ตัวกรอง

เส้นทาง

  • สายการบิน

  • ช่วงเดือน

  • ระดับโรงแรม

  • วันหยุด

  • นำเที่ยวโดย

  • พักซาปา

  • พักบานาฮิลล์

  • เข้าร้านรัฐบาล

ทัวร์ออสเตรีย

ทัวร์ยุโรป – ออสเตรีย เชก เยอรมนี ฮังการี สโลวาเกีย

รหัสทัวร์ GO3MUC-EK011

วันเดินทาง ต.ค. 68 - ม.ค. 69

จำนวนวัน

9 วัน 6 คืน

สายการบิน

โรงแรม

เดือนวันที่เดินทาง
04 - 12
10 - 18
22 - 30
12 - 20
13 - 21
03 - 11
04 - 12
เริ่มต้น 75,900
ดูรายละเอียด

ทัวร์ยุโรป – ออสเตรีย เยอรมนี สวิตเซอร์แลนด์

รหัสทัวร์ GO3VIE-EK005

วันเดินทาง พ.ย. 68 - มิ.ย. 69

จำนวนวัน

7 วัน 4 คืน

สายการบิน

โรงแรม

เดือนวันที่เดินทาง
03 - 09
23 - 29
06 - 12
18 - 24
01 - 07
09 - 15
10 - 16
12 - 18
เริ่มต้น 69,900
ดูรายละเอียด

10 ที่เที่ยวทัวร์ออสเตรีย

ประเทศเล็ก ๆ ที่มีชื่อว่า ออสเตรีย นั้นเต็มไปด้วยเสน่ห์ของธรรมชาติ ภูเขาแอลป์ ทะเลสาบใสสะอาด เมืองเก่าแก่ที่เต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมยุโรปยุคกลาง และวัฒนธรรมดนตรีที่มีชื่อเสียงระดับโลก ไม่ว่าคุณจะเป็นสายธรรมชาติ ชื่นชอบประวัติศาสตร์ หรือหลงใหลในศิลปะและวัฒนธรรม ออสเตรียก็มีสิ่งดึงดูดใจให้ค้นพบได้ไม่รู้จบ ในบทความนี้ เราจะพาคุณไปทำความรู้จักกับ 10 สถานที่เที่ยวออสเตรียที่ไม่ควรพลาด ตั้งแต่หมู่บ้านริมทะเลสาบสุดโรแมนติก ปราสาทโบราณ จนถึงยอดเขาน้ำแข็งและพิพิธภัณฑ์ศิลปะร่วมสมัยให้ชม มาดุกันว่าประเทศเล็กๆ หนึ่งใน ทัวร์ยุโรป นี้มีอะไรน่าสนใจให้เที่ยวชมกันบ้าง

สารบัญ

  1. พระราชวังเชินบรุนน์ (Schönbrunn Palace)
  2. บ้านเกิดโมสาร์ต (Mozart’s Birthplace)
  3. หมู่บ้านฮัลล์ชตัทท์ (Hallstatt Village)
  4. ยอดเขาคิทซ์ชไตน์ฮอร์น (Kitzsteinhorn Glacier)
  5. ปราสาทโฮเฮนซาลซ์บูร์ก (Hohensalzburg Fortress)
  6. กระเช้า Nordkette Cable Car
  7. โบสถ์เซนต์สตีเฟน (St. Stephen’s Cathedral)
  8. หุบเขาวาเคา (Wachau Valley)
  9. น้ำตกกริมล์ (Krimml Waterfalls)
  10. พิพิธภัณฑ์ศิลปะ Kunsthaus Graz

สรุป

1.พระราชวังเชินบรุนน์ (Schönbrunn Palace)

หนึ่งในแลนด์มาร์กสำคัญที่สุดของทัวร์ออสเตรีย และสถานที่ที่พลาดไม่ได้เมื่อมาเยือนกรุงเวียนนา นั่นก้คือ พระราชวังเชินบรุนน์ (Schönbrunn Palace) พระราชวังแห่งนี้ห่างจากใจกลางเมืองประมาณ 8 กิโลเมตร เดินทางสะดวกด้วยรถไฟใต้ดินสาย U4 สถานี Schönbrunn พระราชวังเชินบรุนน์ เป็น อดีตพระราชวังฤดูร้อนของราชวงศ์ฮับส์บูร์ก ถูกสร้างขึ้นตั้งแต่ศตวรรษที่ 17 และปรับปรุงใหม่ในสมัย จักรพรรดินีมาเรีย เทเรซา ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็น มรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก ภายในมีมากกว่า 1,400 ห้อง เปิดให้เข้าชมประมาณ 40 ห้อง มีสวนขนาดใหญ่สไตล์บาโรก ตกแต่งอย่างสวยงาม มีเขาวงกต น้ำพุ และรูปปั้นมากมาย ภายในสวนสามารถเข้าชมสวนได้ฟรี และเดินเล่นได้ตลอดทั้งวัน นอกจากนี้ยังมีจุดชมวิวกลอริเอต อาคารคลาสสิกตั้งอยู่บนเนินเขาด้านหลังพระราชวัง ที่ด้านบนมีร้านกาแฟ และเป็นจุดชมวิวที่มองเห็นพระราชวังและเมืองเวียนนาได้ทั่วทั้งเมือง

หนึ่งในสถานที่ที่เป็นที่นิยมของทัวร์ออสเตรีย
credit : www.austria.info

2.บ้านเกิดโมสาร์ต (Mozart’s Birthplace)

บ้านเกิดโมสาร์ตเป็นอาคารสีเหลืองสดใสใจกลางเมืองเก่าซาลซ์บูร์ก ที่นี่คือสถานที่ที่ วูล์ฟกัง อมาเดอุส โมสาร์ต (Wolfgang Amadeus Mozart) นักประพันธ์ดนตรีคลาสสิกผู้ยิ่งใหญ่ของโลก ถือกำเนิดขึ้นเมื่อวันที่ 27 มกราคม ค.ศ. 1756 ตัวอาคารมีทั้งหมด 3 ชั้น สร้างขึ้นตั้งแต่ศตวรรษที่ 12 และได้รับการดูแลอย่างดีให้คงรูปลักษณ์ดั้งเดิมไว้เกือบทั้งหมด ภายในถูกจัดแสดงเป็นพิพิธภัณฑ์ที่เล่าชีวิตของโมสาร์ตตั้งแต่เด็กจนถึงช่วงรุ่งเรืองในฐานะนักดนตรี เมื่อเดินเข้าไปจะได้ชมห้องที่โมสาร์ตเกิดและเติบโต,เครื่องดนตรีของจริงที่ท่านเคยใช้,จดหมายต้นฉบับ, โน้ตเพลง, ภาพวาดครอบครัว, และของใช้ส่วนตัวในยุคนั้น บรรยากาศภายในอบอวลด้วยความคลาสสิกและความภาคภูมิใจของชาวออสเตรีย ที่ยังคงสืบสานเกียรติคุณของโมสาร์ตไว้จนถึงทุกวันนี้ บริเวณรอบ ๆ อาคารยังเต็มไปด้วยร้านกาแฟ คาเฟ่ และร้านขายของที่ระลึกเกี่ยวกับดนตรี เหมาะแก่การเดินเล่นและถ่ายรูปสุด ๆ อีกด้วย

credit : www.salzburg.info

3.หมู่บ้านฮัลล์ชตัทท์ (Hallstatt Village)

หมู่บ้านฮัลล์ชตัทท์ (Hallstatt Village) เป็นหนึ่งในสถานที่ที่งดงามและโรแมนติกที่สุดของทัวร์ออสเตรีย หมู่บ้านเล็ก ๆ ริมทะเลสาบ Hallstätter See แห่งนี้ตั้งอยู่ท่ามกลางเทือกเขาแอลป์ในแคว้นซัลซ์คัมเมอร์กูท (Salzkammergut) ความสวยงามของที่นี่เหมือนเป็นภาพวาดที่มีชีวิต บ้านไม้เก่าเรียงรายอยู่ตามเชิงเขา สะท้อนภาพลงบนน้ำใสของทะเลสาบได้อย่างสวยงาม เมื่อเดินเข้าสู่ตัวหมู่บ้าน จะได้สัมผัสบรรยากาศเงียบสงบและกลิ่นอายของยุโรปยุคเก่า ถนนหินแคบ ๆ นำไปสู่บ้านเรือนที่ตกแต่งด้วยดอกไม้สีสดบนระเบียง หน้าต่าง และร้านกาแฟเล็ก ๆ ที่ตั้งอยู่ริมทาง นักท่องเที่ยวสามารถเดินชมวิวทะเลสาบ หรือขึ้นไปยังจุดชมวิว “Hallstatt Skywalk” เพื่อชมทิวทัศน์ของหมู่บ้านทั้งหมู่บ้านได้แบบพาโนรามา ฮัลล์ชตัทท์ไม่เพียงมีความงดงามทางธรรมชาติ แต่ยังเต็มไปด้วยประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมอันยาวนาน จนได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก (UNESCO) หากใครได้มาเยือนสักครั้ง จะเข้าใจทันทีว่าทำไมหมู่บ้านเล็ก ๆ แห่งนี้จึงถูกยกให้เป็น “เพชรเม็ดงามแห่งออสเตรีย” ที่งดงามเหนือกาลเวลา

credit :artralux.co.th

4.ยอดเขาคิทซ์ชไตน์ฮอร์น (Kitzsteinhorn Glacier)

ยอดเขาคิทซ์ชไตน์ฮอร์น (Kitzsteinhorn Glacier) คือจุดชมวิวระดับตำนานของเมืองคาปรุน (Kaprun) และเป็นภูเขาน้ำแข็งแห่งแรกของออสเตรียที่เปิดให้นักท่องเที่ยวขึ้นชมได้ตลอดปี การนั่งกระเช้าขึ้นไปสัมผัสความสูงกว่า 3,000 เมตรเหนือระดับน้ำทะเลคือประสบการณ์ที่น่าประทับใจสุด ๆ เพราะวิวเทือกเขาแอลป์และทะเลสาบ Zell am See สวยอลังการ จุดเด่นของที่นี่คือ “Gipfelwelt 3000” และ “The Top of Salzburg” เป็นจุดชมวิวที่สามารถมองเห็นยอดเขาและธารน้ำแข็งรอบด้านได้แบบพาโนรามา อีกทั้งยังมีกิจกรรมให้เลือกทั้งปี ไม่ว่าจะเป็นสกี เดินบนธารน้ำแข็ง หรือชมวิวสวย ๆ จากคาเฟ่บนยอดเขาคิทซ์ชไตน์ฮอร์นจึงเป็นจุดหมายที่รวมทั้งความงาม ความตื่นเต้น และบรรยากาศแสนพิเศษของเทือกเขาแอลป์ไว้อย่างสมบูรณ์ เหมาะทั้งสำหรับคนรักธรรมชาติและนักท่องเที่ยวที่อยากสัมผัสหิมะตลอดปี

credit : www.zellamsee-kaprun.com

5.ปราสาทโฮเฮนซาลซ์บูร์ก (Hohensalzburg Fortress)

ปราสาทโฮเฮนซาลซ์บูร์ก (Hohensalzburg Fortress) เป็นปราสาทเก่าแก่ที่ตั้งเด่นอยู่บนเนินเขาเฟสเทิงส์ (Festungsberg) ใจกลางเมืองซาลซ์บูร์ก ถือเป็นหนึ่งในปราสาทยุโรปที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้อย่างสมบูรณ์ที่สุด และเป็นสัญลักษณ์สำคัญของเมืองนี้ นักท่องเที่ยวสามารถนั่งรถรางขึ้นไปยังปราสาทได้สะดวก เมื่อถึงด้านบนจะได้ชมวิวเมืองซาลซ์บูร์กแบบพาโนรามา ทั้งหลังคาอาคารสีส้มสดและเทือกเขาแอลป์ที่ทอดยาวอยู่ด้านหลัง ภายในปราสาทมีห้องโถงสไตล์โกธิค พิพิธภัณฑ์จัดแสดงเครื่องดนตรีเก่า เครื่องแบบทหาร และเรื่องราวประวัติศาสตร์ของเจ้าอธิการผู้ปกครองเมืองในอดีต บรรยากาศโดยรอบเต็มไปด้วยกลิ่นอายยุคกลาง ทั้งหอคอย กำแพงหิน และลานกว้างที่เปิดให้ชมวิวสวยได้ทุกมุม ปราสาทโฮเฮนซาลซ์บูร์กจึงเป็นทั้งจุดชมวิวที่งดงามและแลนด์มาร์กทางประวัติศาสตร์ที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาเยือนซาลซ์บูร์ก

credit : www.historyhit.com

6.กระเช้า Nordkette Cable Car

กระเช้า Nordkette Cable Car คือเส้นทางขึ้นสู่ยอดเขานอร์ดเค็ทเทอ (Nordkette) ที่ตั้งอยู่ใกล้เมืองอินส์บรุค (Innsbruck) จุดเด่นคือสามารถเดินทางจากใจกลางเมืองขึ้นไปถึงยอดเขาในเวลาไม่ถึง 30 นาที ระหว่างทาง นักท่องเที่ยวจะได้ชมวิวเมืองอินส์บรุคที่ค่อย ๆ เล็กลง พร้อมทิวเขาแอลป์ที่ขาวโพลนด้วยหิมะ เมื่อถึงด้านบนจะพบกับจุดชมวิวพาโนรามา “Top of Innsbruck” ซึ่งมองเห็นทั้งตัวเมืองและหุบเขาโดยรอบได้ชัดเจน นอกจากวิวสุดตระการตาแล้ว ยังมีกิจกรรมให้ทำตลอดปี ทั้งเล่นสกี เดินเขา หรือแค่นั่งจิบกาแฟชมวิวในคาเฟ่บนยอดเขา กระเช้า Nordkette จึงเป็นประสบการณ์ที่พลาดไม่ได้สำหรับผู้ที่อยากสัมผัสธรรมชาติและวิวสวยของเทือกเขาแอลป์ใกล้เมืองที่สุดในทัวร์ออสเตรีย

credit : /www.tripadvisor.com

7.โบสถ์เซนต์สตีเฟน (St. Stephen’s Cathedral)

โบสถ์เซนต์สตีเฟน (St. Stephen’s Cathedral) หรือ “สเตฟานส์โดม” เป็นสัญลักษณ์สำคัญของกรุงเวียนนา ตั้งอยู่ใจกลางย่านเมืองเก่า โดดเด่นด้วยหอคอยสูงกว่า 136 เมตรและหลังคากระเบื้องหลากสีที่เรียงเป็นลวดลายงดงาม ภายในโบสถ์ตกแต่งอย่างวิจิตรด้วยศิลปะโกธิคและบาร็อก ทั้งแท่นบูชา ประติมากรรม และกระจกสีที่สะท้อนแสงสวยงาม นักท่องเที่ยวสามารถขึ้นไปบนหอคอยเพื่อชมวิวเมืองเวียนนาแบบพาโนรามาได้อีกด้วย โบสถ์เซนต์สตีเฟนไม่ได้เป็นแค่ศาสนสถานเก่าแก่ แต่ยังเป็นหัวใจของเวียนนา ที่สะท้อนทั้งประวัติศาสตร์ ศิลปะ และความศรัทธาได้อย่างงดงามเหนือกาลเวลาอีกด้วย

credit : pohcdn.com

8.หุบเขาวาเคา (Wachau Valley)

หุบเขาวาเคา (Wachau Valley) เป็นพื้นที่ริมแม่น้ำดานูบที่งดงามราวภาพวาด ตั้งอยู่ระหว่างเมืองเมลค์ (Melk) และเครมส์ (Krems) ของออสเตรีย โดดเด่นด้วยทิวทัศน์ไร่องุ่น เนินเขาเขียวขจี และหมู่บ้านเล็ก ๆ สไตล์ยุโรปเก่า นักท่องเที่ยวสามารถล่องเรือชมวิวแม่น้ำดานูบ แวะชมวัดและปราสาทเก่าอย่าง “Melk Abbey” หรือเดินเล่นในเมืองโบราณที่เงียบสงบ บรรยากาศอบอุ่นและเป็นธรรมชาติ เหมาะกับการพักผ่อนและดื่มด่ำความงามของชนบทออสเตรีย หุบเขาวาเคาได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยยูเนสโก ถือเป็นเส้นทางท่องเที่ยวโรแมนติกที่ผสมผสานทั้งธรรมชาติ ประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรมไว้อย่างลงตัว

credit : th.tripadvisor.com

9.น้ำตกกริมล์ (Krimml Waterfalls)

น้ำตกกริมล์ (Krimml Waterfalls) คือหนึ่งในน้ำตกที่สูงที่สุดในยุโรป ตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติ Hohe Tauern ทางตะวันตกของออสเตรีย ด้วยความสูงรวมกว่า 380 เมตร น้ำตกแห่งนี้ไหลลดหลั่นเป็นสามชั้นท่ามกลางป่าสนและภูเขาแอลป์สวยงาม นักท่องเที่ยวสามารถเดินตามเส้นทางชมวิวที่ตัดเลียบหน้าผาเพื่อสัมผัสละอองน้ำเย็นสดชื่นและมองเห็นทิวทัศน์หุบเขาแบบพาโนรามา โดยเฉพาะช่วงฤดูร้อนที่ปริมาณน้ำมากและธรรมชาติโดยรอบจะเขียวเป็นพิเศษ น้ำตกกริมล์จึงเป็นจุดหมายธรรมชาติยอดนิยมของออสเตรีย ที่มอบทั้งความยิ่งใหญ่ สดชื่น และบรรยากาศบริสุทธิ์ของเทือกเขาแอลป์ได้อย่างเต็มอิ่ม

credit : www.beautifulworld.com

10.พิพิธภัณฑ์ศิลปะ Kunsthaus Graz

พิพิธภัณฑ์ศิลปะ Kunsthaus Graz เป็นแลนด์มาร์กทันสมัยของเมืองกราซ (Graz) โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมรูปทรงแปลกตาคล้ายสิ่งมีชีวิตจากอนาคต จนได้รับฉายาว่า “Friendly Alien” ภายในจัดแสดงผลงานศิลปะร่วมสมัย ทั้งภาพวาด ประติมากรรม สื่อมัลติมีเดีย และนิทรรศการหมุนเวียนจากศิลปินทั่วโลก การจัดแสงและพื้นที่เปิดโล่งทำให้การชมงานศิลป์เป็นประสบการณ์ที่ทั้งสนุกและมีชีวิตชีวา Kunsthaus Graz จึงไม่เพียงเป็นพิพิธภัณฑ์ แต่ยังเป็นสัญลักษณ์ของความคิดสร้างสรรค์และจิตวิญญาณแห่งศิลปะร่วมสมัยของเมืองกราซอย่างแท้จริง

credit : /www.museum-joanneum.at

สรุป

ประเทศออสเตรียเต็มไปด้วยเสน่ห์ทั้งธรรมชาติและวัฒนธรรม ไม่ว่าจะเป็นหมู่บ้านริมทะเลสาบสุดโรแมนติก ยอดเขาหิมะสวยตระการตา ปราสาทเก่าแก่ หรือพิพิธภัณฑ์ศิลปะร่วมสมัย การเที่ยวออสเตรียจึงมอบทั้งประสบการณ์ผ่อนคลาย ชมวิวงดงาม และสัมผัสประวัติศาสตร์ที่ยาวนาน เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวทุกสายที่อยากค้นพบความงดงามเหนือกาลเวลาของยุโรปใจกลางแอลป์