ย่านช้อปปิ้งถนนโอโมเตะซังโดะ นาริตะ (Naritasan Omotesando Street) ในนาริตะ หรือที่รู้จักในชื่อ “ถนนนาริตะซัง โอโมเตะซันโดะ” เป็นถนนคนเดินที่ทอดยาวจากสถานีรถไฟ ไปยังวัดนาริตะซังชินโชจิ ที่อยู่ใกล้กับสนามบินนาริตะ ถนนแห่งนี้เป็นถนนที่ขึ้นชื่อเรื่องข้าวหน้าปลาไหล การแร่ปลาโชว์สดๆ และมีร้านค้า ร้านอาหารต่างๆ มากมาย วันนี้จะพามาชมกันว่าถนนแห่งนี้มีอะไรน่าสนใจบ้าง และสำหรับใครที่กำลังวางแผนไปเที่ยวทัวร์ญี่ปุ่น อ่านรีวิวนี้ก่อนได้เลย
1. ประวัติความเป็นมา
ถนนโอโมเตะซังโดะ นาริตะ มีประวัติยาวนานกว่า 300 ปี ตั้งขึ้นเพื่อรองรับผู้แสวงบุญที่เดินทางไปวัดนาริตะซันชินโชจิ ซึ่งเป็นวัดพุทธสำคัญที่สร้างตั้งแต่ปี ค.ศ. 940 ในสมัยเฮอัน ช่วงเอโดะถนนสายนี้เริ่มคึกคัก มีร้านค้าและที่พักได้เปิดขึ้นมาเพื่อรองรับนักเดินทาง ชื่อ “โอโมเตะซังโดะ” หมายถึง “ถนนหน้าวัด” ซึ่งเป็นทางหลักสำหรับเข้าสู่วัดใหญ่ ถนนแห่งนี้มีความยาวประมาณ 800 เมตร ทั้งสองฝั่งข้างทางเต็มไปด้วยร้านค้า ร้านอาหารและร้านขายของที่ระลึกมากกว่า 150 ร้านไปจนถึงทางเข้าวัด อาคารบ้านเรือนส่วนใหญ่ยังคงสถาปัตยกรรมญี่ปุ่นโบราณ

ปัจจุบันถนนแห่งนี้กลายเป็นย่านท่องเที่ยวยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวทัวร์โตเกียว ที่ได้ผสมผสานวัฒนธรรมเก่าแก่กับความทันสมัยได้อย่างกลมกลืน นอกจากจะได้สัมผัสบรรยากาศวัฒนธรรมญี่ปุ่นแบบดั้งเดิมแล้ว ยังเหมาะสำหรับการเดินเล่น ชิมอาหารพื้นเมือง และหาซื้อของฝากก่อนกลับได้อีกด้วย
2. แนะนำร้านอาหารและของฝาก
2.1 ร้านคินโทกิ โนะ อามะทาโร่ (Kintoki no Amataro)
ร้านขนมญี่ปุ่นที่เปิดมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1961 มีชื่อเสียงในด้าน “อามะทาโระยากิ” ขนมแป้งบางกรอบสอดไส้ถั่วแดงหรือถั่วขาว รสชาติหวานกำลังดี เหมาะสำหรับการทานเล่นระหว่างเดินชม
เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน เวลา 09.00 – จนกว่าสินค้าจะหมด ประมาณ 17:00–18:00 น.

2.2 ร้านคาวะโทโยะ (Kawatoyo Honton)
ร้านคาวะโทโยะ นี้เป็นร้านอาหารญี่ปุ่นที่มีชื่อเสียงยาวนานกว่า 100 ปี ตั้งอยู่บนโอโมเตะซังโดะ นาริตะร้านนี้เชี่ยวชาญในการปรุงปลาไหลย่าง (อุนางิ) โดยใช้เทคนิคการย่างแบบดั้งเดิมและซอสสูตรลับที่สืบทอดมาตั้งแต่ก่อตั้งร้านในปี ค.ศ. 1910
เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน เวลา 10.00 – 17.00 น . (เวลาอาจมีการเปลี่ยนแปลง)


2.3 ร้านโชเมเซ็น (Chomeisen)
เป็นร้านจำหน่ายสาเกที่มีชื่อเสียง ตั้งอยู่บนโอโมเตะซังโดะนาริตะ ภายในร้านมีสาเกให้เลือกมากมาย ตั้งแต่สาเกรสแห้งไปจนถึงสาเกรสหวาน รวมถึงเครื่องดื่มอื่น ๆ ร้านนี้เป็นร้านขายปลีกของโรงกลั่นสาเกทาคิซาวะ ฮอนเท็น (Takizawa Honten) ซึ่งก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 1872 และมีประวัติยาวนานกว่า 150 ปี
เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน วันจันทร์ – วันเสาร์ เวลา 10.00 – 19.00 น. วันอาทิตย์ เวลา 10.00 – 18.00 น.


2.4 ร้านซาบงซามะ (Sabonsama)
เป็นร้านจำหน่ายสบู่ล้างหน้าที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ที่มีลักษณะคล้ายเจลลี่ ที่มีผสมผสานส่วนผสมจากธรรมชาติ รูปทรงกลมคล้ายลูกแก้ว มีความยืดหยุ่นและสัมผัสนุ่มนวล มีให้เลือกหลายสีและหลายกลิ่น ซึ่งสบู่แต่ละสีจะมีความหมายที่เกี่ยวข้องกับความเชื่อของญี่ปุ่น เช่น ความปลอดภัยในบ้าน การสมหวังในความรัก และความโชคดีอีกด้วย สามารถซื้อเป็นของฝากของที่ระลึกได้เลย
เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน วันธรรมดา เวลา 10.00 – 17.00 น. วันเสาร์ – วันอาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ เวลา 10.00 – 17.30 น.


2.5 ร้านขนมเซมเบ้ (Sakuraya Honten)
เป็นร้านเซมเบ้ข้าวเกรียบญี่ปุ่นเก่าแก่ที่เปิดบริการมานานกว่า 80 ปี ที่มีชื่อเสียงในด้านเซมเบ้ย่างถ่านรสซอสถั่วเหลือง ข้าวเกรียบที่ย่างด้วยถ่านไม้จนกรอบและหอม มีรสชาติเข้มข้นจากซอสถั่วเหลืองสูตรพิเศษของทางร้าน เหมาะสำหรับซื้อเป็นของฝาก หรือทานเล่นได้
เวลาเปิด-ปิด : เปิดเวลา 10.00 – 17.00 น. ร้านปิดวันพุธ

3. เที่ยวช่วงเดือนไหนดี
ถนนโอโมเตะซังโดะ ในเมืองนาริตะ สามารถเที่ยวได้ตลอดทั้งปี แต่ถ้าต้องการสัมผัสบรรยากาศที่สวยงามและพิเศษยิ่งขึ้น ช่วงเวลาที่แนะนำ ดังนี้
ช่วงเดือน | จุดเด่น |
---|---|
ช่วงฤดูใบไม้ผลิ (มีนาคม – พฤษภาคม) | ช่วงนี้อากาศเย็นสบาย อุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ 10-20 องศา ซากุระบานรอบวัดนาริตะซังและตามถนน สร้างบรรยากาศโรแมนติกและเหมาะกับการถ่ายภาพ |
ช่วงฤดูใบไม้ร่วง (ตุลาคม – พฤศจิกายน) | ช่วงนี้อากาศเย็นสดชื่น อุณหภูมิประมาณ 12-20 องศา ใบไม้เริ่มเปลี่ยนสีบริเวณรอบวัด และตลอดสองข้างทาง |
ช่วงปีใหม่ (ปลายเดือนธันวาคม – ต้นมกราคม) | ช่วงนี้เป็นช่วงอากาศเริ่มหนาวเย็น เป็นช่วงงานเทศกาลปีใหม่และกิจกรรม “ฮัตสึโมเดะ” ปีใหม่ที่วัดนาริตะซัง ถนนเต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวและร้านค้าเปิดขายของตลอดทางอย่างคึกคัก |
** หลีกเลี่ยงช่วงหน้าฝน (มิถุนายน – ต้นกรกฎาคม) ซึ่งอาจมีฝนตกชุก และช่วงฤดูร้อน (กรกฎาคม – สิงหาคม) อากาศร้อนอบอ้าวและชื้น อุณหภูมิสูงถึง 30 องศาขึ้นไป
4. วิธีการเดินทาง
จากสนามบินนาริตะ สามารถนั่งรถไฟสาย JR หรือ Keisei มาลงที่สถานี Narita หรือ Keisei Narita ใช้เวลาเพียงประมาณ 10 นาที จากนั้นเดินต่ออีกเล็กน้อยประมาณ 5 นาที ก็จะถึงถนนโอโมเตะซันโดะ
สรุป
โดยสรุปแล้วถนนโอโมเตะซังโดะ นาริตะ ไม่ได้เป็นเพียงแค่ถนนคนเดินธรรมดา แต่เป็นการเดินทางผ่านวัฒนธรรม วิถีชีวิต และรสชาติแบบญี่ปุ่นดั้งเดิม หากมีเวลาไม่มากแต่ยังอยากสัมผัสกลิ่นอายญี่ปุ่นแท้ๆ แบบที่ไม่ต้องไปไกลจากโตเกียว ที่นี่เป็นอีกจุดหมายปลายทางที่ไม่ควรพลาดเลย หากใครสนใจไปเที่ยวทัวร์ญี่ปุ่น สามารถทักมาสอบถามข้อมูลหรือแอดไลน์มาได้ที่ LINE ID : @lovelysmiletour ได้เลย