สถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่มีชื่อว่า คามิโคจิ เป็นสถานที่เที่ยวยอดนิยมอีกแห่งของญี่ปุ่นเลยก็ว่าได้ สถานที่แห่งนี้มีเส้นทางการเดินทางป่า ชื่นชมรรมชาติที่สวยงามตลอดทั้งปี รวมไปถึงสิ่งอำนวยความสะดวกภายใน เช่น โรงแรม จุดซื้อของฝาก เป็นอีกหนึ่งจุดมุ่งหมายสำคัญที่ควรมาทัวร์ญี่ปุ่นเลยก็ว่าได้
1.ข้อมูลทั่วไปของคามิโคจิ
คามิโคจิตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติจิงกุกุระกิ บนเทือกเขาหอ้ตรงวนาคาฮิยะ หรือเทือกเขาแอลป์ของญี่ปุ่น ในจังหวัดนางาโน่ ภูมิภาคชูบุ อยู่ห่างจากนาโงย่าประมาณ 100 กม. และห่างจากโตเกียวประมาณ 300 กม. สถานที่แห่งนี้มีลักษณะเป็นหุบเขากว้างประมาณ 14.5 ตร.กม. มีระดับความสูงประมาณ 1,500 เมตรจากระดับน้ำทะเล มีแม่น้ำอะซุสะและลำธารหลายสายไหลผ่าน นอกจากนี้ยังมีทะเลสาบธรรมชาติที่สวยงามหลายแห่ง โอบล้อมด้วยเทือกเขาและป่าสนที่อุดมสมบูรณ์ แหล่งท่องเที่ยวสำคัญ ได้แก่ น้ำตกคาปปะ บึงไทโช บึงทะชิโระ บึงเมียวจิน แม่น้ำอะซุสะ และเส้นทางเดินป่าธรรมชาตินานาสาย คามิโคจิเป็นที่นิยมท่องเที่ยวทัวร์โอซาก้าเชิงนิเวศมากในหมู่ชาวญี่ปุ่นและชาวต่างชาติ ด้วยทัศนียภาพอันงดงามและบรรยากาศสงบเย็นใจ
เปิดให้บริการ | ทุกวัน 05.00 – 19.00 น. |
พิกัด | Matsumoto, Nagano 390-1516 ญี่ปุ่น |
เว็บไซต์ | https://www.kamikochi.or.jp/ (หรือคลิ้ก) |
แผนที่ | Google Map |
2.แนะนำไฮไลท์สำคัญ
2.1 น้ำตกคาปปะ (Kappa Bridge and Falls)
น้ำตกคาปปะ (Kappa Falls) และสะพานคาปปะ (Kappa Bridge) เป็นสถานที่ท่องเที่ยวธรรมชาติที่สวยงามอีกแห่งหนึ่ง น้ำตกแห่งนี้มีความสูงประมาณ 13.5 เมตร สายน้ำไหลลัดเลาะผ่านหุบเขาและหน้าผาหินลงสู่ลำธารสีมรกตอันใสสะอาด สร้างภาพทิวทัศน์ที่งดงามน่าประทับใจ สะพานคาปปะ เป็นสะพานไม้โบราณ สร้างขึ้นเมื่อปี 1937 ทอดข้ามลำธารน้ำแข็งคาปปะริวไปยังน้ำตกคาปปะ สะพานแห่งนี้กลายเป็นจุดชมวิวและถ่ายภาพที่นิยมของนักท่องเที่ยว นอกจากนี้บริเวณโดยรอบน้ำตกและสะพานคาปปะเต็มไปด้วยธรรมชาติอันงดงาม มีเส้นทางเดินป่าสำหรับเดินชมป่าสนและพันธุ์ไม้นานาชนิด พร้อมทั้งจุดพักผ่อนหย่อนใจที่ร่มรื่น นับเป็นหนึ่งในไฮไลท์ของการมาเยือน
2.2 บึงไทโช (Taisho Pond)
บึงไทโช (Taisho Pond) เป็นทะเลสาบเล็กๆ เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวธรรมชาติยอดนิยมในบริเวณนี้ จุดเด่นของบึงไทโชคือน้ำที่ใสราวกระจกสะท้อนเงาของเทือกเขาเทือกเขาแอลป์ญี่ปุ่นได้อย่างสวยงาม บริเวณโดยรอบปกคลุมไปด้วยป่าสนและไม้พุ่มเขียวขจี ทำให้เป็นฉากหลังที่สวยงาม นอกจากนี้ บึงไทโชยังอยู่ใกล้กับน้ำตกคาปปะและสะพานคาปปะที่โด่งดัง จึงมักถูกรวมเป็นเส้นทางท่องเที่ยวธรรมชาติเมือลูกค้าเดินทางมาที่แห่งนี้
2.3 บึงทะชิโระ (Tashiro Marshland)
บึงทะชิโระ (Tashiro Marshland) เป็นพื้นที่ชุ่มน้ำธรรมชาติที่สวยงามที่มีลักษณะเด่นของบึงทะชิโระคือเป็นทุ่งหญ้าน้ำกว้างใหญ่ มีลำธารและแหล่งน้ำเล็กๆ แทรกตัวอยู่ ล้อมด้วยเทือกเขาสูงสลับซับซ้อน ทำให้เกิดเป็นวิวทิวทัศน์ที่สวยงามราวกับภาพวาด บริเวณบึงทะชิโระมีเส้นทางเดินชมธรรมชาติลัดเลาะผ่านทุ่งหญ้าน้ำ มีสะพานไม้และจุดชมวิวให้นักท่องเที่ยวได้ชื่นชมความงามของบึงและเทือกเขาแบบใกล้ชิด ในช่วงฤดูร้อน ทุ่งหญ้าจะแซมด้วยดอกไม้ป่านานาพันธุ์ ส่วนฤดูใบไม้ร่วงและฤดูหนาว ภาพของทุ่งหญ้าสีน้ำตาลทองก็มีเสน่ห์ดึงดูดไม่แพ้กัน นักท่องเที่ยวจึงนิยมมาเยือนบึงทะชิโระตลอดทั้งปี นอกจากทัศนียภาพที่งดงาม บึงทะชิโระยังเป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่าและนกนานาชนิด จึงเป็นสถานที่ดีสำหรับการศึกษาระบบนิเวศอีกด้วย
2.4 บึงเมียวจิน (Myojin Pond)
บึงเมียวจิน (Myojin Pond) เป็นทะเลสาบขนาดเล็กและเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวธรรมชาติยอดนิยมในบริเวณอีกแห่ง จุดเด่นของบึงเมียวจินคือน้ำที่ใสราวกระจก สามารถสะท้อนภาพเทือกเขาเจแปนแอลป์ ทำให้เกิดภาพทิวทัศน์ที่งดงามราวกับภาพวาด โดยบริเวณรอบๆ ทะเลสาบเป็นป่าไม้เขียวขจี มีพรรณไม้นานาพันธุ์ รวมถึงต้นเมเปิ้ลสีแดงสดใสในช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสี ส่งผลให้ภาพสะท้อนของทะเลสาบมีสีสันสวยงามเปลี่ยนไปตามฤดูกาล
นอกจากชมวิวทะเลสาบ นักท่องเที่ยวยังสามารถเดินเล่นชมธรรมชาติบนเส้นทางเดินรอบทะเลสาบที่มีระยะทางประมาณ 1.5 กิโลเมตร มีจุดพักผ่อนและจุดชมวิวระหว่างทางให้ได้นั่งพักผ่อนอีกด้วย
2.5 แม่น้ำอะซุสะ (Azusa River)
แม่น้ำอะซุสะ (Azusa River) เป็นแม่น้ำสายสำคัญที่ไหลผ่านหุบเขา ลักษณะเด่นของแม่น้ำอะซุสะคือน้ำที่ใสสะอาดสีมรกตอมเขียว ไหลเย็นตลอดปีจากการละลายของหิมะบนเทือกเขาแอลป์ญี่ปุ่น โดยตลอดสองฟากฝั่งของแม่น้ำเป็นป่าสนและป่าไม้เขียวขจี มีพื้นที่โล่งบางแห่งที่เหมาะแก่การตั้งแคมป์พักแรม มีจุดชมวิวธรรมชาติและน้ำตกขนาดเล็กหลายแห่ง นอกจากนี้เส้นทางเดินป่าริมแม่น้ำอะซุสะเป็นอีกหนึ่งไฮไลท์การท่องเที่ยวที่นิยมมาก มีระยะทางประมาณ 3-4 กิโลเมตร สามารถเดินชมธรรมชาติและฟังเสียงน้ำไหล ให้บรรยากาสที่เงียบสงบ
ในช่วงฤดูร้อน นักท่องเที่ยวมักมาเล่นน้ำและล้างหน้าล้างตาริมแม่น้ำ ส่วนช่วงฤดูหนาวพื้นน้ำและลำธารบางส่วนจะกลายเป็นน้ำแข็งที่สวยงาม
3. ควรเที่ยวช่วงเดือนไหนดี
ฤดูใบไม้ผลิ (เมษายน-พฤษภาคม)
- อากาศอบอุ่น เป็นช่วงที่ธรรมชาติกำลังรื่นรมย์ ดอกไม้บานสะพรั่ง
- เหมาะสำหรับการเดินป่า ปีนเขา ชมทะเลสาบ และสัมผัสบรรยากาศแบบดั้งเดิม
ฤดูร้อน (มิถุนายน-สิงหาคม)
- อากาศร้อนและชุ่มชื้น อุณหภูมิอาจสูงถึง 25-30 องศาฯ ในบางวัน
- เป็นช่วงฤดูกาลท่องเที่ยวสูงสุด ต้องจองที่พักล่วงหน้า
- สามารถเล่นน้ำและว่ายน้ำในลำธารได้
ฤดูใบไม้ร่วง (กันยายน-พฤศจิกายน)
- อากาศเย็นสบาย ใบไม้เปลี่ยนสีเป็นสีทองและแดงสด
- ภาพทิวทัศน์สวยงามมาก เหมาะสำหรับการเดินป่าและถ่ายภาพ
- ต้นเมเปิ้ลมีสีสันสวยงามโดดเด่นในช่วงปลายฤดูใบไม้ร่วง
ฤดูหนาว (ธันวาคม-มีนาคม)
- อากาศหนาวเย็น มีหิมะปกคลุมบางพื้นที่ สวยงามแปลกตา
- ควรระวังน้ำแข็งบนพื้น แต่ทะเลสาบแข็งตัวก็เป็นจุดถ่ายภาพน่าสนใจ
- ในช่วงมกราคม อากาศหนาวสุด แต่หิมะสวยที่สุด
4. เส้นทางแนะนำและแผนที่
นี่เป็นเส้นทางแนะนำสำหรับการท่องเที่ยว ซึ่งจะช่วยให้คุณได้สัมผัสกับธรรมชาติอันงดงามและจุดท่องเที่ยวสำคัญๆ ในบริเวณนี้
เส้นทางวที่ 1
- เริ่มต้นที่ทะเลสาบคามิโคจิ (Kamikochi Pond) ทะเลสาบตั้งอยู่ท่ามกลางหุบเขา มีวิวเทือกเขาวนาคาฮิยะสะท้อนบนผิวน้ำ
- เดินต่อไปยังน้ำตกคาปปะ (Kappa Falls) และสะพานคาปปะ (Kappa Bridge) ซึ่งเป็นน้ำตกและสะพานไม้โบราณ
- หลังจากนั้นเดินต่อตามเส้นทางริมแม่น้ำอะซุสะ (Azusa River) ชมธรรมชาติและเสียงน้ำไหลริน
เส้นทางที่ 2
- เริ่มจากบึงไทโช (Taisho Pond) ซึ่งมีวิวทิวทัศน์สวยงามสะท้อนในน้ำ
- เดินต่อไปบึงทะชิโระ (Tashiro Marshland) ชมทุ่งหญ้าและพื้นที่ชุ่มน้ำกว้างใหญ่ มีเส้นทางเดินชมธรรมชาติอยู่รอบๆ
- หากมีเวลาเหลือ ให้แวะบึงเมียวจิน (Myojin Pond) ชมความใสของน้ำสะท้อนเทือกเขา
เส้นทางดังกล่าวครอบคลุมจุดเด่นสำคัญ ทั้งทะเลสาบ น้ำตก สายธาร ทุ่งหญ้า และป่าไม้ นักท่องเที่ยวสามารถปรับเปลี่ยนกำหนดการได้ตามความเหมาะสมหรือความต้องการ
สรุป
คามิโคจิเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวตามธรรมชาติที่สวยงามและได้รับความนิยมมากที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศญี่ปุ่น ด้วยทัศนียภาพอันงดงาม อากาศบริสุทธิ์ และเงียบสงบ เป็นอีกแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาด