ย่าน Marina Bay (มารีน่า เบย์) เป็นย่านเศรษฐกิจสำคัญและเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในสิงคโปร์ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งในประเทศและต่างประเทศ ย่านนี้เต็มไปด้วยจุดแลนด์มาร์คสำคัญที่มีชื่อเสียงระดับโลก ศูนย์รวมความบันเทิงต่างๆ รวมไปถึงสถาปัตยกรรมที่เป็นเอกลักษณ์ ย่านนี้จะมีสถานที่ท่องเที่ยวอะไรบ้าง ใครที่กำลังแพลนไปเที่ยวทัวร์สิงคโปร์อยู่ต้องไม่พลาดกับสถานที่เที่ยวในย่านนี้เลย
1. Marina Bay Sand (มารีน่า เบย์ แซนด์)
อาคารรูปเรือที่ถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งสัญลักษณ์ที่โดดเด่นของสิงคโปร์ Marina Bay Sand เป็นศูนย์รวมความบันเทิง สิ่งอำนวยความสะดวก ความหรูหราเข้าไว้ด้วยกันในสถานที่เดียว ไม่ว่าจะเป็นโรงแรมสุดหรูบนอาคาร 55 ชั้น 3 ตึก สวนลอยฟ้า สระน้ำกลางแจ้งที่สูงที่สุดในโลก ศูนย์การค้าแบรนด์ชั้นนำ จุดชมวิวของเมือง ศูนย์จัดแสดงศิลปะที่ผสมผสานเข้ากับเทคโนโลยีทางวิทยาศาสตร์ที่ทันสมัย โดยรอบของตัวมารีน่า เบย์ แซนด์ยังเป็นจุดเช็คอินที่สามารถถ่ายรูปกับวิวสวยๆหรือจะเดินเล่นชิลๆก็ได้ โดยจะขอแนะนำแต่ละส่วนของมารีน่า เบย์ แซนด์ ดังนี้
1.1 Sands Skypark
สวนและสระว่ายน้ำลอยฟ้าที่หรูหราและสูงที่สุดในโลก สามารถชมวิวเมืองสิงคโปร์ได้แบบ 360 องศา โดยที่นี่จะมีสระว่ายน้ำแบบ infinity edge pool สำหรับแขกที่เข้ามาพักที่โรงแรม และยังมีบาร์น้ำ ร้านอาหารและร้านขายของที่ระลึกสำหรับนักท่องเที่ยวที่ขึ้นมาชมวิวอีกด้วย
วันและเวลาทำการ | วันจันทร์ – วันอาทิตย์ เวลา 9.30 – 22.00 น. |
อัตราค่าบริการ | เด็ก 17 SGD ผู้ใหญ่ 23 SGD ผู้สูงอายุ 20 SGD |
แผนที่ | ดูแผนที่ Google Maps |
1.2 ArtScience Museum
พิพิธภัณฑ์ชมศิลปะแบบผสมผสานเข้ากับเทคโนโลยีและวิทยาศาสตร์ ภายในอาคารจะแบ่งออกเป็น 2 โซนโดยจะแบ่งออกเป็นโซนนิทรรศการถาวรกับโซนนิทรรศการของศิลปินที่มีชื่อเสียงระดับโลก โดยในแต่ละช่วงจะมีการจัดนิทรรศการที่แตกต่างหมุนเวียนกันไป พิพิธภัณฑ์แห่งนี้จะเน้นศิลปะที่เกี่ยวกับวิทยาศาสตร์ ธรรมชาติ วัฒนธรรม โดยจะใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัย แสงและเงาเข้ามาช่วยถ่ายทอดศิลปะนั้นให้สวยงามมากยิ่งขึ้น เราจะได้เพลิดเพลินกับความสวยงามและได้รูปถ่ายชิคๆกลับไปแน่นอน
วันและเวลาทำการ | เปิดบริการทุกวัน เวลา 10.00 – 19.00 น. |
อัตราค่าบริการ | ผู้ใหญ่ 30 SGD เด็ก 25 SGD |
แผนที่ | ดูแผนที่ Google Maps |
1.3 The Shoppes
ห้างสุดหรูที่รวบรวมแบรนด์ชั้นนำให้ได้ช้อปปิ้งกว่า 150 แบรนด์ทั่วโลกมาไว้ที่ชั้นล่างของมารีน่า เบย์ แซนด์ ซึ่งจะมีด้วยกันทั้งหมด 3 ชั้น มีครบคครันทั้งร้านอาหาร คาเฟ่ต่างๆมากมาย โดยตรงกลางชั้นล่างของห้างจะมีการจำลองแม่น้ำและเรือพาย เรียกว่า SAMPAN RIDES แบบเมืองเวนิสมาไว้ที่นี่อีกด้วย
1.4 Helix Bridge
สะพานเกลียวยาว 280 เมตรที่ได้แรงบันดาลใจมาจากรูปแบบเกลียวของ DNA ที่ถือว่าได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก ในช่วงกลางคืนจะมีการเปิดไฟที่สะพานเป็นสีสันต่างๆสร้างความสวยงามมากยิ่งขึ้น สำหรับใครที่อยากมาถ่ายรูปเช็คอิน ที่นี่เปิดให้บริการตลอดเวลาสามารถมาถ่ายรูปชมวิวสวยๆที่นี่ได้เลย
นอกจากมารีน่า เบย์ แซนด์จะเป็นศูนย์รวมสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย ที่นี่ยังมีการจัดแสดงแสงสีเสียงที่เรียกว่า Spectra – A Light & Water Show สุดอลังการที่จะจัดแสดงวันละ 2-3 รอบ โดยวันอาทิตย์ – พฤหัสจะจัดแสดง 2 รอบได้แก่รอบเวลา 20.00 น.และ 21.00 น. วันศุกร์ – เสาร์ จะจัดแสดง 3 รอบ ได้แก่รอบเวลา 20.00 น. / 21.00 น. / 22.00 น. โดยแต่ละรอบจะใช้เวลาแสดง 15 นาที
2. Gardens By The Bay (การ์เด้นส์ บาย เดอะเบย์)
Gardens by the Bay (การ์เด้นส์ บาย เดอะ เบย์) อุทยานธรรมชาติในรูปแบบสวนกลางแจ้งและสวนเรือนกระจกแก้วที่ใหญ่ที่สุดในโลก เต็มไปด้วยความโดดเด่นทางสถาปัตยกรรมและวิศวกรรม การันตีด้วยรางวัลต่างๆ มากมาย เป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจและสถานที่ศึกษาธรรมชาติที่รวบรวมพืชนานาชนิดและพื้นที่เขียวชะอุ่มจากหลากหลายทวีปมาไว้ใจกลางเมือง ภายในจะแบ่งออกเป็น 3 โซน ได้แก่
- Bay South Garden
- Bay East Garden
- Bay Central Garden
โดยจะเน้นไปที่ Bay South Garden ซึ่งได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวมากที่สุด
2.1 Bay South Garden
สวนเรือนกระจกอลังการที่มีพื้นที่ขนาดใหญ่ที่สุดและได้รับความนิยมสูงสุด ภายใน Bay South Garden จะเป็นที่ๆรวมสวนต่างๆ มากมายและยังมีประติมากรรมที่มีชื่อเสียงให้ได้ชมภายในอาคาร โดยจะแบ่งออกเป็นโซนต่างๆ ดังนี้
2.1.1 Flower Dome
ภายในเรือนกระจกแห่งแรกนี้เต็มไปด้วยพันธุ์พืชและดอกไม้นานาชนิดจาก 5 ทวีป ตกแต่งอย่างสวยงามและแปลกตา มีทั้งพืชเก่าแก่และไม้ดอกจัดเป็นสวนสวยงามให้ได้ผู้ที่เข้ามาเยี่ยมชมได้พักผ่อนและศึกษาธรรมชาติ
2.1.2 Floral Fantasy
เรือนกระจกแห่งที่สองที่ตกแต่งสวนอิงตามเทพนิยายและสวนลอยบาบิโลน มีโพรงขนาดใหญ่ที่แกะสลักไม้อย่างอย่างสวยงาม เป็นอีกหนึ่งโซนที่จะได้ชมความสวยงามของศิลปะจากดอกไม้
2.1.3 Cloud Forest
เรือนกระจกแห่งที่สาม ด้วยโครงสร้างภายในที่สูงถึง 35 เมตรถูกตกแต่งด้วยพืชพรรณไม้เขียวชะอุ่มเหมือนภูเขาสูงพร้อมกับไอหมอกภายในอาคาร สร้างความอลังการด้วยการตกแต่งจากพืชหายากจากหลากหลายทวีป เป็นอีกหนึ่งจุดเช็คอินยอดนิยมที่ต้องไม่พลาดเมื่อมาที่การ์เด้น บาย เดอะเบย์
2.1.4 Supertree Grove
ด้านนอกสวนเรือนกระจกทั้ง 3 แห่งจะเป็นที่ตั้งของสวนแนวตั้งหรือ Supertree ด้วยความสูงประมาณ 25-50 เมตร ทำให้ supertree กลายเป็นสวนที่มีชื่อเสียงด้วยการตกแต่งที่แปลกตาและความสวยงามของพืชนานาพรรณ นอกจากความสวยงามแล้ว supertree ยังเป็นแหล่งกักเก็บน้ำฝน เป็นแหล่งผลิตพลังงานแสงอาทิตย์และเป็นเครื่องระบายอากาศให้กับตัวอาคารอีกด้วย ในช่วงกลางคืนสวนแห่งนี้จะเปิดไฟสร้างความสวยงามมากยิ่งขึ้น โดยสามารถขึ้นไปยังจุดชมวิวด้านบนที่เรียกว่า Supertree Observatory ที่จะทำให้เห็นวิวรอบๆ อ่าวมารีน่าได้ด้วย
วันและเวลาทำการ | เปิดทำการทุกวัน เวลา 5.00 น. – 2.00 น. |
สวนเรือนกระจก Flower Dome Floral Fantasy Cloud Forest | เปิดทำการทุกวัน เวลา 9.00 น. – 21.00 น. (ปิดการขายตั๋วเข้าชมเวลา 20.00 น.) |
Supertree Grove และ OCBC Skyway | เปิดทำการทุกวัน เวลา 9.00 น. – 21.00 น. (เปิดให้เข้าชมรอบสุดท้ายเวลา 20.00 น.) |
อัตราค่าบริการ | – สวนเรือนกระจก Flower Dome + Cloud Forest ราคา 28 SGD – ทางเดินลอยฟ้า Supertree OCBC Skyway ราคาผู้ใหญ่ 8 เหรียญ SGD / เด็ก 5 เหรียญ SGD – บริเวณรอบๆ สวน supertree เข้าชมฟรี |
3. Merlion Park (เมอร์ไลอ้อน พาร์ค)
แลนด์มาร์คสำคัญของประเทศสิงคโปร์ที่ไม่ว่าใครมาท่องเที่ยวก็ต้องมาถ่ายรูป รูปปั้นสิงโตทะเลพ่นน้ำสูง 8.6 เมตร เป็นสัญลักษณ์ในการต้อนรับนักท่องเที่ยวทัวร์สิงคโปร์ที่มาเยี่ยมชมและเป็นจุดถ่ายรูปที่สามารถครีเอทท่าทางมากมายเพื่อถ่ายรูปกับรูปปั้นนี้ได้อีกด้วย โดย Merlion ก็เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่อยู่ในย่านมารีน่า เบย์เช่นกัน และใกล้ๆนี้ยังเป็นที่ตั้งของรูปปั้นเมอร์ไลอ้อนอีกหนึ่งตัวที่มีขนาดตัวเล็กกว่าเรียกว่า Merlion Cub (ลูกเมอร์ไลอ้อน) โดยมีความสูงประมาณ 2 เมตร ที่สามารถไปถ่ายรูปกับรูปปั้นนี้ได้อีกด้วย
4. Singapore Flyer (สิงคโปร์ ฟลายเออร์)
ชิงช้าสวรรค์ชมวิวขนาดใหญ่กลางเมืองที่ไม่ว่าจะอยู่มุมไหนของมารีน่า เบย์ก็จะเจอชิงช้าสวรรค์นี้เป็นแบล็คกราวน์สวยงาม โดยชิงช้าสวรรค์นี้จะมีความสูงประมาณ 165 เมตร เป็นหนึ่งในชิงช้าสวรรค์ที่มีความสูงที่สุดในโลก โดยจะหมุนอย่างช้าๆและคงที่โดยใช้เวลาประมาณ 30 นาทีต่อหนึ่งรอบให้ผู้โดยสารได้สัมผัสวิวที่สวยงามด้านบนด้วยแคปซูลกระเช้าขนาดใหญ่ที่สามารถจุคนได้สูงสุด 28 คน สามารถชมวิวรอบๆเมืองได้ 360 องศาและพื้นที่บางส่วนของประเทศเพื่อนบ้านอย่างมาเลเซียและอินโดนีเซีย นอกจากจะขึ้นไปชมวิวที่สวยงามได้แล้วด้านล่างของ Singapore Flyer ยังเป็นแหล่งรวมร้านค้า ร้านอาหารและกิจกรรมมากมายให้ได้ทำอีกด้วย
วันและเวลาทำการ | เปิดบริการทุกวัน เวลา 8.30 น. – 22.30 น. (รอบสุดท้ายเวลา 22.00 น.) |
อัตราค่าบริการ | เด็ก (อายุ 3-12) ราคา 21 SGD ผู้ใหญ่ (อายุ 13 ขึ้นไป) ราคา 33 SGD ผู้สูงอายุ (อายุ 60 ขึ้นไป ราคา 24 SGD |
แผนที่ | ดูแผนที่ Google Maps |
5. Fountain of Wealth Suntec city (น้ำพุแห่งโชคลาภ)
ตั้งอยู่กลางกลุ่ม อาคารซันเทค ซิตี้ (Suntec city) เป็นกลุ่มอาคารที่ออกแบบตามหลักฮวงจุ้ยทุกประการ ทำให้เชื่อกันว่าเป็นจุดฮวงจุ้ยที่ดีที่สุดในโลกและในส่วนกลางของกลุ่มอาคารนี้ยังเป็นที่ตั้งของน้ำพุแห่งโชคลาภจึงทำให้เกิดเป็นความเชื่ออีกหนึ่งอย่างคือที่แห่งนี้เป็นศูนย์รวมพลังงานบวกตามหลักฮวงจุ้ย เป็นจุดดึงดูดให้นักท่องเที่ยวและผู้ที่ศรัทธามารับพลังบวกกันอย่างมากมาย
น้ำพุแห่งโชคลาภมีความสูง 13.8 เมตรเป็นรูปแบบวงแหวนโดยมีเสาขนาดใหญ่ 4 เสาเป็นสัญลักษณ์ของจักรวาลตามศาสนาฮินดูและมีน้ำพุขึ้นอยู่ตรงกลางของวงแหวน พลังงานบวกเหล่านี้ทำให้เกิดความเชื่อของผู้ที่ศรัทธาอย่างความเชื่อที่ว่าการได้สัมผัสกับละอองน้ำของน้ำพุจะทำให้มีโชคลาภและเป็นสิริมงคลแก่ตนเอง ตรงกลางของน้ำพุแห่งโชคลาภส่วนตรงกลางจะมีน้ำพุขนาดเล็กที่เปิดให้สามารถมารับพลังงานนี้ได้ มีวิธีการดังนี้
- ยื่นมือขวาไปสัมผัสกับน้ำพุ
- ตั้งใจอธิษฐานหรือขอพร
- เดินวนไปตามลูกศรสีแดงทั้งหมด 3 รอบ
น้ำพุแห่งโชคลาภนี้จะอยู่ที่ชั้นล่างของกลุ่มอาคารซันเทค ซิตี้และยังมีห้างสรรพสินค้า ร้านค้า ร้านอาหาร สวนลอยฟ้าให้ผู้ที่มาเยี่ยมชมได้เพลิดเพลินและช้อปปิ้งกันอีกด้วย นอกจากนี้ในช่วงกลางคืนจะมีการแสดงแสงเลเซอร์และเสียงเพลงให้ได้ชมกันทุกวัน จะมีทั้งหมด 3 รอบ ได้แก่ รอบเวลา 20.00 น. / 20.30 น. / 21.00 น.
วันและเวลาทำการ : เปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 8.00 น. – 22.00 น. ช่วงเวลาที่สามารถสัมผัสน้ำพุได้จะเปิดวันละ 3 รอบ ได้แก่ รอบเวลา 10.00 น. – 12.00 น. / 14.00 น. – 16.00 น. / 18.00 น. – 19.30 น.
6. วิธีการเดินทางมาที่ย่าน Marina Bay
การเดินทางมายังมารีน่า เบย์นั้นไม่ยากเลยเพราะย่านนี้มีสถานีรถไฟใต้ดินผ่านทั้งหมด 3 สถานี คือ 1.สถานี Raffles Place Station 2.Bayfront Station (ทางออก B,C,D,E) 3.Promenade Station สามารถเลือกลงที่ 3 สถานีนี้ได้เลย
สรุป
ย่าน Marina Bay เป็นอีกแหล่งท่องเที่ยวที่เมื่อได้มาสิงคโปร์แล้วจะต้องไม่พลาดที่จะมาที่นี่ นอกจากจะเดินทางง่ายแล้วยังเต็มไปด้วยสถาปัตยกรรม ความทันสมัย ความเป็นเอกลักษณ์ที่ผ่านการออกแบบและตกแต่งของสถานที่ต่างๆ เป็นจุดศูนย์รวมสถานที่ที่มีชื่อเสียงและความเจริญของสิงคโปร์เลยก็ว่าได้ สำหรับใครที่สนใจโปรแกรมทัวร์สิงคโปร์ ภายในโปรแกรมก็ไม่พลาดที่จะพามาเที่ยวที่ย่านนี้พร้อมกับพาชมการแสดงแสงสีเสียงอย่าง Spectra – A Light & Water Show ที่มารีน่าเบย์ตั้งแต่ต้นจนจบ ทาง Lovely Smile Tour มีโปรแกรมสิงคโปร์ให้เลือกอีกมากมาย หากสนใจจองทัวร์หรือสอบถามข้อมูล สามารถแอดไลน์มาได้ที่ LINE ID : @lovelysmiletour หรือดูแพ็กเกจทัวร์สิงคโปร์ทั้งหมดในเว็บไซต์ได้เลย