เมืองเบปปุ เป็นเมืองที่ตั้งอยู่บนเกาะคิวซู ที่อยู่ติดชายฝั่งทะเลตอนกลางของจังหวัดโออิตะประเทศญี่ปุ่น เป็นเมืองท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงในด้านความมหัศจรรย์ของบ่อน้ำร้อนใต้พิภพและบ่อน้ำพุร้อนจากธรรมชาติ จนได้ชื่อว่าเป็น “เมืองแห่งออนเซ็นของญี่ปุ่น” ด้วยการผสมผสานอย่างลงตัวระหว่างความงามตามธรรมชาติและมรดกทางวัฒนธรรม ในบทความนี้ เราจะมาเเนะนำสถานที่ท่องเที่ยวทัวร์ญี่ปุ่นที่น่าสนใจที่สุด 9 แห่งของเมืองเบปปุ ซึ่งจะทำให้คุณต้องหลงใหลอย่างแน่นอน จะมีที่ไหนบ้างตามไปดูกันเลยค่ะ
สารบัญ
- บ่อนรกหรือจิโกกุ (Beppu Jigoku)
- เบปปุออนเซ็น (บ่อน้ำพุร้อน)
- สวนสนุกเบปปุ ราคุเทนจิ (Beppu Rakutenchi)
- เบปปุ ทาวเวอร์ (Beppu Tower)
- พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำอุมิทามาโกะ (Umitamago Aquarium)
- สวนเบปปุ (Beppu Park)
- สวนสัตว์แอฟริกันซาฟารีเบปปุ (African Safari Beppu)
- พระราชวังสุกิโนอิ (Suginoi Palace)
- กระเช้าลอยฟ้าเบปปุ (Beppu Ropeway)
1.บ่อนรกหรือจิโกกุ (Beppu Jigoku)
เบปปุเป็นเมืองที่มีชื่อเสียงในด้านบ่อน้ำพุร้อนยอดนิยมของประเทศญี่ปุ่น ซึ่งบ่อนรกหรือจิโกกุเป็นบ่อน้ำพุร้อนธรรมชาติที่เกิดขึ้นภายหลังเกิดการระเบิดของภูเขาไฟเมื่อ 1,200 ปีก่อน ประกอบไปด้วยเเร่ธาตุต่างๆได้แก่ กำมะถัน ธาตุเหล็ก โซเดียม คาร์บอเนต ซัลเฟต เป็นต้น และเป็นบ่อน้ำพุร้อนที่ร้อนเกินกว่าจะลงไปอาบได้ค่ะ ซึ่งบ่อน้ำพุร้อนแห่งนี้มีด้วยกันถึง 8 บ่อ คือ อุมิ, ชิโนเกะ, ทัตสึมากิ, ชิราอิเกะ, โอนิอิชิ โบสุ, โอนิยามะ, คามาโดะ และยามะ ซึ่งแต่ละบ่อก็จะมีลักษณะพิเศษที่แตกต่างกันออกไปค่ะ อย่างเช่น บ่อน้ำสีฟ้า บ่อน้ำสีแดง หรือบ่โคลน หากมาเที่ยวที่นี่ทั้งที่แนะนำว่าให้เดินชมให้ครบทั้ง 8 บ่อเลยค่ะจะได้เห็นความสวยงามของบ่อน้ำพุร้อนที่แตกต่างกันออกไปเลยค่ะ
2.เบปปุออนเซ็น (Beppu Onsen)
การเดินทางไปเมืองเบปปุจะไม่สมบูรณ์หากไม่ได้แช่ตัวในบ่อน้ำพุร้อนที่มีชื่อเสียงระดับโลก ที่รู้จักกันในชื่อ เมืองหลวงออนเซ็นญี่ปุ่น การแช่ออนเซ็นมีสรรพคุณมากมาย อย่างเช่น ทำให้ผิวสวย ช่วยฟื้นฟูร่างกาย และช่วยผ่อนคลายจากความเหนื่อยล้าจากการเดินทางเที่ยว ซึ่งเบปปุมีออนเซ็นมากมาย เช่น Myoban Yunosato, Takegawara, Shibaseki, Horita, Kannawa, และ Kamegawa เป็นต้น นักท่องเที่ยวทัวร์เบปปุสามารถเลือกแบบที่ชอบได้เลยเพราะมีทั้งโรงแรมทั่วๆไป ไปจนถึงแช่ออนเซ็นแบบสาธารณะหรือกลางแจ้ง ใครที่ชอบแช่ออนเซ็นหากไปที่เมืองเบปปุบอกเลยว่าห้ามพลาดแน่นอน
3.สวนสนุกเบปปุ ราคุเทนจิ (Beppu Rakutenchi)
สวนสนุกราคุเทนจิเป็นสวนสนุกที่มีพวกเครื่องเล่นมากมาย ใครที่ชอบความตื่นเต้นหรือชอบความหวาดเสียว ต้องไปนั่งรถไฟเหาะตีลังกาสุดหวาดเสียวนี้ได้เลย และก็จะมีเครื่องเล่นทางน้ำ สวนน้ำ และในสวนสนุกแห่งนี้มีบ่อน้ำร้อนแช่ออนเซ็นด้วยค่ะ นอกจากนี้ที่นี่ยังสามารถนั่งชิงช้าสวรรค์ชมวิวทิวทัศน์และรับบรรยากาศรอบๆของอ่าวเบปปุได้อีกด้วย รับประกันเลยว่าสวนสนุกแห่งนี้จะมอบความสนุกสนานให้กับทุกคนที่มาที่นี่อย่างแน่นอน
4.เบปปุ ทาวเวอร์ (Beppu Tower)
เบปปุทาวเวอร์ เป็นหอคอยที่เก่าแก่เป็นอันดับที่ 3 ของประเทศญี่ปุ่น สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1957 เพื่อช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยวภายในพื้นที่ ปัจจุบันหอคอยแห่งนี้ได้ถูกใช้เป็นหอส่งสัญญาณโทรทัศน์เป็นหลัก ซึ่งมีความสูงประมาณ 100 เมตร จุดชมวิวจะมีความสูงอยู่ที่ 55 เมตร และหอคอยที่นี่เป็นอีกหนึ่งจุดชมวิวทิวทัศน์ที่สวยที่สุดในเมืองเบปปุ สามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์มุมกว้างของเมืองเบปปุ และอ่าวเบปปุ ได้แบบ 360 องศา นอกจากนี้บนหอคอยยังมีร้านค้า เครื่องดื่มมากมายไว้ให้บริการนักท่องเที่ยวที่ขึ้นไปเยี่ยมชมบนหอคอยอีกด้วยค่ะ
5.พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำอุมิทามาโกะ (Umitamago Aquarium)
พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำอุมิทามาโกะ เป็นพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำแห่งเดียวและมีขนาดใหญ่มากในจังหวัดโออิตะ ซึ่งตั้งอยู่ใกล้ชายฝั่งทะเลในเมืองเบปปุ พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำแห่งนี้มีสัตว์ทะเลมากมาย ซึ่งได้รวบรวมสัตว์นานาชนิด หลากหลายสายพันธุ์ไว้เป็นจำนวนมาก ซึ่งข้างในจะมีโซน Indoor มีการจัดแสดงสัตว์น้ำในตู้กระจกใหญ่เล็กสลับกันไปค่ะ ซึ่งไฮไลท์ของที่นี่มีอุโมงค์แก้วขนาดใหญ่ที่เดินเข้าไปแล้วเหมือนกับหลุดเข้าไปใต้ท้องทะเลเลยค่ะ จะให้ความรู้สึกเหมือนได้สัมผัสกับสัตว์น้ำได้อย่างใกล้ชิด นอกจากนี้ยังมีโซน Outdoor ที่สามารถชมการแสดงโชว์จากสัตว์น้ำแสนน่ารักอย่าง ปลาโลมา แมวน้ำ และนกเพนกวินได้ค่ะ เวลาเปิด-ปิด วันจันทร์-ศุกร์ 09:00-18:00 น. ส่วนวันเสาร์-อาทิตย์ เปิด-ปิดเวลา 09:00-21:00 น. ซึ่งสามารถเข้าชมได้ทุกวันเลยค่ะ
6.สวนเบปปุ (Beppu Park)
สวนเบปปุเป็นสวนสาธารณะขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ใจกลางเมือง ประชาชนหรือนักท่องเที่ยวสามารถเข้าชมได้ฟรีเลยค่ะ บอกเลยว่าใครที่ชอบธรรมชาติและความเงียบสงบหรือหลีกหนีความวุ่นวาย สามารถมาเดินเล่นผ่อนคลาย หรือมาปิกนิครับบรรยากาศจากธรรมชาติของที่นี่ได้เลย ในสวนสาธารณะแห่งนี้มีต้นไม้สายพันธุ์อื่นๆเยอะมาก ทั้งต้นซากุระ ป่าไผ่ และมีสระน้ำกลางสวนสาธารณะอีกด้วยค่ะ ซึ่งที่นี่มีชื่อเสียงในด้านความงดงามในช่วงฤดูดอกซากุระบานสะพรั่ง และหากไปช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสีก็จะสวยไปอีกแบบเลยค่ะ ถ้ามีโอกาสได้ไปอย่าลืมแวะไปเที่ยวชมและถ่ายรูปเช็คอินกันนะคะ
7.สวนสัตว์แอฟริกันซาฟารีเบปปุ (African Safari Beppu)
สวนสัตว์แอฟริกันซาฟารี เป็นสวนสัตว์ซาฟารีที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศญี่ปุ่น ตั้งอยู่ที่เบปปุจังหวัดโออิตะ มีพื้นที่กว่า 700 ไร่ ซึ่งเป็นสวนสัตว์ที่ไม่เหมือนใคร เป็นสวนสัตว์เปิดที่ได้จำลองการใช้ชีวิตของสัตว์ซาฟารีและสภาพเเวดล้อมตามธรรมชาติที่คล้ายกับทวีปแอฟริกามาไว้ที่ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งได้เปิดให้นักท่องเที่ยวหรือผู้ที่ชื่นชอบเที่ยวไนท์ซาฟารีได้มาสัมผัสประสบการณ์อย่างใกล้ชิดกับสัตว์นานาชนิด ไม่ว่าจะเป็น สิงโต ยีราฟ ม้าลาย และช้างเป็นต้น ที่นี่สามารถนั่งรถบัสหรือที่เรียกว่า Jungle Bus ของทางสวนสัตว์ได้ค่ะ หรือจะขับรถส่วนตัวเข้าไปได้เช่นกัน บอกเลยว่าไม่ต้องห่วงเรื่องความปลอดภัยเลยค่ะ เพราะที่นี่จะมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยอยู่ตามสถานที่ทีมีสัตว์ด้วยค่ะ
8.พระราชวังสุกิโนอิ (Suginoi Palace)
ดื่มด่ำไปกับวัฒนธรรมญี่ปุ่นที่พระราชวังสุกิโนอิ ซึ่งเป็นโรงแรมที่มีขนาดใหญ่ของเมือง ตั้งอยู่บนเขา Kankaji มีสถาปัตยกรรมแบบดั้งเดิมและสมัยใหม่เข้าด้วยกัน และมีการตกแต่งภายในที่หรูหรา มีบ่อออนเซ็นกลางแจ้งที่ขึ้นชื่อของที่นี่คือ Tanayu ซึ่งอยู่บนอาคารที่สามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์และทัศนียภาพที่สวยงามของอ่าวเบปปุได้ นอกจากนี้ยังมีสวนสวนน้ำ ลานโบว์ลิ่ง หากไปที่เบปปุบอกเลยอย่าลืมแวะไปพักที่แห่งนี้ ครบจบในที่เดียวเลยก็ว่าได้ค่ะ
9.กระเช้าลอยฟ้าเบปปุ (Beppu Ropeway)
กระเช้าลอยฟ้าเบปปุเป็นกระเช้าไฟฟ้าที่ใหญ่ที่สุดของคิวซู ตั้งอยู่ในเบปปุจังหวัดโออิตะ โดยระยะทางชมวิวขณะนั่งกระเช้า มีความยาวอยู่ที่ 1,816 เมตร และมีระดับความสูงประมาณ 1,300 เมตร จากระดับน้ำทะเล นักท่องเที่ยวสามารถนั่งกระเช้าเพื่อชมความงดงามของภูเขาสึรูมิได้ตลอดทั้งปีเลยค่ะ และเพลินเพลิดไปกับการชมชมวิวทิวทัศน์มุมสูง สามารถมองเห็นเมืองและอ่าวเบปปุได้อีกด้วยค่ะ หากไปในช่วงฤดูใบไม้ผลิจะได้ชมความงามของดอกซากุระที่บานสะพรั่ง หากไปช่วงฤดูใบไม้ร่วงจะเห็นใบไม้ค่อยๆเปลี่ยนสีตามแนวภูเขาค่ะ และถ้าไปช่วงฤดูหนาวอากาศจะเย็นลงและบนภูเขาสูงๆอาจจะเจอหิมะ หรือเกล็ดหิมะที่กระจายตามทั่วพื้นดินเลยค่ะ ซึ่งแต่ละช่วงฤดูจะมีเอกลักษณ์และความสวยงามตามธรรมชาติที่เฉพาะตัว หากสนใจเดินทางช่วงไหนเป็นพิเศษสามารถไปได้เลยค่ะ รับรองเลยว่าคุ้มค่าแน่นอนค่ะ
สรุป
โดยสรุป เบปปุมีสถานที่ท่องเที่ยวหลากหลายที่นักท่องเที่ยวทุกคนให้ความสนใจเป็นอย่างมาก สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวที่มาเยือนด้วยความงามตามธรรมชาติ ไม่ว่าคุณจะเป็นผู้ที่หลงใหลในธรรมชาติ มองหาการผจญภัยใหม่ๆ หรือเพียงต้องการความผ่อนคลาย เบปปุมีทุกสิ่งที่จะมอบให้กับทุกคน ดังนั้น ออกเดินทางสู่เมืองที่โดดเด่นแห่งนี้และค้นพบความมหัศจรรย์ของสถานที่ท่องเที่ยวในเมืองเบปปุกันได้เลยค่ะ หากสนใจ โปรแกรมทัวร์เบปปุ สามารถคลิกดูโปรแกรมทัวร์ได้ที่ลิงค์หรือโทรมาสอบถามได้เลยนะคะ