หากพูดถึงรีวิวทัวร์เฉิงตู ทุกคนก็จะนึกถึงเส้นทางธรรมชาติที่สวยงามที่เป็นจุดมุ่งหมายของใครหลายคนในการมาเที่ยวทัวร์จีน เพราะนอกจากเป็นเมืองที่มีเส้นทางท่องเที่ยวธรรมชาติที่สวยงามและมีชื่อเสียง เช่น สี่ดรุณี จิ่วจ้ายโกว หรือหวงหลงแล้วนั้น มณฑลเฉฉวนยังมีเมืองอื่น ๆ ที่มีเส้นทางธรรมชาติ ทุ่งหญ้าที่สวยงาม ภูเขาสูงที่เห็นวิวสวยงามไม่แพ้ยุโรปอยู่มากมาย บทความนี้จะพาไปชมเส้นทางธรรมชาติใหม่ ๆ ที่น้อยคนจะรู้จัก แนะนำให้อ่านรีวิวทัวร์เฉิงตู 7 วัน 5 คืนนี้กัน
วันที่ 1
สนามบินสุวรรณภูมิ
วันแรกของการรีวิวทัวร์เฉิงตูนี้จะเริ่มต้นกันที่สนามบินสุวรรณภูมิ โดยทางเจ้าหน้าที่หัวหน้าทัวร์จะนัดเจอกันที่สนามบินเวลา 21.30 น. เมือไปเจอกับเจ้าหน้าที่แล้วก็ได้ทำการแจกแท็กกระเป๋า โปรแกรมการเดินทาง พร้อมทั้งใบ ตม. ที่กรอกรายละเอียดให้ครบหมดทุกอย่าง เพียงแค่เขียนเบอร์โทรพร้อมเซ็นชื่อเท่านั้น จากนั้นก็ทำการเช็คอินที่เคาท์เตอร์ของสายการบิน Sichuan Airlines โดยมีเจ้าหน้าที่ีคอยให้ความสะดวก และต้อนรับอย่างดี จากนั้นก็ทำการเช็คอิน โหลดกระเป๋า และผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองของทางประเทศไทย และเดินไปรอขึ้นเครื่องที่ Gate C9 ของสนามบิน

วันที่ 2
สนามบินสุวรรณภูมิ – สนามบินเฉิงตูเทียนฟู่ เมืองเฉิงตู – รับประทานเช้า – รับประทานอาหารกลางวัน – เขาสี่ดรุณี – รับประทานอาหารค่ำ – เข้าที่พัก
ในการเดินทางวันนี้จากเดิมกำหนดการเดินทางเป็นช่วง 01.15 น. แต่ไฟล์ทบินมีการดีเลย์เป็น 01.55 น. ให้เดินทางมาถึงสนามบิน สนามบินเฉิงตูเทียนฟู่ เมืองเฉิงตูช้ากว่าเดิมเล็กน้อย เมืองเดินทางมาถึงแล้วก็ทำการต่อแถวเพื่อรอผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองของประเทศจีน แถวนี้จะค่อนข้างยาวเลยทีเดียว เมื่อนผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองแล้วก็เดินไปรับกระเป๋าที่สายพาน และไปรวมกับกลุ่มทัวร์ท่านอื่น ๆ เพื่อทำธุระส่วนตัว ล้างหน้า หรือเปลี่ยนชุดในเวลานี้ได้ จากนั้นเมื่อจำนวนลูกทัวร์ครบแล้วก็เดินทางไปที่หน้าสนามบินที่มีรถบัสรออยู่ โดยรถบัสเป็นรถบัสที่โอเคเลยทีเดียว มีที่นั่งประมาณ 40-45 ที่นั่ง และเบาะกว้าง นั่งสบาย

จากนั้นทัวร์ก็พาไปรับประทานอาหารเช้าที่โรงแรมกันก่อน โดยโรงแรมนี้ชื่อว่าโรงแรม Holiday In ของเมืองเฉิงตู โดยแวะรับประทานอาหารที่บริเวณห้องอาหารเช้าของโรงแรมชั้น 2 และเมื่อรับประทานอาหารเช้าเรียบร้อยแล้วก็ออกเดินทางกันต่อไปยังอุทยานสี่ดรุณี โดยระยะทางประมาณ 190 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4 ชั่วโมงด้วยกัน โดยบนรถระหว่างการเดินทาง ไกด์ก็ได้แนะนำวิธีการเตรียมตัวเบื้องต้นเมืองขึ้นไปยันที่สูงกว่าระดับน้ำทะเลมากๆ (สี่ดรุณีมีความสูงกว่าระดับน้ำทะเลประมาณ 3,840 เมตร) และมีการจำหน่ายกระป๋องออกเจน และยาสมุนไพรที่มีชื่อว่า หงจิ่งเทียน ที่เป็นสมุนไพรที่ช่วยลดอาการแพ้ที่สูงได้

และจากนั้นก็นอนพักบนรถไปเรื่อย ๆ โดยทางทัวร์จะมีการแวะพักรถเข้าห้องน้ำประมาณ 2 ชั่วโมง 1 ครั้ง ครั้งละ 20 นาที เพื่อให้ลูกทัวร์ได้ผ่อนคลายและไม่เมื่อยจนเกินไป เมื่อเดินทางมาใกล้ถึงสี่ดรุณีแล้ว สิ่งที่จะเกิดขึ้นได้บ่อยเลยคือมีดินสไลด์ขวางทางจราจร แนะนำให้ทุกท่านเดินทางแบบเผื่อเวลามาด้วย เมื่อเดินทางไปถึงด่านล่างของสี่ดรุณีก็แวะรับประทานอาหารเที่ยงกันก่อนที่ภัตตาคารอาหารของโรงแรมที่มีชื่อว่า JinLin Hotel เป็นโรงแรมที่อยู่ที่ทางเข้าอุทยาน

และจากนั้นก็เดินทางกันต่อไปบริเวรณรอขึ้นรถอุทยาน โดยบริเวณทางขึ้นมาฝนตกเล็กน้อย การเดินทางด้วยรถอุทยานใช้เวลาประมาณ 40-45 นาทีด้วยกัน โดยทางทัวร์จะพาแวะ 3 จุดหลักๆ จุดแรกจะเป็นจุดที่เป็นที่นิยมและเป็นจุดเช็คอินของทางอุทยานเลยก็ว่าได้ บริเวณนี้จะได้เห็นภูเขาสี่ลูก ที่เป็นที่มาของชื่อภูเขาสี่ดรุณี บริเวณรอบๆจะมีร้านขายของฝาก ของทานเล่น และมีประป๋องออกซิเจนขายด้วย ตรงจุดที่ 1 ไกด์ใ้เวลาเดินเที่ยวประมาณ 20 นาทีด้วยกัน


และไปกันต่อกับจุดที่ 2 Potala Peak ที่เป็นอีกจุดที่เป็นที่นิยมเช่นกัน เป็นทุ่งหญ้าและมีวิวภูเขาสวยงาม สามารถมองเห็นวิวได้ 360 องศา ในช่วงเดือน กรกฎาคมจะยังคงเห็นหิมะบนภูเขาที่ยังไม่ละลายอยู่เล็กน้อย แต่อากาศข้างบนจะยังคงค่อนข้างเย็น ประมาณ 13-15 องศา พร้อมวิวจากสภาพอากาศที่ฝนเพิ่งหยุดตก ให้วิวที่แปลกตาสวยงามไม่แพ้ช่วงอื่น ๆ เลยทีเดียว บริเวณจุดที่ 2 นี้ไกด์ก็ให้เวลาเดินเที่ยวประมาณ 20 นาทีเช่นกัน

และไปกันต่อที่จุดที่ 3 ที่มีชื่อว่า ทะเลสาบซื่อกูน่าซัว เป้นจุดที่สวยงามเมหือนภาพวาด วิวภูเขา และทะเลสาบพร้อมกับต้นสนบริเวณรอบ ๆ ที่ทำให้เกิดภาพที่สวยเหมือนกับภาพวาดในนิยายเลยทีเดียว

และจากนั้นไกด์ก็พาลงจากภูเขาสี่ดรุณี เพื่อแวะรับประทานอาหารที่โรงแรมเดิม เนื่องจากจะต้องเดินทางไปยังเมือง ตูเจียงเอี้ยน โดยโรงแรมที่พักในคืนแรกจะชื่อว่า MINGZHI SHANGCHUN HOTEL ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมงก็เดินทางมาถึงที่พัก เพื่อทำการเช็คอินเข้าโรงแรม และพักผ่อนตามอัธยาศัย

วันที่ 3
รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม – เข้าร่วมการประชุมกับคณะกรรมการท่องเที่ยวเมืองอาป้าโจว – รับประทานอาหารกลางวัน – หมู่บ้านทิเบตหยางหรงฮาเต๋อ – รับประทานอาหารค่ำ – เข้าที่พัก
วันที่ 3 ของการเดินทาง ไกด์ได้นัดหมายเวลาออกจากโรงแรม โดยในวันนี้จะนัดหมายเวลา 8.00 น. โดยทุกท่านสามารถรับประทานอาหารที่โรงแรมให้เรียบร้อยและเดินทางไปยันสถานที่ต่อไปกัน โดยจะเป็นการเดินทางไปที่เมืองเหวินชวน ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที เพื่อเข้าร่วมประชุมกับทางเข้าร่วมการประชุมกับคณะกรรมการการท่องเที่ยวเขตอาป้าโจว และรับประทานอาหารเที่ยงที่โรงแรม

จากนั้นก็เดินทางกันต่อไปเมืองถัดไป โดยเมืองนี้มีชื่อว่าเมืองเฮยสุ่ย ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง 30 นาที เป็นที่ตั้งของหมู่บ้านทิเบตหยางหรงฮาเต๋อ หมู่บ้านที่เบตที่ได้ชื่อว่าเป็นหมู่บ้านทิเบตที่สวยที่สุด บริเวณนี้เป็นหมู่บ้านที่มีชาวบ้านอาศัยอยู่จริง

และบางหลังได้มีการเปิดโฮสเตย์ ให้นักท่องเที่ยวได้เข้าพักได้ด้วย ใช้เวลาเดินเที่ยวชมบริเวณนี้ประมาณ 40 นาที บรรยากาศโดยรวมค่อนข้างดี อุณภูมิในวันนี้อยู่ทีประมาณ 15 องศา และมีวิวภูเขาล้อมรอบ สวยงาม

จากนั้นก็เดินทางไปกันต่อ เพื่อเดินทางไปยังที่พักที่ใช้ะพักผ่อนในคืนนี้ มีชื่อว่า โรงแรม DAGU GLACIER HOTEL เป็นโรงแรมที่อยู่ใกล้กับทางเข้าอุทยานต้ากู๋ปิงชวน เมื่อมาถึงบริเวณนี้อุณภูมิลดลงกว่าเดิมประมาณ 10 องศาด้วยกัน เมื่อเดินทางมาถึงโรงแรมแล้วก็เดินไปรับประทานอาการค่ำที่โรงแรมบริเวณชั้น 2 จากนั้นก็แยกย้ายพักผ่อนตามอัธยาศัย

วันที่ 4
รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม – อุทยานต้ากู๋ปิงชวน – รับประทานกลางวัน – อ่าววงพระจันทร์ – รับประทานอาหารค่ำ – เข้าที่พัก
ในวันที่ 4 ของรีวิวทัวร์เฉิงตูนี้ หลังจากรับประทานอาหารเช้าของโรงแรมบริเวณห้องอาหารเรียบร้อยแล้ว ไกด์ได้นัดหมายเวลาเช้ากว่าเดิมเล็กน้อย โดยนัดหมายเพื่อออกจากโรงแรมเวลาประมาณ 7.00 น. ด้วยกัน เพื่อทำการขึ้นไปยังอุทยานอุทยานต้ากู๋ปิงชวน ที่เป็นอีกหนึ่งในไฮไลท์ของการเดินทางมารีวิวทัวร์เฉิงตูในครั้งนี้เลยก็ว่าได้ เมื่อเดินทางมาถึงบริเวณทางขึ้นของอุทยานแล้วนั้น ก็ได้แวะไปยังพิพิธภัณฑ์ต๋ากูปิงชวนก่อน เพื่อเดินทางประวัติศาสต์และความเป็นมาของอุทยานแห่งนี้

และเดินทางต่อไปเพื่อขึ้นรถอุทยานเพื่อเดินทางไปถึงบริเวณสถาณีขึ้นกระเช้าใช้เวลาประมาณ 45 นาทีด้วยกัน ระว่างทางไกด์ก็ได้พาแวะชมความงามของจุดท่องเที่ยว 2 จุดด้วยกัน เป็นจุดทะเลสาป และเจดีย์เพื่อความเป็นสิริมงคล




และจากนั้นก็ขึ้นกระเช้าไปถึงยอดเขาต้ากู๋ปิงชวน โดยกระเช้านี้สามารถนั่งได้ประมาณ 8 ท่าน ใช้เวลาประมาณ 15 นาที ระกว่างทางก็มีทิวทัศน์ของภูเขาที่สวยงามในช่วงฤดูร้อน

แต่เมือไปถึงยอดเขา อากาศก็เย็นมากกว่าพื้นด้านล่าง และในช่วงนี้ยังคงมีหิมะให้ได้ชม ถึงแม้จะเป็นหิมะที่ค่อนข้างเก่า แต่ก็มีความสวยงามไม่แพ้ช่วงพีคหรือช่วงฤดูหนาวเลยทีเดียว ใครอยากมาในช่วงนี้รับรองไม่ผิดหวังแน่นอน เมื่อเดินถ่ายรูปให้พอใจแล้ว ก็สามารถเข้ามานั่งพักในคาเฟ่ด้านบนได้อีกด้วย สามารถนั่งจิบการแฟ หรือโกโก้ร้อนเพิ่มความอบอุ่นให้แก่กร่างกายได้



ไกด์ได้ให้เวลาอยู่บนนี้ประมาณ 30 นาที หรือใครที่ทนความสูงหรือความหนาวไม่ไหว สามารถลงมารอด้านล่างก่อนได้เช่นกัน เมื่อถึงเวลาก็นั่งกระเช้าลงไปไปด้านล่าง เพื่อเดินทางไปรับประทานอาหารที่ภัตตาคารท้องถิ่น และเดินทางต่อไปที่เมืองหงหยวน ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง 30 นาที เพื่อเดินทางไปสถานที่ถัดไปที่มีชื่อว่า อ่าววงพระจันทร์ เป็นหอคอยที่หากใครขึ้นไปชมจะได้เห็นวิวที่สวยงามของทุ่งหญ้า และโค้งของแม่น้ำเป็นรูปพระจันทร์เสี้ยวที่สวยงามมาก


และเดินทางต่อไปยังโรงแรมที่พักในคืนนี้ที่อยู่ในเมืองหงหยวน ที่มีชื่อว่า HONGYUAN HOMELAND HOTEL เพื่อรับประทานอาการค่ำที่ห้องอาหารที่ตัดกับโรงแรม และทำการเช็คอินเข้าที่พัก โดยเมืองนี้อยู่เหนือกว่าระดับน้ำทะเลประมาณ 3,500 เมตร ทำให้อากาศและออกซิเจนค่อนข้างเบาบาง โรงแรมนี้ก็เลยมีเครื่งออกซเจนอยู่บริเวณหัวเตียง เพื่ออำนวยความสะดวกแก่นัดท่องเที่ยวที่เข้าพักด้วย อากาศคืนนี้จะอยู่ที่ประมาณ 6-9 องศา ซึ่งค่อนข้างหนาวเย็นเลยทีเดียว

วันที่ 5
รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม – โค้งแรกของแม่น้ำหวงโห – รับประทานกลางวัน – ทะเลสาบดอกไม้ – รับประทานอาหารค่ำ – เข้าที่พัก
หลังจากรับประทานอาหารเช้าที่โรงแรมเรียบร้อยแล้ว ก็ได้เวลาเดินทางกันต่อไปที่โค้งแรกของแม่น้าฮวงโห ที่อยู่ไกลจากโรงแรมที่พักประมาณ 93 กิโลเมตร ใช้เเวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง บริเวณนี้จะเป็นนทุ่งหญ้าที่นักท่องเที่ยวที่อยากชมความงามสามารถขึ้นบรรไดเลื่อนขึ้นไปได้ และตอนลงต้องเตรียมร่างกายให้พร้อมสักหน่อย เพราะต้องลงบันไดค่อนข้างเยอะ ทำให้อาจมีอาการปวดขาตามมาได้


หลังจากแวะชมเรียบร้อยแล้ว ก็เดินทางกันต่อเพื่อทานอาหารที่ภัตตาคาร และเดินทางต่อไปยังเมืองหลี่เซี่ยน ระบะทาง 297 กิโลเมตร และใช้เวลาเดินทางประมาณ 5 ชั่วโมงด้วยกัน วิว 2 ข้างทางระหว่างนี้จะเป็นวิวภูเขาและทุ่งหญ้าโล่งแบบสุดลูกหูลูกตา และระหว่างทางได้แวะชมความสวยงามของทะเลสาบดอกไม้ โดยนั่งรถอุทยานคันเล็กเข้าไป ใช้เวลาประมาณ 10 นาที ลักษณะจะเป็นวิวของทุ่งหญ้าสีเขียว ที่มีดอกไม้สวยงามแทรกอยู่

และใช้เวลาสักพักก็เดินทางไปรับประทานอาหารค่ำที่ภัตตาคารอาหารท้องถิ่น และเดินทางเข้าที่พักที่มีชื่อว่า SHI DI HOLIDAY HOTEL ที่อยู่ที่เมืองอาป้าโจว


วันที่ 6
รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม – เทือกเขาเหลียนเป่าเย๋อเจ๋อ – รับประทานกลางวัน – รับประทานอาหารค่ำ – เข้าที่พัก
วันนี้หลังจากรับประทานอาหารที่โรงแรมเสร็จแล้ว ก็เดินทางไปต่อเพื่อเดินทางไปเทือกเขาเหลียนเป่าเย๋อเจ๋อ เป็นอีกหนึ่งในสถานที่ที่สวยงามและยังไม่เป็นที่รู้จักมากนัก เทือกเขานี้ถือเป็นเทือกเขาที่มีความสวยงาม และมีวิวทิวทัศน์ที่สวยงามมากตั้งแต่บริเวณที่ขึ้นรถอุทยานขึ้นไปใช้เวลาประมาณ 40 นาที สองข้างทางจะเป็นเขาหินปูนตัดกับสีเขียวของต้นไม้ และมีทะเลสาปให้แวะชมระกว่างทาง ถือว่าสวยงามมากๆ



และเป็นอีกหนึ่งในสถานที่ที่ควรมาเที่ยวชม จากนั้นก็ออกเดินทางกัน ระหว่างนั้นก็แวะทานอาหารเที่ยง และเดินทางกลับไปที่เมือง เหวินชวน ใช้เวลาเดินทางประมาณ 6 ชั่วโมง และรับประทานอาหารค่ำที่ภัตตาคาร ที่มีการแสดงรอบกองไฟให้ชมด้วย จากนั้นก็เดินทางเข้าสู่ที่พักเพื่อพักผ่อนตามอัธยาศัย



วันที่ 7
รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม – รูปปั้นหมีแพนด้านอนเซลฟี่ – รับประทานกลางวัน – ซอยกว้างซอยแคบ – สนามบินเฉิงตูเทียนฟู่ เมืองเฉิงตู – สนามบินสุวรรณภูมิ
เช้าวันสุดท้ายของการเดินทาง วันนี้โปรแกรมจะค่อนข้างสบาย ๆ เนื่องจากได้กลับเข้ามาในตัวเมืองเฉิงตู โดยจากเมืองเวินชวนใช้เวลาเข้ามาในตัวเมืองเฉิงตูใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วดมงกว่าๆ และได้แวะชมรูปปั้นหมีแพนด้าเซลฟี่ ที่ถือว่าเป็นแลนด์มาร์กของเมืองเฉิงตูเลยก็ว่าได้


บริเวณด้านข้างนั้นมีของขายมากมาย เช่นของฝาก ร้านกาแฟ และร้านขนม จากนั้นก็เดินทางกันต่อไปรับประทานอากรกลางวันที่ร้านอาหารหม้อไฟหม่าล่าของเมืองเฉิงตู

และเดินทางกันต่อไปยังซอยกว้างซอยแคป แหล่งช้อปปิ้งซื้อของฝากชื่อดัง บริเวณนี้จะมีประกอบก้วยซอยกว้างที่มีร้านขายของฝากมากมาย ตั้งแต่เสื้อผ้า ตุ๊กตา พวงกุญแจ กระเป๋า รวมถึงกิ้ฟชอบต่างๆให้นักท่องเที่ยวได้เลือกซื้อไปฝากคนที่บ้าน


อีกด้านจะเป็นซอยแคบ ที่มีอยู่หลายซอยก้วยกัน บริเวณนี้ก็ประกอบก้วยร้านค้าหลากหลาย เช่น ร้านเสื้อผ้า คาเฟ่ ร้านอาหาร ร้านนวด ร้าน Pop Mart และรวมไปถึง Starbuck อีกด้วย



ไกด์ให้เวลาช้อปปิ้งที่นี่เป็นเวลา 2 ชั่วโมงด้วยกัน และก็ถึงเวลาเดินทางไปที่สนามบินเฉิงตู เพื่อเตรียมตัวเดินทางกลับประเทศไทย โดยไฟล์ทกลับวันนี้จะเป็นเวลา 21.55 น. หลังจากเช็คอิน และโหลดกระเป๋าเรียบร้อยแล้ว ก้มีเวลาค่อนข้างเยอะในการเดินช้อปปิ้งใน Gate และหารอะไรทานภายในได้ จากนั้นเมื่อถึงเวลาก็เดินทางกลับประเทศไทย และถึงไทยเวลา 00.15 น. เช้าของวันที่ 16 ก.ค. (เวลาประเทศไทย) และปิดการรีวิวทัวร์เฉิงตู 7 วัน 5 คืนนี้ไปด้วยความประทับใจ
สรุป
โดยรวมของการรีวิวทัวร์เฉิงตูครั้งนี้ เมืองเฉิงตูนอกจากจะมีสถานทีเที่ยวทางธรรมชาติที่สวยงามแล้ว ยังมีแหล่งท่อเงที่ยวอื่นๆให้น่าค้นหาอีกมากมาย เป็นอีกหนึ่งเมืองที่แม้แต่ในช่วงฤดูร้อนก็ยังสามารถเที่ยวได้ เรียดได้ว่าสามารถเที่ยไวด้ตลอดทั้งปี และนอกจากที่เที่ยวทางธรรมชาติแล้ว ยังมีแหล่งวัฒนธรรมทิเบต รวมไปถึงแหล่งชอปปิ้งให้ได้เลือกซื้อสินค้าอีกมากมายอีกด้วย ใครที่สนใจทัวร์เฉิงตู สามารถแอดไลน์ LINE ID : @lovelysmiletour เพื่อสอบถามเพิ่มเติมได้เลย