รีวิว 5 แหล่งท่องเที่ยวสุดฮิตย่าน Marina Bay สิงคโปร์

แชร์บทความนี้

ย่าน Marina Bay (มารีน่า เบย์) เป็นย่านเศรษฐกิจสำคัญและเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในสิงคโปร์ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งในประเทศและต่างประเทศ ย่านนี้เต็มไปด้วยจุดแลนด์มาร์คสำคัญที่มีชื่อเสียงระดับโลก ศูนย์รวมความบันเทิงต่างๆ รวมไปถึงสถาปัตยกรรมที่เป็นเอกลักษณ์ ย่านนี้จะมีสถานที่ท่องเที่ยวอะไรบ้าง ใครที่กำลังแพลนไปเที่ยวทัวร์สิงคโปร์อยู่ต้องไม่พลาดกับสถานที่เที่ยวในย่านนี้เลย

1. Marina Bay Sand (มารีน่า เบย์ แซนด์)

อาคารรูปเรือที่ถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งสัญลักษณ์ที่โดดเด่นของสิงคโปร์ Marina Bay Sand เป็นศูนย์รวมความบันเทิง สิ่งอำนวยความสะดวก ความหรูหราเข้าไว้ด้วยกันในสถานที่เดียว ไม่ว่าจะเป็นโรงแรมสุดหรูบนอาคาร 55 ชั้น 3 ตึก สวนลอยฟ้า สระน้ำกลางแจ้งที่สูงที่สุดในโลก ศูนย์การค้าแบรนด์ชั้นนำ จุดชมวิวของเมือง ศูนย์จัดแสดงศิลปะที่ผสมผสานเข้ากับเทคโนโลยีทางวิทยาศาสตร์ที่ทันสมัย โดยรอบของตัวมารีน่า เบย์ แซนด์ยังเป็นจุดเช็คอินที่สามารถถ่ายรูปกับวิวสวยๆหรือจะเดินเล่นชิลๆก็ได้ โดยจะขอแนะนำแต่ละส่วนของมารีน่า เบย์ แซนด์ ดังนี้

Marina Bay
มารีน่า เบย์ แซนด์

1.1 Sands Skypark

สวนและสระว่ายน้ำลอยฟ้าที่หรูหราและสูงที่สุดในโลก สามารถชมวิวเมืองสิงคโปร์ได้แบบ 360 องศา โดยที่นี่จะมีสระว่ายน้ำแบบ infinity edge pool สำหรับแขกที่เข้ามาพักที่โรงแรม และยังมีบาร์น้ำ ร้านอาหารและร้านขายของที่ระลึกสำหรับนักท่องเที่ยวที่ขึ้นมาชมวิวอีกด้วย

วันและเวลาทำการวันจันทร์ – วันอาทิตย์ เวลา 9.30 – 22.00 น.
อัตราค่าบริการเด็ก 17 SGD
ผู้ใหญ่ 23 SGD
ผู้สูงอายุ 20 SGD
แผนที่ดูแผนที่ Google Maps
Infinity Edge Pool
สระว่ายน้ำแบบ Infinity Edge Pool ชั้นที่ 57

1.2 ArtScience Museum

พิพิธภัณฑ์ชมศิลปะแบบผสมผสานเข้ากับเทคโนโลยีและวิทยาศาสตร์ ภายในอาคารจะแบ่งออกเป็น 2 โซนโดยจะแบ่งออกเป็นโซนนิทรรศการถาวรกับโซนนิทรรศการของศิลปินที่มีชื่อเสียงระดับโลก โดยในแต่ละช่วงจะมีการจัดนิทรรศการที่แตกต่างหมุนเวียนกันไป พิพิธภัณฑ์แห่งนี้จะเน้นศิลปะที่เกี่ยวกับวิทยาศาสตร์ ธรรมชาติ วัฒนธรรม โดยจะใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัย แสงและเงาเข้ามาช่วยถ่ายทอดศิลปะนั้นให้สวยงามมากยิ่งขึ้น เราจะได้เพลิดเพลินกับความสวยงามและได้รูปถ่ายชิคๆกลับไปแน่นอน

วันและเวลาทำการเปิดบริการทุกวัน เวลา 10.00 – 19.00 น.
อัตราค่าบริการผู้ใหญ่ 30 SGD
เด็ก 25 SGD
แผนที่ดูแผนที่ Google Maps
ArtScience Museum
ArtScience Museum
ArtScience Museum
ภายใน Art Science Museum

1.3 The Shoppes

ห้างสุดหรูที่รวบรวมแบรนด์ชั้นนำให้ได้ช้อปปิ้งกว่า 150 แบรนด์ทั่วโลกมาไว้ที่ชั้นล่างของมารีน่า เบย์ แซนด์ ซึ่งจะมีด้วยกันทั้งหมด 3 ชั้น มีครบคครันทั้งร้านอาหาร คาเฟ่ต่างๆมากมาย โดยตรงกลางชั้นล่างของห้างจะมีการจำลองแม่น้ำและเรือพาย เรียกว่า SAMPAN  RIDES แบบเมืองเวนิสมาไว้ที่นี่อีกด้วย

The Shoppes
ภายในห้าง The Shoppes cr. th.hotels.com

1.4 Helix Bridge

สะพานเกลียวยาว 280 เมตรที่ได้แรงบันดาลใจมาจากรูปแบบเกลียวของ DNA ที่ถือว่าได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก ในช่วงกลางคืนจะมีการเปิดไฟที่สะพานเป็นสีสันต่างๆสร้างความสวยงามมากยิ่งขึ้น สำหรับใครที่อยากมาถ่ายรูปเช็คอิน ที่นี่เปิดให้บริการตลอดเวลาสามารถมาถ่ายรูปชมวิวสวยๆที่นี่ได้เลย

สะพาน Helix Bridge
สะพาน Helix Bridge ตอนกลางคืน

นอกจากมารีน่า เบย์ แซนด์จะเป็นศูนย์รวมสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย ที่นี่ยังมีการจัดแสดงแสงสีเสียงที่เรียกว่า Spectra – A Light & Water Show สุดอลังการที่จะจัดแสดงวันละ 2-3 รอบ โดยวันอาทิตย์ – พฤหัสจะจัดแสดง 2 รอบได้แก่รอบเวลา 20.00 น.และ 21.00 น. วันศุกร์ – เสาร์ จะจัดแสดง 3 รอบ ได้แก่รอบเวลา 20.00 น. / 21.00 น. / 22.00 น. โดยแต่ละรอบจะใช้เวลาแสดง 15 นาที

Spectra
Spectra – A Light & Water Show

2. Gardens By The Bay (การ์เด้นส์ บาย เดอะเบย์)

Gardens by the Bay (การ์เด้นส์ บาย เดอะ เบย์) อุทยานธรรมชาติในรูปแบบสวนกลางแจ้งและสวนเรือนกระจกแก้วที่ใหญ่ที่สุดในโลก เต็มไปด้วยความโดดเด่นทางสถาปัตยกรรมและวิศวกรรม การันตีด้วยรางวัลต่างๆ มากมาย เป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจและสถานที่ศึกษาธรรมชาติที่รวบรวมพืชนานาชนิดและพื้นที่เขียวชะอุ่มจากหลากหลายทวีปมาไว้ใจกลางเมือง ภายในจะแบ่งออกเป็น 3 โซน ได้แก่

  1. Bay South Garden
  2. Bay East Garden
  3. Bay Central Garden

โดยจะเน้นไปที่ Bay South Garden ซึ่งได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวมากที่สุด

Gardens By The Bay
Gardens By The Bay

2.1 Bay South Garden

สวนเรือนกระจกอลังการที่มีพื้นที่ขนาดใหญ่ที่สุดและได้รับความนิยมสูงสุด ภายใน Bay South Garden จะเป็นที่ๆรวมสวนต่างๆ มากมายและยังมีประติมากรรมที่มีชื่อเสียงให้ได้ชมภายในอาคาร โดยจะแบ่งออกเป็นโซนต่างๆ ดังนี้

2.1.1 Flower Dome

ภายในเรือนกระจกแห่งแรกนี้เต็มไปด้วยพันธุ์พืชและดอกไม้นานาชนิดจาก 5 ทวีป ตกแต่งอย่างสวยงามและแปลกตา มีทั้งพืชเก่าแก่และไม้ดอกจัดเป็นสวนสวยงามให้ได้ผู้ที่เข้ามาเยี่ยมชมได้พักผ่อนและศึกษาธรรมชาติ

Flower Dome
Flower Dome

2.1.2 Floral Fantasy

เรือนกระจกแห่งที่สองที่ตกแต่งสวนอิงตามเทพนิยายและสวนลอยบาบิโลน มีโพรงขนาดใหญ่ที่แกะสลักไม้อย่างอย่างสวยงาม เป็นอีกหนึ่งโซนที่จะได้ชมความสวยงามของศิลปะจากดอกไม้

Floral Fantasy
Floral Fantasy

2.1.3 Cloud Forest

เรือนกระจกแห่งที่สาม ด้วยโครงสร้างภายในที่สูงถึง 35 เมตรถูกตกแต่งด้วยพืชพรรณไม้เขียวชะอุ่มเหมือนภูเขาสูงพร้อมกับไอหมอกภายในอาคาร สร้างความอลังการด้วยการตกแต่งจากพืชหายากจากหลากหลายทวีป เป็นอีกหนึ่งจุดเช็คอินยอดนิยมที่ต้องไม่พลาดเมื่อมาที่การ์เด้น บาย เดอะเบย์

Cloud Forest
น้ำตกใน Cloud Forest
น้ำตกสิงคโปร์
มองจากด้านบนน้ำตกที่ Cloud Forest

2.1.4 Supertree Grove

ด้านนอกสวนเรือนกระจกทั้ง 3 แห่งจะเป็นที่ตั้งของสวนแนวตั้งหรือ Supertree ด้วยความสูงประมาณ 25-50 เมตร ทำให้ supertree กลายเป็นสวนที่มีชื่อเสียงด้วยการตกแต่งที่แปลกตาและความสวยงามของพืชนานาพรรณ นอกจากความสวยงามแล้ว supertree ยังเป็นแหล่งกักเก็บน้ำฝน เป็นแหล่งผลิตพลังงานแสงอาทิตย์และเป็นเครื่องระบายอากาศให้กับตัวอาคารอีกด้วย ในช่วงกลางคืนสวนแห่งนี้จะเปิดไฟสร้างความสวยงามมากยิ่งขึ้น โดยสามารถขึ้นไปยังจุดชมวิวด้านบนที่เรียกว่า Supertree Observatory ที่จะทำให้เห็นวิวรอบๆ อ่าวมารีน่าได้ด้วย

วันและเวลาทำการเปิดทำการทุกวัน เวลา 5.00 น. – 2.00 น.
สวนเรือนกระจก
Flower Dome
Floral Fantasy
Cloud Forest
เปิดทำการทุกวัน เวลา 9.00 น. – 21.00 น.
(ปิดการขายตั๋วเข้าชมเวลา 20.00 น.)
Supertree Grove และ OCBC Skywayเปิดทำการทุกวัน เวลา 9.00 น. – 21.00 น.
(เปิดให้เข้าชมรอบสุดท้ายเวลา 20.00 น.)
อัตราค่าบริการ– สวนเรือนกระจก Flower Dome + Cloud Forest ราคา 28 SGD
– ทางเดินลอยฟ้า Supertree OCBC Skyway ราคาผู้ใหญ่ 8 เหรียญ SGD / เด็ก 5 เหรียญ SGD
– บริเวณรอบๆ สวน supertree เข้าชมฟรี
Supertree
ส่วนด้านนอกกของ Supertree
Supertree Grove
Supertree ในตอนกลางคืน

3. Merlion Park (เมอร์ไลอ้อน พาร์ค)

แลนด์มาร์คสำคัญของประเทศสิงคโปร์ที่ไม่ว่าใครมาท่องเที่ยวก็ต้องมาถ่ายรูป รูปปั้นสิงโตทะเลพ่นน้ำสูง 8.6 เมตร เป็นสัญลักษณ์ในการต้อนรับนักท่องเที่ยวทัวร์สิงคโปร์ที่มาเยี่ยมชมและเป็นจุดถ่ายรูปที่สามารถครีเอทท่าทางมากมายเพื่อถ่ายรูปกับรูปปั้นนี้ได้อีกด้วย โดย Merlion ก็เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่อยู่ในย่านมารีน่า เบย์เช่นกัน และใกล้ๆนี้ยังเป็นที่ตั้งของรูปปั้นเมอร์ไลอ้อนอีกหนึ่งตัวที่มีขนาดตัวเล็กกว่าเรียกว่า Merlion Cub (ลูกเมอร์ไลอ้อน) โดยมีความสูงประมาณ 2 เมตร ที่สามารถไปถ่ายรูปกับรูปปั้นนี้ได้อีกด้วย

Merlion Park
Merlion Park
เมอร์ไลอ้อน
Merlion Park

4. Singapore Flyer (สิงคโปร์ ฟลายเออร์)

ชิงช้าสวรรค์ชมวิวขนาดใหญ่กลางเมืองที่ไม่ว่าจะอยู่มุมไหนของมารีน่า เบย์ก็จะเจอชิงช้าสวรรค์นี้เป็นแบล็คกราวน์สวยงาม โดยชิงช้าสวรรค์นี้จะมีความสูงประมาณ 165 เมตร เป็นหนึ่งในชิงช้าสวรรค์ที่มีความสูงที่สุดในโลก โดยจะหมุนอย่างช้าๆและคงที่โดยใช้เวลาประมาณ 30 นาทีต่อหนึ่งรอบให้ผู้โดยสารได้สัมผัสวิวที่สวยงามด้านบนด้วยแคปซูลกระเช้าขนาดใหญ่ที่สามารถจุคนได้สูงสุด 28 คน สามารถชมวิวรอบๆเมืองได้ 360 องศาและพื้นที่บางส่วนของประเทศเพื่อนบ้านอย่างมาเลเซียและอินโดนีเซีย นอกจากจะขึ้นไปชมวิวที่สวยงามได้แล้วด้านล่างของ Singapore Flyer ยังเป็นแหล่งรวมร้านค้า ร้านอาหารและกิจกรรมมากมายให้ได้ทำอีกด้วย

วันและเวลาทำการเปิดบริการทุกวัน เวลา 8.30 น. – 22.30 น.
(รอบสุดท้ายเวลา 22.00 น.)
อัตราค่าบริการเด็ก (อายุ 3-12) ราคา 21 SGD
ผู้ใหญ่ (อายุ 13 ขึ้นไป) ราคา 33 SGD
ผู้สูงอายุ (อายุ 60 ขึ้นไป ราคา 24 SGD
แผนที่ดูแผนที่ Google Maps
Singapore Flyer
Singapore Flyer
สิงคโปร์ ฟลายเออร์
กระเช้าแคปซูลของ Singapore Flyer cr. flickr.com

5. Fountain of Wealth Suntec city (น้ำพุแห่งโชคลาภ)

ตั้งอยู่กลางกลุ่ม อาคารซันเทค ซิตี้ (Suntec city) เป็นกลุ่มอาคารที่ออกแบบตามหลักฮวงจุ้ยทุกประการ ทำให้เชื่อกันว่าเป็นจุดฮวงจุ้ยที่ดีที่สุดในโลกและในส่วนกลางของกลุ่มอาคารนี้ยังเป็นที่ตั้งของน้ำพุแห่งโชคลาภจึงทำให้เกิดเป็นความเชื่ออีกหนึ่งอย่างคือที่แห่งนี้เป็นศูนย์รวมพลังงานบวกตามหลักฮวงจุ้ย เป็นจุดดึงดูดให้นักท่องเที่ยวและผู้ที่ศรัทธามารับพลังบวกกันอย่างมากมาย

Fountain of Wealth
Fountain of Wealth

น้ำพุแห่งโชคลาภมีความสูง 13.8 เมตรเป็นรูปแบบวงแหวนโดยมีเสาขนาดใหญ่ 4 เสาเป็นสัญลักษณ์ของจักรวาลตามศาสนาฮินดูและมีน้ำพุขึ้นอยู่ตรงกลางของวงแหวน พลังงานบวกเหล่านี้ทำให้เกิดความเชื่อของผู้ที่ศรัทธาอย่างความเชื่อที่ว่าการได้สัมผัสกับละอองน้ำของน้ำพุจะทำให้มีโชคลาภและเป็นสิริมงคลแก่ตนเอง ตรงกลางของน้ำพุแห่งโชคลาภส่วนตรงกลางจะมีน้ำพุขนาดเล็กที่เปิดให้สามารถมารับพลังงานนี้ได้ มีวิธีการดังนี้

  1. ยื่นมือขวาไปสัมผัสกับน้ำพุ
  2. ตั้งใจอธิษฐานหรือขอพร
  3. เดินวนไปตามลูกศรสีแดงทั้งหมด 3 รอบ
น้ำพุแห่งความมั่งคั่ง
รับพลังจากน้ำพุแห่งความมั่งคั่ง


น้ำพุแห่งโชคลาภนี้จะอยู่ที่ชั้นล่างของกลุ่มอาคารซันเทค ซิตี้และยังมีห้างสรรพสินค้า ร้านค้า ร้านอาหาร สวนลอยฟ้าให้ผู้ที่มาเยี่ยมชมได้เพลิดเพลินและช้อปปิ้งกันอีกด้วย นอกจากนี้ในช่วงกลางคืนจะมีการแสดงแสงเลเซอร์และเสียงเพลงให้ได้ชมกันทุกวัน จะมีทั้งหมด 3 รอบ ได้แก่ รอบเวลา 20.00 น. / 20.30 น. / 21.00 น.

วันและเวลาทำการ : เปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 8.00 น. – 22.00 น. ช่วงเวลาที่สามารถสัมผัสน้ำพุได้จะเปิดวันละ 3 รอบ ได้แก่ รอบเวลา 10.00 น. – 12.00 น. / 14.00 น. – 16.00 น. / 18.00 น. – 19.30 น.

น้ำพุแห่งความมั่งคั่ง
น้ำพุแห่งความมั่งคั่ง cr.traveltriangle.com

6. วิธีการเดินทางมาที่ย่าน Marina Bay

การเดินทางมายังมารีน่า เบย์นั้นไม่ยากเลยเพราะย่านนี้มีสถานีรถไฟใต้ดินผ่านทั้งหมด 3 สถานี คือ 1.สถานี Raffles Place Station 2.Bayfront Station (ทางออก B,C,D,E) 3.Promenade Station สามารถเลือกลงที่ 3 สถานีนี้ได้เลย

Marina Bay
Marina Bay

สรุป

ย่าน Marina Bay เป็นอีกแหล่งท่องเที่ยวที่เมื่อได้มาสิงคโปร์แล้วจะต้องไม่พลาดที่จะมาที่นี่ นอกจากจะเดินทางง่ายแล้วยังเต็มไปด้วยสถาปัตยกรรม ความทันสมัย ความเป็นเอกลักษณ์ที่ผ่านการออกแบบและตกแต่งของสถานที่ต่างๆ เป็นจุดศูนย์รวมสถานที่ที่มีชื่อเสียงและความเจริญของสิงคโปร์เลยก็ว่าได้ สำหรับใครที่สนใจโปรแกรมทัวร์สิงคโปร์ ภายในโปรแกรมก็ไม่พลาดที่จะพามาเที่ยวที่ย่านนี้พร้อมกับพาชมการแสดงแสงสีเสียงอย่าง Spectra – A Light & Water Show ที่มารีน่าเบย์ตั้งแต่ต้นจนจบ ทาง Lovely Smile Tour มีโปรแกรมสิงคโปร์ให้เลือกอีกมากมาย หากสนใจจองทัวร์หรือสอบถามข้อมูล สามารถแอดไลน์มาได้ที่ LINE ID : @lovelysmiletour หรือดูแพ็กเกจทัวร์สิงคโปร์ทั้งหมดในเว็บไซต์ได้เลย

แชร์บทความนี้