เวียดนามเหนือ เป็นอีกหนึ่งภาคของเวียดนามที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก เพราะรายล้อมไปด้วยภูเขาสูง ธรรมชาติที่สวยงาม วัฒนธรรมและวิถีชีวิตหลากหลาย ที่สำคัญคือมีเมืองตากอากาศซึ่งเหมาะกับการมาท่องเที่ยวได้ตลอดทั้งปี ใครที่กำลังวางแผนเดินทางมาทัวร์เวียดนาม และกำลังหารีวิวทัวร์เวียดนามเหนือ บทความนี้เลิฟลี่สไมล์ทัวร์จัดรีวิวทัวร์ให้แบบครบๆตั้งแต่เมืองลาวไก ซาปา ขึ้นกระเช้าฟานซิปัน จนลงมาที่เมืองฮานอย ในแต่ละวันจะไปเที่ยวที่ไหนบ้าง อ่านรีวิวนี้ได้เลย
1.โปรแกรมทัวร์เวียดนามเหนือ
| วันที่ | โปรแกรมทัวร์เวียดนามเหนือ | โรงแรม |
| 1 | สนามบินดอนเมือง – ท่าอากาศยานนานาชาตินอยไบ – เมืองลาวไก – ROCK-KING COFFEE – เมืองซาปา | FAIRY RESORT ระดับ 4 ดาว |
| 2 | ประตูสวรรค์ O QUY HO – ยอดเขาฟานซิปัน – ถนนคนเดินซาปา – โบสถ์หินซาปา | AZURE SAPA HOTEL ระดับ 4 ดาว |
| 3 | เมืองซาปา – หมู่บ้านธูป – เมืองฮานอย | MELIA GRAND HOTEL ระดับ 4 ดาว |
| 4 | MEGA GRAND WORLD HANOI – ถนน 36 สาย – AEON MALL LONG BIEN – ท่าอากาศยานนานาชาตินอยไบ | – |
2.วันที่ 1
สนามบินดอนเมือง – ท่าอากาศยานนานาชาตินอยไบ – เมืองลาวไก – ROCKING KING COFFEE – เมืองซาปา
ช่วงเช้า
ทริปนี้จะนัดเจอกันที่สนามบินดอนเมืองเวลา 4.00 น. เครื่องออกเวลา 7.00 น. โดยสายการบิน Air Asia ใช้เวลา 1 ชั่วโมง 45 นาที ก็จะถึงท่าอากาศยานนานาชาตินอยไบเวลา 8.45 น. หลังจากผ่านตม.เข้ามาแล้ว เราจะเดินทางไปเมืองลาวไกโดยรถโค้ชปรับอากาศประมาณ 40-45 ที่นั่ง ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง 30 นาที เพื่อไปยังร้านกาแฟ ROCKING COFFEE ซึ่งเป็นร้านกาแฟที่สวยที่สุดในเมืองลาวไก จุดเด่นของที่นี่คือกาแฟและการตกแต่งที่ไม่เหมือนใคร ภายในร้านจะเป็นที่หลุมที่นั่งที่รายล้อมไปด้วยบ่อปลาคราฟสีสันสวยงาม นอกจากนี้ยังสามารถมองเห็นประเทศจีนจากฝั่งตรงข้ามของร้านได้อีกด้วย
ช่วงเที่ยง
มื้อเที่ยงจะเป็นอาหารเวียดนามแบบพื้นเมือง ซึ่งรสชาติไม่จัด เช่น แกงจืด ผัดผัก ปอเปี๊ยะเวียดนาม ส่วนเนื้อสัตว์จะเน้นเป็นเนื้อเป็ด เนื้อไก่เป็นส่วนใหญ่ เพราะเป็นเนื้อที่คนเวียดนามนิยมรับประทาน หลังจากที่รับประทานอาหารเสร็จแล้ว เราจะเดินทางต่อไปที่เมืองซาปา โดยใช้เวลาเดินทาง 1 ชั่วโมง 30 นาที ซึ่งอากาศของเมืองซาปาจะค่อนข้างหนาวเย็น มีลมแรงและมีหมอก อากาศจะค่อนข้างแตกต่างกันกับในเมือง ระหว่างทางขึ้นไปที่เมืองซาปาสามารถชมวิวธรรมชาติและนาขั้นบันไดสวยงามได้ตลอดสองข้างทาง
ช่วงค่ำ
เมื่อมาถึงเมืองซาปาแล้ว เราจะอยู่กันที่แลนด์มาร์คใหม่ของเมืองซาปา ได้แก่ O Quy Ho ที่นี่จะเป็นแหล่งรวมจุดท่องเที่ยวและกิจกรรมที่หลากหลาย ภายในจะมีรีสอร์ทที่เรียก FAIRY RESORT ระดับ 4 ดาว ที่บรรยากาศดีสุดๆ สามารถชมวิวพระอาทิตย์ตกในตอนเย็นและชมพระอาทิตย์ขึ้นพร้อมกับทะเลหมอกในตอนเช้าได้ ก่อนที่จะเข้าที่พัก เราจะได้รับประทานอาหารพื้นเมืองของเวียดนามและชมการแสดงจากชนเผ่าใหญ่ซาปา เป็นการแสดงจากชนเผ่าพื้นเมืองที่ยังคงอนุรักษ์วัฒนธรรมท้องถิ่นมาอย่างยาวนาน
3.วันที่ 2
ประตูสวรรค์ O QUY HO – ยอดเขาฟานซิปัน – ถนนคนเดินซาปา – โบสถ์หินซาปา
ช่วงเช้า
เริ่มต้นวันนี้ด้วยมื้อเช้าของโรงแรม ส่วนใหญ่จะเป็นอาหารรสชาติทานง่าย เช่น ข้าวผัด ซุป ผัดผัก ผัดเส้นต่างๆ ภัตตาคารของเวียดนามส่วนใหญ่จะมีโยเกิร์ตให้ได้รับประทานแทบจะทุกที่ เพราะคนเวียดนามจะนิยมรับประทานหลังจากทานข้าวเสร็จแล้วเพื่อช่วยในเรื่องระบบขับถ่าย ที่สำคัญคืออร่อยมาก หลังจากที่รับประทานอาหารเสร็จแล้ว จะมีรถกอลฟ์ที่มารับเราไปเที่ยวตามจุดต่างๆของ O Quy Ho ซึ่งที่นี่จะมีจุดท่องเที่ยวให้ได้เที่ยวค่อนข้างหลากหลาย เช่น โรงหนัง 8 มิติ สวนเรืองแสง หรือกิจกรรมที่เป็นแนวแอดแวนเจอร์ก็มีให้ได้ลองเช่นกัน จุดไฮไลท์ของที่นี่คือ ประตูสวรรค์ O Quy Ho ซึ่งตั้งอยู่บนยอดเขา ระหว่างทางขึ้นบันได้ไปที่ประตูสวรรค์ สามารถชมวิวภูเขาสูงและเมฆหมอกสวยงาม บอกได้เลยว่าบรรยากาศดีสุดๆ
อ่านรีวิว O Quy Ho ฉบับเต็มได้ที่นี่
ช่วงเที่ยง
หลังจากเที่ยวที่ O Quy Ho เสร็จแล้ว จุดไฮไลท์ต่อไปคือ ยอดเขาฟานซิปัน ซึ่งจะเป็นแลนด์มาร์คสำคัญสำหรับทัวร์เวียดนามเหนือที่จะได้นั่งกระเช้าลอยฟ้า ขึ้นไปยังยอดเขาที่มีความสูงกว่า 3,100 เมตร ได้รับฉายาว่าเป็นหลังคาแห่งอินโดจีน แต่ก่อนที่จะได้ขึ้นไปนั้น เราจะได้รับประทานมื้อเที่ยงซึ่งเป็นบุฟเฟ่ต์นานาชาติที่สถานีกระเช้าก่อน หลังจากรับประทานเสร็จแล้วจะใช้เวลาประมาณ 30 นาทีในการนั่งกระเช้าใหญ่เพื่อไปยังจุดชมวิวยอดเขาฟานซิปัน
อ่านรีวิว กระเช้าฟานซิปัน ฉบับเต็มได้ที่นี่
ช่วงค่ำ
หลังจากที่ลงมาจากกระเช้าฟานซิปันแล้ว เราจะนั่งรถไฟโมโนเรลสีแดงเพื่อเดินทางมายังในตัวเมืองซาปาโดยใช้เวลาประมาณ 20 นาที ซึ่งสถานีรถไฟจะมาส่งเราถึงในตัวเมืองซาปาเลย คืนนี้พิเศษสุดๆเราจะได้พักโรงแรมในตัวเมืองที่ติดกับถนนคนเดินซาปา ในช่วงเย็นสามารถเดินช้อปปิ้งหรือนั่งคาเฟ่ชิวๆได้ บอกได้เลยว่าบรรยากาศดีสุดๆ ภายในถนนคนเดินซาปายังเป็นที่ตั้งของ โบสถ์หินซาปา สร้างขึ้นช่วงต้นศตวรรษที่ 20 โดยชาวฝรั่งเศส ให้ได้ชมความสวยงามอีกด้วย และมื้อเย็นของวันนี้คือ ชาบูหม้อไฟ เข้ากันกับบรรยากาศหนาวๆแบบนี้สุดๆ
4.วันที่ 3
เมืองซาปา – หมู่บ้านธูป – เมืองฮานอย
ช่วงเช้า
เริ่มต้นวันด้วยอาหารเช้าของโรงแรม โดยจะเป็นแบบบุฟเฟ่ต์นานาชาติเช่นเดิม ในระหว่างนี้สามารถนั่งรับประทานอาหารพร้อมชมวิวเมืองซาปาและหมอกยามเช้าได้ โปรแกรมของวันนี้เราจะนั่งรถกันยาวๆจากเมืองซาปาไปเมืองฮานอยโดยใช้เวลาประมาณ 9 ชั่วโมง นั่งรถยาวๆขนาดนี้ไม่ต้องกังวลเรื่องห้องน้ำเพราะจะมีจุดพักรถให้ได้เข้าห้องน้ำและซื้อของกินระหว่างทางทุกๆ 2 ชั่วโมงเลย
ช่วงเที่ยง
ก่อนถึงเมืองฮานอยเราจะแวะรับประทานอาหารมื้อเที่ยงที่ภัตตาคารระหว่างทาง จะเป็นอาหารพื้นเมืองของเวียดนาม รสชาติไม่จัดจ้านมาก รับประทานเสร็จแล้วเราก็จะเดินทางกันต่อไปเพื่อไปยังเมืองฮานอย หลังจากที่ถึงเมืองฮานอยแล้ว เราจะแวะไปเที่ยวหมู่บ้านธูป ซึ่งเป็นแหล่งผลิตธูปส่งออกหลากสีสันสวยงาม ที่นี่จะมีหมวกเวียดนามเป็นพร๊อพให้ได้ใส่ถ่ายรูปกันฟรีๆ รับรองว่าได้รูปสวยๆกลับไปอย่างแน่นอน
ช่วงค่ำ
เมื่อเที่ยวที่หมู่บ้านธูปเสร็จแล้ว เราจะนั่งรถเข้ามาในตัวเมืองฮานอยเพื่อรับประทานอาหารค่ำกัน ซึ่งจะเป็นร้านอาหารแบบโต๊ะจีน อาหารค่อนข้างหลากหลาย รสชาติอาหารจะค่อนข้างถูกปากคนไทยเพราะรสชาติเข้มข้น จัดจ้าน ด้านล่างของร้านจะเป็นร้านเบเกอรี่ หลังจากรับประทานอาหารเสร็จสามารถแวะซื้อก่อนกลับได้ โดยที่พักจะเป็นโรงแรมในฮานอยระดับ 4 ดาว
5.วันที่ 4
เมืองฮานอย – MEGA GRAND WORLD – ถนน 36 สาย – AEON MALL LONG BIEN – ท่าอากาศยานนานาชาตินอยไบ
ช่วงเช้า
วันสุดท้ายของทริปนี้ ช่วงเช้าเราจะเที่ยวกันที่แลนด์มาร์คใหม่ของเมืองฮานอย ได้แก่ MEGA GRAND WORLD ซึ่งเป็นแหล่งรวมจุดช้อปปิ้ง ร้านอาหาร คาเฟ่ จุดถ่ายรูปสวยๆแบบจุกๆ โดยที่นี่ได้รับการเรียกว่าเป็น เมืองเวนิสแห่งเวียดนามเหนือ เมื่อมาถึงแล้วจะมีรถกอลฟ์พาเที่ยวตามจุดไฮไลท์ต่างๆภายในเมืองก่อนแล้วจึงจะพามาส่งตรงจุดศูนย์กลางที่เป็นแม่น้ำและร้านค้า ร้านอาหารต่างๆให้เราได้เดินเที่ยวกันอย่างฟรีสไตล์ โดยจะให้เวลาในการเที่ยวอย่างอิสระประมาณ 2 ชั่วโมง
อ่านรีวิว MEGA GRAND WORLD ฉบับเต็มได้ที่นี่
ช่วงเที่ยง
หลังจากที่เที่ยว MEGA GRAND WORLD เสร็จแล้ว เราจะมารับประทานมื้อเที่ยงที่ร้าน Maison Sen ซึ่งเป็นร้านบุฟเฟ่ต์นานาชาติ จัดเต็มทั้งซีฟู้ด ซาซามิ เฝอ ชาบู อาหารยุโรป หลากหลายเมนูให้ได้อิ่มแบบจุกๆ หลังจากที่รับประทานมื้อเที่ยงเสร็จแล้ว เราจะไปช้อปปิ้งกันที่ถนน 36 สาย ซึ่งเป็นแหล่งรวมของฝาก เสื้อผ้า รองเท้า กระเป๋า สินค้าแบรนด์เวียดนาม ซึ่งนอกจากจะได้ช้อปปิ้งแล้วยังมีโรงละครหุ่นกระบอกและอีกหนึ่งจุดไฮไลท์อย่างสะพานแสงอาทิตย์ ให้ได้เที่ยวกันอีกด้วย
ช่วงค่ำ
ไฟลท์ขากลับไทยของเราจะเป็นไฟลท์ค่ำ หลังจากที่เราช้อปปิ้งกันที่ถนน 36 สายเสร็จแล้ว ก่อนที่เราจะเดินทางไปที่สนามบิน เราจะได้แวะช้อปปิ้งกันที่ AEON MALL LONG BIEN ก่อนกลับ ที่นี่จะเป็นห้างที่รวมสินค้าแบรนด์เนมต่างๆ ใครที่อยากช้อปปิ้งหรือหาซื้อของฝากก่อนกลับไทยก็สามารถหาซื้อที่นี่ได้ หลังจากที่ช้อปปิ้งเสร็จแล้วก็ได้เวลาเดินทางกลับสนามบิน หลังจากทำการเช็คอินเสร็จแล้ว เราจะได้ปิดท้ายทริปนี้ด้วยมื้อค่ำ ได้แก่ เฝอ ร้านเด็ดที่สนามบินระหว่างรอขึ้นเครื่อง จะบอกว่าน้ำซุปอร่อยมาก โดยจะมีให้เลือก 2 แบบคือเฝอเนื้อและเฝอไก่ เรียกได้ว่าได้อิ่มอร่อยครบก่อนกลับไทยกันเลยทีเดียว
สรุป
เวียดนามเหนือ เป็นอีกหนึ่งภาคของเวียดนามที่เต็มไปด้วยธรรมชาติสวยงาม วิถีชีวิตของคนพื้นเมือง และสถาปัตยกรรมหลากหลายรูปแบบ ใครที่อยากมาสัมผัสบรรยากาศดีๆ ชมทะเลหมอกในตอนเช้า นั่งกระเช้าชมวิวภูเขาสูง เวียดนามเหนือเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ต้องมาเที่ยวให้ได้สักครั้ง ใครที่สนใจทัวร์เวียดนามเหนือ สามารถแอดไลน์ LINE ID : @lovelysmiletour เพื่อสอบถามเพิ่มเติมได้เลย