มีโอกาสได้ไปเที่ยวทัวร์เวียดนามเหนือเป็นครั้งแรก ความรู้สึกตื่นเต้นมีมาเต็มเปี่ยม เพราะใครๆ หลายคนก็พูดกันว่า เส้นทางเที่ยวเวียดนามเหนือนั้นสวยงามมาก การเดินทางของเราในครั้งนี้ จะเดินทางเที่ยวในเส้นทางของ ทัวร์เวียดนามเหนือ ฮานอย ฮาลอง และ นิงก์บิงห์ รายละเอียดเป็นอย่างไรบ้าง ลองอ่านรีวิวกัน
วันที่ 1 ของการเดินทางเที่ยวเวียดนามเหนือ
กรุงเทพฯ (ดอนเมือง) – ฮานอย – ทะเลสาบตะวันตก – วัดเตริ๋นก๊วก – วัดแห่งวรรณกรรม – ช้อปปิ้งที่ถนน 36 สาย – ชมการแสดงหุ่นกระบอกน้ำ
การเดินทางครั้งนี้เราบินไปกับสายการบินไทยไลอ้อนแอร์ (SL) ที่บินตรงลงที่สนามบินนอยไบ ที่เมืองฮานอยเลยค่ะ
ไปทัวร์เวียดนามเหนือ ใช้แค่พาสปอร์ตอย่างเดียว ไม่ต้องขอวีซ่า
สายการบินไทยไลอ้อนแอร์ เครื่องใหม่ นั่งสบาย
บรรยากาศระหว่างบินไปที่สนามบินนอยไบ
เมื่อเราเดินทางถึงแล้วก็เริ่มเดินทางกันเลยค่ะ เดินทางไปถึงก็เป็นเวลาจะเที่ยวแล้ว โปรแกรมของเราเลยเริ่มต้นด้วยการทานอาหารกันก่อนเลย มื้อแรกที่เวียดนามของเราก็คือ อาหารบุพเฟ่ต์นานาชาติ ณ SEN BUFFET มีอาหารหลากหลายมากมายหลายชาติให้เลือกทานกันอย่างละลานตา
บรรยากาศที่เมืองฮานอย ระหว่างที่เดินทางไปรับประทานอาหารที่ SEN BUFFET
บรรยากาศในร้าน SEN BUFFET
อาหารพื้นเมือง น่าทานมาก
หลังจากที่เราอิ่มท้องกันแล้วก็เริ่มเดินทางท่องเที่ยวเวียดนามเหนือได้เลย โดยสถานที่ท่องเที่ยวแรกที่เราจะเดินทางไปนั้น คือ ทะเลสาบตะวันตก และ วัดเตริ๋นก๊วก ทะเลสาบแห่งนี้ เป็นทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุดในกรุงฮานอย ตรงบริเวณทะเลสาบจะมีวัดเตริ๋นก๊วกตั้งอยู่ ซึ่งเป็นวัดเก่าแก่ของชาวพุทธที่เคยมีความรุ่งโรจน์
ทะเลสาบตะวันตก
ไกด์ทัวร์เวียดนามเหนือพาชม วัดเตริ๋นก๊วก
เดินเข้ามาบริเวณทางเข้าวัดเตริ๋นก๊วก
ภายในวัดเตริ๋นก๊วก
หลังจากที่เดินเที่ยวชมและทะเลสาบและรอบๆบริเวณวัด ทำบุญ ไหว้พระ เรียบร้อยแล้ว เราก็ออกเดินทางกันต่อ โดยจุดหมายต่อไปของเราอยู่ที่ วัดแห่งวรรณกรรม เป็นวัดที่มีประวัติยาวนานมาเป็นร้อยปี และยังเป็นมหาวิทยาลัยแห่งแรกอีกด้วย ภายในบรรยากาศล้อมรอบไปด้วยต้นไม้เขียวขจีตลอดทางเดิน และจะมี ศาลเทพเจ้าขงจื๊อให้สักการะกราบไหว้ มีร้านขายของฝากเล็กๆ น้อยๆ ให้ช้อปปิ้งกัน
วัดแห่งวรรณกรรม
เดินเข้ามาด้านในวัดแห่งวรรณกรรม
เที่ยวอย่างต่อเนื่องกันค่ะ สถานที่ต่อไปที่เราจะเดินทางไปนั้นคือ ไปช้อปปิ้งที่ถนน 36 สาย กันค่ะ ที่บริเวณถนน 36 สายที่เราจะไปนั้น นอกจากการจะได้ไปช้อปปิ้งแล้ว เรายังจะไปรอชมการแสดงหุ่นกระบอกน้ำกันอีกด้วยค่ะ ช้อปปิ้งถนน 36 สาย เป็นแหล่งช้อปปิ้งที่มีของให้เลือกซื้อมากมายไม่ว่าจะเป็น กระเป๋า รองเท้า เสื้อผ้า และของที่ระลึก จากนั้น เมื่อได้เวลาอันเหมาะสม ไกด์ทัวร์เวียดนามเหนือจึงพาไปชม การแสดงหุ่นกระบอกน้ำ เป็นการแสดงเกี่ยวกับความภาคภูมิในวิถีชีวิตของชาวเวียดนาม เช่น การเก็บเกี่ยวพืชผล การปลูกข้าว การตกปลาหาปลา และการแข่งเรือ
บัตรเข้าชมการแสดงหุ่นกระบอกน้ำ
เมื่อช้อปปิ้งและรับชมโชว์กันอย่างจุใจแล้ว เมื่อทานอาหารเย็นเสร็จเรียบร้อย ก็เดินทางเข้าที่พัก ในคืนแรกเราพักกันที่โรงแรม DELIGHT HOTEL ที่ฮานอย
บริเวณด้านหน้าโรงแรม Delight Hotel ที่ฮานอย
ภายในห้องพักของโรงแรม Delight Hotel
วันที่ 2 ของการเดินทาง
สุสานประธานาธิบดีโฮจิมินห์ – ทำเนียบประธานาธิบดี และ พิพิธภัณฑ์โฮจิมินห์ – ฮาลอง – ฮาลอง NIGHT MARKET
เช้าวันที่ 2 กับแสงแดดที่สดใส หลังจากทานอาหารเช้าที่โรงแรมเรียบร้อยแล้ว เราก็พร้อมออกเดินทางท่องเที่ยวเวียดนามเหนือกันในวันที่ 2 ของการเดินทางค่ะ เราเริ่มต้นกันด้วย เที่ยวชม สุสานประธานาธิบดีโฮจิมินห์ ท่านโฮจิมินห์ หรือ ลุงโฮเป็นวีรบุรุษตลอดกาลของชาวเวียดนาม นอกจากจะเป็นผู้รวมเวียดนามให้เป็นประเทศแล้ว ยังเป็นผู้กอบกู้เอกราชให้กับชาวเวียดนามอีกด้วย ภายในสุสานจะมีร่างของท่านเก็บรักษาไว้อย่างดี ร่างกายจึงไม่เน่าเปื่อย และมีเจ้าหน้าที่ดูแลอย่างเข้มงวด
อาหารเช้าแบบบุฟเฟ่ต์
สุสานประธานธิบดีโฮจิมินห์
ถ่ายรูปด้านหน้าสุสานประธานธิบดีโฮจิมินห์
จากนั้น จึงไปชม ทำเนียบประธานาธิบดี และ พิพิธภัณฑ์โฮจิมินห์ อาคารสีเหลืองหลังใหญ่เด่นเป็นสง่าในบริเวณนั้น ถูกสร้างให้ท่านโฮจิมินห์ แต่ท่านไม่ยอมอยู่ แต่ขออาศัยอยู่ที่บ้านไม่หลังเล็กที่หลังทำเนียบแทน ท่านใช้ชีวิตแบบพอเพียง เรียบง่าย และในส่วนบริเวณของพิพิธภัณฑ์นั้น ได้ถูกออกแบบโดยช่างรัสเซีย เพื่อไว้เก็บรวบรวมเรื่องราวต่างๆของท่านโฮจิมินห์ ตั้งแต่เด็กจนโต จนถึงวาระสุดท้ายของชีวิต
ทำเนียบประธานาธิบดี และพิพิธภัณฑ์โฮจิมินห์
บ้านพักประธานาธิบดีโฮจิมินห์
เที่ยวเต็มอิ่มจุใจในช่วงเช้าแล้ว ก็พักรับประทานอาหารกลางวันกันที่ร้านอาหารในฮานอย ก่อนที่จะต้องออกเดินทางโดยการนั่งรถกันยาวๆ ประมาน 3-4 ชั่วโมง เพื่อเดินทางไปยังเมืองฮาลอง
ไกด์ทัวร์เวียดนามเหนือพาไปรับประทานอาหารกลางวัน
ตลอดการนั่งรถเพื่อเดินทางไปยังเมืองฮานอยนั้น เราก็จะได้รับชมทัศนียภาพ 2 ข้างทางที่ยังมีความเขียวขจีของต้นไม้ และทุ่งนา ภาพที่เห็นไม่ต่างจากภาพทุ่งนาสีเขียวๆ ตามต่างจังหวัดในบ้านเรา เมื่อเดินทางถึง เมืองฮาลอง ก็เป็นเวลาเย็นพอดี เราก็เดินทางไปรับประทานอาหารกันที่ร้านอาหารในฮาลอง หลังจากที่ทานอาหารเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็เลยไปเดินตลาดนัดที่เมืองฮาลอง ชื่อว่า ฮาลอง NIGHT MARKET เป็นตลาดที่มีของขายมากมายเต็มไปหมด ทั้งของฝากเล็กๆ น้อยๆ กระเป๋าสะพายใบเล็กๆ ไปจนถึงกระเป่าเดินทางไปใหญ่ๆ มีทั้งเสื้อผ้า รองเท้า ของใหญ่กระจุกกระจิก หรือใครที่ต้องการหาซื้อชุดประจำชาติที่สาวๆเวียดนามชอบสวมใส่กันที่ เรียกว่า ชุดอ๋าวใหญ่ ก็สามารถหาซื้อได้ที่ตลาดนี้นะคะ มีแบบและสีให้เลือกมากมาย และ ราคาไม่แพงค่ะ
เดินทางสู่เมืองฮาลอง
ชุดอ๋าวใหญ่
ช้อปปิ้งกันจนจุใจเรียบร้อยแล้ว ก็ได้เวลาเดินทางเข้าโรงแรมที่พัก เพื่อพักผ่อนเอาแรงเดินทางในวันต่อไปกันนะคะ คืนนี้เราพักกันที่โรงแรม HARBOUR HOTEL ในเมืองฮาลอง
โรงแรม Habour Hotel
วันที่ 3 ของการเดินทาง
ล่องเรือที่อ่าวฮาลอง – นิงห์บิงห์
เข้าสู้วันที่ 3 ของการเดินทางเที่ยวเวียดนามเหนือกันแล้วนะคะ เช้าวันนี้เราจะตื่นเช้ากว่าเดิมหน่อยเนื่องจากว่า วันนี้เราจะไป ล่องเรือที่อ่าวฮาลอง กันค่ะ เมื่อทานอาหารเช้าเรียบร้อยแล้ว เราก็เดินทางไปท่าเรือที่อ่าวฮาลองกันเลยค่ะ การเดินทางจากโรงแรมไปยังท่าเรือ ใช้เวลาเพียงแค่ 2 นาทีเท่านั้นเองค่ะ
อาหารเช้าที่ Habour Hotel
ล่องเรืออ่าวฮาลอง เมื่อถึงท่าเรือแล้ว รับตั๋วแล้ว ก็พร้อมในการเดินทางล่องเรืออ่าวฮาลองกันแล้วค่ะ เรือที่เราล่องนั้นเป็นเรือลำใหญ่ จุคนได้เยอะพอสมควร เรือจะล่องไปแบบไม่เร็วมาก เพื่อให้เราได้สัมผัสบรรยากาศชมความงามที่ล้อมรอบไปด้วยธรรมชาติ อ่าวฮาลองนี้ประกอบไปด้วยเกาะน้อยใหญ่กว่า 1,900 เกาะ
ล่องเรืออ่าวฮาลอง
บรรยากาศที่อ่าวฮาลองเบย์
มีชาวบ้านพายเรือในอ่าวฮาลองเบย์
เมื่อเรือล่องไปได้สักพักใหญ่ ก็เป็นเวลาจะเที่ยงพอดี เราได้มีโอกาสรับประทานอาหารบนเรือลำนี้เลย เมนูอาหารส่วนใหญ่จะเป็นเมนูซีฟู้ดสไตล์เวียดนาม ทานข้าวไปด้วย ชมบรรยากาศรอบๆอ่างฮาลองไปด้วย ฟินสุดๆเลยค่ะ
บรรยากาศภายในเรือ
อาหารทะเลสไตล์เวียดนาม
ล่องเรือเรียบร้อยแล้ว ทานอาหารเรียบร้อยแล้ว ไกด์ทัวร์เวียดนามเหนือพาเราออกเดินทางกันต่อค่ะ เราจะออกเดินทางจากเมืองฮาลอง ไปสู่ เมืองนิงห์บิงห์ กันค่ะ ใช้เวลาเดินทาง ประมาน 3-4 ชั่วโมงเช่นกันค่ะ บรรยากาศเส้นทางการเดินทางจากฮาลองไปนิงห์บิงห์นั้นก็ไม่มีอะไรแตกต่างไปมาก เพราะ 2 ข้างทางก็ยังมีความเขียวขจีของต้นไม้และทุ่งนาเช่นกัน ชาวบ้านส่วนใหญ่ที่เค้าทำนากัน ข้างๆ ในนาก็จะมีการเลี้ยงเป็ดไล้ทุ่งเอาไว้ด้วยค่ะ และแล้วเราก็เดินทางมาถึงเมืองนิงก์บิงห์กันแล้วนะคะ พอมีถึงก็เป็นเวลาเย็นแล้ว ท้องฟ้ากำลังจะมืดลงแล้ว เราจึงเดินทางไปทานอาหารที่ร้านอาหารในเมืองนิงก์บิงห์และเดินทางเข้าที่พักของเรากันค่ะ คืนนี้เราพักกันที่ YEN NHI HOTEL ในเมืองนิงก์บิงห์ค่ะ
เข้าพักที่โรงแรม Yen Nhi Hotel
วันที่ 4 ของการเดินทาง
ล่องเรือนิงห์บิงห์ – สนามบินนอยไบ – กรุงเทพฯ (ดอนเมือง)
เช้าวันสุดท้ายของการเดินทางท่องเที่ยวทัวร์เวียดนามเหนือแล้วค่ะ ตื่นมาเช้านี้อากาศค่อนข้างละอึมครึม เพราะเนื่องจากเมือคืนมีฝนตกลงมา เลยทำให้วันนี้ไม่มีแดดจ้าให้เราเห็นเลยค่ะ เรารับประทานอาหารเช้ากันที่โรงแรมอีกเช่นเคยค่ะ แล้วเดี๋ยวเราจะเดินทางไปล่องเรือกระจาด ที่นิงก์บิงห์กันค่ะ
ทานอาหารเช้าของโรงแรม Yen Nhi Hotel
โรงแรมที่เราพักกับท่าเรือที่เราจะไปล่องเรือนั้นก็อยู่ห่างกันไม่มากค่ะ ใช้เวลาเดินทางแค่ประมาน 3 นาทีเราก็มาถึงท่าเรือกันแล้ว เนื่องจากฝนตกเมื่อคืน วันนี้ไม่มีแดด เราเลยล่องเรือกันแบบชิลๆ ลมเย็นๆ ค่ะ ล่องเรือนิงห์บิงห์ หรือบางครั้งไกด์ทัวร์เวียดนามเหนือเรียกว่า ฮาลองบก เมื่อถึงท่าเรือ ใส่ชูชีพเรียบร้อยแล้ว ก็ต่อคิวกันลงเรือได้เลยค่ะ ลักษณะของเรือจะเป็นคล้ายๆ เรือหางยาวบ้านเรา แต่จะใช้คนพาย 1 คน และเรือ 1 ลำสามารถบรรทุกผู้โดยสารได้ 2-3 ท่านค่ะ เมื่อลงเรือเรียบร้อยแล้ว คนพายใช้เท้าพายเรือพาเราล่องเรือผ่านท้องน้ำ สองข้างทางเป็นทุ่งนาข้าว ท่ามกลางทัศนียภาพที่มีภูเขาน้อยใหญ่เรียงราวเต็มไปหมด เราจะนั่งเรือลอดผ่านถ้ำทั้งหมด 3 ถ้ำ หรือที่ชาวเวียดนามเรียกกันว่า ตามก๊ก คนพายจะพายไปและพายกลับ จะใช้เวลาในการล่องเรือ ประมาณ 45-60 นาทีค่ะ
ล่องเรือที่นิงห์บิงห์ หรือ ฮาลองบก
บรรยากาศสนุกสนานท่ามกลางธรรมชาติอันสวยงาม
คนพายจะใช้เท้าพายเรือ
หลังเสร็จจาการล่องเรือกระจาดแล้ว ก็ได้เวลาทานอาหารเที่ยงพอดี เราทานอาหารเที่ยงกันที่ร้านอาหารแถวๆ ท่าเรือที่เราไปล่องเรือกันค่ะ และพอทานอาหารเสร็จแล้ว เราก็ได้เวลาที่จะต้องนั่งรถกลับเข้าเมืองฮานอยเพื่อเดินทางไปยังสนามบิน แล้วเดินทางกลับบ้านเรากันแล้วนะคะ เมื่อถึงสนามบินนอยไบ ที่ฮานอย เราก็ทำการเข้าแถว เพื่อโหลดกระเป๋า เชคอิน รับ Boarding Pass แล้วเข้าไปรอในเกตเพื่อรอเวลาเรียกขึ้นเครื่องค่ะ เราจะเดินทางกลับบ้านกันแล้วจ้า
เดินทางกลับโดยสวัสดิภาพ
สรุป
ประสบการณ์ที่ได้เดินทางมาเที่ยวที่เวียดนามเหนือครั้งแรกนี้ ถือเป็นประสบการณ์ที่สนุกมาๆ เลยนะคะ เป็นการเดินทางท่องเที่ยวที่เป็นธรรมชาติโดยแท้จริง ได้สัมผัสวิถีชีวิต และอาหารการกินของคนเวียดนาม สิ่งที่ตื่นตาตื่นใจอีกอย่างที่ไม่เล่าไม่ได้เลยคือ การจราจรบนถนนของคนเวียดนามค่ะ เสียงแตรที่สนั่นหวั่นไหวตลอดทาง บีบแข่งกันจนหูจะพัง แต่ก็ถือว่าได้ไปสัมผัสอะไรใหม่ๆ ที่เราไม่เคยเห็น หรือที่บ้านเราไม่มีแบบนี้ดูนะคะ
รีวิวโดย หมวยหมวย