วัดไทเซคิจิ (Taisekiji Temple) เป็นวัดหลักของศาสนาพุทธนิกายนิชิเร็น ที่ตั้งอยู่ในเมืองฟูจิโนะมิยะ จังหวัดชิซุโอกะ ประเทศญี่ปุ่น โดยตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้อยู่เชิงภูเขาไฟฟูจิ มีความโดดเด่นด้วยความศักดิ์ศิทธิ์ทางจิตวิญญาณและบรรยากาศเงียบสงบท่ามกลางธรรมชาติ ซึ่งวันนี้เราจะมารีวิวว่าวัดแห่งนี้จะมีประวัติความเป็นมาและจุดไฮไลท์อะไรน่าสนใจบ้าง ใครที่มีแพลนจะเดินทางไปท่องเที่ยวทัวร์ญี่ปุ่น แนะนำอ่านรีวิวนี้ก่อนได้เลย
1. ประวัติความเป็นมา
วัดไทเซคิจิ เป็นวัดหลักของศาสนาพุทธนิกายนิชิเร็น (Nichiren Shoshu) ก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 1290 ในปีที่ 3 ของยุคโชโอ โดยพระนิโคะ โซนิน ซึ่งเป็นศิษย์เอกของพระนิชิเร็น ไดโซนิน ผู้ก่อตั้งนิกายนิชิเร็นแห่งศาสนาพุทธ ในปีค.ศ. 1282 หลังจากการมรณะภาพของพระนิชิเร็น พระนิโคะได้รับคำสั่งให้อนุรักษ์คำสอนของอาจารย์ จึงได้ก่อตั้งวัดแห่งนี้ขึ้นที่เชิงภูเขาไฟฟูจิ ด้วยการสนับสนุนจากตระกูลนาโนโจะ (Nanjo Tokimitsu) ซึ่งเป็นผู้มีศรัทธาแรงกล้าในคำสอนของนิกายนิชิเร็น
นับแต่นั้นเป็นต้นมา วัดแห่งนี้กลายเป็นศูนย์กลางสำคัญของนิกาย Nichiren Shoshu โดยใช้เป็นสถานที่สักการะพระโกฮอนซน (Gohonzon) อันเป็นวัตถุบูชาสูงสุด และใช้ประกอบพิธีกรรมทางศาสนาอย่างต่อเนื่องมากว่า 700 ปี และที่นี่ยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวทัวร์โตเกียวอีกด้วย

2. จุดไฮไลท์ภายในวัด
2.1 อาคารหลักโฮอันโด (Hoando Hall)
อาคารโฮอันโด คือหนึ่งในอาคารหลักที่สำคัญที่สุดของวัด สร้างขึ้นในเดือนเมษายน ปีค.ศ. 2000 และสร้างเสร็จในเดือนตุลาคม ปีค.ศ. 2002 เป็นที่ประดิษฐานไดโกะฮนซอน และใช้เป็นสถานที่ประกอบพิธีประจำวันของนิกายนิชิเร็น เช่นการสวดมนต์ “โกงเงียว” (Gongyo) และ “ไดโมคุ” (Daimoku) โดยศาสนิกชนจะรวมตัวกันที่นี่เพื่อสวดบท “นัมเมียวโฮเร็งเงเคียว” ซึ่งถือเป็นหัวใจของคำสอนนิกายนี้ โฮอันโดมีสถาปัตยกรรมแบบญี่ปุ่นดั้งเดิม โดยมีหลังคาทรงปิรามิตสองชั้น อาคารมีความกว้างประมาณ 75 เมตร ความยาว 116 เมตร และมีความสูงถึง 55 เมตร โดยภายในถูกออกแบบให้รองรับผู้ศรัทธาประมาณ 5,000 คน

2.2 อาคารมิเอโดะ (Mieido)
อาคารมิเอโดะ เป็นอาคารสำคัญทางศาสนาและประวัติศาสตร์ของวัดไทเซคิจิ ก่อตั้งครั้งแรกโดยนักบวชชั้นสูงองค์ที่สองนิคโคะ โชนิน สร้างขึ้นใหม่ในปี ค.ศ. 1632 และปรับปรุงใหม่ในปี 2013 ซึ่งสร้างขึ้นเพื่อเป็นสถานที่ประดิษฐาน รูปเหมือนของพระนิชิเร็น ไดโชนิน อาคารแห่งนี้มีความกว้าง 25 เมตร ความลึกและความสูง 23 เมตร อาคารมิเอโดะได้รับการกำหนดให้เป็นทรัพย์สินทางวัฒนธรรมที่จับต้องได้ประจำจังหวัดชิซุโอกะ

2.3 เจดีย์ 5 ชั้น (Goju no to)
เจดีย์ 5 ชั้น หรือในภาษาญี่ปุ่นเรียกว่า โกจู โน โท (Goju-no-tō) เป็นหนึ่งในจุดเด่นทางสถาปัตยกรรมของวัดไทเซคิจิ สร้างขึ้นเพื่อสื่อถึงหลักธรรมคำสอน และเป็นอนุสรณ์แห่งความศรัทธาในพระนิชิเร็น ไดโชนิน เจดีย์นี้ไม่ได้มีเพียงความงดงามภายนอก แต่ยังแฝงด้วยความหมายลึกซึ้งทางจิตวิญญาณ สร้่างขึ้นในปี ค.ศ. 1749 โครงสร้างทำจากไม้ทั้งหมด โดยไม่ใช้ตะปูแม้แต่ตัวเดียว ซึ่งเป็นเทคนิคดั้งเดิมของช่างฝีมือญี่ปุ่น และได้มีการบูรณะใหม่เริ่มในปี 2015 และบูรณะเสร็จสมบูรร์ในเดือนมกราคมปี 2017 โครงสร้างเจดีย์นี้มีความสูงประมาณ 34.3 เมตร

2.4 ประตูแซนมอน (Sanmon Gate)
ประตูแซนมอน เป็นประตูไม้เคลือบสีแดงขนาดใหญ่ที่สุดในภูมิภาคโทไกของญี่ปุ่น ถูกสร้างขึ้นในปี ปี ค.ศ. 1717 ปลายยุคเอโดะ เป็นผลงานช่างฝีมือโบราณที่ออกแบบด้วยสถาปัตยกรรมไม้ญี่ปุ่นโบราณ สลักลวดลายอย่างประณีตทั้งบนเสาและโครงหลังคา ในเดือนมกราคมของ ปี 2021 ได้มีการบูรณะปรับปรุงใหม่ครั้งใหญ่ของประตูแซนมอน โดยประตูมีความกว้างประมาณ 24 เมตร ลึก 11 เมตร และมีความสูง 22 เมตร และซุ้มประตูที่มีวิวด้านข้างของภูเขาไฟฟูจิสวยงาม

2.5 ประตูโซมอน (Somon Gate)
ประตูโซมอนตั้งอยู่บริเวณทางเข้าชั้นนอกสุดของวัด เรียกกันทั่วไปว่าประตูคุโระมง (ประตูดำ) ถูกสร้างขึ้นตั้งแต่สมัยโบราณในปี ค.ศ. 1522 และมีการสร้าขึ้นใหม่ในปี ค.ศ. 1880 มีโครงสร้างไม้ขนาดใหญ่ แข็งแรง มีหลังคาทรงโค้งแบบญี่ปุ่น สะท้อนถึงความสง่างามแบบเรียบง่าย

2.6 ทางเดินทัตชู ซานโด (Tatchu Sando)
ทัตชู ซานโด คือถนนทางเดินหลักที่ทอดยาวเข้าสู่ใจกลางวัดไทเซคิจิ เส้นทางนี้ถือเป็น “หัวใจของการเดินทางทางจิตวิญญาณ” สำหรับผู้ศรัทธาและนักแสวงบุญที่มาเยือนวัด เป็นทางเดินที่เชื่อมระหว่างประตูแซนมอนไปสู่อาคารหลักมิเอโดะ และโฮอันโดะ ในช่วงฤดูใบไม้ผลิจะมีต้นซากุระบานตลอดทางเดิน และช่วงฤดูใบไม้ร่วง ต้นไม้จะเริ่มเปลี่ยนสีสวยงาม

2.7 สวนโฮโชเอ็น (Hoshoen)
สวนโฮโชเอ็น เป็นสวนญี่ปุ่นแบบดั้งเดิมมีพื้นที่ประมาณ 5,300 ตารางเมตร สร้างขึ้นในช่วงฤดูใบไม้ผลิ ในปี ค.ศ. 1990 ซึ่งเป็นหนึ่งในโครงการเพื่อรำลึกถึงวันครบรอบ 700 ปี ในการก่อตั้งวัดไทเซคิจิ ในวันที่อากาศเเจ่มใส สามารถมองเห็นวิวภูเขาไฟฟูจิอย่างสวยงามที่สะท้อนลงบ่อน้ำเมีวเคียวอิเกะที่ตั้งอยู่กลางสวนอย่างงดงาม และในช่วงฤดูใบไม้ผลิ ดอกซากุระจะบานสะพรั่ง สีชมพูสวยงาม และช่วงใบไม้เปลี่ยนสี สวนแห่งนี้เต็มไปด้วยสีแดง ส้ม เหลือง

3. ข้อมูลเพิ่มเติม
ค่าเข้าชม | ไม่มีค่าใช้จ่ายในการเข้าชมบริเวณวัดและอาคารสมบัติ |
วันเวลาเปิด-ปิด | เปิดทุกวัน สำหรับการเดินชมบริเวณวัดและสวนโดยรอบ อาคารสมบัติ (Treasure Hall) วันเสาร์ – วันอาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ เวลา 09.00 – 16.00 น. วันจันทร์ และวันอาทิตย์ที่สองของเดือน เวลา 13.00 – 16.00 น. (เข้าชมได้ถึง 15.30 น.) *ห้องสมบัติอาจปิดให้บริการในบางครั้งเพื่อจัดกิจกรรมพิเศษ |
ข้อจำกัดในการเข้าชม | การเข้าชมอาคารบางแห่งอาจจำกัดเฉพาะผู้ที่เป็นสมาชิกของนิกาย Nichiren Shoshu หรือผู้ที่มีผู้แนะนำจากนิกาย |
เว็บไซต์ | https://nichirenshoshu.or.jp/jpn/index.html |
4. เที่ยวช่วงไหนดี
ช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดในการเยี่ยมชมวัด แนะนำเป็นช่วงฤดูใบไม้ผลิ และฤดูใบไม้ร่วง ทั้งสองช่วงนี้มีอากาศเย็นสบายและทัศนียภาพที่สวยงาม เหมาะสำหรับการเยี่ยมชมวัดไทเซคิจิอย่างยิ่ง
4.1 ฤดูใบไม้ผลิ (ปลายมีนาคม – ต้นเมษายน)
ในช่วงฤดูใบไม้ผลิที่วัดจะเต็มไปด้วยดอกซากุระบานสะพรั่งกว่า 5,000 ต้นทั่วบริเวณวัด บานสะพรั่งสีชมพูงดงาม โดยมีภูเขาไฟฟูจิเป็นฉากหลัง

4.2 ฤดูใบไม้ร่วง (ปลายตุลาคม – พฤศจิกายน)
ช่วงฤดูใบไม้ร่วง ใบไม้ภายในวัดจะเปลี่ยนเป็นสีแดง ส้ม และเหลือง สร้างบรรยากาศที่เงียบสงบและเหมาะสำหรับการเดินชมธรรมชาติ

5. วิธีการเดินทาง
การเดินทางจากโตเกียว สามารถนั่งชินคันเซ็นไปลงสถานี Mishima แล้วต่อรถไฟ JR ไปสถานี Fujinomiya จากนั้นนั่งแท็กซี่ประมาณ 20–25 นาทีถึงวัด หรือเลือกขับรถจากโตเกียวใช้เวลาราว 2.5 -3 ชั่วโมง
สรุป
วัดไทเซคิจิ เป็นวัดที่เต็มไปด้วยความศักดิ์สิทธิ์ และสงบ ที่นี่ไม่ใช่สถานที่ท่องเที่ยวเชิงพาณิชย์ แต่เป็นจุดหมายของผู้ที่ศรัทธาในพุทธศาสนาและผู้ที่แสวงหาความสงบทางจิตใจ บรรยากาศโดยรอบวัดเงียบ ร่มรื่น และมีวิวภูเขาไฟฟูจิที่งดงามอย่างน่าประทับใจ หากใครสนใจไปเที่ยวทัวร์ญี่ปุ่น สามารถทักมาสอบถามข้อมูลหรือแอดไลน์มาได้ที่ LINE ID : @lovelysmiletour ได้เลย