รีวิวทัวร์โตเกียว อิบารากิ ฟูจิ ซากุระ 5 วัน 3 คืน

แชร์บทความนี้

ประเทศญี่ปุ่นเป็นประเทศที่มีวัฒนธรรมอันเป็นเอกลักษณ์ มีเทคโนโลยีที่ทันสมัย ล้อมรอบไปด้วยธรรมชาติสวยงามมากมาย จึงทำให้เป็นหนึ่งในประเทศที่มีนักท่องเที่ยวเดินทางกันเป็นจำนวนมากตลอดทั้งปีและเป็นประเทศที่ควรมาเที่ยวสักครั้งในชีวิต ในบทความนี้จะมารีวิวทริปทัวร์ญี่ปุ่น 5 วัน 3 คืน ชมซากุระสวยๆ ช้อปปิ้งแบบจุใจ ถ้าพร้อมแล้วก็ไปอ่านรีวิวกันเลย

โตเกียว เป็นเมืองหลวงของประเทศญี่ปุ่น และเป็นหนึ่งในเมืองที่มีประชากรหนาแน่นและมีชีวิตชีวามากที่สุดในโลก เป็นเมืองที่ผสมผสานความทันสมัยเข้ากับวัฒนธรรมดั้งเดิมได้อย่างลงตัว ตั้งแต่ตึกสูงระฟ้า เทคโนโลยีล้ำสมัย ไปจนถึงศาลเจ้าเก่าแก่และย่านเมืองเก่าอันเป็นเอกลักษณ์ นอกจากนี้ก็ยังเป็นศูนย์กลางทางด้านเศรษฐกิจอีกด้วย ทัวร์โตเกียวจึงถือเป็นหนึ่งในทัวร์ที่นักท่องเที่ยวนิยมเดินทางและเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางของใครหลายๆ คนที่จะต้องมาเที่ยวให้ได้สักครั้งในชีวิต

ภาพรวมของโปรแกรมทัวร์โตเกียว

วันที่เดินทางโปรแกรมการท่องเที่ยวโรงแรม
วันที่ 1สนามบินดอนเมือง กรุงเทพฯ
วันที่ 2ท่าอากาศยานนานาชาตินาริตะ – เมืองอิบารากิ – พระใหญ่อุชิคุ ไดบุตสึ – ย่านเมืองเก่าคาวาโกเอะ – เช็คอินเข้าโรงแรมHotel Yukari-no-Mori Kawaguchiko
วันที่ 3พิธีชงชาญี่ปุ่น – หมู่บ้านน้ำใสโอชิโนะฮัคไค – เมืองโตเกียว – ชมซากุระสวนอูเอโนะ – ตลาดอะเมโยโกะ – เช็คอินเข้าโรงแรมThe Hedistar Hotel Narita
วันที่ 4วัดอาซากุสะ – ถนนนากามิเสะ – ตลาดปลาซึกิจิ – ชมซากุระสวนจิโดริกะฟุจิ – ช้อปปิ้งชินจูกุ – เช็คอินเข้าโรงแรมThe Hedistar Hotel Narita
วันที่ 5ท่าอากาศยานนานาชาตินาริตะ – สนามบินดอนเมือง

วันที่ 1

สนามบินดอนเมือง – ท่าอากาศยานนานาชาตินาริตะ

วันแรกจะเป็นวันของการเดินทาง จะมีการนัดหมายเวลา 20.00 น. ที่อาคารผู้โดยสารขาออก อาคาร 1 ชั้น 3 ประตู 1 สนามบินดอนเมือง บินโดยสายการบิน Thai AirAsia X เป็นเที่ยวบินกลางคืน จากนั้นไกด์ก็จะพาไปเช็คอินที่หน้าเคาน์เตอร์ เพื่อทำการรับตั๋วเครื่องบิน และโหลดกระเป๋า ไฟลท์ขาไปจะเป็นเวลา 23.25 – 08.00 น. เวลาที่ญี่ปุ่น ซึ่งที่ญี่ปุ่นเวลาจะเร็วกว่าประเทศไทย 2 ชั่วโมง สายการบิน AirAsia X เป็นสายการบิน Low Cost ที่นั่งค่อนข้างกว้าง และสะอาด

วันที่ 2

ท่าอากาศยานนานาชาตินาริตะ – เมืองอิบารากิ – พระใหญ่อุชิคุ ไดบุตสึ – ย่านเมืองเก่าคาวาโกเอะ – ทานอาหารเย็น – เข้าที่พัก

เมื่อเดินทางมาถึงที่สนามบินนาริตะ ก็จะต้องต่อแถวรอตรวจตม. เมื่อผ่านตม.เสร็จแล้วก็จะมารอรับกระเป๋า โดยจะมีเวลาประมาณ 10 นาทีในการเปลี่ยนชุด ล้างหน้าหรือเข้าห้องน้ำ เพื่อไปขึ้นรถบัสที่จะใช้ในการเดินทาง โดยรถบัสที่ใช้จะเป็นรถบัสขนาดประมาณ 40 ที่นั่ง มีที่เก็บกระเป๋าเดินทางใต้รถ และไม่มีห้องน้ำบนรถ เดินทางมาถึงที่ญี่ปุ่นก็มีฝนตกต้อนรับกันเลย ใครที่เดินทางไปญี่ปุ่นก็อย่าลืมตรวจเช็คสภาพอากาศกันก่อนเดินทางด้วย

bus
ภายในรถบัสที่ใช้ในการเดินทาง

สถานที่เที่ยวแรกของทริปก็คือไหว้พระใหญ่อุชิคุ ไดบุตสึ (Ushiku Daibutsu) ที่เมืองอิบารากิ เป็นรูปปั้นพระพุทธรูปปางยืน ที่หล่อจากทองสัมฤทธิ์ที่สูงที่สุดในโลก ส่วนสูง 120 เมตร (ส่วนของรูปปั้นสูง 100 เมตร ส่วนฐานสูง20 เมตร) ด้านทางเข้าก็จะมีร้านขายของฝากมากมายให้ได้เลือกซื้อ เมื่อเข้ามาบริเวณด้านในก็จะเต็มไปด้วยต้นซากุระหลายร้อยต้น มีบ่อน้ำอยู่ตรงกลาง นอกจากยังมีการเปิดให้เข้าชมภายในองค์พระพุทธรูปอีกด้วย ใครที่สนใจอยากเข้าชมภายในก็สามารถซื้อบัตรเพื่อเข้าชมได้ โดยจะยังไม่รวมค่าเข้าชม 800 เยนต่อท่าน

jp1
พระใหญ่อุชิคุ ไดบุตสึ
Ushiku Daibutsu 6
ร้านขายของฝากตั้งอยู่หน้าทางเข้า

เมื่อไหว้พระขอพรเสร็จแล้วก็จะเป็นเวลาประมาณเที่ยง ก็จะพาไปทานบุฟเฟ่ต์ปิ้งย่างที่ร้านอาหารกันต่อ หลังจากนั้นก็ไปต่อที่ย่านเมืองเก่าคาวาโกเอะ (Kawakoe) หรือเอโดะน้อย เป็นย่านเมืองเก่าที่อนุรักษ์วัฒนธรรมและสิ่งแวดล้อมสมัยเอโดะไว้ได้เป็นอย่างดี ด้วยอาคารไม้แบบคุระซุคุริ และร้านขนมพื้นเมืองกระจายอยู่ภายในย่านเมืองเก่า

kawagoe
บรรยากาศภายในคาวาโกเอะ

หลังจากนั้นก็จะเข้าเช็คอินที่โรงแรม ซึ่งโรงแรมที่ได้พักในวันนี้มีชื่อว่า Hotel Yukari-no-Mori Kawaguchiko จะมีไฮไลต์เป็นบุฟเฟ่ต์ขาปูยักษ์ให้ทานแบบไม่อั้น นอกจากนี้ก็จะยังมีเมนูอื่นๆ ให้ได้ทานอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นของทอดต่างๆ หรือขนมหวาน นอกจากนี้ที่โรงแรมก็ยังมีออนเซ็นให้แช่กันอีกด้วย โดยบ่อออนเซ็นจะเป็นบ่อรวมแยกฝั่งชายและหญิง ใครที่อยากลองแช่ออนเซ็นเพื่อผ่อนคลายความเมื่อยก็สามารถมาลองแช่กันได้เลย ในส่วนของบุฟเฟ่ต์ขาปูก็จะมีขาปูยักษ์ให้ทานได้แบบไม่อั้น นอกจากนี้ก็ยังมีเมนูอื่นๆ ให้ได้ทานอีกด้วย

crab 1
บุฟเฟ่ต์ขาปูยักษ์ที่สามารถตักได้แบบไม่อั้น
crab 2
เมนูอาหารเพิ่มเติม
hotel 1
ภายในห้องของโรงแรม Hotel Yukari-no-Mori Kawaguchiko
hotel 2
ห้องน้ำที่โรงแรม Hotel Yukari-no-Mori Kawaguchiko

วันที่ 3

พิธีชงชาญี่ปุ่น – หมู่บ้านน้ำใสโอชิโนะฮัคไค – เมืองโตเกียว – ชมซากุระสวนอูเอโนะ – ตลาดอะเมโยโกะ – เข้าที่พัก

หลังจากทานอาหารเช้าของที่โรงแรมเสร็จ เวลาประมาณ 08.00 น. ก็ถึงเวลาเดินทางไปยังสถานที่แรกของวัน นั่นก็คือ ร้านชงชา ซึ่งเป็นหนึ่งในร้านที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาล จะให้นักท่องเที่ยวได้ลองสัมผัสประกบการณ์การชงชาแบบญี่ปุ่นและวิธีการดื่มชาของชาวญี่ปุ่นแบบดั้งเดิม นอกจากนี้ภายในก็จะมีสินค้ามากมายให้ได้เลือกซื้อ ไม่ว่าจะเป็นโฟมล้างหน้าภูเขาไฟ ยาสระผม ครีมทาหน้า ชา วิตามิน และมีขนมต่างๆ ให้ได้ซื้อกลับไปเป็นของฝากอีกด้วย นอกจากที่จะได้เรียนรู้วิธีการชงชาแล้ว บริเวณด้านนอกยังเป็นอีกหนึ่งจุดถ่ายรูปยอดนิยมของนักท่องเที่ยวอีกด้วย นั่นก็คือ จากศูนย์ชงชาจะอยู่ติดกับคาวากุจิโกะ ซึ่งเป็นแม่น้ำที่สามารถมองเห็นวิวฟูจิ ช่วงที่เดินทางไปเป็นช่วงที่ท้องฟ้าเปิด เห็นภูเขาไฟฟูจิได้แบบชัดเจน ไม่มีเมฆมาบดบัง ถือว่าโชคดีมาก บริเวณนี้นักท่องเที่ยวสามารถถ่ายรูปเช็คอินกับภูเขาไฟฟูจิได้

tea
เรียนรู้การชงชาแบบญี่ปุ่น
fuji
ชมวิวฟูจิริมแม่น้ำคาวากุจิโกะ

หลังจากนั้นก็ได้เวลาไปยังสถานที่ท่องเที่ยวถัดไป หมู่บ้านน้ำใส หรือโอชิโนฮัคไค (Oshino Hakkai) ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ของวันนี้เลยก็ว่าได้ หมู่บ้านน้ำใสเป็นหมู่บ้านเล็กๆ ที่มีวิวด้านหลังเป็นภูเขาไฟฟูจิ อีกทั้งยังเป็นแหล่งต้นน้ำที่ทำให้เกิดน้ำใสสะอาด พร้อมอากาศบริสุทธิ์และธรรมชาติดีๆ ภายในก็จะมีบ้านหลังเล็กๆ จำนวนมาก มีร้านขายอาหารและของฝากให้ได้เลือกซื้อ โดยจะให้เวลาในการเดินชมประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง และจะพาไปยังร้านอาหารก่อนที่จะเดินทางเข้าเมืองโตเกียว จะใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง จะขึ้นอยู่กับสภาพการจราจรในตอนนั้นๆ ด้วย

ทัวร์โตเกียว 5 วัน 3 คืน
บรรยากาศภายในหมู่บ้านน้ำใส

เมื่อเดินทางถึงในเมืองโตเกียวก็จะเดินทางไปยังสวนอุเอโนะ (Ueno Park) ซึ่งเป็นสวนสาธารณะขนาดใหญ่ที่ขึ้นชื่อของการชมดอกซากุระแห่งหนึ่งในประเทศญี่ปุ่น มีดอกซากุระจำนวนมากบริเวณสองข้างทางเดิน มีกิจกรรมมากมายให้ได้ทำ เช่น พายเรือ ขอพรที่ศาลเจ้า ชมความน่ารักของเหล่าสัตว์ในสวนสัตว์ ที่บริเวณใกล้เคียงกับสวนอุเอโนะก็จะมีตลาดอะเมโยโกะ ที่มีของจำหน่ายมากมาย โดยมื้อเย็นจะเป็นมื้ออิสระ สามารถลองทานอาหารกันเองได้เลย จากนั้นไกด์ก็จะนัดหมายเวลาและจุดนัดพบเพื่อพากลับโรงแรม โดยโรงแรมที่พักในวันนี้จะมีชื่อว่า The Hedistar Hotel Narita เป็นโรงแรมที่อยู่ในเมืองนาริตะ ซึ่งเราจะได้พักที่โรงแห่งนี้ทั้งหมด 2 คืน ระหว่างทางกลับโรงแรมก็จะได้ผ่านชมโตเกียวสกายทรี (Tokyo Sky Tree) กันด้วย ซึ่งถือเป็นจุดแลนด์มาร์กแห่งหนึ่งของเมืองโตเกียวเลย

ueno 4 1
ชมซากุระที่สวนอุเอโนะกันแบบจุใจ
Tokyo Sky Tree
ระหว่างทางผ่านชมโตเกียวสกายทรี
hotel 3
ภายในห้องของโรงแรม The Hedistar Hotel Narita

วันที่ 4

วัดอาซากุสะ – ถนนนากามิเสะ – ตลาดปลาซึกิจิ – ชมซากุระสวนจิโดริกะฟุจิ – ช้อปปิ้งชินจูกุ – เข้าที่พัก

วันที่ 4 ถือเป็นวันสุดท้ายของการท่องเที่ยว สถานที่เที่ยวแรกของวันนี้ก็คือ วัดเซ็นโซจิ (Sensoji Temple) หรือที่คนไทยเรียกกันว่าวัดอาซากุสะ (Asakusa Temple) เป็นวัดเก่าแก่ที่นักท่องเที่ยวนิยมเดินทางมาเมื่อมาเที่ยวที่เมืองโตเกียว จุดเด่นของวัดจะอยู่ที่โคมแดงขนาดใหญ่ ที่เรียกว่าคามินาริมง (Kaminari-Mon) ถือเป็นสัญลักษณ์ของวัดอาซากุสะเลยก็ว่าได้ เพราะเป็นจุดที่นักท่องเที่ยวจะนิยมมาถ่ายรูปเช็คอินกัน ภายในวัดก็จะมีถนนช้อปปิ้งนากามิเสะ เป็นถนนช้อปปิ้งเก่าแก่ที่ทอดยาวจากประตูคามินาริมงไปยังตัววัด มีร้านค้าเก่าแก่ขายของที่ระลึก ขนม และของฝาก

asakusa 7
โคมแดงคามินาริมงวัดอาซากุสะ
nakamise
ถนนนากามิเสะ

หลังจากขอพรกันเสร็จแล้ว ก็จะมายังตลาดปลาซึกิจิ (Tsukiji Fish Market) เป็นตลาดปลาชื่อดังที่ตั้งอยู่ในเมืองโตเกียว ภายในจะมีอาหารทะเลสดๆ ให้ได้ลองทานกันมากมาย ไม่ว่าจะเป็นซาชิมิ ซูชิ หอยนางรมสด หมึกย่าง ไดฟูกุ ของหวาน อาหารแห้ง ไปจนถึงของฝาก จะเป็นช่วงที่ให้อิสระทานอาหารเที่ยงตามอัธยาศัย ใครที่มีร้านที่อยากลองทานก็สามารถไปลองทานกันได้เลย ข้อแนะนำในการทานอาหารที่นี่คือ ยืนรับประทานให้หมดที่หน้าร้านเพื่อที่จะได้ทิ้งขยะที่ร้านได้เลย เพราะว่าที่ตลาดจะไม่มีถังขยะให้ทิ้ง

Tsukiji 1
ซูชิหน้าปลาดิบต่างๆ
daifuku
ไดฟูกุสตรอวเบอร์รี่ลูกใหญ่มาก

หลังจากทานอาหารกับเสร็จก็จะได้เวลาไปยังสถานที่ต่อไป ซึ่งสถานที่เที่ยวต่อไปนั่นก็คือสวนจิโดริกะฟุจิ (Chidorigafuchi Park) ซึ่งเป็นหนึ่งในจุดชมดอกซากุระที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวมากมาย ตั้งอยู่บริเวณคูน้ำทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของพระราชวังอิมพีเรียล มีต้นซากุระราว 260 ต้น เรียงรายตามแนวคูน้ำ โดยนักท่องเที่ยวก็สามารถทดลองพายเรือที่คูน้ำแห่งนี้ได้เช่นกัน

Chidorigafuchi Park
สวนจิโดริกะฟุจิ

หลังจากชมความสวยงามของดอกซากุระกันอย่างจุใจแล้ว ต่อไปก็จะเป็นช่วงเวลาของการช้อปปิ้ง โดยย่านช้อปปิ้งที่จะไปนี้มีชื่อว่าชินจูกุ (Shinjuku) เป็นย่านช้อปปิ้งชื่อดังของเมืองโตเกียว เป็นหนึ่งในย่านช้ปปิ้งที่คึกคักและมีสินค้าให้เลือกหลากหลายที่สุดของโตเกียว เต็มไปด้วยชีวิตเมืองทันสมัย อาคารสูงระฟ้า แหล่งช้อปปิ้งขนาดใหญ่ ร้านอาหารทุกประเภท และยังเป็นศูนย์กลางการคมนาคมที่สำคัญอีกด้วย โดยไกด์จะให้เวลาได้เลือกซื้อของและทานอาหารเย็นแบบอิสระ ประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที หลังจากนั้นก็จะพาเข้าพักผ่อนที่โรงแรม

shinjuku
แมว 3 มิติ จุดถ่ายรูปยอดฮิตย่านชินจูกุ

วันที่ 5

ท่าอากาศยานนานาชาตินาริตะ – สนามบินดอนเมือง

วันที่ 5 วันสุดท้ายของโปรแกรม ก็จะเป็นวันเดินทางกลับประเทศไทย โดยจะมีรถบัสของโรงแรมบริการไปส่งถึงที่สนามบิน ไฟลท์ขากลับจะเป็นไฟลท์เช้า เวลา 09.15 – 14.05 น. ก็ได้เวลาเดินทางกลับประเทศไทยด้วยความประทับใจ

ความสะดวกสบาย

เป็นโปรแกรมที่มีไกด์ดูแลตลอดทริป มีรถบัสบริการ มีความสะดวกสบายอย่างมาก เหมาะสำหรับผู้ที่เที่ยวญี่ปุ่นเป็นครั้งแรกหรือผู้ที่ไม่ต้องการโปรแกรมแบบที่มีวันเที่ยวอิสระ โรงแรมที่ใช้จะเป็นโรงแรมระดับ 3 ดาวตามมาตรฐานของญี่ปุ่น ห้องมีขนาดประมาณ 20 ตารางเมตร ซึ่งจะค่อนข้างแคบ แต่ก็มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ห้องน้ำสะอาดมีที่ฉีดชำระแบบอัตโนมัติ

สรุป

ไม่ว่าคุณจะชอบความทันสมัย ศิลปะ วัฒนธรรม อาหาร หรือธรรมชาติ ที่เมืองโตเกียวก็มีให้ครบ เป็นจุดเริ่มต้นที่ดีของการสัมผัสประเทศญี่ปุ่น และเป็นเมืองที่ไปกี่ครั้งก็ไม่เบื่อ ทัวร์โตเกียวเป็นหนึ่งในเมืองที่อยากแนะนำให้ได้ลองมาเที่ยวสักครั้ง หากใครที่สนใจทัวร์โตเกียว สามารถแอดไลน์ LINE ID : @lovelysmiletour เพื่อสอบถามโปรแกรมได้เลย

แชร์บทความนี้