ฟาร์มโทมิตะ เป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวในเมืองฟุราโนะ จังหวัดฮอกไกโด ที่สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวได้มากมาย แต่ที่มีชื่อเสียงมากที่สุดก็จะเป็นทุ่งดอกลาเวนเดอร์ค่ะ และนอกจากนี้ยังมีดอกไม้หลายหลายสายพันธุ์ให้ชมอีกด้วยนะคะ ทำให้ที่นี่กลายเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางของการท่องเที่ยวในจังหวัดฮอกไกโดเลยก็ว่าได้ค่ะ ซึ่งวันนี้เราจะมาแนะนำและพาเที่ยวชมฟาร์มโทมิตะกันค่ะ ว่าจะมีอะไรน่าสนใจและดึงดูดนักท่องเที่ยวทัวร์ญี่ปุ่นได้มากขนาดนี้ ตามไปอ่านกันได้เลยค่ะ
1.ประวัติความเป็นมา
ฟาร์มโทมิตะ (Tomita Farm) เป็นฟาร์มที่ตั้งอยู่ในเมืองนากะฟุราโนะ จังหวัดฮอกไกโด ประเทศญี่ปุ่น อยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของซับโปโร ซึ่งฟาร์มแห่งนี้ก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 1903 โดยนายโทกูมะ โทมิตะ ที่เป็นเกษตรกรจากจังหวัดฟูกูอิ ก่อนที่ในปี 1958 จะได้มีการเริ่มปลูกต้นลาเวนเดอร์เพื่อใช้ทำน้ำมันหอมระเหย โดยมีพื้นที่กว้างกว้างสุดประมาณ 1,400 ไร่ในปี 1970 ก่อนที่จะลดขนาดพื้นที่ลงมา และต่อมาในปี 1976 ได้มีกลุ่มบริษัทการรถไฟญี่ปุ่น (JR) ได้นำภาพทุ่งลาเวนเดอร์ที่สวยที่สุดของฟาร์มโทมิตะไปใช้ในภาพบนปฎิทิน ทำให้มีนักท่องเที่ยวทัวร์ฮอกไกโดจำนวนมากมาเยี่ยมชมดอกลาเวนเดอร์จากทั่วญี่ปุ่น และตั้งแต่นั้นมาก็ได้เริ่มพัฒนาฟาร์มให้เป็นแหล่งท่องเที่ยว มีการปลูกดอกไม้หลากหลายสายพันธุ์ สร้างเรือนกระจก สร้างพิพิธภัณฑ์ และร้านค้าตามาค่ะ
เว็บไวต์ทางการ https://www.farm-tomita.co.jp/
2.สถานที่น่าสนใจภายในฟาร์ม
2.1 ทุ่งดอกไม้
2.1.1 ทุ่งลาเวนเดอร์แบบดั้งเดิม (Traditional Lavender Field)
ฟาร์มโทมิตะ มีทุ่งลาเวนเดอร์ที่กว้างใหญ่ด้วยกันถึง 3 แห่งเลยค่ะ แต่ที่โดดเด่นในหมู่ลาเวนเดอร์ก็คือทุ่งลาเวนเดอร์แบบดั้งเดิมนั่นเองค่ะ และเป็นอีกหนึ่งทุ่งลาเวนเดอร์ที่เก่าแก่ที่สุดในญี่ปุ่น เป็นทุ่งแรกๆที่เริ่มต้นทำฟาร์มของโทมิตะเลยค่ะ ในช่วงต้นเดือน-กลางเดือนกรกฎาคม เต็มไปด้วยดอกลาเวนเดอร์สีม่วงสดสวยงามมากค่า
2.1.2 ทุ่งลาเวนเดอร์ฟอเรสต์ (Lavender Forest Field)
นอกเหนือจากทุ่งลาเวนเดอร์แบบดั้งเดิมแล้ว ก็จะมีทุ่งลาเวนเดอร์ฟอเรสต์ ซึ่งจะอยู่ไกลออกไปตามเนินเขา ทุ่งแห่งนี้จะมีดอกลาเวนเดอร์ด้วยกันถึง 2 สายพันธุ์ ได้แก่ ดอกลาเวนเดอร์พันธุ์ Noushi Hayazaki และ Okamurasaki ค่ะ
ช่วงปลายเดือนมิถุนายนเป็นฤดูชมดอกลาเวนเดอร์ Noushi Hayazaki และในช่วงกลางเดือนกรกฎาคมเป็นเวลาเหมาะสมที่สุดในการชมดอกลาเวนเดอร์พันธุ์ Okamurasaki ที่บานสะพรั่ง ทั้ง 2 สายพันธุ์ให้ความสวยงามที่แตกต่างกันและผสมผสานกับใบไม้สีเขียวของต้นเบิร์ชที่อยู่บนยอดเขา
2.1.3 ทุ่งลาเวนเดอร์ตั้งอยู่ใจกลางฟาร์ม (Sakiwai Field)
ทุ่ง Sakiwai จะตั้งอยู่ใจกลางของฟาร์มโทมิตะเลยค่ะ ซึ่งในทุ่งนี้จะมีดอกลาเวนเดอร์ประกอบไปด้วยลาเวนเดอร์ 4 สายพันธุ์ด้วยกัน ได้แก่ Okamurasaki, Yotei, Hanamoiwa และ Noshi Hayazaki ทั้ง 4 สายพันธุ์จะมีสีที่แตกต่างกัน และได้มีการปลูกไล่ระดับสีของดอกลาเวนเดอร์อีกด้วย
2.1.4 ทุ่งอิโรโดริ (Irodori Field)
นอกจากฟาร์มโทมิตะจะมีชื่อเสียงในเรื่องการปลูกดอกลาเวนเดอร์แล้ว ที่นี่ยังมีการปลูกดอกไม้หลากหลายสายพันธุ์ให้นักท่องเที่ยวได้มาเที่ยวชมกัน นั่นก็คือทุ่งอิโรโดริ หรือทุ่งดอกไม้ 7 สีนั่นเองค่ะ มีทั้งสีขาว สีม่วง สีแดง สีส้ม สีเหลือง สีชมพู และสีเขียว ที่ทอดยาวอยู่บนเนินเขาด้วยสีสันที่สวยงาม คล้ายกับสายรุ้งที่สดใดที่อยู่บนพื้นที่รอให้ทุกคนได้สัมผัสเลยค่ะ ช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดในการเยี่ยมชมทุ่งอิโรโดริคือช่วงกลาง-ปลายเดือนกรกฎาคมค่ะ
2.1.5 ทุ่งฮานาบิโตะ (Hanabito Field)
ทุ่งฮานาบิโตะ เป็นทุ่งแรกเลยค่ะที่สามารถมองเห็นจากทางเข้าของฟาร์ม ซึ่งจะอยู่ใกล้กับที่จอดรถบัส โดยทุ่งนี้จะมีดอกไม้หลากหลายชนิดที่ปลูกโดยไม่ได้คำนึงถึงฤดูกาลเลย นักท่องเที่ยวสามารถเยี่ยมชมและดื่มด่ำกับบรรยากาศของดอกไม้ที่บานสะพรั่ง ที่รอต้อนรับนักท่องเที่ยวที่ทางเข้าฟาร์มคือทุ่งฮานาบิโตะที่มีเสน่ห์แห่งนี่ ช่วงฤดูชมที่ดีที่สุดคือต้นเดือนกรกฎาคม-ปลายเดือนกันยายน
2.1.6 ทุ่งฤดูใบไม้ผลิและทุ่งใบไม้ร่วง (Spring and Autumn Field)
ถัดจากทุ่ง Sakiwai ก็จะเป็นทุ่งฤดูใบไม้ผลิและทุ่งฤดูใบไม้ร่วงค่ะ ซึ่งแต่ละทุ่งจะให้ความสวยงามที่แตกต่างกัน ทุ่ง Spring จะมีเป็นดอกป๊อปปี้ไอซ์แลนด์ ดอกป๊อปปี้ตะวันออก และดอกลูปิน และดอกไม้จะเริ่มบานสะพรั่งในช่วงกลางเดือนพฤษภาคม-มิถุนายนค่ะ
เมื่อทุ่ง Spring ค่อยๆจางหายไป ทุ่ง Autumn เริ่มมีชีวิตขึ้นมาด้วยดอกไม้หลากหลายสีสันสดใส อย่างเช่น ดอกเซจสีแดงเข้ม ดอกดาวเรือง ดอกไม้จะเริ่มบานในช่วงต้นเดือนมิถุนายน และสามารถเยี่ยมชมทุ่งนี้ได้ถึงปลายเดือนกันยายนลยค่ะ
2.1.7 ทุ่งดอกไม้บนยอดเขา (Hilltop Field)
ทุ่ง Hilltop เป็นทุ่งที่ได้สร้างขึ้นใหม่ในปี พ.ศ.2560 ทุ่งเเห่งนี้จะมีเป็นดอกป๊อปปี้สีแดง ขาว ชมพู และดอกไม้หลากหลายสีสันที่กระจายอยู่เต็มทุ่งบนภูเขาที่เงียบสงบ ซึ่งดอกไม้จะบานในช่วงต้น-ปลายเดือนกรกฎาคม
2.2 กิจกรรมที่น่าสนใจ
2.2.1 บ้านดอกไม้แห้ง (Dried Flower House)
บ้านหลังนี้มีการจัดแสดงการจัดดอกไม้แห้งที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในญี่ปุ่น โดยมี Len Alkemade เป็นชาวดัตช์ได้ออกแบบสร้างดอกไม้แห้งไว้ในบ้านแห่งนี้ ส่วนใหญ่จะเป็นดอกไม้สีสันสดใสเน้นฤดูใบไม้ผลิและฮานามิ (ชมซากุระ) และมีการผลิตดอกไม้และศิลปะดอกไม้ พวงหลีดลาเวนเดอร์และดอกไม้เเห้งอื่นๆ
2.2.2 แกลลอรี่ เฟลอร์ (Gallery Fleur)
แกลลอรี่ เฟลอร์ เป็นที่จัดแสดงภาพถ่ายของดอกไม้สี่ฤดูที่ฟาร์มโทมิตะ แกลลอรี่แห่งนี้ตั้งชื่อตามภาษาฝรั่งเศสที่แปลว่าดอกไม้ โดยภายในจะเป็นพื้นที่โล่งกว้าง สามารถเพลิดเพลินไปกับการชมภาพถ่ายแห่งนี้ได้ ที่นี่จะเปิดให้เข้าชมตลอดทั้งปี โดยไม่มีค่าใช้จ่ายค่ะ
2.2.3 เวิร์คช้อปน้ำหอม (Perfume Workshop)
อาคารแห่งนี้จะอยู่ด้สนหน้าสวนลาเวนเดอร์แบบดั้งเดิม ซึ่งภายในอาคารมีร้านขายน้ำหอม และเวิร์คช้อปผลิตภัณฑ์น้ำหอมที่สามารถชมกระบวนการผลิตได้อย่างใกล้ชิด นอกจากนี้ยังมีที่คั่นหนังสือที่สามารถทำที่คั่นหนังสือเป็นกลิ่นน้ำหอมที่ชื่นชอบได้ค่ะ และอาคารนี้ยังมีดาดฟ้าที่สามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ของทุ่งฤดูใบไม้ผลิ ทุ่งฤดูใบไม้ร่วง และภูเขาโทคาจิทั่วทั้งหุบเขาเลยค่ะ
2.2.4 เวิร์คช้อปโรงกลั่น (Distillery Workshop)
ที่นี่เป็นโรงกลั่นสกัดน้ำมันหอมระเหยของดอกลาเวนเดอร์ ซึ่งในช่วงฤดูเก็บเกี่ยวดอกลาเวนเดอร์ นักท่องเที่ยวสามารถมาชมโรงกลั่นสกัดน้ำมันสีเหลืองจากดอกลาเวนเดอร์สีม่วงได้ค่ะ
2.3 เมนูที่น่าสนใจ
2.3.1 ไอศกรีมลาเวนเดอร์ (Lavender Soft-serve ice cream)
และไฮไลท์ของที่นี่ที่พลาดไม่ได้เลย ต้องมาลองชิม ซอฟท์ครีม ไอศกรีมลาเวนเดอร์ ที่ทำมาจากดอกลาเวนเดอร์ มีกลิ่นหอมดอกลาเวนเดอร์ รสชาติเข้มข้น แนะนำให้ลองชิมในช่วงที่อากาศร้อนๆ รับรองเลยว่าฟินแน่นอนค่ะ
2.3.2 ขนมปังฟุราโนะเมล่อน (Furano Melon Bread)
ที่ร้าน Flower house จะเป็นร้านที่ขายขนมปังฟุราโนะเมลอนอบ แคนตาลูปหั่น และอื่นๆอีกมากมายเลยค่ะ ส่วนขนมปังฟูราโนะเมลอน ข้างในจะมีไส้ครีมที่มีส่วนผสมของน้ำเมลอนฟูราโนะ หอม อร่อยน่าทานมากๆค่ะ
2.4 ร้านขายของฝาก
นอกจากสวนดอกไม้แล้ว ภายในฟาร์มยังมีร้านค้ามากมายให้ได้ช้อปปิ้งซื้อของฝาก ของที่ระลึกอีกด้วยค่ะ ไม่ว่าจะเป็น น้ำหอมกลิ่นลาเวนเดอร์ สบู่ลาเวนเดอร์ น้ำมันหอมระเหยกลิ่นลาเวนเดอร์ ดอกไม้อบแห้ง และอื่นๆ อีกมากมายเลยค่ะ
ไปเที่ยวชมฟาร์มช่วงไหนดี
โดยโทมิตะฟาร์มจะเปิดให้เข้าระหว่างเดือนเมษายนไปจนถึงเดือนพฤศจิกายนเลยค่ะ
ช่วงเดือนมิถุนายน สวน Spring Field จะมีดอกไม้บานสะพรั่ง เช่น ดอกป๊อปปี้ไอซ์แลนด์ ดอกป๊อปปี้ตะวันออก และไม้ยืนต้นอื่นๆ
ช่วงกลางเดือนกรกฎาคม-ต้นเดือนสิงหาคม จะเป็นช่วงที่ดอกลาเวนเดอร์กลังบานสะพรั่งเต็มที่เลยค่ะ
ช่วงเดือนกรกฎาคม สวน Hilltop Field จะเป็นทุ่งดอกป๊อปปี้สีขาว สีแดง สีชมพูและดอกไม้หลากหลายสีสันที่กระจายอยู่ภายในสวน ซึ่งดอกไม้จะเบ่งบานที่สุดในช่วงนี้เลยค่ะ
ช่วงเดือนสิงหาคม-เดือนกันยายน จะเป็นทุ่งดอกทานตะวัน ดอกซัลเวีย และดอกคอสมอสค่ะ
การเข้าชม
ค่าเข้าชม ฟรี
เวลาเปิด-ปิด เปิดตลอด 24 ชั่วโมง
ร้านค้าภายในฟาร์มเปิด 08:30-17:30 น. ช่วงฤดูหนาวจะปิดเร็วกว่านี้ประมาณ 30 นาที
(บางร้านจะปิดในช่วงเดือนพฤศจิกายน-เมษายน)
วิธีการเดินทาง
สามารถเดินทางไปที่ฟาร์มด้วยรถยนต์หรือระบบขนส่งสาธารณะก็ได้ค่ะ
รถยนต์ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 45 นาที จากสนามบินอะซาฮิคาว่า (Asahikawa) บนทางหลวงสาย 237 หรือมาจากสนามบินชินจิโทเซะ (Shinchitose) บนทางด่วนโดโทะ ออกที่ทางแยก Shimkappu และจากตัวเมืองซับโปโร โดยทางด่วนโด ออกทางแยก Mikasa ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมงครึ่งค่ะ
รถบัส ป้ายรถบัส Nakafurano ของรถบัสฟุราโนะ เป็นป้ายที่ใกล้ฟาร์มมากที่สุด คือ สถานีทุ่งลาเวนเดอร์ Lavender Field Station) ของสาย JR Furano
รถไฟ จากสถานีรถไฟ JR Sapporo ให้ขึ้น JR Limited Express Super Kamui ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 25 นาที ไปลงที่สถานี Asahikawa จากนั้นเปลี่ยนไปขึ้น JR Furano Line ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง 5 นาที และไปลงที่สถานี Nakafurano
สรุป
ฟาร์มโทมิตะ ในฟุราโนะ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าหลงใหลที่ได้ผสมผสานความงดงามของธรรมชาติเข้ากับการปลูกดอกไม้ ตั้งแต่ทุ่งลาเวนเดอร์ที่โดดเด่นไปจนถึงดอกไม้สีรุ้งที่หลากหลายสายพันธุ์ หรือขนมไอศกรีม บอกเลยว่าใครที่ชื่อชอบดอกลาเวนเดอร์ หรือชื่นชอบการถ่ายภาพ ไม่ควรพลาดที่จะต้องไปเช็คอินที่ฟาร์มแห่งนี้สักครั้งหนึ่งเลยค่ะ หากท่านใดสนใจ ทัวร์ฮอกไกโด สามารถดูโปรแกรมได้ที่ลิงก์นี้หรือว่าจะโทรมาสอบถามได้เลยนะคะ