ตัวกรอง

เส้นทาง

ทัวร์ตุรกี

Lovely Smile Tour มีแพ็กเกจ ทัวร์ตุรกี หรือ ทัวร์ตุรเคีย ให้เลือกหลายหลายรูปแบบ หลากหลายเมือง พัก 4-5 ดาว หรือพักโรงแรมถ้ำ มีทั้งบินตรงและบินเปลี่ยนเครื่อง รวมทั้งยังมีแบบบินภายในประเทศสะดวกสบายต่อการเดินทางอีกด้วย สนใจจองแพ็กเกจไหน แอดไลน์หรือโทรสอบถามได้เลย

10 ที่เที่ยวทัวร์ตุรกีหรือทัวร์ตุรเคีย อัปเดตล่าสุด

ประเทศตุรกีไม่ใช่แค่จุดบรรจบของเอเชียกับยุโรป แต่ยังเป็นจุดรวมของวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ และธรรมชาติที่สวยงาม ตั้งแต่สถาปัตยกรรมออตโตมันอันวิจิตรในอิสตันบูล ไปจนถึงภูเขาหินปูนน้ำแร่สีขาวที่ปามุกคาเล หรือนั่งบอลลูนลอยฟ้าในคัปปาโดเกีย ในบทความนี้ เราจะพาคุณไปสำรวจ 10 ที่เที่ยวห้ามพลาดของทัวร์ตุรกี ที่ทั้งสวยอลังการ มีเอกลักษณ์ และน่าประทับใจไม่รู้ลืม

1 . Hagia Sophia

สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 537 โดยจักรวรรดิโรมันตะวันออก (ไบแซนไทน์) เดิมเป็น โบสถ์คริสต์นิกายออร์โธดอกซ์ และได้เปลี่ยนเป็น มัสยิด ในปี ค.ศ. 1453 เมื่อออตโตมันเข้ายึดครอง และได้กลายเป็น พิพิธภัณฑ์ ในปี 1935 และกลับมาเป็น มัสยิด อีกครั้งในปี 2020 จุดเด่นของสถานที่แห่งนี้คือ มีโดมใหญ่กลางอาคารเส้นผ่านศูนย์กลางกว่า 30 เมตร ลอยอยู่เหนือหัวโดยไร้เสากลาง ถือเป็นสุดยอดวิศวกรรมของโลกยุคโบราณ และในปัจจุบันเป็นหนึ่งในสิ่งที่นักท่องเที่ยวควรมาเห็นสักครั้งในชีวิต หากได้มาเยือนอิสตันบูล เหมาะกับทั้งผู้ที่รักประวัติศาสตร์ สถาปัตยกรรม และวัฒนธรรมเกี่ยวกับศาสนาศาสนา

ทัวร์ตุรกี
credit : wmf.org

2. Blue Mosque (Sultan Ahmed Mosque)

มัสยิดสีน้ำเงินแห่งอิสตันบูล สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1609 - 1616 โดย สุลต่าน Ahmed I แห่งจักรวรรดิออตโตมัน จุดเด่นของสถานที่แห่งนี้คือภายในตกแต่งด้วยกระเบื้องสีน้ำเงิน กว่า 20,000 แผ่น มีลวดลายดอกไม้ ต้นไม้ และรูปทรงเรขาคณิตสวยงาม และเป็นมัสยิดเดียวในตุรกีที่มี มินาเร็ต (หออะซาน) ถึง 6 ต้น ภายในมีหน้าต่างกระจกหลากสีช่วยให้แสงลอดเข้ามาในอาคารอย่างสวยงาม ทำให้บรรยากาศภายในดูสงบ สว่าง และศักดิ์สิทธิ์ในเวลาเดียวกัน

credit : bluemosquetickets.com

3. คัปปาโดเกีย (Cappadocia)

หนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่ “มหัศจรรย์ที่สุดในตุรกี” และเป็น จุดหมายปลายทางในฝันของนักเดินทางทั่วโลกเลยก็ว่าได้ โดยไฮไลท์สำคัญของสถานที่แห่งนี้คือ การขึ้นบอลลูนลมร้อน เป็นกิจกรรมผจญภัย อันดับ 1 ที่ห้ามพลาดเลยทีเดียว นักท่องเที่ยวสามารถชมวิวภูเขาหินทรงประหลาดในยามเช้าขณะพระอาทิตย์ขึ้น นอกจากนี้ยังมีโรงแรมถ้ำ ชมหุบเขาและเมืองใต้ดิน เหมาะทั้งสำหรับสายผจญภัย คู่รัก หรือสายถ่ายรูปเก็บภาพความประทับใจ

credit : independent.co.uk

4. ปามุกคาเล (Pamukkale)

ปราสาทปุยฝ้ายแห่งตุรกี เป็นแหล่งน้ำพุร้อนธรรมชาติ และเป็นสถานที่ที่ได้รับการยกย่องเป็นมรดกโลกจากยูเนสโก Pamukkale” แปลว่า “ปราสาทปุยฝ้าย” ในภาษาตุรกีเป็น ชั้นหินปูนสีขาว ที่เกิดจากน้ำแร่ร้อนที่มีแคลเซียมไหลผ่าน เมื่อน้ำแห้งลง จะทิ้งคราบแร่แคลเซียมไว้จนเกิดเป็นแอ่งน้ำลดหลั่นกันเหมือน ขั้นบันไดหิมะ นักท่องเที่ยวสามารถเดินเท้าเปล่าตามเส้นทางที่กำหนด และถ่ายรูปกับแอ่งน้ำสีขาวฟ้าเหมือนเดินอยู่บนเมฆ

credit : swtliving.com

5. เอเฟซุส (Ephesus)

หนึ่งใน เมืองโบราณที่ยิ่งใหญ่และสมบูรณ์ที่สุดในโลกยุคโรมัน ซึ่งตั้งอยู่ทางตะวันตกของตุรกี ถือเป็นสวรรค์ของผู้ที่หลงใหลในประวัติศาสตร์และโบราณคดี สัญลักษณ์ของเอเฟซุส และเป็นหนึ่งในห้องสมุดที่ใหญ่ที่สุดในโลกยุคโรมันฟาซาด สถานที่แห่งนี้ยังคงงดงามและยิ่งใหญ่ มีเสาหินและรูปแกะสลัก 4 รูปแทนคุณธรรม: ปัญญา, ความรู้, ความยุติธรรม, ความกล้าหาญ นอกจากนี้ยังมีโรงละคร The Grand Theatre ปัจจุบันยังคงใช้แสดงคอนเสิร์ตเป็นบางโอกาส โรงละครกลางแจ้งจุได้ถึง 25,000 คน ใช้แสดงละครเวที การปราศรัย และในยุคต่อมาใช้ต่อสู้กลาดิเอเตอร์ และในปัจจุบันยังคงใช้แสดงคอนเสิร์ตเป็นบางโอกาส

credit : dailysabah.com

6. อันตัลยา (Antalya)

เมืองชายทะเลเมดิเตอร์เรเนียน เมืองที่มีประวัติศาสตร์ + ทะเล + รีสอร์ท ครบในที่เดียว จุดเด่นของอันตัลยา คือมีหาดทะเลสวยระดับโลก เหมาะกับการเล่นน้ำ อาบแดด หรือกีฬาทางน้ำ เช่น Konyaaltı Beach ที่เป็นหาดกรวด น้ำใส วิวภูเขา หาด Lara Beach บริเวณนี้เป็นหาดทรายขาวละเอียด มีรีสอร์ทระดับ 5 ดาวอยู่เป็นจำนวนมาก นอกจากทะเลที่สวยงามแล้ว ยังมีย่านเมืองเก่า Kaleiçi , ท่าเรือเก่า , น้ำตกกลางเมือง และ พิพิธภัณฑ์ Antalya Museum ให้นักท่องเที่ยวได้เดินทางเที่ยวชม เรียกได้ว่าครบ จบ ที่เมืองเดียวกันเลย

credit : asnabtravel.uz

7. อุทยานแห่งชาติ Göreme

อุทยานแห่งนี้ตั้งอยู่ในเมือง ตั้งอยู่ในเมือง Göreme ใจกลางแคว้น Cappadocia ทางตอนกลางของตุรกี เป็นศูนย์รวมของภูเขาหินภูเขาไฟที่ถูกกัดเซาะกลายเป็นหินรูปทรงมหัศจรรย์ รวมถึงถ้ำ โบสถ์ และหมู่บ้านใต้ดิน ไฮไลต์ที่ห้ามพลาดเลยก็คือ Open Air Museum พิพิธภัณฑ์กลางแจ้ง ที่ถือเป็นจุดท่องเที่ยวหลักภายในอุทยาน รวมโบสถ์และวัดในถ้ำที่ชาวคริสต์นิกายไบแซนไทน์ใช้จริงในช่วงศตวรรษที่ 10–12 นอกจากนี้ยังมีบ้านและถ้ำโบราณ หินรูปทรงมหัศจรรย์ (Fairy Chimneys) ที่เกิดจากลาวาภูเขาไฟ + การกัดเซาะตามธรรมชาติให้นักท่องเที่ยวได้เดินชม

credit : kayak.com

8. ปราสาทฝ้าย (Cotton Castle)

ตั้งอยู่ในจังหวัด Denizli ทางตะวันตกเฉียงใต้ของตุรกี ไฮไลต์สำคัญที่ห้ามพลาดเลยก็ตัวปราสาทฝ้าย มีลักษณะคล้ายเนินฝ้ายขนาดยักษ์ ที่เกิดจากน้ำแร่ร้อนที่มีแคลเซียมคาร์บอเนต ไหลผ่านเนินเขามานับพันปี เมื่อแห้งจะตกผลึกเป็นแผ่นหินปูนขาวรูปร่างคล้ายชั้นน้ำตกและอ่างน้ำ มีสีขาวตัดกับน้ำสีฟ้าใส สวยงามเหมือนกับภาพวาด

credit : tripnsense.com

9. ตลาด Grand Bazaar

ตลาดในร่มที่เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ศูนย์รวมสินค้าท้องถิ่นของตุรกี ภายในตลาดมีทางเข้าหลัก 4 ประตูใหญ่ และซอยย่อยมากกว่า 60 ซอย มีร้านค้ากว่า 4,000 ร้านค้า ภายในพื้นที่ประมาณ 30,000 ตร.ม. มีทั้งร้านขนาดเล็กดั้งเดิม และร้านหรูหราระดับพรีเมียม ภายในมี มัสยิดเล็ก ๆ, คาเฟ่, และบ้านแลกเงิน กระจายอยู่จำนวนมาก

credit : turkeytravelplanner.com

10. ทะเลสาบ Salda

ทะเลสาบซัลดา (Salda Lake) หรือที่หลายคนเรียกว่า "มัลดีฟส์แห่งตุรกี" ด้วยน้ำสีฟ้าเทอร์ควอยซ์ + หาดทรายขาวสะอาด ไม่มีสิ่งก่อสร้างรบกวนสายตา เงียบ สงบ เหมาะกับการพักผ่อน สีของน้ำทะเลสาบแตกต่างกันตั้งแต่น้ำเงินเข้มไปจนถึงเขียวมรกต หาดทรายที่นี่เป็น หินแมกนีเซียมสีขาวละเอียด คล้ายทรายในมัลดีฟส์ ทะเลสาปแห่งนี้ถือเป็นธรรมชาติอันบริสุทธิ์ที่เหมาะกับสายถ่ายภาพ, พักผ่อน และสัมผัสบรรยากาศเงียบสงบ เป็นอีกหนึ่ง “Hidden Gem” ที่ยังไม่ถูกรุกล้ำจากนักท่องเที่ยวมากนัก

credit : toursce.com

สรุป

ประเทศตุรกีคือจุดหมายปลายทางที่ผสมผสานระหว่างวัฒนธรรมตะวันออกและตะวันตกได้อย่างลงตัว ด้วยประวัติศาสตร์อันยาวนาน ธรรมชาติหลากหลาย และสถาปัตยกรรมสวยงามตุรกีจึงเป็นประเทศที่ไม่ควรพลาดสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการเปิดประสบการณ์ใหม่ ทั้งในแง่ของประวัติศาสตร์ วิถีชีวิต และธรรมชาติที่งดงามไม่เหมือนใคร หากสนใจสอบถามโปรแกรมทัวร์ตุรกีเพิ่มเติมสามารถแอดไลน์ LINE ID : @lovelysmiletour ได้เลย

coming soon