บทความนี้ เลิฟลี่ สไมล์ ทัวร์ จะมารีวิว ทัวร์เวียดนามกลาง 4 วัน 3 คืน โปรแกรมนี้จะพาไปเที่ยวที่ไหน มีรายละเอียดอะไรบ้าง บินสายการบินอะไร อาหารกี่มื้อ ใครกำลังตัดสินใจที่จะไปเที่ยวแบบโปรแกรมทัวร์เวียดนามกลางหรือว่ากำลังหารีวิวดีๆต้องไม่พลาดกับเนื้อหาของรีวิวนี้เลยค่ะ
ระยะเวลา | 4 วัน 3 คืน |
สายการบิน | เวียตเจ็ทแอร์ |
มื้ออาหาร | 10 มื้อ |
ระดับโรงแรม | 4 ดาว |
วันที่ 1 ของทัวร์เวียดนามกลาง 4 วัน 3 คืน
ทัวร์เวียดนามกลาง 4 วัน 3 คืน ครั้งนี้ จะเป็นโปรแกรมที่บินเช้าและกลับบ่าย โดยจะนัดเจอกันที่สนามบินสุวรรณภูมิเวลา 7.30 น. อาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ ประตู 4 ค่ะ เมื่อมาถึงที่สนามบินแล้วจะมีเจ้าหน้าที่ส่งทัวร์และหัวหน้าทัวร์ยืนต้อนรับและแจกของซึ่งของแจกก็จะมีเนมแท็กกระเป๋า โปรแกรมทัวร์เวียดนามกลาง สเปรย์แอลกฮอลล์ หน้ากากอนามัยและลูกอมค่ะ ซึ่งทางหัวหน้าทัวร์จะพาเราไปเช็คอินที่เคาน์เตอร์สายการบินและโหลดกระเป๋าเดินทาง เมื่อเช็คอินและได้รับตั๋วแล้วระหว่างที่รอขึ้นเครื่อง เราสามารถไปหาอะไรกินที่สนามบินหรือทำธุระส่วนตัวก่อนได้ค่ะ สำหรับโปรแกรมนี้เครื่องจะออกประมาณ 10.50 น. และถึงสนามบินดานังเวลา 12.30 น. ซึ่งจะใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที เมื่อใกล้ถึงเวลาขึ้นเครื่องแล้วเราก็จะนั่งรสบัสรับส่งผู้โดยสารของสายการบินเวียตเจ็ทเพื่อไปขึ้นเครื่องและเตรียมตัวออกเดินทางค่า
เรามาถึงสนามบินดานังเวลาประมาณ 12.30 น. ค่ะ หลังจากที่ผ่านตม.ของทางเวียดนามแล้วก็มารอรับกระเป๋าเดินทางและรอไปขึ้นรถบัสทัวร์กันค่ะ
กรุ๊ปนี้มีทั้งหมด 33 ท่าน รถบัสจะเป็นขนาดที่รับได้ประมาณ 40-45 ท่านค่ะ ไม่ใหญ่เกินไปและก็ไม่เล็กเกินไป ซึ่งรถบัสนี้จะพาเราเที่ยวตลอด 4 วัน 3 คืนเลยค่ะ
รายการแรกของวันที่ 1 คือ พามากินมื้อกลางวันที่ร้าน AM THUC XEO เป็นภัตตาคารอาหารพื้นเมืองของที่เวียดนามค่ะ เมนูส่วนใหญ่จะรสชาติกลางๆ รสไม่จัดมากตามสไตล์อาหารเวียดนาม ที่ถูกใจสุดๆเลยคือเครื่องดื่มค่ะ ดื่มแล้วให้ความรู้สึกสดชื่นสุดๆ เปรี้ยวหวานกำลังดีและหอมตะไคร้ด้วยค่ะ ร้านถูกตกแต่งอย่างสวยงาม ชั้นบนสามารถมองเห็นวิวรอบๆเมืองเหมาะกับการถ่ายรูปด้วยนะคะ
หลังจากที่รับประทานมื้อกลางวันเสร็จแล้ว เราจะเดินทางไปขึ้นกระเช้าไฟฟ้าเพื่อไปบาน่าฮิลล์กันค่ะ ใช้เวลาเดินทางจากตัวเมืองดานังไปที่บาน่าฮิลล์ไม่ถึง 1 ชั่วโมง ระหว่างทางเราก็จะได้ชมบ้านเมืองของเมืองดานังไปพลางๆ จะใช้เวลาเดินทางไปที่บาน่าฮิลล์ด้วยกระเช้าไฟฟ้าประมาณ 20-30 นาทีค่ะ ซึ่งตัวกระเช้าไฟฟ้าจะสูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 1,500 กิโลเมตรและรายล้อมไปด้วยธรรมชาติที่สวยงาม ตรงนี้บรรยากาศดีมากๆและได้ใกล้ชิดธรรมชาติสุดๆเลยค่ะ หลังจากที่เราขึ้นมาถึงที่บาน่าฮิลล์แล้วทางหัวหน้าทัวร์และไกด์ก็จะพาไปเช็คอินที่โรงแรมก่อนหลังจากนั้นทางไกด์จะพาเดินชมและแนะนำสถานที่รอบๆบาน่าฮิลล์ก่อน (แนะนำว่าให้เดินตามไกด์ก่อนนะคะ จะได้ไม่หลงทางค่า) หลังจากที่ไกด์แนะนำสถานที่ต่างๆและการเดินทางเสร็จแล้ว ไกด์ก็จะนัดเวลาเราอีกทีเพื่อให้มารับประทานมื้อเย็นค่ะ ซึ่งก่อนจะไปรับประทานมื้อเย็น เราจะมีเวลาอิสระให้ได้เที่ยวบนบาน่าฮิลล์ประมาณ 1 ชั่วโมงเลย สำหรับท่านใดที่ต้องการไปที่สะพานมือ จะมีกระเช้าไฟฟ้าเพื่อพาทุกท่านไปที่สะพานมือ ซึ่งจุดนี้ช่วงบ่าย-เย็น คนค่อนข้างจะเยอะ ถ้าต้องการถ่ายรูปตอนที่คนน้อยๆสามารถมาถ่ายอีกครั้งตอนเช้าของวันที่ 2 ได้ค่ะ
มื้อเย็นของเราวันนี้คือบุฟเฟ่ต์นานาชาติบนบาน่าฮิลล์ค่ะ ซึ่งอาหารก็จะมีหลากหลายสัญชาติเลย ไม่ว่าจะเป็น ฝรั่งเศส เวียดนาม ไทย มีทั้งของคาว ของหวาน มีให้เลือกรับประทานหลากหลายเลยค่ะ หลังจากที่รับประทานมื้อเย็นเสร็จแล้ว ค่ำๆเราสามารถกลับไปพักผ่อนที่โรงแรมได้หรือว่าจะเดินเล่นรอบๆบาน่าฮิลล์ได้อย่างอิสระเลยค่ะ สำหรับใครอยากนั่งชิลหรือเป็นสายดื่มก็มีลานเบียร์และปิ้งย่างบาร์บีคิวด้วยนะคะ ราคาประมาณหลักร้อยบาท โซนนั้นบรรยากาศดีและมีเพลงเปิดให้บรรยากาศครึกครื้นด้วยค่ะ สำหรับร้านค้าต่างๆจะปิดประมาณ 22.00 น. แต่เราสามารถนั่งชิลต่อยาวๆตามอัธยาศัยได้เลยค่ะ
สำหรับที่พักของเราในคืนนี้จะเป็น โรงแรม MERCURE ระดับ 4 ดาว บนบาน่าฮิลล์ค่ะ ตัวโรงแรมจะมีหลายตึกเลย ซึ่งเราได้พักอยู่ตึก 5 ค่ะ ห้องพักของที่นี่จะไม่มีแอร์หรือพัดลมให้แต่จะมีฮีทเตอร์ให้ 1 เครื่องค่ะ เพราะว่าเมืองนี้เป็นเมืองตากอากาศ อากาศจะค่อนข้างเย็นสบายตลอดโดยไม่ต้องพึ่งพัดลมหรือว่าแอร์เลยค่ะ ภายในห้องก็จะมีสิ่งอำนวยความสะดวกให้ครบครัน ส่วนวิวนอกระเบียงนี่ไม่ว่าจะเป็นบรรยากาศ การตกแต่ง ตึกต่างๆให้ฟีลเหมือนมาพักอยู่ที่ยุโรปเลยค่ะ
วันที่ 2
เริ่มต้นเช้าวันที่ 2 ด้วยมื้อเช้าบนบาน่าฮิลล์ค่ะ ห้องอาหารของที่นี่จะเปิดเวลา 6.30 – 9.30 น. ด้วยความที่วันนี้เราต้องลงจากบาน่าฮิลล์เพื่อไปยังเมืองอื่นแล้วเราเลยค่อนข้างตื่นเช้าเพื่อจะได้ใช้เวลาบนบาน่าฮิลล์ก่อนลงไปด้านล่างมากขึ้นอีกนิดค่ะ บนบาน่าฮิลล์ในช่วงเช้าส่วนใหญ่จะมีแต่นักท่องเที่ยวและพนักงานที่มาดูแลสถานที่ค่ะ ส่วนร้านค้า ร้านอาหารต่างๆจะยังไม่ค่อยเปิดเท่าไหร่ เพราะยังไม่ถึงเวลา 9.00 น. หลังจากที่เราทานมื้อเช้าเสร็จแล้ว ทางไกด์จะนัดเวลาให้มาเจอที่ล็อบบี้เวลา 10.30 น.เพื่อนั่งกระเช้าไฟฟ้าลงไปด้านล่างค่ะ ระกหว่างนี้เราสามารถอิสระบนบาน่าฮิลล์ได้เลย
เราเลยเลือกที่จะไปตึกใหม่ของทางบาน่าฮิลล์ ซึ่งเราจะนั่งรถไฟรางเพื่อไปยังตึกใหม่นี้ค่ะ ซึ่งตึกใหม่นี้เป็นเหมือนปราสาทอารมณ์เหมือนอยู่ในแฮรี่พอตเตอร์เลย ส่วนภายในตึกจะเป็นโรงหนัง 3D , 4D , 5D , 6D ใครที่สนใจก็สามารถซื้อตั๋วเข้ามาชมหนังที่นี่ได้ค่ะ หลังจากเราเดินเล่มที่ตึกใหม่พอสมควรเเล้วเราก็จะนั่งรถไฟกลับมาที่บาน่าฮิลล์เพื่อมาโซนใหม่ที่เรียกว่า Eclipse หรือว่า จัตุรัสดวงดาวค่ะ ตรงนี้จะถ่ายรูปสวยมากและคนเยอะพอสมควรเลย ตรงกลางของลานกว้างจะเป็นจัตุรัสขนาดใหญ่ตั้งอยู่ นักท่องเที่ยวนิยมมาถ่ายรูปที่นี่กันค่ะ เมื่อถึงเวลา 10.30 น. เราก็จะกลับไปที่ล็อบบี้ของโรงแรมเพื่อลงจากบาน่าฮิลล์ เพื่อไปยังเมืองเว้กันค่ะ
ช่วงเที่ยง เราจะแวะทานมื้อเที่ยงที่ร้านอาหาร SEA FOOD กันค่ะ ซึ่งร้านนี้จะเป็นร้านที่เจ้าของเป็นคนไทย ซึ่งทำให้อาหารที่นี่มีรสถูกปากคนไทยและอร่อยด้วยค่ะ เมนูอาหารส่วนใหญ่จะเป็นซีฟู้ด เช่น กุ้งเผา หอยใส่ถั่วซอสมะขามเปียก ต้มยำปลา เป็นต้น เรียกได้ว่าอร่อยทุกเมนูเลยค่ะ อีกทั้งด้านล่างของร้านยังมีผลิตถัณฑ์จากไข่มุกให้ช้อปปิ้งกันด้วยนะคะ ไม่ว่าจะเป็นเครื่องประดับ ครีมที่ทำมาจากไข่มุกก็มีค่ะ ใครที่สนใจ หลังจากทานมื้อเที่ยงเสร็จก็สามารถช้อปปิ้งต่อได้เลยค่ะ
หลังจากทานมื้อเที่ยงเสร็จแล้วเราจะไปที่ วัดเทียนมู๋ กันค่ะ จุดเด่นของวัดนี้คือมีหอคอยเจดีย์สูง 8 ชั้นที่ตั้งเด่นกลางวัดเลย ตรงนี้ถือว่าสวยงามและเป็นจุดถ่ายรูปยอดนิยมเลยค่ะ ซึ่งข้างวัดจะมีร้านค้ามากมายให้สามารถช้อปปิ้งได้ไม่ว่าจะเป็น กระเป๋าสาน ของแห้ง ของใช้ต่างๆ หรือชุดอ่าวหญ๋ายที่นี่ก็มีค่ะ ใช้เวลาไม่นานกับที่ตรงนี้เราก็จะไปต่อกันที่พระราชวังไดโน้ยค่ะ ซึ่งเป็นพระราชวังโบราณแห่งสุดท้ายของเวียดนามที่ UNESCO ประกาศให้เป็นแหล่งมรดกโลกหลังจากนั้นเราจะได้นั่งสามล้อชมรอบพระราชวังและรอบๆเมืองเว้กันด้วยค่ะ หลังจากนั้นเราจะไปช้อปปิ้งที่ตลาดดองบากันต่อค่ะ ที่ตลาดนี้จะมีสินค้าให้เลือกซื้อหลากหลายเลยค่ะ ไม่ว่าจะเป็นอาหารแห้ง เสื้อผ้า รองเท้า กระเป๋า ซึ่งราคาจะค่อนข้างถูกและมีร้านให้เลือกหลากหลาย ใครที่สนใจก็สามารถเลือกซื้อสินค้าหรือของฝากที่นี่ได้ค่ะ หลังจากที่ช้อปปิ้งเสร็จแล้วในช่วงเย็นเราจะไปล่องเรือมังกรมชมแม่น้ำหอมและชมการแสดงพื้นเมืองของชาวเวียดนามโบราณกันค่ะ หลังจากที่ล่องเรือมังกรที่แม่น้ำหอมเสร็จแล้ว เราก็จะรับประทานมื้อเย็นกันค่ะ ซึ่งเป็นภัตตาคารอาหารเวียดนามหลังจากนั้นเราก็จะไปเช็คอินที่โรงแรมกันค่ะ
เนื่องจากโรงแรมของเราอยู่ใจกลางเมืองเว้ ซึ่งบริเวณนั้นจะมีถนนคนเดินที่เต็มไปด้วยร้านอาหาร ร้านนั่งชิลและร้านค้ามากมายอยู่ค่ะ หลังจากที่เช็คอินเสร็จใครที่สนใจมาเดินเล่นหรือนั่งชิลก็ใช้เวลาไม่ถึง 10 นาทีและเดินไม่ถึง 300 เมตรจากตัวโรงแรมก็จะถึงบริเวณถนนคนเดินแล้วค่ะ
วันที่ 3
หลังจากที่เราทานมื้อเช้าที่โรงแรมเสร็จแล้ว เราจะไปที่หมู่บ้านหินอ่อนและแวะช้อปปิ้งที่นั่นกันค่ะ ซึ่งจะมีเครื่องประดับที่ทำจากหินอ่อนมากมาย นอกจากสินค้าที่ทำจากหินอ่อนแล้วยังมีเสื้อผ้า กระเป๋า ผ้าพันคอให้ได้ช้อปปิ้งกันอีกด้วย หลังจากที่ใช้เวลาที่หมู่บ้านหินอ่อนพอสมควรแล้ว เราจะไปที่ร้านเยื่อไม้ไผ่กันต่อค่ะ ซึ่งที่นี่จะมีผลิตภัณฑ์จากเยื่อไม้ไผ่ให้เราได้เลือกซื้อกัน ไม่ว่าจะเป็นยาสีฟัน ผ้าเช็ดโต๊ะ ชุดชั้นในทั้งชายและหญิง ถุงเท้า เสื้อผ้า แต่ละอย่างสามารถใช้ได้จริงและน่าซื้อทั้งนั้นเลยค่ะ ใครมาที่นี่ต้องได้ติดกลับบ้านสักอย่างสองอย่างแน่นอนค่ะ อิอิ หลังจากที่ช้อปปิ้งที่ร้านเยื่อไผ่เสร็จแล้วเราก็จะไปทานมื้อเที่ยงที่ภัตตาคารอาหารเวียดนามกันค่ะ ร้านนี้รสชาติค่อนข้างถูกปากคนไทยพอสมควรเลยค่ะ หลังจากที่เราทานมื้อเที่ยงเสร็จแล้ว เราจะไปที่เมืองฮอยอันเพื่อเที่ยวชมเมืองมรดกโลกทางวัฒนธรรมได้รับการขึ้ นทะเบียนจาก UNESCO มนต์เสน่ห์อยู่ที่บ้านโบราณซึ่งอายุเก่าแก่กว่า 200 ปี มีหลังคา ทรงกระดองปู แบบเฉพาะของเมืองฮอยอัน ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมไม่ซ้ำแบบทั้งในด้านศิลปะและการแกะสลัก ชมย่านการค้าเมืองท่าค้าขายสมัยโบราณของชาวจีนกันค่ะ ซึ่งจะมีเวลาอิสระที่เมืองนี้ประมาณ 1 ชม. 30 นาที ที่นี่เต็มไปด้วยร้านค้าและคาเฟ่มากมาย นอกจากนี้ยังมีมุมถ่ายรูปสวยๆให้ได้ถ่ายรูปเยอะแยะเลยค่ะ
หลังจากที่ใช้เวลากับเมืองโบราณนี้พอสมควรแล้ว เราจะนั่งรถไปต่อที่ หมู่บ้านกั๊มทาน กันค่ะ เป็นหมู่บ้านประมงเล็กๆที่ใช้เรือกระด้งในการประกอบอาชีพ ซึ่งเราจะได้นั่งเรือกระด้ง ล่องไปตามแม่น้ำท่ามกลางธรรมชาติและเสียงเพลงสนุกสนานของคนที่นี่กันค่ะ ซึ่งจะมีโชว์จากเรือกระด้งของคนในหมู่บ้านนั้นด้วย เรียกได้ว่าเป็นสร้างความสนุกสนานและความประทับใจให้นักท่องเที่ยวได้เป็นอย่างมากเลยค่ะ หลังจากที่นั่งเรือกระด้งเสร็จแล้วเราก็จะไปทานมื้อเย็นที่ภัตตาคารอาหารเวียดนาม ระหว่างทางที่จะไปโรงแรม เราจะไดัแวะที่สะพานมังกรที่อยู่ใจกลางเมืองดานังกันด้วยค่ะ ซึ่งถ้ามาในตอนกลางคืนที่สะพานจะเปิดไฟด้วย เรียกได้ว่าสวยงามสุดๆเลยค่ะ หลังจากที่ชมสะพานมังกรเสร็จแล้ว เราก็จะเข้าโรงแรมและถือว่าเป็นอันจบโปรแกรมเที่ยวของวันที่ 3 ค่ะ
วันที่ 4
วันนี้จะเป็นวันที่เราต้องกลับไทยแล้วค่ะ หลังจากที่เราทานมื้อเช้าเสร็จแล้ว เราจะไปที่ วัดหลิงอิ๋ง เพื่อนมัสการองค์เจ้าแม่กวนอิม ที่เรียกได้ว่าได้รับความเคารพนับถือและใหญ่ที่สุดในเมืองดานังเลยก็ว่าได้ค่ะ ซึ่งระหว่างทางเราก็จะผ่านหาดหมีเคว ซึ่งเป็นชายหาดที่สวย มีแนวชายหาดกว้างขวางและมีความยาวถึง 10 กิโลเมตร อยู่บนรถนี่นั่งมองเพลินตาเลยค่ะ หลังจากที่เราสักการะเจ้าแม่กวนอิมกันเสร็จแล้ว สถานที่เที่ยวที่สุดท้ายของโปรแกรมนี้คือ ตลาดฮาน นั่นเองค่ะ ก่อนจะกลับไทยก็ขอแวะช้อปปิ้งซื้อของไปฝากที่บ้านกันสักหน่อย ซึ่งตลาดนี้จะมีสินค้าหลากหลายเลย ไม่ว่าจะเป็นรองเท้า กระเป๋า เสื้อผ้า ของแห้ง ของสด ผลไม้ เยลลี่ กาแฟ ช็อกโกแลต ชา และมีอีกเยอะแยะมากมายเลยค่ะ หลังจากที่เราช้อปปิ้งที่นี่กันเสร็จแล้ว รสบัสก็จะพาเราไปส่งที่สนามบินดานังเพื่อกลับประเทศไทยกันค่ะ
สรุป
พร้อมหรือยัง กับการไปเที่ยวทัวร์เวียดนามกลาง 4 วัน 3 คืน ซึ่งทาง Lovely Smile Tour มีแพคเกจทัวร์ที่ออกเดินทางทุกสัปดาห์ หากสนใจจองทัวร์หรือสอบถามข้อมูล สามารถแอดไลน์มาได้เลย LINE ID : @lovelysmiletour หรือดูแพ็กเกจทัวร์ทั้งหมดได้ที่หัวข้อ แพ็กเกจทัวร์ เลยค่ะ