000 บาท

2.2.3. บัตรเครดิต

ตามห้างสรรพสินค้า โรงแรม และร้านค้าขนาดใหญ่ส่วนมากก็จะรับบัตรเครดิต บัตรเครดิตที่สามารถใช้ชำระเงินได้ ได้แก่ Visa, Mastercard, JCB แต่อย่างไรก็ตามควรที่จะตรวจเช็คสัญลักษณ์ก่อนใช้งานว่าร้านนั้นๆ รับบัตรเครดิตหรือไม่ และควรพกบัตรเผื่อไว้มากกว่าหนึ่งใบในกรณีที่ระบบมีปัญหา

2.3. การเล่นอินเทอร์เน็ต

อินเทอร์เน็ตเป็นลิ่งที่จำเป็นอย่างมากในปัจจุบัน โดยเมื่อเดินทางไปประเทศญี่ปุ่นจะแนะนำการเล่นอินเทอร์เน็ตทั้งหมด 2 แบบ ได้แก่

2.3.1. สมัครแพ็กเกจโรมมิ่ง

การเปิดโรมมิ่งเล่นเน็ตเมื่อเดินทางไปญี่ปุ่นเป็นทางเลือกที่สะดวกสำหรับคนที่ต้องการใช้อินเทอร์เน็ตทันทีที่ถึง โดยไม่ต้องเปลี่ยนซิมหรือหาจุด Wi-Fi สาธารณะ โดยสามารถสมัครผ่านแอปเครือข่ายที่ใช้งานอยู่ในปัจจุบันได้เลย หรือจะติดต่อที่เคาน์เตอร์เครือข่ายที่ใช้บริการได้เช่นกัน เจ้าหน้าที่จะช่วยสมัครแพ็กเกจโรมมิ่งและกำหนดช่วงวันที่เริ่มใช้งานให้ โดยการสมัครแพ็กเกจโรมมิ่งจะมีข้อดีและข้อเสีย ดังนี้

ข้อดี- ไม่ต้องเปลี่ยนซิมใหม่ให้ยุ่งยาก
- สามารถใช้เบอร์เดิมในการโทรเข้าและโทรออก หรือเล่นอินเทอร์เน็ตได้โดยไม่ต้องเปลี่ยนเบอร์
ข้อเสีย- หากมีการรับสายหรือโทรออก อาจมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมจากแพ็กเกจที่สมัครใช้งาน
2.3.2. ซิมเล่นอินเทอร์เน็ต

อีกหนึ่งวิธีการใช้งานอินเทอร์เน็ตที่ประเทศญี่ปุ่นนั่นก็คือ การซื้อซิมเล่นอินเทอร์เน็ตต่างประเทศ โดยวิธีนี้จะช่วยป้องกันไม่เกิดปัญหาการรับสายที่โทรมาจากประเทศไทย หรือกลัวค่าโทรศัพท์ที่มีเพิ่มเติม การซื้อซิมเล่นอินเทอร์เน็ตถือเป็นอีกหนึ่งวิธีการใช้งานที่อยากแนะนำเลย โดยจะแนะนำเป็นซิม Sim2Fly ของ AIS สามารถติดต่อกับศูนย์บริการสาขาใกล้บ้านได้เลย ทางเจ้าหน้าที่จะช่วยลงทะเบียนซิมและเปิดใช้งานซิมในช่วงวันที่เดินทางให้

ข้อดี- สามารถเลือกใช้แพ็กเกจได้ตามความต้องการ และมีหลายราคาให้เลือก
- สามารถใช้งานได้ทุกประเทศ
ข้อเสีย- จะต้องมีการเปลี่ยนซิมใหม่ จึงควรระมัดระวังในการเก็บซิมที่เปลี่ยน เพราะอาจมีการสูญหายได้
- เบอร์ที่ใช้จะเป็นเบอร์ใหม่ตามซิมที่เปลี่ยน

2.4. ปลั๊กไฟ

ที่ญี่ปุ่นจะใช้ปลั๊กไฟแบบขาแบนสองขา 110 โวลต์ ซึ่งแรงดันไฟต่ำกว่าประเทศไทย และตามโรงแรมก็จะมีการทำปลั๊กไฟให้มีช่อง USB ที่สามารถเสียบชาร์จไฟได้ด้วย หากมีอุปกรณ์ที่เป็นปลั๊กกลมหรือแบบอื่นๆ จะแนะนำให้เตรียมหัวแปลงปลั๊ก Universal Adaptor ไปเผื่อด้วย โดยสามารถหาซื้อได้ตามร้านขายเครื่องใช้ไฟฟ้า ห้างสรรพสินค้า หรือที่ร้าน MR.DIY ก็มีขายเช่นกัน

ปลั๊ก Universal Adaptor

2.5. เอกสารที่ใช้ในการเดินทาง

เอกสารที่ใช้ในการเดินทางไปประเทศญี่ปุ่นจะใช้เพียงพาสปอร์ตที่มีอายุคงเหลือ 6 เดือนขึ้นไปนับจากวันเดินทางกลับ ไม่ต้องลงทะเบียน Visit Japan ให้ยุ่งยากแล้ว และจะมีเอกสารเพิ่มเติมเป็นใบตม.และใบศุลกากร หากเดินทางด้วยตนเองสามารถขอได้จากเจ้าหน้าที่สายการบินหรือกรอกข้อมูลที่บริเวณหน้าตม.ได้เลย แต่สำหรับใครที่เดินทางกับบริษัททัวร์ ทางบริษัททัวร์จะเป็นผู้เตรียมเอกสารและกรอกข้อมูลให้ ลูกค้าสามารถเซ็นลายเซ็นที่ตรงตามหน้าพาสปอร์ตได้เลย สะดวกสุดๆ

2.6. การสื่อสาร

เมื่อเดินทางไปยังต่างประเทศ สิ่งที่มีความจำเป็นอีกเรื่องนั่นก็คือการสื่อสาร เพราะว่าในแต่ละประเทศก็จะมีภาษาที่ใช้ในการสื่อสารที่แตกต่างกันไป และคนญี่ปุ่นจะสื่อสารกันด้วยภาษาญี่ปุ่น ไม่ค่อยใช้ภาษาอังกฤษในการสื่อสารกันมากนัก นอกจากนี้ตามป้ายต่างๆ ส่วนใหญ่ก็จะเป็นภาษาญี่ปุ่น ดังนั้นแอปแปลภาษาจึงเป็นสิ่งที่จำเป็น โดยจะแนะนำเป็นแอป Google Translate เลย ใช้งานสะดวกและรวดเร็ว สามารถถ่ายรูปป้ายต่างๆ หรือสิ่งของต่างๆ เพื่อแปลเป็นภาษาไทยได้ หรือจะใช้แปลจากภาษาไทยเป็นภาษาญี่ปุ่น เพื่อใช้ในการสื่อสารกับร้านอาหาร ร้านค้า หรือคนญี่ปุ่นได้เลย

2.7. แอปดูเส้นทาง

ไม่ว่าจะเป็นการไปเที่ยวญี่ปุ่นกับบริษัททัวร์หรือเที่ยวญี่ปุ่นด้วยตนเอง แอปที่ใช้ดูเส้นทางก็เป็นอีกสิ่งที่ควรให้ความสำคัญเช่นกัน โดยสามารถใช้งานแอป Google Map เพื่อดูเส้นทางในญี่ปุ่นได้เลย จะมีรายละเอียดต่างๆ ระบุไว้อย่างชัดเจน ทั้งระยะเวลาที่ใช้ในการเดินทางไปยังอีกสถานที่ในแต่ละยานพาหนะ ระยะห่างของแต่ละสถานที่ ไปจนถึงสถานีรถไฟอยู่ทางไหนของพื้นที่ใกล้เคียง จึงเป็นอีกแอปที่ควรโหลดติดเครื่องไว้เมื่อไปเที่ยวต่างประเทศเลย

สรุป

โกเบ เป็นเมืองที่จะให้ประสบการณ์การท่องเที่ยวที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นชมวิวธรรมชาติของภูเขาร็อคโกะ ชมความน่ารักของสัตว์ที่สวนสัตว์โกเบ แอนิมอล คิงดอมอย่างใกล้ชิด เช็คอินย่านโกเบ ฮาร์เบอร์แลนด์ริมอ่าวโกเบอันงดงาม หรือจะไหว้พระขอพรที่ศาลเจ้าชื่อดัง ที่เมืองโกเบก็สามารถมอบประสบการณ์ให้ได้ทุกรูปแบบ ทัวร์โกเบจึงเป็นอีกหนึ่งจุดหมายที่เหมาะสำหรับทุกเพศทุกวัยเลย หากสนใจสอบถามโปรแกรมทัวร์โกเบเพิ่มเติม สามารถแอดไลน์ LINE ID : @lovelysmiletour ได้เลย