ประเทศสิงคโปร์นอกจากจะมีแหล่งท่องเที่ยวที่โดดเด่นด้านสถาปัตยกรรม ความหรูหราทันสมัย แหล่งช้อปปิ้ง ร้านอาหารดังมากมาย อีกหนึ่งความโดดเด่นที่ทำให้นักท่องเที่ยวนิยมมาเที่ยวที่นี่นั่นก็คือ ” วัด ” นั่นเอง วัดดังประเทศสิงคโปร์เป็นอีกหนึ่งประเทศที่มีผู้ศรัทธาและนักท่องเที่ยวต่างเข้ามาขอพรมากมาย ไม่ว่าจะขอพรเรื่องโชคลาภ เสริมดวงชะตา เรื่องความรัก เรื่องการงาน หรือการขอลูก วัดที่สิงคโปร์ก็ได้รับความนิยมในด้านการมูเช่นกัน
แนะนำ 5 วัดดังประเทศสิงคโปร์ ดังนี้
1.วัดเยี่ยไห่ชิง (Yeh Hai Ching Temple)
วัดเยี่ยไห่ชิง เป็นวัดลัทธิเต๋าที่เก่าแก่ที่สุดในสิงคโปร์ โดยมีสถาปัตยกรรมและศิลปะแบบจีนโบราณ ได้รับการขนานนามอีกชื่อหนึ่งว่า “The Love Temple” วัดนี้จะขึ้นชื่อในเรื่องการขอพรด้านความรัก การขอคู่ครอง สำหรับใครที่จะขอพรด้านความรักต้องไม่พลาดที่จะไปคล้องด้ายแดงที่เทพเจ้า Elder of Moon หรือว่า เทพเย่ว์เหล่า นั่นเอง นอกจากจะขอพรด้านความรักได้แล้วยังมีเทพเจ้าองค์อื่นๆที่สามารถขอพรได้อีกด้วย โดยศาลาด้านซ้ายมือจะเป็นเทพเกี่ยวกับการขอบุตร และ ศาลาด้านขวามือจะเป็นเทพเกี่ยวกับการขอเรื่องความสำเร็จในด้านการศึกษา ทั้ง 2 ศาลานี้สังเกตได้ว่าจะถูกสร้างมาเหมือนคู่แฝดหรือคู่รักกันเลย
วิธีการไหว้ขอพร
1.รับธูปจากจุดด้านในและไหว้ 3 จุดจากด้านนอก (จุดธูปทั้ง 9 ดอกทีเดียว) โดยธูปแต่ละ 3 ดอกให้ขอพรเรื่องต่างๆ ดังนี้
ธูป 3 ดอก : ขอเรื่องการงานหรือการศึกษา
ธูป 3 ดอก : ขอเรื่องสุขภาพและความปลอดภัย
ธูป 3 ดอก : ขอเรื่องความรักและขอบุตรขอลูก
2.หลังจากขอพรเสร็จแล้ว รับเครื่องไหว้และทำบุญตามศรัทธา นำด้ายแดงไปคล้องไว้ที่เทพเจ้า Elder of Moon และให้นำเงินใส่ซองไว้ที่ฐานองค์เทพเจ้า หลังจากนั้นขอพรหรือขอเนื้อคู่
3.สำหรับใครที่ขอเนื้อคู่ เวลาขอให้ระบุลักษณะให้ชัดไปเลย เช่น อายุมากกว่า เป็นคนเกาหลี และขอให้เจอภายในกี่วัน หากมีเรฟสามารถพกเรฟไปได้ (ถ้าได้ตามที่ใจหวังแล้วแนะนำให้กลับมาขอบคุณท่านอีกครั้ง)
เวลาเปิดทำการ : 8.00 น. – 17.00 น.
วิธีการเดินทาง : สามารถนั่งรถไฟใต้ดิน ลงสถานี Raffles Place ทางออก D มาได้เลย
2.วัดโลยังทัวเปกกอง (Loyang Tua Pek Kong Temple)
วัดพุทธเก่าแก่อีกวัดหนึ่งในสิงคโปร์ เป็นหนึ่งในไม่กี่วัดที่มีการบูชาทั้งเทพเจ้าฮินดูและเทพเจ้าจีนอยู่ในวัดเดียวกัน โดยวัดนี้ขึ้นชื่อในเรื่องของการขอพรด้านโชคลาภและ Lucky Number ที่มีชื่อเสียงในสิงคโปร์ อีกทั้งยังมีการเปิดให้สวดมนตร์ตลอด 24 ชั่วโมงอีกด้วย เทพเจ้าหลักที่นี่คือ เทพเจ้าทู้ป๋อง และด้วยความที่เป็นวัดที่มีทั้งเทพเจ้าฮินดูและเทพเจ้าจีน เราจะยังพบเทพเจ้าฮินดู เช่น พระพิฆเนศ ให้ได้บูชาอีกด้วย ตามตำนานท้องถิ่นได้เล่าว่ามีคนเก็บกล่องกระดาษพบองค์แปะกงถูกทิ้งไว้จึงนำมาบูชาและทำศาลเจ้าเล็กๆจากกล่องกระดาษที่เก็บมาได้ หลังจากนั้นคนเก็บกล่องกระดาษก็ได้โชคจากเลขข้างกล่องเป็นเงินจำนวนมาก จึงนำมาสร้างวัดนี้ให้ใหญ่อลังการเพื่อตอบแทนองค์แปะกง เป็นอีกหนึ่งวัดดังประเทศสิงคโปร์สำหรับใครที่อยากขอพรเรื่องโชคลาภต้องไม่พลาด
วิธีการไหว้ขอพร
การไหว้พระให้ไหว้เดินวนตามหมายเลขบนป้าย เมื่อไหว้ในวัดครบทุกจุดแล้วก็ออกมาจุดธูปขดแล้วแขวนไว้ที่ลานวัด คนที่นี่เชื่อว่าคำอธิษฐานจะส่งไปถึงเทพเจ้าบนสวรรค์เพราะธูปยาวจะอยู่ได้นานกว่าธูปธรรมดา
เวลาเปิดทำการ : เปิด 24 ชั่วโมง
วิธีการเดินทาง : รถเมล์สาย 109, 19, 5, 518, 59, 9
3.วัดซวงหลิน (Lian Shan Shuang Lin Temple)
วัดซวงหลินเป็นวัดพุทธเก่าแก่ที่สุดในสิงคโปร์และเป็นสำนักสงฆ์ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกทางประวัติศาสตร์ มีต้นแบบทางสถาปัตยกรรมมาจากวัด Xi Chang Shi temple ในมลฑลฝูโจว ประเทศจีน ภายในวัดจะประกอบด้วยอาคารต่างๆมากมาย โดยจะมีประตูทางเข้าขนาดใหญ่ 2 ชั้น และมีเจดีย์สูง 7 ชั้น ด้านในของวัดจะมีทางเดินไปตามสวนบอนไซที่มุ่งหน้าไปยังวิหารหลักทั้ง 3 อาคารและจะมีวัด Cheng Huang อยู่อาคารทางด้าซ้ายมือ ซึ่งสร้างขึ้นให้กับยมบาลและเทพต่างๆ เนื่องจากวัดซวงหลินจะอยู่ค่อนข้างไกลจากตัวเมืองจึงทำให้วัดนี้ค่อนข้างเงียบสงบ ไม่ค่อยมีนักท่องเที่ยวและส่วนมากจะเป็นคนท้องถิ่นที่เข้ามาสวดมนตร์ ขอพรเป็นส่วนมาก ในเรื่องของการขอพรนั้นผู้คนจะเน้นขอพระในเรื่องโชคภลาภ การงาน อีกหนึ่งสิ่งที่มีชื่อเสียงของวัดนี้คือเครื่องรางศักดิ์สิทธิ์ของทางวัด มีเครื่องรางพลังต่างๆกว่า 20 ชนิด สามารถซื้อมาบูชาหรือว่าซื้อเป็นของฝากได้
เวลาเปิดทำการ : เปิดทุกวัน เวลา 7.30 น. – 17.00 น.
วิธีการเดินทาง : จะอยู่ห่างจากสถานีรถไฟใต้ดิน MRT Toa Payoh Station (NS19) ทางออก Exit C ประมาณ 1 กิโลเมตร เมื่อออกมาแล้วจะมีทั้ง Taxi และ bus สามารถต่อรถบัส สาย 57, 238 และ 535 ไปลงที่ป้าย Lor 6 Toa Payoh ประมาณ 3 ป้าย แล้วเดินต่ออีกประมาณ 300 เมตร หรือจะนั่ง taxi ไปเลยก็ได้
4.วัดพระเขี้ยวแก้ว (Buddha Tooth Relic Temple)
วัดทางพระพุทธศาสนาที่สำคัญและเป็นหนึ่งในวัดดังประเทศสิงคโปร์ที่มีชื่อเสียงอย่างมาก โดยมีพื้นฐานการออกแบบมาจากสถาปัตยกรรมสมัยราชวงค์ถังของจีน โดยสร้างขึ้นเพื่อเป็นที่เก็บพระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้า ซึ่งคือ พระทันตธาตุ หรือ ฟันของพระพุทธเจ้า นั่นเอง วัดแห่งนี้จะเป็นรูปแบบอาคารหลักอาคารเดียวโดยมีชั้นใต้ดิน 3 ชั้น ชั้นบนดิน 4 ชั้นและชั้นลอยกับชั้นดาดฟ้า นับรวมๆกันแล้วมีทั้งหมด 9 ชั้นเลยทีเดียว ชั้นที่เปิดให้เที่ยวชมจะเป็นชั้นบนดินที่มี 4 ชั้น โดยแต่ละชั้นมีสิ่งที่น่าสนใจ ดังนี้
ชั้นที่ 1 : ชั้นนี้จะเป็นห้องโถงขนาดใหญ่ ถูกแบ่งออกเป็น 2 ฝั่ง ฝั่งด้านหน้าและด้านหลัง บริเวณด้านหน้าเป็นห้องโถงใหญ่มีความสูงกว่า 8 เมตรเชื่อมต่อกับบริเวณชั้นลอย เป็นที่ประดิษฐานของพระประธานและมีพระพุทธรูปองค์เล็กประดิษฐานโดยรอบ ส่วนด้านหลังของห้องเป็นที่ประดิษฐานองค์เจ้าแม่กวนอิม โดยมีพระพุทธเจ้าและพระโพธิสัตว์องค์ต่างๆ ทั้งหมด 8 พระองค์ โดยความเชื่อตามศาสนาพุทธนิกายมหายานเชื่อว่าพระโพธิสัตว์จะปกป้องและประทานโชคลาภให้
ชั้นที่ 2 : ชั้นนี้จะเป็นส่วนจัดแสดงเครื่องประดับ รูปแกะสลักทางศาสนาและร้านขายของฝาก
ชั้นที่ 3 : ชั้นนี้จะเป็นส่วนของพิพิธภัณฑ์ที่มีโบราณวัตถุทางศานารวมไปถึงสิ่งของมีค่าจัดแสดงอยู่
ชั้นที่ 4 : ชั้นนี้เป็นชั้นที่ศักดิ์สิทธ์และสำคัญที่สุดของวัดพระเขี้ยวแก้ว เพราะเป็นที่ประดิษฐานของพระบรมสารีริกธาตุ ส่วนพระทันตธาตุ หรือ ฟัน ของพระพุทธเจ้าที่บรรจุไว้ในสถูปเจดีย์ขนาดใหญ่หนัก 3,600 กิโลกรัมประกอบด้วยทองคำแท้กว่า 320 กิโลกรัม สามารถเข้าไปชมได้ในจุดที่ได้รับการอนุญาตให้เข้าชมได้
วันและเวลาทำการ : เปิดทุกวัน เวลา 7.00 น. – 19.00 น.
วิธีการเดินทาง : สามารถนั่งรถไฟใต้ดินมาลงที่ สถานี China Town แล้วเดินออกที่ทางออก A ได้เลย
ข้อบังคับ : ต้องแต่งตัวสุภาพเรียบร้อย ไม่สวมเสื้อแขนกุด สายเดี่ยว นุ่งกระโปรงหรือกางเกงสั้น แต่ถ้าไม่ได้เตรียมมา ทางวัดก็มีให้บริการผ้านุ่งให้ยืมสวมเข้าไปชมด้านในได้
5.วัดเจ้าแม่กวนอิมท้งฮุดโจ้ว (Kwan Im Thong Hood Cho Temple)
วัดเก่าแก่ของศาสนาพุทธโดยมีอายุกว่า 100 ปี เป็นวัดศักดิ์สิทธิ์ของชาวจีนสิงคโปร์ที่นิยมมาขอพรไม่ว่าจะเป็นการงาน การเงิน และเรื่องอื่นๆ โดยวัดนี้จะมีความศักดิ์สิทธิ์ในเรื่องของการขอพรโดยเฉพาะเรื่องการงาน การเรียนและการขอลูก นอกจากนี้การขอพรด้านสุขภาพก็ยังเป็นที่นิยมของคนที่มาสักการะเจ้าแม่กวนอิมเช่นกัน อีกหนึ่งสิ่งที่มีชื่อเสียงของของวัดนี้คือ การเสี่ยงเซียมซี โดยชาวสิงคโปร์เชื่อกันว่าการเสี่ยงเซียมซีที่นี่แม่นมากที่สุด วิธีไหว้และวิธีการเสี่ยงเซียมซีมีดังนี้
1.วิธีไหว้ของคนสิงคโปร์จะจุดธูปแล้วยืนหันหน้าออกมาทางหน้าวัด เพื่อไหว้อธิษฐานกับฟ้าดินก่อน จากนั้นนำธูปไปปักที่กระถางธูป เสร็จแล้วจึงเดินเข้าไปนั่งไหว้เจ้าแม่กวนอิมด้านในของตัววัด โดยที่วัดจะห้ามถ่ายรูปด้านใน
2.หากต้องการเสี่ยงเซียมซีสามารถเดินเอาเงินไปหย่อนใส่ตู้บริจาคแล้วแต่ศรัทธาและเดินไปขอกระบอกเซียมซีมาเขย่าหลังจากนั้นเอาหมายเลขที่เราได้ไปบอกเจ้าหน้าที่ เจ้าหน้าที่จะให้ใบคำทำนายที่มีทั้งภาษาอังกฤษและภาษาจีน
วันและเวลาทำการ : เปิดเวลา 6.00 น. – 18.00 น. (วันและเวลาเปิด-ปิดต้องดูประกาศหน้าวัดอีกครั้ง)
วิธีการเดินทาง : อยู่ใกล้กับสถานีรถไฟ Bugis Station ที่สุด โดยจะมี 2 สายที่ผ่านคือ สายสีน้ำเงิน Downtown Line และสายสีเขียว East West Line ให้ออกที่ทางออก A เดินไปที่ถนน Rochor Road แล้วตรงไปทางตึก Albert Complex ที่อยู่ฝั่งตรงข้าม จะมีตรอกถนนคนเดินข้างๆตึกให้ข้ามถนนแล้วเดินตรงเข้าไปในตรอก ตรงไปเรื่อยๆประมาณ 400 เมตรจะเห็นวัดอยู่ทางขวามือ
สรุป
สำหรับใครที่เป็นสายมู อยากไหว้พระขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ สิงคโปร์ก็เป็นอีกหนึ่งประเทศที่มีวัดดังที่สวยงามให้ได้มาสักการะบูชาเยอะแยะมากเช่นกัน สามารถไปตามพิกัดวัดดังประเทศสิงคโปร์วัดดังประเทศสิงคโปร์ที่เลิฟลี่สไมล์ทัวร์แนะนำกันได้เลย หรือใครที่สนใจเที่ยวแบบโปรแกรมทัวร์ ทางเลิฟลี่สไมล์ก็มีแพคเกจทัวร์ที่ตอบโจทย์สายมูด้วยเช่นกัน สามารถคลิ๊ก ทัวร์สิงคโปร์ เพื่อดูแพคเกจทัวร์สิงคโปร์ทั้งหมดได้เลย หากสนใจจองทัวร์หรือสอบถามข้อมูล สามารถแอดไลน์มาได้ที่ LINE ID : @lovelysmiletour