ศาลศักดิ์สิทธิ์ที่มีชื่อว่าศาลเจ้าฮอกไกโดนี้ เป็นศาลเจ้าที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งที่มีนักท่องเที่ยววนเวียนไปสักการะกันแบบไม่ขาดสาย เรียกได้ว่าความศักดิ์สิทธิ์ของศาลแห่งนี้ บวกกับบรรยากาศที่เงียบสงบให้พักผ่อนหย่อนใจ และสามารถเดินชมสวนบริเวณรอบ ๆ ได้ วันนี้จะพามาชมกันว่า ศาลเจ้าแห่งนี้มีประวัติความเป็นมาและมีอะไรน่าสนใจในทัวร์ญี่ปุ่นกันบ้าง
1.ประวัติ
ประวัติของศาลเจ้าฮอกไกโด (Hokkaido Jingu) มีความน่าสนใจและเชื่อมโยงกับประวัติศาสตร์การพัฒนาเกาะฮอกไกโดอย่างมาก โดยศาลเจ้าแห่งนี้ได้รับการก่อตั้งในปี 1869 ซึ่งเป็นช่วงต้นของยุคเมจิ สร้างขึ้นเพื่อเป็นศูนย์กลางทางจิตวิญญาณสำหรับผู้อพยพชาวญี่ปุ่นที่มาตั้งถิ่นฐานในฮอกไกโด แรกเริ่มตั้งอยู่ในเขตซัปโปโรที่เรียกว่า “Sapporo Village” ในปี 1874 ได้ย้ายมายังที่ตั้งปัจจุบันในสวนมารุยามะ ต่อมาในปี 1978 มีการบูรณะครั้งใหญ่เพื่อฟื้นฟูโครงสร้างที่เสียหายจากสงครามโลกครั้งที่ 2 ศาลเจ้าแห่งนี้มีส่วนสำคัญในการสร้างขวัญกำลังใจให้ผู้บุกเบิกฮอกไกโดในยุคแรกๆ และยังเป็นสถานที่จัดพิธีกรรมสำคัญทางศาสนาและวัฒนธรรมมาอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้เกิดการพัฒนาพื้นที่โดยรอบเป็นสวนสาธารณะและเป้นแหล่งท่องเที่ยวของทัวร์ฮอกไกโด ปละในปัจจุบันได้รับการยกย่องเป็นหนึ่งในศาลเจ้าที่สำคัญที่สุดในฮอกไกโด และเป็นสัญลักษณ์ของเมืองซัปโปโร
2.ไฮไลท์การท่องเที่ยว
สถาปัตยกรรม
อาคารหลักของศาลเจ้าสร้างตามแบบสถาปัตยกรรมชินโตดั้งเดิม โดดเด่นด้วยหลังคาทรงสูงและสีแดงเข้ม อาคารหลักถูกตกแต่งด้วยไม้แกะสลักอย่างประณีต มีหลังคาทรงสูงแบบจั่วที่ลาดเอียงและเป็นเอกลักษณ์
โทริอิขนาดใหญ่
เป็นประตูทางเข้าขนาดใหญ่ ทาสีแดงสด ซึ่งเป็นสีที่เชื่อว่าสามารถขับไล่สิ่งชั่วร้ายได้ โทริอินี้เป็นสัญลักษณ์ที่แสดงการแบ่งแยกระหว่างพื้นที่ศักดิ์สิทธิ์กับโลกภายนอก ประกอบด้วยเสาสองต้นตั้งขึ้น มีคานพาดด้านบนสองชั้น ซึ่งเป็นรูปแบบที่เรียกว่า “มิยาจิมะ” (Myojin) เป็นหนึ่งในจุดถ่ายภาพยอดนิยมของนักท่องเที่ยวที่มาเยือนศาลเจ้าฮอกไกโด
สวนมารุยามะ
ศาลเจ้าตั้งอยู่ในสวนสาธารณะที่เป็นสวนขนาดใหญ่ ครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 70,000 ตารางเมตร มีต้นซากุระกว่า 1,700 ต้น ทำให้เป็นจุดชมซากุระที่มีชื่อเสียงในฤดูใบไม้ผลิ และในช่วงฤดูใบไม้ร่วง ใบไม้ก็จะเปลี่ยนเป็นสีเหลืองทอง สวยงาม สร้างบรรยากาศที่แตกต่างกันออกไปในแต่ละฤดู
เครื่องรางและของที่ระลึก
มีร้านขายเครื่องรางและของที่ระลึกหลากหลาย เป็นที่นิยมในหมู่นักท่องเที่ยว
3.บรรยากาศในแต่ละฤดู
บรรยากาศของศาลเจ้าฮอกไกโดเปลี่ยนแปลงไปตามฤดูกาล แต่ละฤดูมีเสน่ห์เฉพาะตัว ดังนี้:
ฤดูใบไม้ผลิ (มีนาคม-พฤษภาคม)
- ดอกซากุระบานสะพรั่ง โดยเฉพาะในสวนมารุยามะ บรรยากาศจะคึกคักด้วยผู้คนที่มาชมดอกไม้ มีเทศกาล Hanami (เทศกาลชมดอกซากุระ) ในช่วงนี้อีกด้วย
ฤดูร้อน (มิถุนายน-สิงหาคม)
- สวนเต็มไปด้วยสีเขียวชอุ่มของต้นไม้ ดอกไม้หลากสีบานในสวน เหมาะสำหรับการเดินเล่นและปิกนิก
ฤดูใบไม้ร่วง (กันยายน-พฤศจิกายน)
- ใบไม้เปลี่ยนสีเป็นสีแดง ส้ม และเหลือง สวยงามมาก อากาศค่อข้างเย็นสบาย เหมาะแก่การเดินชม
ฤดูหนาว (ธันวาคม-กุมภาพันธ์)
- หิมะปกคลุมทั่วบริเวณ สร้างภาพที่สวยงาม โทริอิและอาคารต่างๆ ถูกแต่งแต้มด้วยหิมะขาว และช่วงนี้บรรยากาศจะเงียบสงบ มีผู้คนน้อยกว่าฤดูอื่น และมีการประดับไฟในช่วงเทศกาลปีใหม่อีกด้วย
4.พิกัด
ที่อยู่ : 474 Miyagaoka, Chuo Ward, Sapporo, Hokkaido 064-0959 ญี่ปุ่น
แผนที่ : Google Map
เวลาเปิด-ปิด : เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 6:00 – 17:00 น.
เว็บไซต์ : http://www.hokkaidojingu.or.jp/
5. วิธีการเดินทาง
รถไฟใต้ดิน | ใช้สาย Namboku Line (สายสีเขียว)ลงที่สถานี Maruyama koen (สถานี N16) และเดินต่อประมาณ 10-15 นาทีไปยังศาลเจ้า |
รถบัส | ใช้บริการ Sapporo City Bus สาย ‘Maruyama Meguri’ จากสถานี Sapporo ลงที่ป้าย ‘Hokkaido Jingu Mae’ |
รถแท็กซี่ | ใช้เวลาประมาณ 20 นาทีจากใจกลางเมืองซัปโปโร สะดวกแต่ราคาสูงกว่าขนส่งสาธารณะ |
รถยนต์ส่วนตัว | มีที่จอดรถบริเวณใกล้เคียงศาลเจ้า และอาจมีค่าจอดรถ |
สรุป
ศาลเจ้าฮอกไกโดเป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบความเป็นเอกลักษณ์ของวัฒนธรรมดั้งเดิมของญี่ปุ่น และเป็นสถานที่ที่มีความศักดิ์สิทธิ์อีกแห่ง และเป็นอีกจุดหมายปลายทางที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่มาเที่ยวฮอกไกโด หากใครสนใจทาง Lovely Smile Tour ได้มีโปรแกรมทัวร์ฮอกไกโดให้เลือกมากมาย และหากสนใจจองทัวร์หรือสอบถามข้อมูล สามารถแอดไลน์มาได้ที่ LINE ID : @lovelysmiletour ได้เลยค่ะ