เริ่มต้นเดินทางจากสนามบินสุวรรณภูมิไปสู่ปลายทางที่สนามบินดานัง ซึ่งใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง เพื่อเดินทางไปยังสถานที่ที่ได้รับการขนานนามว่า “ยุโรปแห่งเอเชีย” นั่นก็คือ บานาฮิลล์แห่งเวียดนามกลาง ซึ่งกำลังเป็นสถานที่ยอดฮิตของคนไทยและนักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การได้ไปถ่ายรูปกับสะพานมือหรือสะพานทองแลนด์มาร์คแห่งใหม่ ทีมงานทัวร์เวียดนามจะพาทุกท่านไปชมรีวิว
สารบัญ
1. ภาพรวมบานาฮิลล์
Bana Hills เคยใช้เป็นสถานที่พักตากอากาศของชาวฝรั่งเศสในสมัยก่อน ตั้งอยู่ในหุบเขาสูงอยู่ห่างจากตัวเมืองเพียง 40 กิโลเมตร การเดินทางต้องนั่งกระเช้าขึ้นไป ซึ่งการนั่งกระเช้าก็เป็นไฮไลท์หนึ่งที่ทำให้นักท่องเที่ยวทัวร์เวียดนามตื่นตาตื่นใจในความสวยงามของทัศนียภาพแบบพาโนรามา 360 องศา ที่จะทำให้ทุกท่านตกอยู่ในภวังตลอดการเดินทาง จนลืมความสูงไปเลย กระเช้าที่นี่ยังได้รับบันทึกลงในกินเนสส์บุ๊ค (Guinness Book of World Records) ว่าเป็น กระเช้าที่มีความยาวที่สุดในโลก
เมื่อขึ้นมาถึงด้านบนช่วงเย็นๆ โดยเฉพาะช่วงหน้าหนาว จะเห็นหมอกเต็มไปหมดเปรียบเสมือนเราได้ขึ้นมาอยู่บนเมืองในฝัน อากาศข้างบนนี้ฟินมากๆ แต่ถ้าเป็นช่วงกลางวันก็จะร้อน คณะทัวร์เวียดนามกลางจะได้พักบน Bana Hills 1 คืน บริเวณรอบๆ เหมือนเมืองเมืองหนึ่งในยุโรป ทั้งอาคาร บ้านพัก โรงแรม และร้านค้า เป็นการสร้างโดยสถาปัตยกรรมแบบยุโรปชวนให้น่าหลงไหล มีทั้งหมู่บ้านฝรั่งเศส สวนสนุก สวนดอกไม้ ใครที่ชอบถ่ายรูปที่นี่โดนใจแน่นอน
2. โรงแรม
นอกจากสิ่งสวยงามแล้ว ยังมีวัดให้เราสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ด้วย ก่อนที่จะทำการเดินเที่ยวบน Bana Hills คณะทัวร์เวียดนามต้องไปเช็คอินที่โรงแรมก่อนซึ่งมีเพียงโรงแรมเดียว คือ Mercure Danang French Village Bana Hills (โรงแรมเมอร์เคียว ดานัง เฟรนช์ วิลเลจ บานาฮิลล์) ห้องนอนของโรงแรมตกแต่งแบบฝรั่งเศสมองเห็นวิวได้อย่างสวยงาม
3. กิจกรรมต่างๆ
3.1 สวนสนุก
นอกจากสถานที่สวยๆ แล้ว ยังมีสวนสนุกชื่อ Sun World Fantasy Park ซึ่งเป็นสวนสนุกบนที่นี่มีเครื่องเล่นมากมายทั้งขนาดใหญ่และขนาดเล็ก เล่นได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ ทุกอย่างในสวนสนุกให้เล่นฟรีเพราะค่าใช้จ่ายต่างๆ คิดรวมกันกับค่าบัตรขึ้นกระเช้าแล้ว แนะนำให้ไปเล่นรถราง ชมบรรยากาศบน Bana Hills นอกจากโซนเครื่องเล่นต่างๆ แล้ว ยังมีอีกโซนที่เป็นเหมือนงานวัดบ้านเรา เป็นเกมส์ปาตุ๊กตา ยิงปืน โยนลูกบอล และอีกมากมายในการล่ารางวัล แต่ต้องจ่ายค่าเล่นเองครั้งละ 10,000 ดอง หรือประมาณ 14 บาท
3.2 พิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้ง
นอกจากนี้ ยังมี พิพิภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้ง (Wax Museum) ซึ่งเป็นพิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้งที่ใหญ่ที่สุดในเวียดนามโชว์หุ่นขี้ผึ้งของคนดังในแวดวงต่างๆ จากทั่วโลก
3.3 โซนวัดและศาลเจ้า
เดินขึ้นตามทางด้านบนของ Bana Hills จะเจอศาลเจ้ามีองค์เจ้าแม่กวนอิม และองค์เทพต่างๆ ให้ไปไหว้สักการะ ทำบุญ ขอพร นอกจากนีั ยังสามารถถ่ายรูปวิวด้านบน ซึ่งจะเห็นวิวอาคารต่างๆ และทัศนียภาพสวยๆ ของเวียดนามกลาง
นอกจากนี้ บริเวณด้านล่างยังมีองค์พระพุทธรูปขนาดใหญ่ ให้ไปกราบไหว้ และถ่ายรูปที่ระลึกได้อีกด้วย
3.4 สะพานมือ (Golden Bridge)
หลังจากเดินสำรวจสถานที่เที่ยวด้านบนแล้ว ได้เวลาเดินทางไป สะพานมือ หรือ สะพานทอง (Golden Bridge) โดยการนั่งกระเช้าลงไป ด้านบนของสะพานมือจะเต็มไปด้วยทะเลหมอกในช่วงฤดูหนาว การที่เราได้มีโอกาสมาเดินอยู่บนสะพานมือไม่ได้เกิดขึ้นง่ายๆ อยากให้ทุกท่านได้มาสัมผัสบรรยากาศอันสุดแสนจะโรแมนติก บริเวณใกล้เคียงก็ยังมีสวนดอกไม้ที่สวยงามที่มีให้ชมตลอดทั้งปี
3.5 สวนดอกไม้ Le Jardin D’Amour
ด้านบน Bana Hills ยังมีการจัดสวนดอกไม้ตามฤดูกาล ให้ถ่ายรูปเก็บบรรยากาศสวยๆ
3.6 อุโมงค์เก็บไวน์ (Debay Wine Cellar)
เปิดประสบการณ์ใหม่ ให้ท่านได้สัมผัสบรรยากาศของอุโมงค์เก็บไวน์ ซึ่งมีความลึกกว่า 100 เมตร และมีอุณหภูมิภายในอุโมงค์ประมาณ 16-20 องศาเซลเซียส สร้างขึ้นโดยชาวอาณานิคมฝรั่งเศสในปี 1923 ท่านจะได้เห็นการเก็บไวน์ฝรั่งเศสชั้นเลิศที่นี่
สรุป
Bana Hills จึงเป็นสุถานที่ท่องเที่ยวที่มีครบทั้งที่พัก จุดชมวิว สวนสนุก พิพิธภัณฑ์ ร้านอาหาร คาเฟ่ ถือเป็นที่พักตากอากาศที่ดีที่สุดของเวียดนามและเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมมากที่สุดแห่งหนึ่งในขณะนี้ ทั้งหมดนี้เป็นความมหัศจรรย์ของบานาฮิลล์ที่ทุกคนควรมาสัมผัสด้วยตัวเอง