ตัวกรอง

เส้นทาง

ทัวร์ออสเตรเลีย

ทัวร์ออสเตรเลีย – ซิดนีย์ เมลเบิร์น ฟรีเดย์

รหัสทัวร์ GO3SYD-SQ001

วันเดินทาง ก.พ. - พ.ค. 69

จำนวนวัน

7 วัน 4 คืน

สายการบิน

โรงแรม

เดือนวันที่เดินทาง
ก.พ.
10 - 16
มี.ค.
12 - 18
24 - 30
เม.ย.
02 - 08
23 - 29
30 เม.ย. - 06 พ.ค. 69
เริ่มต้น 75,900

ออสเตรเลีย เป็นประเทศที่มีความหลากหลายทางธรรมชาติ ตั้งแต่เมืองที่มีชีวิตชีวาไปจนถึงผืนป่าดิบชื้น ชายหาดสีทอง และสิ่งมหัศจรรย์ของโลกที่มนุษย์สร้างขึ้น ประเทศแห่งนี้มีเสน่ห์ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลก หากใครที่กำลังวางแผนเที่ยวทัวร์ออสเตรเลีย แต่ไม่รู้จะเริ่มต้นสำรวจจากตรงไหนดี บทความนี้ได้รวบรวม 10 สถานที่ท่องเที่ยวสุดฮิตในทัวร์ออสเตรเลีย ที่เป็นทั้งแลนด์มาร์กสำคัญและจุดหมายในฝันของนักท่องเที่ยวทุกคนมาให้แล้ว จะมีที่กันบ้าง ไปเริ่มอ่านกันได้เลย

1. ซิดนีย์ โอเปร่า เฮาส์ (Sydney Opera House)

ซิดนีย์ โอเปร่า เฮาส์ (Sydney Opera House) ตั้งอยู่ที่ริมอ่าวซิดนีย์ เมืองซิดนีย์ รัฐนิวเซาท์เวลส์ ประเทศออสเตรเลีย เป็นหนึ่งในแลนด์มาร์กที่มีชื่อเสียงที่สุดในทัวร์ออสเตรเลียและยังเป็นจุดถ่ายรูปยอดนิยมของนักท่องเที่ยวมากมาย ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็น มรดกโลกโดยยูเนสโก ในปี 2007 โดดเด่นด้วยหลังคารูปทรงเปลือกหอย (Shell-like roof design) หรือบางมุมมองว่าเหมือนเรือใบสีขาวกลางอ่าว สร้างจากกระเบื้องเซรามิกกว่า 1 ล้านชิ้น ปกคลุมหลังคาเป็นสัญลักษณ์ของสถาปัตยกรรมสมัยใหม่ (Modern Expressionist Architecture) ใช้เวลาออกแบบและก่อสร้างรวมกว่า 14 ปี โดยโอเปร่า เฮาส์แห่งนี้ใช้เป็นพื้นที่จัดแสดงงานต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นโอเปร่า, บัลเล่ต์, ดนตรีคลาสสิก, คอนเสิร์ต, และการแสดงละคร ภายในมีห้องแสดงหลักกว่า 5 ห้อง รวมถึง Concert Hall ที่สามารถจุคนได้ราว 2,700 ที่นั่ง และมี Joan Sutherland Theatre ซึ่งเป็นโรงโอเปร่าหลัก นอกจากนี้ยังเป็นที่ตั้งขององค์กรศิลปะสำคัญ เช่น The Australian Ballet, Opera Australia และ Sydney Symphony Orchestra อีกด้วย

ซิดนีย์ โอเปร่า เฮาส์ (Sydney Opera House) แลนด์มาร์กหลักทัวร์ออสเตรเลีย
ซิดนีย์ โอเปร่า เฮาส์

2. เกรตแบร์ริเออร์รีฟ (Great Barrier Reef)

เกรตแบร์ริเออร์รีฟ (Great Barrier Reef) คือแนวปะการังที่ใหญ่ที่สุดในโลก ตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศออสเตรเลีย ในทะเลคอรัล (Coral Sea) ริมชายฝั่งรัฐควีนส์แลนด์ (Queensland) และเป็นหนึ่งใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ทางธรรมชาติของโลก ความยาวของแนวปะการังทอดตัวกว่า 2,300 กิโลเมตร ครอบคลุมพื้นที่กว่า 344,000 ตารางกิโลเมตร จนสามารถมองเห็นได้จากอวกาศ ซึ่งถือเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ทางธรรมชาติที่สำคัญที่สุดของโลก เกรตแบร์ริเออร์รีฟประกอบด้วยแนวปะการังกว่า 2,900 แนว และ เกาะกว่า 900 เกาะ มีสิ่งมีชีวิตนับหมื่นชนิดอาศัยอยู่ร่วมกัน เป็นระบบนิเวศทางทะเลที่ซับซ้อนและเปราะบางที่สุดแห่งหนึ่งของโลก

เกรตแบร์ริเออร์รีฟ
เกรตแบร์ริเออร์รีฟ

3. ถนนเกรทโอเชียนโรด (The Great Ocean Road)

ถนนเกรทโอเชียนโรด (Great Ocean Road) เป็นหนึ่งในเส้นทางขับรถเลียบชายฝั่งที่สวยงามที่สุดในโลก และเป็นเส้นทางในฝันของนักเดินทางหลายคน ตั้งอยู่ในรัฐวิกตอเรีย ประเทศออสเตรเลีย เป็นเส้นทางที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ โดยถูกสร้างขึ้นโดยทหารผ่านศึกในช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 1 เพื่ออุทิศให้แก่ทหารที่เสียชีวิตในสงครามโลกครั้งที่ 1 และยังเป็นโครงการที่สร้างงานให้กับทหารผ่านศึกด้วย โดยถนนเส้นนี้มีระยะทางประมาณ 243 กิโลเมตร ตลอดเส้นทางจะมีจุดแวะชมวิวและสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สวยงามมากมาย ซึ่งเกิดจากการกัดเซาะของลมและคลื่นมหาสมุทรแปซิฟิกใต้ โดยจุดชมวิวยอดนิยมของนักท่องเที่ยวจะมี ดังนี้

  • เสาหินทเวลฟ์อะพอสเซิลส์ (The Twelve Apostles) เป็นไฮไลต์ที่มีชื่อเสียงที่สุด ประกอบด้วยเสาหินปูนขนาดใหญ่ที่ตั้งกลางทะเล แม้ว่าจะมีชื่อว่าสิบสองอัครสาวก แต่ปัจจุบันเหลืออยู่เพียง 8 แท่งเท่านั้น
  • หาดเบลล์ (Bell's Beach) อยู่ใกล้จุดเริ่มต้นที่ Torquay ซึ่งเป็นหาดเล่นเซิร์ฟชื่อดังระดับโลกและเป็นสถานที่จัดการแข่งขันโต้คลื่นรายการใหญ่ Rip Curl Pro Surfing Competition อีกด้วย
  • อุทยานแห่งชาติเกรทออตเวย์ (Great Otway National Park) เป็นพื้นที่ป่าฝนเขตอบอุ่น ที่มีน้ำตกสูง และเส้นทางเดินป่า
  • ประภาคารสปลิต พอยต์ (Split Point Lighthouse) ตั้งอยู่ที่เมือง Aireys Inlet เป็นประภาคารเก่าแก่ที่สร้างขึ้นตั้งแต่ปี ค.ศ. 1891 และยังคงรักษาสภาพเดิมไว้ได้ดี เป็นจุดชมวิวที่สวยงามและเป็นฉากในละครทีวีชื่อดังของออสเตรเลียเรื่อง Round the Twist อีกด้วย
ถนนเกรทโอเชียนโรด
ถนนเกรทโอเชียนโรด

4. สถานีฟลินเดอร์สตรีท (Flinders Street Station)

สถานีฟลินเดอร์สตรีท (Flinders Street Station) คือสถานีรถไฟหลักของเมืองเมลเบิร์น (Melbourne) รัฐวิกตอเรีย ประเทศออสเตรเลีย ตั้งอยู่บริเวณหัวมุมถนน Flinders Street และ Swanston Street ตรงข้ามกับ Federation Square ถือเป็นหนึ่งในจุดศูนย์กลางของชีวิตผู้คนในเมือง ทั้งด้านการเดินทาง วัฒนธรรม และสถาปัตยกรรม โดยสถานีแห่งนี้เปิดใช้อย่างเป็นทางการเมื่อปี ค.ศ. 1854 ซึ่งถือเป็นสถานีรถไฟแห่งแรกในประเทศออสเตรเลีย และเป็นหนึ่งในสถานีที่เก่าแก่ที่สุดในโลกที่ยังคงใช้งานอยู่อีกด้วย อาคารปัจจุบันสร้างขึ้นใหม่ในสไตล์ Edwardian Baroque (คลาสสิกผสมความทันสมัยของต้นศตวรรษที่ 20) ตัวอาคารหลักพร้อมโดมสีทองและหอนาฬิกา ที่สร้างเสร็จในปี ค.ศ. 1910 ในปัจจุบันที่สถานีแห่งนี้ได้มีการจัดงานและศิลปะร่วมสมัยให้ได้ชม และบริเวณรอบๆ ยังมีตรอกคาเฟ่ชื่อดังให้ได้พักผ่อน และมีโบสถ์โกธิกสวยๆ ให้ได้ถ่ายรูปอีกด้วย จึงทำให้สถานีฟลินเดอร์สตรีทยังคงเป็นจุดที่นักท่องเที่ยวและคนท้องถิ่นนิยมมาถ่ายรูปมากที่สุดแห่งหนึ่งของทัวร์ออสเตรเลีย และเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ของเมืองเมลเบิร์นอีกด้วย

สถานีฟลินเดอร์สตรีท
สถานีฟลินเดอร์สตรีท

5. อุทยานแห่งชาติบลูเมาเทนส์ (Blue Mountains National Park)

อุทยานแห่งชาติบลูเมาเทนส์ (Blue Mountains National Park) เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่โด่งดังที่สุดของออสเตรเลีย ซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดย UNESCO ตั้งอยู่ในรัฐนิวเซาท์เวลส์ (New South Wales) ห่างจากนครซิดนีย์ไปทางตะวันตกประมาณ 100 กิโลเมตร พื้นที่ของอุทยานครอบคลุมภูเขาหินทราย หน้าผาสูงชัน หุบเขาเจมิสัน (Jamison Valley) ที่กว้างใหญ่ และป่าฝนยูคาลิปตัสที่หนาแน่น ซึ่งทำให้เกิดละอองน้ำมันยูคาลิปตัสสีน้ำเงินหรือสีฟ้าจางๆ ปกคลุมไปทั่วภูเขา เป็นที่มาของชื่อ "บลูเมาเทนส์" ภายในอุทยานมีพันธุ์ไม้กว่า 90 สกุล ยูคาลิปตัส จากทั้งหมด 700 สกุลทั่วโลก เป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์กว่า 400 ชนิด เช่น วอมแบต จิงโจ้ วอลลาบี และนกพื้นเมืองหายาก มีทั้งป่าฝนเขตอบอุ่น (temperate rainforest) และทุ่งหญ้าสูง

ภาพมุมสูงของอุทยานแห่งชาติบลูเมาเทนส์
ภาพมุมสูงของอุทยานแห่งชาติบลูเมาเทนส์

โดยที่อุทยานแห่งชาติบลูเมาเทนส์ จะมีจุดไฮไลต์สวยงามมากมาย ได้แก่

  • เขาสามอนงค์ (The Three Sisters) เป็นจุดชมวิวที่มีชื่อเสียงที่สุดของอุทยานแห่งชาติบลูเมาเทนส์ และถือเป็นสัญลักษณ์สำคัญของพื้นที่แห่งนี้ โขดหินทั้งสามเป็นหินทรายที่ตั้งอยู่บนหน้าผาเหนือหุบเขาเจมิสัน และเชื่อมโยงกับตำนานพื้นเมืองของชาวอะบอริจิน (Aboriginal Dreamtime Legend) ที่เล่าถึงหญิงสาวสามพี่น้องซึ่งถูกเสกให้กลายเป็นหิน เพื่อปกป้องพวกเธอจากอันตรายและการต่อสู้ของชนเผ่า
  • ซีนิค เวิลด์ (Scenic World) เป็นแหล่งท่องเที่ยวเอกชนที่มีชื่อเสียงที่สุดแห่งหนึ่งในบลูเมาเทนส์ ทำให้ได้สัมผัสทัศนียภาพของหุบเขาในหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น Scenic Railway รถไฟโดยสารที่ชันที่สุดในโลก Scenic Cableway กระเช้าเคเบิลเวย์ที่จะล่องลงสู่หุบ ทำให้สามารถชมทิวทัศน์ของหินสามพี่น้องและน้ำตก Katoomba ได้ Scenic Skyway กระเช้าลอยฟ้าพื้นกระจกที่ลอยอยู่สูง 270 เมตรเหนือหุบเขา สามารถชมทิวทัศน์ได้แบบ 360 องศา และ Scenic Walkway ทางเดินไม้เหนือพื้นดินระยะทาง 2.4 กิโลเมตร ท่ามกลางป่าฝนเขตร้อนชื้นโบราณที่ฐานหุบเขา
  • น้ำตกเวนท์เวิร์ธ (Wentworth Falls) เป็นน้ำตกที่สวยงามไหลลงมาจากหน้าผา มีเส้นทางเดินป่าหลายระดับความยากให้เลือก ตั้งแต่การเดินเล่นง่ายๆ ไปจนถึงเส้นทางที่ท้าทาย เช่น Grand Canyon Track ซึ่งเป็นเส้นทางที่สวยงามผ่านป่าฝนและแนวหินที่น่าประทับใจ
  • ถ้ำเจโนลัน (Jenolan Caves) เป็นเครือข่ายถ้ำหินปูนที่เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก และสวยงามที่สุดในออสเตรเลีย มีห้องโถงขนาดใหญ่และหินงอกหินย้อยรูปร่างแปลกตา
  • หมู่บ้านเลอรา (Leura Village) หมู่บ้านเล็กๆ ที่มีบรรยากาศอบอุ่น มีร้านกาแฟ เบเกอรี่ และร้านขายของที่ระลึก เหมาะสำหรับพักผ่อนก่อนหรือหลังเที่ยวอุทยาน
เขาสามอนงค์
เขาสามอนงค์
ซีนิค เวิลด์
ซีนิค เวิลด์
น้ำตกเวนท์เวิร์ธ
น้ำตกเวนท์เวิร์ธ
ถ้ำเจโนลัน
ถ้ำเจโนลัน
หมู่บ้านเลอรา
หมู่บ้านเลอรา

6. หาดบอนได (Bondi Beach)

หาดบอนได (Bondi Beach) เป็นชายหาดที่มีชื่อเสียงระดับโลก ตั้งอยู่ในเมืองซิดนีย์ รัฐนิวเซาท์เวลส์ ประเทศออสเตรเลีย ห่างจากใจกลางเมืองซิดนีย์ไปทางตะวันออกประมาณ 7 กิโลเมตร ชายหาดแห่งนี้มีชื่อเสียงในด้านหาดทรายสีขาวรูปทรงพระจันทร์เสี้ยว ความยาวประมาณ 1 กิโลเมตร และบรรยากาศที่มีชีวิตชีวา ทำให้เป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับทั้งชาวออสเตรเลียและนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก โดยที่บริเวณชายหาดจะมีกิจกรรมต่างๆ มากมายให้ได้ทำ ไม่ว่าจะเป็นเข้าร่วมงานเทศกาลและกิจกรรมกลางแจ้ง อย่างงานศิลปะ “Sculpture by the Sea” ที่จัดขึ้นทุกปีช่วงเดือนตุลาคม–พฤศจิกายน เล่นเซิร์ฟ (Surfing) ซึ่งถือเป็นหนึ่งในจุดเล่นเซิร์ฟที่ดีที่สุดในโลก เหมาะสำหรับทั้งมือใหม่และมืออาชีพ มีโรงเรียนสอนเซิร์ฟหลายแห่ง ว่ายน้ำที่ Bondi Icebergs Pool – สระว่ายน้ำริมทะเลที่มีชื่อเสียงระดับโลก โดยน้ำในสระมาจากน้ำทะเลจริงๆ และมักมีคลื่นซัดเข้ามา เป็นมุมถ่ายรูปยอดนิยมของนักท่องเที่ยวเลย หรือจะเดินเล่นเส้นทาง Bondi to Coogee Coastal Walk – เส้นทางเลียบชายฝั่งยาวประมาณ 6 กิโลเมตร ชมวิวทะเล หน้าผา และชายหาดต่าง ๆ ตลอดทาง และสามารถอาบแดดและปิกนิก ชมบรรยากาศชายหาดได้แบบสบายๆ เหมาะกับการพักผ่อนในวันหยุดเป็นอย่างมาก

หาดบอนได
หาดบอนได

7. เกาะฟิลลิป (Phillip Island)

เกาะฟิลลิป (Phillip Island) ตั้งอยู่ในรัฐวิกตอเรีย ห่างจากเมืองเมลเบิร์นไปทางใต้ประมาณ 90 นาทีโดยรถยนต์ หรือประมาณ 140 กิโลเมตร โดยที่เกาะแห่งนี้มีชื่อเสียงเรื่องธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ มีสัตว์หลากหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็นหมีโคอาลา จิงโจ้ สัตว์สัญลักษณ์ของประเทศออสเตรเลีย ฝูงแมวน้ำทะเลออสเตรเลีย เพนกวิน วอมแบท นกเพลิแกน นกทะเลและนกนางนวลนับร้อยสายพันธุ์ และยังมีสัตว์อีกหลายชนิดให้ได้ชม โดยไฮไลต์ของที่นี่จะอยู่ที่พาเหรดนกเพนกวิน ซึ่งเป็นการแสดงการเดินพาเหรดของเพนกวินที่มีขนาดเล็กที่สุดในโลก หรือที่เรียกว่า เพนกวินนางฟ้า (Little Penguins) เพนกวินหลายพันตัวจะพากันเดินจากทะเลขึ้นสู่รังบนชายหาด Summerlands หลังจากออกไปหาอาหารมาทั้งวัน นักท่องเที่ยวสามารถรับชมได้จากอัฒจันทร์และทางเดินที่จัดเตรียมไว้ นอกจากนี้ยังมีเคปวูลาไม (Cape Woolamai) ชายหาดสำหรับนักโต้คลื่นและเส้นทางเดินชมธรรมชาติอีกด้วย

เกาะฟิลลิป
เกาะฟิลลิป
เพนกวินนางฟ้า
เพนกวินนางฟ้า

8. โกลด์โคสต์ (Gold Coast)

โกลด์โคสต์ (Gold Coast) เป็นเมืองชายฝั่งทะเลที่มีชื่อเสียงระดับโลก ตั้งอยู่ในรัฐควีนส์แลนด์ ประเทศออสเตรเลีย เป็นที่รู้จักกันว่าเป็นเมืองหลวงแห่งสวนสนุกและความบันเทิงของประเทศออสเตรเลีย และเป็นเมืองชายทะเลยอดนิยมที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศ เต็มไปด้วยชายหาดยาวกว่า 57 กิโลเมตร เมืองตากอากาศสุดหรู สวนสนุกระดับโลก อย่างเช่น Dreamworld, Sea World, Movie World, Wet’n’Wild และมีกิจกรรมที่หลากหลายให้ได้ทำ ไม่ว่าจะเป็นเล่นเซิร์ฟ ว่ายน้ำ อาบแดดบนชายหาด เที่ยวสวนสนุก ชมโชว์สัตว์น้ำ ช้อปปิ้งที่ Pacific Fair และ Harbour Town Outlet ล่องเรือชมพระอาทิตย์ตกหรือดูปลาวาฬในทะเล เรียกได้ว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่เหมาะสำหรับการพักผ่อนหย่อนใจในวันหุยดอย่างมาก

โกลด์โคสต์
โกลด์โคสต์

9. โขดหินอูลูรู (Uluru / Ayers Rock)

โขดหินอูลูรู (Uluru) หรือที่รู้จักกันในชื่อเดิมว่า หินแอร์ส (Ayers Rock) เป็นหนึ่งในแลนด์มาร์กทางธรรมชาติที่โด่งดังและศักดิ์สิทธิ์ที่สุดของประเทศออสเตรเลีย ตั้งอยู่ใจกลางทวีปออสเตรเลีย ใน อุทยานแห่งชาติอูลูรู-กาตาจูตา (Uluru-Kata Tjuta National Park) รัฐนอร์เทิร์นเทร์ริทอรี (Northern Territory) เป็นหินทรายแดงขนาดใหญ่อยู่กลางทะเลทรายแดง อูลูรูถือเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ทางธรรมชาติและวัฒนธรรมที่สำคัญที่สุดของประเทศออสเตรเลีย และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากองค์การยูเนสโก (UNESCO World Heritage Site) ทั้งในด้านธรรมชาติและวัฒนธรรม โดยโขดหินนี้มีความสูงประมาณ 348 เมตร ซึ่งสูงกว่าหอไอเฟลในปารีส มีความยาวรอบฐานประมาณ 9.4 กิโลเมตร และคาดว่ามีอายุมากกว่า 550 ล้านปี สีของหินจะเปลี่ยนไปตามแสงในแต่ละช่วงของวัน โดยเฉพาะตอนพระอาทิตย์ขึ้นและตก จะเปลี่ยนเป็นสีแดงเข้มสดเหมือนกับเปลวไฟ นอกจากนี้อูลูรูยังเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของชาวอะบอริจินเผ่าอะนังอู (Anangu) ซึ่งเป็นชนพื้นเมืองของพื้นที่นี้ ซึ่งอูลูรูเป็นส่วนหนึ่งของ Tjukurpa หรือ Dreamtime ตำนานการสร้างโลกของชาวอะบอริจิน พื้นที่รอบๆ โขดหินเต็มไปด้วยภาพวาดหินโบราณ ที่บอกเล่าเรื่องราวทางจิตวิญญาณและประวัติศาสตร์ของบรรพบุรุษ นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางมาที่นี่เพื่อชมพระอาทิตย์ขึ้นและตกดิน เยี่ยมชมศูนย์วัฒนธรรม เพื่อเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับวัฒนธรรม Tjukurpa และประวัติศาสตร์ของชาวอะนังอู และยังสามารถชมนิทรรศการแสงไฟกลางทะเลทรายโดยศิลปินอังกฤษ Bruce Munro ที่มีหลอดไฟพลังงานแสงอาทิตย์กว่า 50,000 ดวง ส่องแสงเปลี่ยนสีสวยงามยามค่ำคืนได้อีกด้วย

โขดหินอูลูรู
โขดหินอูลูรู

10. สวนสัตว์ทารองก้า (Taronga Zoo)

สวนสัตว์ทารองก้า (Taronga Zoo ) ตั้งอยู่บนเนินเขาริมฝั่งอ่าวซิดนีย์ (Sydney Harbour) ในย่าน Mosman รัฐนิวเซาท์เวลส์ ทำให้สามารถมองเห็นวิวซิดนีย์ โอเปร่าเฮาส์และสะพานฮาร์เบอร์บริดจ์ ได้อย่างสวยงาม โดยสวนสัตว์ทารองก้าเป็นสวนสัตว์ขนาดใหญ่ที่มีชื่อเสียงทั้งด้านการจัดแสดงสัตว์และการอนุรักษ์พันธุ์สัตว์หายากจากทั่วโลก โดยเป็นที่อยู่ของสัตว์กว่า 4,000 ตัว จาก 350 สายพันธุ์ ทั้งสัตว์พื้นเมืองของออสเตรเลีย อย่างโคอาล่า จิงโจ้ วอมแบต และสัตว์จากทั่วโลก อย่างยีราฟ ช้าง สิงโต เพนกวิน เสือ และอีกมากมาย นักท่องเที่ยวสามารถชมความน่ารักของสัตว์ต่างๆ และถ่ายรูปได้อย่างใกล้ชิด เป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวทัวร์ออสเตรเลียที่เหมาะกับทุกเพศทุกวัยเลย

ชมหมีโคอาล่าที่สวนสัตว์ทารองก้า
ชมหมีโคอาล่าได้อย่างใกล้ชิด
สวนสัตว์ทารองก้า
ยังมีสัตว์อีกมากมายให้ได้ชม

สรุป

ออสเตรเลียเป็นประเทศที่เต็มไปด้วยความหลากหลาย ทั้งธรรมชาติที่สวยงาม วัฒนธรรมที่น่าสนใจ และเมืองที่มีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร จึงทำให้ทัวร์ออสเตรเลียเป็นจุดหมายปลายทางที่นักท่องเที่ยวเดินทางมากันตลอดทั้งปี หากใครที่สนใจเที่ยวทัวร์ออสเตรเลียและต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม สามารถแอดไลน์ LINE ID : @lovelysmiletour ได้เลย