เกาหลี เป็นประเทศแรกที่ทำให้เราได้ออกไปสัมผัสและเปิดประสบการณ์ใหม่ๆ กับคำว่า ไปเที่ยวต่างประเทศเป็นครั้งแรก พอทำพาสปอร์ตและจองทัวร์เกาหลีเรียบร้อย ก็เตรียมพร้อมสำหรับการเดินทางสุดๆ
การเดินทางนั้นผ่านพ้นไปด้วยดีและการผ่านตม.ของเกาหลีก็เช่นกันค่ะ ในการท่องเที่ยวตลอด 5 วัน 3 คืนของเรานั้นเป็นไปอย่างสนุกสนาน ได้พบเห็นสิ่งต่างๆ มากมายเกี่ยวกับคนเกาหลี เช่น คนเกาหลีส่วนใหญ่จะพูดแต่ภาษาเกาหลี เว้นแต่คนที่ทำงานในโรงแรม ห้าง หรือร้านค้าก็จะสามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้ (แต่ภาษาอังกฤษของคนเกาหลีสำเนียงจะตลกๆหน่อยค่ะ)
นอกจากนี้ คนเกาหลีผิวพรรณดีมากและผมสวยมาก คนสูงอายุส่วนใหญ่ดูแข็งแรงและเดินเก่งมากๆ ค่ะ ที่สังเกตเห็นได้ชัดเลย คือ ในทุกมื้ออาหารที่เราทานมักจะมีเครื่องเคียงเป็นกิมจิและซุปสาหร่ายแทบจะทุกร้าน และภาพที่ได้เห็นจนชินตาตลอดๆ คือ คู่รักเกาหลีชอบใส่เสื้อคู่กันดูน่ารักมากๆ ถ้าเป็นครอบครัวก็จะใส่เหมือนกันทั้งพ่อแม่ลูกเลยค่ะ ถ้ามีโอกาสอยากให้ทุกท่านได้ไปลองสัมผัสประสบการณ์การท่องเที่ยวทัวร์เกาหลีดูนะคะ
บริเวณฐานหอคอย โซลทาวเวอร์
มาโซลทาวเวอร์ ต้องมาถ่ายรูปกับจุดคล้องกุญแจ
โซลทาวเวอร์ (SEOUL TOWER)
โซลทาวเวอร์ (SEOUL TOWER) หรือ หอคอยเอ็นโซล (N SEOUL TOWER) หรือ “นัมซันทาวเวอร์” (NAMSAN TOWER) ตั้งอยู่บนภูเขานัมซาน เป็นจุดท่องเที่ยวที่ถือว่าเป็นไฮไลท์สำคัญของกรุงโซล เพราะเป็นจุดชมวิวที่มองเห็นวิวทั่วทั้งกรุงโซล มีความสูงจากฐานหอคอยประมาณ 236.7 เมตร และมีความสูง 479 เมตรจากพื้นดิน คนที่มาเที่ยวที่นี่ส่วนมากจะเป็นคู่รัก ทั้งชาวเกาหลีและนักท่องเที่ยวต่างชาติ คู่รักส่วนมากจะเตรียมกุญแจมาคล้องตรงรั้วข้างบนโซลทาวเวอร์ เพราะมีความเชื่อว่าคู่รักที่ได้มาคล้องกุญแจที่นี่จะรักกันยาวนานตลอดไป (สมัยแรกๆ นิยมใช้ลูกกุญแจเล็กๆ เขียนข้อความสัญญารัก และชื่อของคู่รักลงไปในกุญแจ แต่ช่วงปีหลังๆ มานี้เริ่มมีการพัฒนาอุปกรณ์การคล้องเป็น เคสโทรศัพท์มือถือ, บัตร T-MONEY, โซ่จักรยาน, พลั่ว และอุปกรณ์แปลกๆ อีกหลายอย่างที่คู่รักรุ่นใหม่สามารถคิดได้ และนำมาใช้แทนลูกกุญแจ)
บรรยากาศภายในพระราชวังเคียงบ็อค
พระราชวังเคียงบ็อค
พระราชวังเคียงบ็อค ซึ่งเป็นพระราชวังไม้โบราณเก่าแก่ที่สุด สร้างขึ้นใน ค.ศ.1394 ในอดีตกว่า 600 ปีก่อน ภายในพระราชวังแห่งนี้มีหมู่พระที่นั่งมากกว่า 200 หลัง แต่ได้ถูกทำลายไปมากในสมัยที่ญี่ปุ่นเข้ามาบุกยึดครอง ทั้งยังเคยเป็นศูนย์บัญชาการทางการทหารและเป็นที่ประทับของ กษัตริย์ปัจจุบันได้มีการก่อสร้างหมู่พระที่นั่งที่เคยถูกทำลายขึ้นมาใหม่ในตำแหน่งเดิม ถ่ายภาพคู่กับพลับพรากลางน้ำ “เคียงเฮวรู” ที่ซึ่งเคยเป็นท้องพระโรงออกงานสโมสรสันนิบาตต่างๆ สำหรับต้อนรับแขกบ้านแขกเมือง
สวนสนุกเอเวอร์แลนด์
สวนสนุกเอเวอร์แลนด์ (Everland)
สวนสนุกเอเวอร์แลนด์ ซึ่งถูกขนานนามว่า ดิสนีย์แลนด์เกาหลีเป็นสวนสนุกกลางแจ้งที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ โดยมีบริษัทซัมซุงเป็นเจ้าของ ตั้งอยู่ท่ามกลางหุบเขา ท่านจะได้นั่งกระเช้าลิฟท์ และท่องไปกับโลกของสัตว์ป่าซาฟารี ชมไลเกอร์แฝดคู่แรกของโลก ที่นี่ท่านจะพบเจ้าป่าสิงโต และเสือดินแดนแห่งเทพนิยาย และสนุกกับเครื่องเล่นนานาชนิด อาทิเช่น สเปสวร์ รถไฟเหาะ หนอนสะบัด และชมสวนดอกไม้ซึ่งกำลังบานสะพรั่งอวดสีสันเต็มสวน (ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ เดือนมีนาคม – เมษายน เป็นสวนดอกทิวลิป, เดือนพฤษภาคม – เดือนมิถุนายน เป็นดอกกุหลาบ, เดือนสิงหาคม – เดือนกันยายน เป็นสวนดอกลิลลี่, เดือนตุลาคม – เดือนพฤศจิกายน เป็นสวนดอกเบญจมาศ) ชมกิจกรรมและการแสดงต่างๆ ด้วยบัตรเข้าชมแบบไม่จำกัดจำนวนรอบ
ใส่ชุดฮันบก ที่โรงเรียนกิมจิ
ใส่ชุดฮันบก สวยๆ น่ารักๆ
โรงเรียนกิมจิ
โรงเรียนสอนทำกิมจิ เพื่อให้ท่านเรียนรู้วัฒนธรรมการทำกิมจิและสนุกสนานเพลิดเพลินกับการทำกิมจิ และให้ท่านใส่ชุดฮันบกซึ่งเป็นชุดประจำชาติของเกาหลีพร้อมถ่ายภาพเป็นที่ระลึก
ไหว้พระที่วัดวาวูจองซา
วัดวาวูจองซา
วัดวาวูจองซา ซึ่งตั้งอยู่ใน วัดนี้สร้างขึ้นในปี 1970 โดยนักบวชแฮด๊อกเพื่อแสดงการตอบแทนความเมตตากรุณาของพระพุทธเจ้าในการรวมประเทศภายในมีรูปสลักสะสมจากพุทธศาสนิกชนทั่วโลกมากกว่า 3,000 ชิ้น โดยหนึ่งในรูปสลักที่มีชื่อเสียงมากที่สุด คือ พระเศียรของพระพุทธเจ้ามีความสูง 8 เมตรตั้งอยู่ที่หน้าประตูทางเข้าวัดและได้รับการบันทึกลงกินเนสบุ๊คให้เป็นรูปสลักที่ทำจากไม้ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก นอกจากนั้นภายในวัดยังมีพระพุทธรูปนอนขนาดใหญ่ที่สร้างจากไม้สนจีนที่นำมาจากอินเดีย
มาเกาหลี ต้องมาตามรอย Winter Love Song ที่เกาะนามิ
ถ่ายรูปสวยๆ กับรูปปั้นในภาพยนตร์ชุดเรื่อง Winter Lovel Song ที่เกาะนามิ
เกาะนามิ
เกาะนามิ ตั้งอยู่ที่เมืองชุนชอน ห่างจากกรุงโซลไปทางตะวันออก ประมาณ 63 กิโลเมตร เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของเกาหลีใต้ เกาะนามิมีรูปร่างเหมือนใบไม้ลอยน้ำ เป็นเกาะกลางแม่น้ำฮัน ซึ่งเกิดจากการสร้างเขื่อนชองพยอง โด่งดังจากซีรีย์ เพลงรักในสายลมหนาว ซึ่งใช้เกาะนามิเป็นสถานที่ถ่ายทำ เกาะนามิได้ชื่อตามนายพลนามิ ที่รับราชการตั้งแต่อายุ 17 ปี บิดาอยู่ในตระกูลสูงศักดิ์ ส่วนมารดาเป็นเจ้าฟ้าหญิง เขานำทัพกวาดล้างจลาจลในพื้นที่ภาคเหนือและตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศได้ทั้งหมด และได้รับตำแหน่งสูงเมื่อยังมีอายุเพียง 26 ปี แต่หลังจากเปลี่ยนรัชกาลใหม่ เขาก็ถูกใส่ร้ายว่าเป็นกบฏ และถูกประหารชีวิตพร้อมกับมารดาและพวกรวม 25 คน ต่อมา หลังผลัดเปลี่ยนรัชกาลใหม่อีกครั้ง ได้มีการพิสูจน์พบว่าข้อกล่าวหาทั้งหมดล้วนเป็นเท็จ เขาจึงได้รับคืนยศถาบรรดาศักดิ์ดังเดิม เกาะนามิเรียกตัวเองอย่างเก๋ไก๋ว่า NAMINARA REPUBLIC และเรียกตั๋วเรือข้ามฟากและตั๋วเข้าชมเกาะว่า VISA ทำให้นักท่องเที่ยวรู้สึกเสมือนข้ามมาเที่ยวรัฐๆ หนึ่งที่เป็นเอกเทศออกมาจากเกาหลี บนเกาะจะมีบรรยากาศร่มรื่น เต็มไปด้วย ต้นสน ต้นเกาลัด ต้นแปะก๊วย ต้นซากุระ ต้นเมเปิ้ล และต้นไม้ดอกไม้อื่นๆ ที่พลัดกันออกดอกเปลี่ยนสีให้ชมกันทุกฤดูกาล ทั้งเกาะไม่มีเสาไฟหรือสายไฟให้เห็นเลยซักต้นเพราะมันถูกฝั่งลงใต้ดินทั้งหมดเพื่อให้ไม่บดบังทัศนียภาพ และมีสุสานของนายพลนามิ ซึ่งยังคงตั้งอยู่ ณ เกาะแห่งนี้
ท้ายที่สุด ขอขอบคุณ คุณจูนและคุณฝน ที่แชร์ความประทับใจจากการไปทัวร์เกาหลีของ Lovely Smile Tour และถ่ายรูปสวยๆ มาฝากกันครับ