7 ที่เที่ยวมัณฑะเลย์ ที่ต้องมาสักครั้ง

แชร์บทความนี้

มัณฑะเลย์ (Mandalay) อดีตเคยเป็นเมืองหลวงที่สำคัญและยังเป็นราชธานีแห่งสุดท้ายของประเทศพม่าอยู่ริมฝั่งแม่น้ำอิระวดี ก่อตั้งโดยกษัตริย์มินดงเมื่อ1857 และเมื่อปี 1885 ประเทศพม่าได้ตกเป็นเมืองขึ้นของจักรวรรษอังกฤษ จึงทำให้เมืองมัณฑะเลย์มีความสำคัญลดน้อยลง แต่ปัจจุบันได้รับการปรับปรุงจนกลายมาเป็นเมืองสำคัญเมืองหนึ่งที่อยู่ทางตอนเหนือของพม่ามีประชากรอาศัยอยู่มากเป็นอันดับสองของประเทศและมีความสำคัญทั้งในแง่เศรษฐกิจ การท่องเที่ยว ศิลปะและวัฒนธรรม สำหรับการท่องเที่ยวมีสถานที่ท่องเที่ยวมากมายที่เป็นจุดสนใจของทัวร์พม่าและนักท่องเที่ยวทั่วไปที่สำคัญๆมีหลายแห่งด้วยกันทั้งที่มัณฑะเลย์และบริเวณใกล้เคียง มาดูกันว่ามีสถานที่ใดบ้าง

1. พระราชวังมัณฑะเลย์ (Royal Palace) 

หรือพระราชวังมณเฑียรทอง สร้างขึ้นเมื่อปี 1857 โดยพระเจ้ามินดง ซึ่งเป็นพระมหากษัตริย์องค์แรกของอาณาจักรมัณฑะเลย์ เป็นพระราชวังบที่สร้างจากไม้สักทั้งหลังสร้างตามแบบและโครงสร้างเดิม ทำให้มีความงดงามเป็นอย่างยิ่ง มีประวัติเล่ากันมาว่าได้มีการสังเวยชีวิต ชาย หญิง และเด็ก จำนวน 52 คนได้นำศพมาฝังไว้ภายใต้เสาหลักเมือง ที่นำมาฝั่งไว้ใต้หลักเมืองเพราะว่าคนสมัยก่อนเชื่อว่าดวงวิญญาณของคนเหล่านี้จะปกป้องคุ้มครองเมืองให้ปลอดภัย ช่วงที่ถูกอังกฤษยึดครองอยู่นั้นพระราชวังมัณฑะเลย์ได้ถูกดัดแปลงให้เป็นสถานที่บัญชาการของกองทัพอังกฤษหรือเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า ป้อมดัฟเฟอริน ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่ญี่ปุ่นได้เข้ามายึดครองพม่า พระราชวังมัณฑะเลย์ได้ถูกทำลายเสียหายเป็นอย่างมากคงเหลือไว้เพียงกำแพงเท่านั้น พระราชวังแห่งนี้มีความกว้างใหญ่มาก ประกอบไปด้วยตำหนักน้อยใหญ่ลดหลันกันไป แต่ที่เป็นจุดไฮไลท์ของทัวร์พม่าก็คือ การขึ้นไปบนหอคอย เปี๊ยตตั๊ด เพื่อชมพระราชวังในมุมสูงโดยการขึ้นบันไดวน 121 ขั้น แต่เดิมเป็นที่ทอดพระเนตรของพระเจ้าแผ่นดินเพื่อดูบ้านเมืองและความเป็นอยู่ของราษฎร ปัจจุบันทางรัฐบาลพม่าได้ปรับปรุงดูแลซ่อมแซมและได้สร้างพระราชวังขึ้นมาใหม่ทดแทนแบบเดิมตามแบบจำลองที่ทหารอังกฤษได้ทำไว้ อาคารด้านในสุดของพระราชวังจะมีพิพิธภัณฑ์ย่อยๆซึ่งรวบรวมศิลปวัตถุของช่างสกุลมัณฑะเลย์ไว้มากมาย

2. เขามัณฑะเลย์ (Mandalay Hill) 

เป็นจุดชมวิวที่มีทัศนียภาพที่สวยงามที่สุดของเมืองมัณฑะเลย์ ซึ่งมีความสูงถึง 240 เมตร มีบันไดจากไหล่เขาขึ้นสู่ยอดเขาจำนวน 1729 ขั้น มีหลังคาคลุมบันไดตลอดจนถึงยอดระหว่างทางขึ้นขันไดจะมีศาลเล็กๆให้สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์เป็นระยะๆอยู่ 3 จุดคือ

  1. วิหารบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ
  2. พระพุทธรูปชเวยัตดอร์ขนาดใหญ่ประทับยืน 2 องค์
  3. วิหารซูตองพญา

3. วังไม้สักชเวนานต่อจอง (Golden Palace Monastery)

หรือวัดชเวนันดอร์ เป็นการสร้างด้วยไม้สักทั้งหลังเป็นสถาปัตยกรรมที่สวยงามตามแบบศิลปะของพม่าโดยแท้จริง งดงามด้วยลวดลายแกะสลักวิจิตรอ่อนช้อยตระการตา ทั้งบานประตู หน้าต่าง และหลังคาโดยการเน้นรายละเอียดเกี่ยวกับพุทธประวัติและทศชาติของพระพุทธเจ้า ลายสลักบนแผ่นไม้และลายประดับกระจกเหล่านี้เป็นฝีมือปราณีตของช่างหลวงชาวมัณฑะเลย์อย่างแท้จริง วัดแห่งนี้สร้างโดยพระเจ้ามินดงตั้งแต่ปี 1857 และได้ย้ายราชธานีจากอมรปุระมาอยู่ที่มัณฑะเลย์ หลังจากที่พระองค์สิ้นพระชนม์พระเจ้าธีบอพระโอรสก็ทรงยกวังหลังนี้ถวายให้เป็นวัด จึงได้เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า วัดชเวนันดอร์

4. วัดพระมหามัยมุนี (Maha Muni Temple) 

หรือวัดยะไข่ อยู่ห่างจากเมืองมัณฑะเลย์เพียง 3 กิโลเมตร เป็นส่วนที่สำคัญรองจากเจดีย์ชเวดากองในกรุงย่างกุ้ง ภายในวัดมีพระพุทธรูปองค์ใหญ่ที่มีความสำคัญองค์หนึ่งของพม่า พระมหามัยมุนีหรือที่รู้จักกันดีในนาม พระล้างหน้า ที่มีคนศรัทธาเป็นจำนวนมากจะเห็นได้จากมีทัวร์พม่าเข้ามาอย่างไม่ขาดสาย ทำให้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีความสำคัญมากแห่งหนึ่งในเมืองมัณฑะเลย์


พระมหามัยมุนี แปลว่า มหาปราชญ์ สร้างขึ้นโดยกษัตริย์ยะไข่ที่มีชื่อว่า พระเจ้าจันทรสุริยะเมื่อประมาณ 2,000 กว่าปีมาแล้ว หลังจากที่พม่ายึดอาณาจักรอารยกันได้แล้ว พระองค์จึงอัญเชิญมาประดิษฐานไว้ที่เมือบงมัณฑะเลย์ พระพุทธรูปองค์นี้มีเครื่องทรงเป็นกษัตริย์ปางมารวิชัยหล่อด้วยทองสำริดทั้งพระเศียรและพระอุระ ประดับด้วยอัญมนี องค์พระจะถูกสาธุชนที่มีความศรัทธาปิดทองซ้ำๆเรื่อยๆจนหนาเป็นลักษณะขรุขระทั้งองค์เหลือไว้แต่พระพักตร์ที่ถูกขัดจนเงาใสสะอาด เนื่องจากมีเรื่องเล่าต่อกันมาว่าพระพุทธเเจ้าทรงประทานลมหายใจให้พระมหามัยมุนีเพื่อเป็นตัวแทนสืบทอดพระพุทธศาสนา ชาวพม่าจึงเชื่อกันว่าพระมหามัยมุนีองค์นี้มีลมหายใจอยู่จริง จึงต้องมีประเพณีล้างพระพักตร์ตอนเช้าตั้งแต่เวลา 04.00 น.ของทุกวัน และได้ทำพิธีนี้สืบทอดกันมาจนถึงปัจจุบันนี้

5. วัดชเวอินบิน (Sawe In Bin Kyaung) 

เป็นวัดที่อยู่ทางตอนใต้ของแม่น้ำเอยาวดี อยู่ไม่ไกลจากวัดพระมหามัยมุนีมากนัก สร้างเมื่อปี 1895 มีงานแกะสลักไม้สักภาพพุทธประวัติยุคศตวรรษที่ 13 ฝีมือปราณีตอ่อนช้อยมีความงดงามและน่าทึ่งมาก เป็นวัดที่มีพระและเณรเป็นจำนวนมากมาจำพรรษาเพื่อศึกษาเล่าเรียนพระไตรปิฎกในวัดนี้

6. วัดกุโสดอ (Kuthodaw Pagoda)

เป็นวัดที่สำคัญคือเป็นที่เก็บพระไตรปิฎกฉบับสังคยานาครั้งที่ 5 ที่ถือเป็นการสังคยานาครั้งแรกในรอบ 2,000 ปี โดยพระเจ้ามินดงให้จารึกพระไตรปิฎก 84.000 พระธรรมขันธ์เป็นอักษรพม่าที่ถอดความมาจากภาษาบาลีไว้บนแผ่นหินอ่อนขนาดใหญ่ 729 แผ่น แต่ละแผ่นจะอยู่ในครอบมณฑปที่ตั้งอยู่ในวัด

7. สะพานไม้อูเบ็ง (U Bein Bridge) 

เป็นสะพานไม้สักที่เก่าแก่อายุกว่า 167 ปี และมีความยาวกว่า 12 กิโลเมตร สร้างขึ้นจากไม้สักจำนวน 1,086 ต้นเป็นไม้สักที่รื้อมาจากพระราชวังกรุงอังวะในปี ค.ศ.1783 ในสมัยพระเจ้าปดุงได้ย้ายเมืองอังวะมายังเมืองอมรปุระ นอกจากจะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงแล้ว ชาวพม่ายังใช้สะพานอูเบ็งเป็นที่สัญจรไปมาในชีวิตประจำวันอีกด้วย

สรุป

ทั้งหมดนี้เป็นส่วนหนึ่งของสถานที่ท่องเที่ยวทัวร์พม่าที่น่าสนใจของเมืองมัณฑะเลย์ ท่านสามารถไปเที่ยวได้อย่างสะดวกสบายตลอดทั้งปี สำหรับท่านที่อ่านแล้วสนใจที่จะไปเที่ยวเมืองมัณฑะเลย์ติดต่อสอบถามทัวร์พม่าได้ตลอดเวลา

แชร์บทความนี้