ตัวกรอง

เส้นทาง

ทัวร์ยุโรป

Lovely Smile Tour มีแพกเก็จ ทัวร์ยุโรป ให้เลือกหลากหลายเส้นทาง ทั้งแบบเที่ยวหลายประเทศ เช่น ทัวร์ยุโรปตะวันออก หรืออิตาลี สวิส ฝรั่งเศส หรือเที่ยวแบบเจาะลึกทีละประเทศแบบพรีเมี่ยม มีทั้งแบบบินตรงและแบบบินต่อเครื่อง สนใจจองแพ็กเกจไหน แอดไลน์หรือโทรสอบถามได้เลย

5 เส้นทางทัวร์ยุโรปยอดฮิต และวิธีการเตรียมเอกสารวีซ่า

ยุโรปเป็นอีกสถานที่ท่องเที่ยวในฝันของใครหลายๆ คน ที่อยากลองไปสัมผัสกับศิลปวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ และความงดงามทางธรรมชาติที่หาได้ยากจากที่อื่น ทัวร์ยุโรปจึงไม่ใช่แค่การเดินทาง แต่เปรียบเสมือนการเปิดโลกใหม่ ที่จะพาคุณไปสัมผัสความฝันที่จับต้องได้ผ่านประสบการณ์จริงทั้งวัฒนธรรม ผู้คน อาหาร และความทรงจำที่คุณจะไม่มีวันลืม

1.1. ทัวร์ยุโรป อิตาลี สวิสเซอร์แลนด์ ฝรั่งเศส

ทัวร์เส้นทางนี้เป็นทัวร์ที่เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการสัมผัสวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ ธรรมชาติ และแฟชั่นในทริปเดียว โดยจะใช้ระยะเวลาในการเดินทางประมาณ 8-10 วัน ขึ้นอยู่กับแต่ละโปรแกรมทัวร์นั้นๆ ในแต่ละประเทศก็จะมีเอกลักษณ์และสถานที่ท่องเที่ยวมากมายให้ได้ไปสำรวจ ดังนี้

1.1.1. อิตาลี (Italy)

อิตาลี เป็นประเทศในยุโรปตอนใต้ที่ขึ้นชื่อเรื่องศิลปะ ประวัติศาสตร์ อาหาร แฟชั่น และมีความโรแมนติกที่ไม่เหมือนใคร เมืองสำคัญ ได้แก่ โรม เมืองหลวงอันเก่าแก่, เวนิส เมืองแห่งสายน้ำ และ มิลาน ศูนย์กลางแฟชั่นระดับโลก สถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นไฮไลต์ ได้แก่

  • มหาวิหารมิลาน (Duomo di Milano) ตั้งอยู่ที่เมืองมิลาน เป็นหนึ่งในโบสถ์ศริสต์สถาปัตยกรรมกอธิคที่ใหญ่ที่สุดในโลก ภายในวิหารเชื่อกันว่ามีการบรรจุหมุดตรึงไม้กางเขนของจริงที่ใช้ในการประหารชีวิตพระเยซู บริเวณด้านหน้าตกแต่งด้วยรูปสลักหินอ่อนที่วิจิตรเป็นอย่างยิ่ง
  • เวนิส (Venice) เมืองแห่งสายน้ำ นักท่องเที่ยวสามารถล่องเรือกอนโดลาชมความสวยงามของลำคลองและสถาปัตยกรรมต่างๆ ได้
  • จัตุรัสเปียซซา เดล ดูโอโม (Piazza Del Duomo Pisa) ตั้งอยู่ในเมืองปิซ่า โดยจัตุรัสแห่งนี้จะประกอบไปด้วย หอศีลจุ่ม วิหาร และหอระฆัง ซึ่งจุดที่เป็นไฮไลต์จะอยู่ที่หอระฆัง หรือที่หลายๆ คนรเรียกว่าหอเอนปิซ่า จุดเด่นคือโครงสร้างที่เอนเอียงไปทางเหนือประมาณ 3.97 องศาอย่างเห็นได้ชัด เนื่องจากดินที่ฐานรากทรุดตัวตั้งแต่ช่วงเริ่มก่อสร้าง ด้วยเหตุนี้จึงทำให้หอระฆังแห่งนี้ได้เป็นหนึ่งในสิ่งมหัศจรรย์ของโลกอีกด้วย
  • โคลอสเซียม (Colosseum) ตั้งอยู่ที่กรุงโรม เป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคกลาง สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 80 โดยใช้จัดการแข่งขันกลาดิเอเตอร์ การแสดงสัตว์ และกิจกรรมบันเทิงต่างๆ ถึงแม้จะผ่านมากว่า 2,000 ปี แต่ก็ยังคงความสวยงามดังเดิมไว้ได้ และยังดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกให้มาเที่ยวตบอดทั้งปีอีกด้วย จึงเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่เต็มไปด้วยเรื่องราวทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมโรมันโบราณที่ควรค่าแก่การไปเยือนสักครั้งในชีวิตเลย
5 เส้นทางทัวร์ยุโรปยอดฮิต
มหาวิหารมิลาน
จัตุรัสเปียซซา เดล ดูโอโม
ล่องเรือกอนโดลาที่เวนิส
โคลอสเซียม
1.1.2. สวิตเซอร์แลนด์ (Switzerland)

สวิตเซอร์แลนด์ ประเทศในฝันของสายธรรมชาติ ที่รายล้อมไปด้วยเทือกเขาแอลป์ ธรรมชาติสวย ทะเลสาบใสสะอาด และอากาศบริสุทธิ์ตลอดทั้งปี เป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางยอดนิยมของยุโรปที่ใครได้มาเที่ยวแล้วต่างก็มีความประทับใจ สถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นไฮไลต์ ได้แก่

  • ลูเซิร์น (Lucerne) เมืองเล็กริมทะเลสาบลูเซิร์น ที่มีจุดเด่นอยู่ที่สะพานไม้ชาเพล (Chapel Bridge) สะพานไม้ที่มีอายุเก่าแก่ที่สุดในโลกที่เป็นสัญลักษณ์ของเมืองลูเซิร์น และบรรยากาศสุดโรแมนติกที่โอบล้อมด้วยภูเขาสูงมากมาย นอกจากนี้ก็จะยังมีอนุสาวรีย์สิงโต (Lion Monument) ที่ถือเป็นสัญลักษณ์สำคัญของลูเซิร์นที่ไม่มีนักท่องเที่ยวคนไหนพลาดเมื่อเดินทางมาที่นี่
สะพานไม้ชาเพล
  • ยอดเขาจุงเฟรา (Jungfrau) ตั้งอยู่ที่เมืองกรินเดอวาลด์ เป็นหนึ่งในยอดเขาที่สูงที่สุดในยุโรป จนได้ชื่อว่าเป็น “Top of Europe” นักท่องเที่ยวสามารถนั่งกระเช้า Eiger Express เพื่อขึ้นสู่จุดชมวิวบนยอดเขา สัมผัสหิมะตลอดปี และชมทัศนียภาพของหุบเขาที่มีบ้านสไตล์สวิสชาเลย์ตั้งอยู่โดยรอบได้แบบ 360 องศา
5 เส้นทางทัวร์ยุโรปยอดฮิต
ยอดเขาจุงเฟรา
1.1.3. ฝรั่งเศส (France)

ฝรั่งเศส เมืองแห่งแฟชั่นและแสงสี เต็มไปด้วยเสน่ห์ของศิลปะ สถาปัตยกรรม และวัฒนธรรมอันงดงาม โดยมีกรุงปารีสเป็นเมืองหลวงที่รู้จักกันดีทั่วโลกและยังถือเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางของใครหลายๆ คนอีกด้วย ไฮไลต์สำคัญของประเทศฝรั่งเศส ได้แก่

  • หอไอเฟล (Eiffel Tower) ที่เป็นสัญลักษณ์ของประเทศฝรั่งเศส ที่ไม่ว่าใครมาก็ต้องแวะถ่ายรูปเป็นที่ระลึก โดยจุดที่สามารถถ่ายรูปหอไอเฟลออกมาได้สวยที่สุดจะอยู่ที่จัตุรัสทรอกาเดโร (Trocadéro) สามารถมองเห็นหอไอเฟลได้โดยไม่มีอะไรมาบดบัง
  • แม่น้ำแซน (Seine River) นักท่องเที่ยวสามารถล่องเรือแม่น้ำแซนเพื่อชมบรรยากาศรอบเมืองปารีสได้ โดยในระหว่างทางนั้นจะผ่านสถานที่สำคัญๆ มากมายไม่ว่าจะเป็น สะพาน PONT DE L'ALMA สะพานอเล็กซานเดอร์ที่ 3 พิพิธภัณฑ์ออร์แซ พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ รวมไปถึงอาสนวิหารน็อทร์-ดามแห่งปารีส ถือเป็นหนึ่งในกิจกรรมที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาปารีส
  • พิพิธภัณฑ์ลูฟร์ (Louvre Museum) สถานที่จัดแสดงและเก็บรักษาผลงานทางศิลปะระดับโลกจำนวนมาก เช่น ภาพวาด "โมนาลิซา" และประติมากรรมโบราณมากมาย
  • พระราชวังแวร์ซายส์ (Château de Versailles) พระราชวังอันยิ่งใหญ่ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกตลอดทั้งปี ด้วยความงดงามของสถาปัตยกรรม สวนสไตล์ฝรั่งเศส และประวัติศาสตร์ที่ทรงคุณค่า จึงทำให้ได้รับการยกย่องให้เป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคใหม่อีกด้วย
5 เส้นทางทัวร์ยุโรปยอดฮิต
หอไอเฟล สัญลักษณ์ของประเทศฝรั่งเศส
พิพิธภัณฑ์ลูฟร์
พระราชวังแวร์ซายส์

1.2. ทัวร์ยุโรปตะวันออก เยอรมัน ออสเตรีย เช็ก สโลวาเกีย ฮังการี

ใครที่กำลังอยากเที่ยวทริปยุโรปที่ได้สัมผัสกับกลิ่นอายยุโรปคลาสสิก เมืองเก่า และวัฒนธรรมที่ผสมผสานระหว่างยุโรปตะวันตกและตะวันออก ทัวร์เส้นทางนี้จึงถือเป็นอีกเส้นทางที่อยากแนะนำเลย โดยจะใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 8-12 วัน ในแต่ละประเทศก็จะมีเอกลักษณ์ที่แตกต่างกันไป และมีสถานที่ท่องเที่ยวสวยๆ มากมาย ดังนี้

1.2.1. เยอรมัน (Germany)

เยอรมัน เป็นประเทศที่มีสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์มากมาย มีบทบาทสำคัญทั้งทางเศรษฐกิจและวัฒนธรรม เป็นประเทศที่เต็มไปด้วยปราสาทสวยงาม สถาปัตยกรรมเก่าแก่ และเมืองทันสมัยที่ผสมผสานกันได้อย่างลงตัว เมืองท่องเที่ยวเด่นๆ ดังนี้

  • ปราสาทนอยชวานสไตน์ (Neuschwanstein Castle) ปราสาทแห่งยุคกลาง ที่ตั้งอยู่ที่เมืองชวานเกา เป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ทางการท่องเที่ยวของแคว้นบาวาเรีย มีสถาปัตยกรรมแบบนิโอโกธิคผสมโรมาเนสส์ ซึ่งเป็นต้นแบบของปราสาทดิสนีย์ จุดถ่ายภาพยอดนิยมคือจาก สะพานมาเรียนบรึค (Marienbrücke) ซึ่งมองเห็นปราสาททั้งหลังได้ชัดเจน พร้อมฉากหลังเป็นภูเขาและป่าเขียวขจี
  • ปราสาทโฮเอินโซลเลิร์นเซีคมาริงเงิน (Hohenzollern Sigmaringen Castle) ตั้งอยู่ที่เมืองซีคมาริงเงิน ซึ่งอยู่ทางตอนใต้ของประเทศเยอรมนี ตั้งอยู่บนหน้าผาสูงเหนือแม่น้ำดานูบ เป็นพระราชวังประจำเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับสองของเยอรมนี เป็นอนุสาวรีย์ทางวัฒนธรรมที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 1,000 ปี ภายในมีห้องจัดแสดงของสะสมล้ำค่า เช่น อาวุธโบราณ ชุดเกราะ ภาพวาด และเฟอร์นิเจอร์หรูหราในสไตล์บาโรคและเรอเนซองส์
ปราสาทนอยชวานสไตน์
ปราสาทโฮเอินโซลเลิร์นเซีคมาริงเงิน
1.2.2. ออสเตรีย (Austria)

ออสเตรียเป็นประเทศขนาดเล็กที่ขึ้นชื่อในเรื่องของธรรมชาติที่สวยงามและวัฒนธรรมทางดนตรี มีเมืองหลวงคือ เวียนนา (Vienna) เมืองแห่งโอเปร่าและศิลปะคลาสสิก เต็มไปด้วยพระราชวัง คาเฟ่เก่าแก่ และโรงอุปรากรระดับโลก โดยประเทศออสเตรียมีสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นไฮไลต์มากมาย ได้แก่

  • พระราชวังและสวนเชินน์บรุน (Palace and Gardens of Schonbrunn) อดีตพระราชวังฤดูร้อนของราชวงศ์ฮับส์บูร์ก และเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงที่สุดของประเทศ พระราชวังและสวนเชินน์บรุนเป็นอาคารสไตล์บารอกที่ภายในมีห้องมากมายกว่า 1,400 ห้อง ทำให้รู้สึกเหมือนได้ย้อนเวลากลับไปสู่ยุคจักรวรรดิออสเตรีย ด้านนอกยังมี สวนเชินน์บรุน ขนาดใหญ่ที่ตกแต่งอย่างงดงามด้วยต้นไม้ตัดแต่ง น้ำพุ และเขาวงกตแบบยุโรปโบราณ พร้อมจุดถ่ายรูปยอดฮิตอย่าง Gloriette อาคารสีขาวบนเนินเขาที่สามารถชมวิวของพระราชวังได้แบบพาโนรามา
  • ฮัลล์สตัทท์ (Hallstatt) เมืองเล็กๆ ที่ตั้งอยู่ริมทะเลสาบในออสเตรีย เป็นสถานที่ที่สวยงามเหมือนกับภาพวาด โดดเด่นด้วยบ้านเรือนสไตล์ยุโรปโบราณที่เรียงรายริมทะเลสาบที่รายล้อมไปด้วยภูเขาสูงมากมาย
พระราชวังและสวนเชินน์บรุน
เมืองฮัลล์สตัทท์
1.2.3. สาธารณรัฐเช็ก (Czech Republic)

เช็ก หรือ สาธารณรัฐเช็ก เป็นประเทศที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ของเมืองเก่าและสถาปัตยกรรมยุโรปสุดคลาสสิก เมืองที่โดดเด่นที่สุดก็คือ กรุงปราก (Prague) เมืองหลวงของสาธารณรัฐเช็ก ที่ได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในเมืองที่สวยที่สุดในยุโรป ที่มีทั้งถนนหินโบราณ ปราสาทสุดอลังการ สถาปัตยกรรมยุคกลางที่ยังคงสภาพเดิมไว้ได้อย่างสมบูรณ์ และบรรยากาศยุโรปยุคกลางที่แทบไม่เปลี่ยนไปจากอดีต สถานที่ท่องเที่ยวเด่นๆ ได้แก่

  • เมืองเซสกี้ ครุมลอฟ (Cesky Krumlov) ที่ได้รับการขนานนามว่า "ไข่มุกแห่งโบฮิเมียน" เนื่องจากยังคงรักษาสภาพบ้านเมืองเอาไว้ได้อย่างสวยงามเหมือนในอดีตจนได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมในปี 1992 ด้วยเอกลักษณ์ของบ้านเรือนมีหลังคาสีส้ม ปราสาทเซสกี้ ครุมลอฟ ซึ่งเป็นปราสาทที่ใหญ่เป็นอันดับสองของประเทศ ที่มีแม่น้ำวอลตาวาพาดผ่านเป็นรูปคล้ายๆ หยดน้ำ ทำให้เกิดเป็นภูมิทัศน์ที่งดงามเป็นอย่างมาก นอกจากนี้ยังมี
  • ปราสาทปราก (Prague Castle) ตั้งอยู่ในพื้นที่กว่า 70,000 ตารางเมตร มีขนาดใหญ่จนได้รับการบันทึกว่าเป็นปราสาทโบราณที่ใหญ่ที่สุดในโลกจาก Guinness World Records และนาฬิกาดาราศาสตร์ ที่ตั้งอยู่ในย่านเมืองเก่า บรรยากาศโรแมนติก ผสมผสานวัฒนธรรม ศิลปะ และความเป็นยุโรปตะวันออกได้อย่างลงตัว เหมาะกับทั้งการเดินเล่น ถ่ายรูปเป็นอย่างมาก
เมืองเซสกี้ ครุมลอฟ
ปราสาทปราก
1.2.4. สโลวาเกีย (Slovakia)

สโลวาเกีย อาจไม่ใช่ชื่อแรกๆ ที่หลายคนนึกถึงเมื่อพูดถึงทัวร์ยุโรป แต่สโลวาเกียก็เป็นอีกประเทศที่มีสถานที่ท่องเที่ยวสวยงามไม่แพ้กันกับประเทศอื่นๆ ในยุโรป เป็นประเทศเล็กๆ ที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ ทั้งธรรมชาติที่งดงามและเมืองเก่าที่เงียบสงบ มีเมืองบราติสลาวา (Bratislava) เป็นเมืองหลวงและเมืองที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ ที่ตั้งอยู่ที่ริมแม่น้ำดานูบ จุดเด่นอยู่ที่ปราสาทบราติสลาวา (Bratislava Castle) ปราสาทสำคัญของเมือง ที่ในอดีตเคยถูกใช้เป็นที่ประทับของกษัตริย์ฮังการี และเป็นป้อมปราการด่านสำคัญที่มีไว้สำหรับป้องกันข้าศึกที่จะมารุกรานอาณาจักรออสเตรีย-ฮังการี นักท่องเที่ยวสามารถชมวิวของแม่น้ำดานูบได้จากบริเวณปราสาท

บราติสลาวา
1.2.5. ฮังการี (Hungary)

ฮังการี เป็นประเทศที่มีการผสมกันระหว่างประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม และสถาปัตยกรรมที่มีสวยงามโดดเด่นได้อย่างลงตัว มีเมืองหลวงชื่อ เมืองบูดาเปสต์ (Budapest) ซึ่งถูกขนานนามว่า “ปารีสแห่งยุโรปตะวันออก” โดยเมืองนี้จะแบ่งออกเป็น 2 ฝั่ง คือ บูดา และ เปสต์ จะมีแม่น้ำดานูบไหลคั่นกลาง ด้วยทัศนียภาพสองฝั่งแม่น้ำที่ตัดกันจึงทำให้ฮังการีเป็นอีกประเทศที่มีความสวยงามไม่แพ้กับประเทศอื่นเลยสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นจุดไฮไลต์ของฮังการี จะมีดังนี้

  • สะพานเชน (Chain Bridge) หนึ่งในแลนด์มาร์กที่ห้ามพลาดเมื่อมาเยือนบูดาเปสต์ เป็นสะพานหินโบราณแห่งนี้คือสะพานแขวนถาวรแห่งแรกที่เชื่อมฝั่ง “บูดา” และ “เปสต์” เข้าด้วยกัน
  • แม่น้ำดานูบ เป็นแม่น้ำที่ไหลผ่านในประเทศ นักท่องเที่ยวสามารถล่องเรือชมความสวยงามของแม่น้ำดานูบ และวิวเมืองของประเทศฮังการีได้
  • ปราสาทบูดา (Buda Castle) ถูกสร้างขึ้นตั้งแต่ในปี ค.ศ. 1265 ตัวอาคารจะเป็นสถาปัตยกรรมแบบบาโรก โดยในปัจจุบันได้ปรับปรุงเป็นให้หอศิลป์แห่งชาติและพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์
ล่องเรือแม่น้ำดานูบ

1.3. ทัวร์ยุโรป แกรนด์สวิตเซอร์แลนด์

เป็นเส้นทางที่เหมาสำหรับผู้ที่ต้องการเที่ยวสวิตเซอร์แลนด์แบบเต็มอิ่ม และเก็บไฮไลต์ต่างๆ ได้อย่างครบถ้วน ทั้งธรรมชาติ ภูเขาหิมะ และเมืองสวยระดับโลก เส้นทางยอดนิยม ไม่ว่าจะเป็นพิชิต 3 ยอดเขา ริกิ จุงเฟรา และกรอนเนอร์แกรตต่างก็เป็นยอดเขายอดนิยมของนักท่องเที่ยวที่จะต้องไปให้ได้สักครั้ง นอกจากนี้ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวอีกมากมายที่ให้ได้ไป โดยเส้นทางนี้จะใช้เวลาในการเดินทางทั้งหมดประมาณ 8-10 วัน โดยจะมีเมืองท่องเที่ยวที่เด่นๆ ดังนี้

1.3.1. ลูเซิร์น (Lucerne)

เมืองลูเซิร์น ตั้งอยู่ทางตอนกลางของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เป็นเมืองท่องเที่ยวยอดนิยมอันดับหนึ่งของสวิตเซอร์แลนด์ที่ถูกห้อมล้อมไปด้วยทะเลสาบและภูเขา สถานที่ท่องเที่ยวที่ห้ามพลาด ได้แก่

  • อนุสาวรีย์สิงโต (Lion Monument) อนุสาวรีย์หินแกะสลักที่สร้างขึ้นเพื่อรำลึกถึงทหารผู้เสียสละในเหตุการณ์ปฏิวัติฝรั่งเศส เป็นสัญลักษณ์แห่งความกล้าหาญและซื่อสัตย์ของชาวสวิส ที่ทั้งชาวท้องถิ่นและนักท่องเที่ยวต่างให้ความเคารพ และถือเป็นหนึ่งในจุดถ่ายรูปยอดนิยมของลูเซิร์น
  • สะพานไม้ชาเพล (Chapel Bridge) สะพานไม้เก่าแก่ที่ทอดตัวข้ามแม่น้ำรอยส์ (Reuss River) สร้างขึ้นตั้งแต่ศตวรรษที่ 14 ถือเป็นสะพานไม้ที่เก่าแก่ที่สุดในโลก และเป็นเอกลักษณ์สำคัญของเมือง ภายในสะพานยังมีภาพวาดประวัติศาสตร์ให้ชมตลอดทางเดินอีกด้วย
  • ยอดเขาริกิ (MT.RIGI) ได้รับสมญานามว่า "ราชินีแห่งขุนเขา" (Queen of the Mountains) เป็นหนึ่งในภูเขาที่มีชื่อเสียงมากที่สุดแห่งหนึ่งของสวิตเซอร์แลนด์ มีความสูงถึง 6,OOO ฟุต หรือ 1,797 เมตร สามารถมองเห็นทั้งทะเลสาบ เมือง และเทือกเขาโดยรอบ นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางขึ้นสู่ยอดเขาได้ด้วยรถไฟสายเก่าแก่ที่งดงามตลอดเส้นทาง
อนุสาวรีย์สิงโต
1.3.2. กรินเดลวัลด์ (Grindelwald)

เป็นเมืองตากอากาศเล็กๆ ที่ตั้งอยู่ในหุบเขาเบิร์นของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ที่ถูกรายล้อมไปด้วยธรรมชาติและยอดเขาสูง สถานที่ท่องเที่ยวแนะนำ ได้แก่

  • ยอดเขาจุงเฟรา (Jungfrau) ตั้งอยู่ที่เมืองกรินเดอวาลด์ เป็นหนึ่งในยอดเขาที่สูงที่สุดในยุโรป จนได้ชื่อว่าเป็น “Top of Europe” นักท่องเที่ยวสามารถนั่งกระเช้า Eiger Express เพื่อขึ้นสู่จุดชมวิวบนยอดเขา สัมผัสหิมะตลอดปี และชมทัศนียภาพของหุบเขาที่มีบ้านสไตล์สวิสชาเลย์ตั้งอยู่โดยรอบได้แบบ 360 องศา บริเวณยอดเขาก็จะมีจุดไฮไลต์มากมาย ไม่ว่าจะเป็น อุโมงค์น้ำแข็ง (Ice Palace) อายุเก่าแก่กว่า 1,000 ปี มีประติมากรรมน้ำแข็งอยู่อย่างมากมาย และคงอุณหภูมิอยู่ที่ -3 องศา ตลอดทั้งปี, อุโมงค์โลกอัลไพน์ (Alpine Sensation) ที่จัดแสดงวิถีชีวิต วัฒนธรรมและธรรมชาติของชาวเมือง, มีพิพิธภัณฑ์ช็อคโกแลต Lindt หรือร้านช็อคโกแลตที่สูงที่สุดในโลก โดยนักท่องเที่ยวสามารถเลือกซื้อของฝากได้จากที่นี่ และจุดสุดท้ายคือ Jungfrau Panorama View จุดสูงสุดของสถานี ที่มีความสูงกว่า 3,571 เมตร นักท่องเที่ยวสามารถถ่ายรูปเป็นที่ระลึกได้
ยอดเขาจุงเฟรา
1.3.3. เมืองเซอร์แมท (Zermatt)

เมืองเซอร์แมท เป็นเมืองชนบทเล็กๆ ที่ล้อมรอบด้วยภูเขา ตั้งอยู่บนเทือกเขาแอลป์ ภายในเมืองมีการจัดการด้านสิ่งแวดล้อมต่างๆ ได้เป็นอย่างดี จนได้รับการขนานนามว่า เมืองปลอดมลพิษ โดยสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นจุดไฮไลต์จะอยู่ที่

  • ยอดเขากอร์เนอร์แกรต (Gornergrat bahn) ที่มีความสูงกว่า 3,000 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล นักท่องเที่ยวสามารถนั่งรถไฟสายพิเศษ Gornergrat Bahn ซึ่งเป็นรถไฟฟันเฟืองสายแรกของยุโรป ที่จะพาขึ้นสู่ยอดเขาผ่านทิวทัศน์อันสวยงามของภูเขาและธารน้ำแข็งตลอดเส้นทาง โดยจากยอดเขากอร์เนอร์แกรตจะสามารถมองเห็นวิวของยอดเขาแมทเทอร์ฮอร์นที่สูงกว่า 4,478 เมตรเหนือระดับน้ำทะเลได้อีกด้วย
  • ทะเลสาบริฟเฟลซี (Riffelsee) เป็นทะเลสาบที่อยู่ด้านบนเขา ที่บริเวณสถานี Rottenborden ด้วยวิวของภาพเงาสะท้อนของยอดเขาแมทเธอร์ฮอร์นในทะเลสาบ เป็นอีกจุดที่สามารถถ่ายรูปยอดเขาแมทเธอร์ฮอร์นออกมาได้อย่างสวยงาม
ยอดเขากอร์เนอร์แกรต
วิวของยอดเขากอร์เนอร์แกรตจากทะเลสาบริฟเฟลซี

1.4. ทัวร์ยุโรป สแกนดินีเวีย เดนมาร์ก นอร์เวย์ ฟินแลนด์ สวีเดน

สแกนดิเนเวีย คือกลุ่มประเทศยุโรปเหนือ ประกอบไปด้วย 5 ประเทศ ได้แก่ เดนมาร์ก, นอร์เวย์, ฟินแลนด์ สวีเดน และไอซ์แลนด์ โดยทัวร์สแกนดิเนเวียเป็นเส้นทางท่องเที่ยวที่ได้รวมความงดงามของธรรมชาติ ความสวยงามของสถาปัตยกรรมตามสถานที่ต่างๆ และวิถีชีวิตเรียบง่าย จึงทำให้เป็นอีกเส้นทางทัวร์ยุโรปที่เป็นเหมือนกลุ่มประเทศในฝันที่นักท่องเที่ยวอยากไปเที่ยวให้ได้สักครั้งในชีวิต โดยในทัวร์เส้นทางนี้จะใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 8-12 วัน ในแต่ละประเทศจะมีไฮไลต์อะไรบ้าง ไปดูกัน

1.4.1. เดนมาร์ก (Denmark)

เดนมาร์ก เป็นประเทศในแถบสแกนดินีเวียที่มีความโดดเด่นในเรื่องของสถาปัตยกรรมแห่งหนึ่งเลย เนื่องจากเป็นประเทศที่มีพระราชวังและปราสาทสวยๆ กระจายอยู่ทั่วประเทศ และยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่มีความสวยงาม มีเสน่ห์มากมาย ได้แก่

  • รูปปั้นนางเงือกน้อย (The little mermaid) ตั้งอยู่บริเวณริมอ่าวโคเปนเฮเกน ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมที่ถูกถ่ายภาพมากที่สุดในแต่ละปี
  • น้ำพุเกฟิออน (Gefion fountain) น้ำพุที่ไหลออกจารูปปั้นเทพีนอร์ดิกเกฟิออนที่กำลังลากจูงวัวกระทิง 4 ตัว ที่มีความเชื่อว่า เทพีนอร์ดิกเกฟิออนทำการไถคราดเพื่อให้เกิดเป็นประเทศเดนมาร์ก
  • ท่าเรือนูฮาวน์ (Nyhavn) ท่าเรือเก่าแก่ใจกลางเมืองโคเปนเฮเกน ตั้งอยู่ริมฝั่งตะวันออกของตัวเมือง บริเวณท่าเรือจะมีอาคารบ้านเรือนสีสันสดใสตลอดแนวสองฝั่งแม่น้ำ
รูปปั้นนางเงือกน้อย
ท่าเรือนูฮาวน์
1.4.2. นอร์เวย์ (Norway)

ประเทศนอร์เวย์ เป็นประเทศที่มีความโดดเด่นในเรื่องของสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็นทะเลสาบ ภูเขา ฟยอร์ด หรือน้ำตก ก็มีให้เที่ยวครบครัน ใครที่หลงรักธรรมชาติและบรรยากาศเงียบสงบต้องชื่นชอบที่นี่อย่างแน่นอน สถานที่ท่องเที่ยวไฮไลต์ ได้แก่

  • ซอก์งเนฟยอร์ด (Sognefjord) เป็นฟยอร์ดที่ยาวที่สุดและลึกที่สุดในประเทศนอร์เวย์ และยังได้ชื่อว่าเป็น "ราชาแห่งฟยอร์ด" (The King of the Fjords) อีกด้วย ด้วยความยาวกว่า 200 กิโลเมตร ลึกถึง 1,300 เมตร รายล้อมด้วยภูเขาสูงและธารน้ำแข็งมากมาย จึงทำให้ที่นี่กลายเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางที่งดงามที่สุดในยุโรปที่ควรมาให้ได้สักครั้งเลย โดยนักท่องเที่ยวยังสามารถล่องเรือชมซอก์งเนฟยอร์ดได้อีกด้วย
  • ถนนคนเดินคาร์ลโจฮัน (Karl Johan street) เป็นแหล่งช้อปป้ิงที่มีชื่อเสียงที่สุดของนอร์เวย์ ตั้งอยู่กลางกรุงออสโล มีสินค้าหลายชนิให้ได้เลือกซื้อ ไม่ว่าจะเป็นของฝาก ผลิตภัณฑ์จากขนสัตว์ น้ำมันปลา เนยแข็งเทียนไข และของที่ระลึก อย่างเช่น เรือไวกิ้ง หรือตุ๊กตา Troll ตุ๊กตาพื้นบ้านของนอร์เวย์ เครื่องครัว พวงกุญแจ ก็มีให้เลือกซื้อกันอย่างจุใจ แต่สินค้าต่างๆ ก็จะมีราคาที่ค่อนข้างสูง เนื่องจากว่านอร์เวย์เป็นอีกประเทศที่มีค่าครองชีพสูงที่สุดในโลก แต่ก็จะมีช่วงลดราคาสินค้าลงปีละ 2 ครั้ง นั่นก็คือ ช่วงเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์และเดือนมิถุนายน - กรกฎาคม ซึ่งจะลดราคาสินค้าลง 50-70 เปอร์เซ็นต์เลย
ซอก์งเนฟยอร์ด
1.4.3. ฟินแลนด์ (Finland)

ฟินแลนด์ เป็นประเทศในยุโรปเหนือที่มีชื่อเสียงด้านธรรมชาติอันเงียบสงบ ป่าไม้ ทะเลสาบ และวัฒนธรรมที่ผสมผสานรหว่างวัฒนธรรมตะวันออกและตะวันตกอย่างลงตัว จนได้รับการยกย่องว่าเป็นเมืองหลวงของวัฒนธรรมยุโรป เหมาะกับการพักผ่อนเป็นอย่างมาก โดยมีเมืองหลวงคือ เฮลซิงกิ (Helsinki) เมืองที่โดดเด่นด้านสถาปัตยกรรมสไตล์นอร์ดิกผสมความร่วมสมัย นอกจากนี้ที่ฟินแลนด์ก็ยังเป็นอีกประเทศที่นักท่องเที่ยวนิยมเดินทางมาล่าแสงเหนือกันอีกด้วย โดยจะมีสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นจุดเด่น ดังนี้

  • เมืองโรวาเนียมิ (Rovaniemi) เป็นเมืองที่ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของฟินแลนด์ ซึ่งเป็นบ้านเกิดของซานตาคลอส โดยจะมีหมู่บ้านซานตาคลอส (Santa Claus Village) ให้ได้เยี่ยมชม ภายในหมู่บ้านจะมีพิพิธภัณฑ์ของเล่นเล็กๆ ร้านอาหาร ที่พัก ร้านขายของที่ระลึก เป็นอีกสถานที่ที่เหมากับทุกเพศทุกวัยเลย
  • เมืองเฮลซิงกิ (Helsinki) เมืองหลวงของประเทศฟินแลนด์ ที่มีการผสมผสานระหว่างความเรียบง่ายแบบนอร์ดิกเข้ากับความทันสมัยได้อย่างลงตัว สถานที่ห้ามพลาดคือ Helsinki Cathedral โบสถ์สีขาวเด่นกลางจัตุรัสเซเนต (Senate Square), ตลาดปลาเฮลซิงกิ (Helsinki Fish Market) ที่เต็มไปด้วยอาหารทะเลสดๆ และโบสถ์หินเทมเปลิโอคิโอ (Temppeliaukio Church) เป็นโบสถ์ที่มีสถาปัตยกรรมแปลกกว่าที่อื่น คือการระเบิดเนินหินตรงกลางเพื่อสร้าง โบสถ์ในเนินหินนั้น โดยโบสถ์แห่งนี้จะขึ้นชื่อในเรื่องของความรัก และมีความเชื่อว่าเมื่อใครก็ตามจุดเทียนอธิษฐานเรื่องเกี่ยวกับความรักในโบสถ์นี้แล้วจะสมหวังในสิ่งที่อธิษฐาน
หมู่บ้านซานตาคลอส
โบสถ์หินเทมเปลิโอคิโอ
1.4.4. สวีเดน (Sweden)

สวีเดน เป็นประเทศที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในในกลุ่มประเทศนอร์ดิกส์ เต็มไปด้วยธรรมชาติสวยงามมากมาย ไม่ว่าจะเป็นป่าไม้ ภูเขา และทะเลสาบ นอกจากนี้ยังมีความโดดเด่นในด้านการวิจัยและพัฒนา งานนวัตกรรม จนได้รับการจัดอันดับให้เป็นประเทศที่มีระดับนวัตกรรมสูงที่สุดอันดับที่ 2 ของโลกอีกด้วย โดยสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นจุดไฮไลต์ จะมีดังนี้

  • ย่านแกมล่าสแตน (GamlaStan Area) หรือ "เมืองเก่า" ใจกลางกรุงสตอกโฮล์ม เป็นย่านเมืองเก่าที่อยู่มานานตั้งแต่ศตวรรษที่ 13 หรือตั้งแต่สมัยเริ่มก่อตั้งเมืองสตอกโฮล์ม ภายในย่านจะเต็มไปด้วยถนนหินกรวดแคบๆ อาคารโบราณสีสันสดใส และร้านค้าท้องถิ่นมากมาย โดยไฮไลต์ของที่นี่คือ จัตุรัสสตอร์โตเกต (Stortorget Square) ลานกลางเมืองที่รายล้อมด้วยอาคารหลากสีสัน ที่ถ่ายรูปออกมาสวยทุกมุม และนอกจากนี้ยังมีพระราชวังหลวง (Royal Palace) ซึ่งยังคงใช้ในการประกอบพิธีสำคัญของราชวงศ์ให้ได้แวะชมและแวะถ่ายรูปกันอีกด้วย
  • พิพิธภัณฑ์เรือวาซา (Vasa Museum) เป็นพิพิธภัณฑ์ที่ได้จัดเก็บเรือวาซา เป็นเรือที่ถูกกู้ขึ้นมาในศตวรรษที่ 17 ซึ่งสามารถรักษาชิ้นส่วนสภาพเดิมของเรือไว้ได้กว่า 95 เปอร์เซ็นต์และตกแต่งประดับประดาด้วยรูปแกะสลักนับร้อยชิ้น เรือวาซาจึงเป็นทรัพย์สมบัติทางศิลปะที่โดดเด่นและเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งในโลก โดยเรือลำนี้ถูกจัดแสดงไว้ในพิพิธภัณฑ์ นอกจากนี้ยังมีภาพยนตร์เกี่ยวกับเรือวาซาที่สามารถรับชมได้ถึง 16 ภาษากันเลย
ย่านแกมล่าสแตน
พิพิธภัณฑ์เรือวาซา

1.5. ทัวร์ยุโรป สแกนดินีเวีย ไอซ์แลนด์

ไอซ์แลนด์ อยู่ทวีปยุโรปทางตอนเหนือ เป็นประเทศที่นักท่องเที่ยวนิยมเดินทางไปเที่ยวกันตลอดทั้งปี มีสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย เต็มไปด้วยภูเขาไฟ น้ำตกขนาดใหญ่ ธารน้ำแข็ง ถ้ำน้ำแข็ง ชายหาดทรายดำ และหนึ่งในกิจกรรมไฮไลต์ที่พลาดไม่ได้คือ การล่าแสงเหนือ (Aurora Borealis) ซึ่งจะปรากฏบนท้องฟ้าในช่วงฤดูหนาว ให้คุณได้สัมผัสปรากฏการณ์ธรรมชาติที่ทั้งงดงามและน่าประทับใจเลย สถานที่ที่เป็นไฮไลต์ ได้แก่

  • ถ้ำน้ำแข็งสกาตาเฟล (Ice Cave) หนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาท่ไอซ์แลนด์ นักท่องเที่ยวสามารถสัมผัสกับกลาเซียได้อย่างใกล้ชิด
  • น้ำตกสโกรกาฟอส (Skógafoss) น้ำตกขนาดใหญ่อันดับที่ 5 มีความสูงประมาณ 62 เมตร เป็นหนึ่งในน้ำตกที่มีความสวยงามเป็นอย่างมาก ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของไอซ์อลนด์ จุดเด่นคือน้ำตกที่ไหลลงมาเป็นม่านน้ำขาว และเมื่อมีแสงแดดมาตกกระทบก็จะเห็นรุ้งกินน้ำโค้งพาดอย่างสวยงาม จึงกลายเป็นจุดถ่ายภาพยอดนิยมอันดับต้นๆ ของนักท่องเที่ยว
  • ภูเขาคีร์กจูเฟล (Kirkjufell) ที่ได้ชื่อว่าเป็นรูปปกของไอซ์แลนด์เลยก็ว่าได้ เป็นฉากหลังงของซีรี่ย์ชื่อดังอย่าง Game Of Throne บริเวณใกล้ๆ กันจะมีน้ำตก Kirkjufellsfoss อยู่ เป็นจุดถ่ายรูปที่ต้องไม่พลาดอย่างเด็ดขาด
  • น้ำพุร้อน Blue Lagoon เป็นบ่อน้ำพุร้อนที่มีแร่ธาตุซิลิกาที่ส่งผลดีต่อผิวเป็นอย่างมาก
น้ำตกสโกรกาฟอส
ภูเขาคีร์กจูเฟล
ล่าแสงเหนือที่ไอซ์แลนด์

2. วิธีการเตรียมเอกสารวีซ่า

การเดินทางไปยังกลุ่มประเทศในเขตเชงเก้น (Schengen Area) จำเป็นต้องยื่นขอวีซ่าเชงเก้น ซึ่งเป็นวีซ่าที่สามารถใช้เข้าออกหลายประเทศในยุโรปได้ด้วยวีซ่าเพียงใบเดียว ไม่ว่าจะเป็นฝรั่งเศส อิตาลี เยอรมนี สวิตเซอร์แลนด์ หรือประเทศอื่นๆ ในกลุ่มนี้ ดังนั้นเพื่อให้ผลการยื่นวีซ่าผ่าน การเตรียมเอกสารให้ครบถ้วนและถูกต้องเป็นสิ่งสำคัญ แต่ทั้งนี้การพิจารณาผลวีซ่าจะขึ้นอยู่กับทางสถานทูตด้วย โดยเอกสารที่ต้องใช้มีดังนี้

2.1. หนังสือเดินทาง

  1. หนังสือเดินทางประเทศไทยเล่มปัจจุบัน ที่มีอายุคงเหลือไม่น้อยกว่า 180 วัน ต้องเป็นหนังสือเดินทางบุคคลทั่วไปเท่านั้น (เล่มสีเลือดหมู) และมีหน้าว่าง 2 หน้า พร้อมสำเนาหนังสือเดินทาง จำนวน 2 ชุด
  2. ถ้าเคยมีวีซ่าเชงเก้น ระยะเวลาไม่เกิน 3 ปี ให้เตรียมหนังสือเดินทางเล่มเก่าตัวจริงด้วย
หนังสือเดินทางบุคคลทั่วไป

2.2. รูปถ่ายสี

รูปถ่ายสีขนาด 3.5 × 4.5 cm. จำนวน 2 รูป ที่มีพื้นหลังสีขาว ซึ่งจะต้องถ่ายไม่เกิน 6 เดือน ห้ามซ้ำกับรูปถ่ายที่เคยใช้ทำวีซ่า เห็นใบหน้าชัดเจน ไม่ใส่หมวก, แว่น, คอนแท็คเลนส์, ไม่ใส่เครื่องประดับต่างๆ รวบผมเปิดใบหู และไม่มีการตกแต่งภาพ ความยาวของใบหน้าตั้งแต่ศีรษะจรดคางต้องมีขนาดระหว่าง 3 - 3.5 เซนติเมตร ในส่วนความกว้างของใบหน้าจะอยู่ระหว่าง 2.5 - 3 เซนติเมตร

ตัวอย่างขนาดรูปที่สถานทูตกำหนด

2.3. หลักฐานการเงิน

  1. Bank Statement ย้อนหลัง 6 เดือน
  2. หากมีการออกค่าใช้จ่ายให้คนในครอบครัว ต้องมีการขอ Bank Guarantee จากธนาคารให้บุคคลนั้นๆ ด้วย โดยชื่อและนามสกุลที่ระบุในหลักฐานทางการเงินจะต้องเป็นภาษาอังกฤษตรงตามหน้าพาสปอร์ต และต้องขอจากธนาคารไม่เกิน 7 วันก่อนวันยื่นวีซ่า
  3. ปรับสมุดบัญชีธนาคารตัวจริง และให้เตรียมไปในวันยื่นวีซ่าด้วย

2.4. หลักฐานการทำงาน

  1. สำหรับเจ้าของกิจการ ต้องมีสำเนาหนังสือรับรองทะเบียนพาณิชย์ สำเนาทะเบียนการค้า หรือสำเนาจดทะเบียนบริษัทที่มีอายุไม่เกิน 3 เดือน โดยต้องขอเป็นฉบับภาษาไทยและภาษาอังกฤษ
  2. สำหรับผู้ที่เป็นพนักงานบริษัท จะต้องระบุ To whom it may concern แทนการใส่ชื่อของสถานฑูต ต้องระบุวันลาให้ครอบคลุมกับช่วงการท่องเที่ยว ตำแหน่ง และอัตราเงินเดือนที่ได้รับ โดยระยะเวลาของหนังสือรับนองต้องมีอายุไม่เกิน 1 เดือน
  3. สำหรับผู้ที่เป็นนักเรียนหรือนักศึกษา จะต้องขอหนังสือรับรองจากสถาบัน เพื่อแสดงให้เห็นว่าปัจจุบันกำลังอยู่ระหว่างการศึกษา ซึ่งเอกสารจะต้องระบุเป็นภาษาอังกฤษ

2.5. เอกสารส่วนตัว

  1. สำเนาทะเบียนบ้าน
  2. สำเนาบัตรประชาชน
  3. สูติบัตร (กรณีผู้เดินทางเป็นเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี)
  4. ทะเบียนสมรส / ทะเบียนหย่า / มรณะบัตร (ถ้ามี)
  5. ใบเปลี่ยนชื่อ-นามสกุล (กรณีที่ผู้เดินทางมีการเปลี่ยนชื่อ-นามสกุล)

2.6. เอกสารสำหรับเด็กที่มีอายุไม่เกิน 18 ปี

  1. สูติบัตรฉบับภาษาไทย / อังกฤษ
  2. กรณีเดินทางพร้อมกับบิดา มารดา ต้องยื่นหนังสือรับรองจากสถาบันการศึกษา
  3. กรณีไม่ได้เดินทางพร้อมกับบิดา มารดา หรือเดินทางไปกับบิดา หรือมารดา ท่านใดท่านหนึ่งเพียงท่านเดียว จะต้องขอหนังสือยินยอมจากอำเภอหรือสำนักงานเขตตามทะเบียนบ้าน โดยที่บิดาหรือมารดาผู้ซึ่งไม่ได้เดินทาง จะต้องไปทำเอกสารเพื่ออนุญาตให้บุตรเดินทางไปต่างประเทศกับผู้ปกครองอีกท่านหนึ่งได้ โดยต้องมีลายมือชื่อจากนายอำเภอหรือผู้อำนวยการเขต และลงตราประทับจากราชการอย่างถูกต้องทั้งฉบับภาษาไทยและภาษาอังกฤษ

2.7. กรอกแบบฟอร์มสำหรับกรอกข้อมูลยื่นวีซ่า

แบบฟอร์มนี้จะเป็นแบบฟอร์มที่ให้ผู้เดินทางกรอกรายละเอียดต่างๆ ได้แก่ ข้อมูลเกี่ยวกับหนังสือเดินทาง, ข้อมูลต่างๆ ของผู้เดินทางทั้งข้อมูลเกี่ยวกับอาชีพ หรือหากกำลังศึกษาอยู่ให้ลงรายละเอียดของสถานที่ศึกษา, ข้อมูลเกี่ยวกับการเดินทางไปต่างประเทศ และค่าใช้จ่ายในการเดินทาง

ในการยื่นวีซ่า ทางสถานทูตจะเก็บหนังสือเดินทางไว้จนกว่าจะได้รับการอนุมัติผลวีซ่า ไม่สามารถนำหนังสือเดินทางออกมาใช้ได้ โดยระยะการพิจารณาวีซ่าจะใช้เวลาไม่น้อยกว่า 15 วันทำการ ไม่รวมวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ วันหยุดนักขัตฤกษ์ และวันหยุดของทางสถานทูต ทั้งนี้การพิจารณาผลวีซ่าจะขึ้นอยู่กับการพิจารณาของทางสถานทูตด้วย

ข้อมูลจาก บริษัท เบสท์อินเตอร์เนชั่นแนลทราเวลแอนด์เอเจนซี่ จำกัด

สรุป

การเดินทางท่องเที่ยวยุโรปถือเป็นอีกหนึ่งความฝันของใครหลายคน โดยเฉพาะเส้นทางยอดนิยมอย่างทั้งยุโรปตะวันตก ยุโรปตะวันออก และกลุ่มสแกนดิเนเวีย ซึ่งในแต่ละเส้นทางก็จะเต็มไปด้วยแหล่งท่องเที่ยวสวยงามทั้งธรรมชาติ ประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรมที่น่าหลงใหลมากมาย และก่อนเดินทางสิ่งที่จะขาดไม่ได้เลยก็คือการทำวีซ่าเชงเก้น ซึ่งการเตรียมเอกสารอย่างรอบคอบและเป็นระเบียบจะช่วยให้ขั้นตอนการขอวีซ่าราบรื่น และทำให้พร้อมสำหรับการออกเดินทางไปสัมผัสเสน่ห์ของยุโรป หากสนใจสอบถามสามารถแอดไลน์ LINE ID : @lovelysmiletour เพื่อสอบถามเพิ่มเติมได้เลย