10 ที่เที่ยวฮาโกดาเตะ เมืองท่าแห่งฮอกไกโด

แชร์บทความนี้

ฮาโกดาเตะ เป็นเมืองที่ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของจังหวัดฮอกไกโด ซึ่งถือเป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับ 3 และเป็นเมืองท่าที่มีความสำคัญอย่างมากของฮอกไกโด นอกจากนี้ยังเป็นเมืองยอดนิยมของนักท่องเที่ยวทัวร์ญี่ปุ่นที่เดินทางมาที่ฮอกไกโดอีกด้วย ในบทความนี้จะแนะนำ 10 สถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตของนักท่องเที่ยวที่ไม่ควรพลาด

1. สวนโกเรียวคาคุ (Goryokaku Park)

สวนโกเรียวคาคุ เป็นป้อมปราการเก่าสไตล์ยุโรปสร้างขึ้นเมื่อ 150 ปีมาแล้ว มีลักษณะเป็นป้อมปราการห้าแฉก โดยในอดีตป้อมปราการแห่งนี้ตั้งอยู่ในจุดที่มีการต่อสู้ครั้งสุดท้ายในสงครามโบชินปีค.ศ. 1869 ต่อมาในปีค.ศ. 1914 บริเวณของป้อมปราการโกะเรียวคะคุได้ถูกเปลี่ยนเป็นสวนสาธารณะและเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชม ในปัจจุบันป้อมปราการจะล้อมรอบไปด้วยต้นซากุระกว่า 1,600 ต้นและสระน้ำโฮริอยู่รอบๆ สวนสาธารณะ ซึ่งในฤดูใบไม้ผลิที่สวนโกเรียวคาคุเป็นอีกสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของนักท่องเที่ยวทัวร์ฮอกไกโดที่เดินทางมาชมดอกซากุระ นอกจากนี้บริเวณใกล้เคียงสวนโกเรียวคาคุจะมีหอคอยที่มีความสูง 107 เมตรซึ่งเป็นจุดชมวิว ที่สามารถมองเห็นทิวทัศน์รอบสวนสาธารณะโกเรียวคาคุทั้งหมด ซึ่งภายในหอคอยจะมีจุดชมวิวทั้งหมด 2 ชั้น จุดชมวิวบนชั้น 1 จะเป็นพื้นกระจกใส ที่สามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ด้านล่าง บนชั้นนี้ยังมีร้านขายของฝากและคาเฟ่ที่สามารถใช้เวลาเพลิดเพลินไปพร้อมกับการชมวิวได้ด้วย และจุดชมวิวบนชั้น 2 จะอยู่สูงจากพื้นดิน 90 เมตร บนชั้นนี้ยังจัดแสดงนิทรรศการที่สามารถเรียนรู้ประวัติศาสตร์ของโกเรียวคาคุได้อีกด้วย

ค่าเข้าชม– บริเวณสวนสาธารณะ ไม่มีค่าใช้จ่าย
– หอคอยชมวิว ผู้ใหญ่ 840 เยน และ เด็ก 420 เยน
เวลาทำการเมษายน – ตุลาคม เวลา 08:00 – 19:00 น.
พฤศจิกายน – มีนาคม เวลา 09:00 – 18:00 น.
แผนที่ดูแผนที่ Google Maps
สวนโกเรียวคาคุ
สวนโกเรียวคาคุ Credit : en.visit-hokkaido.jp

2. ภูเขาฮาโกดาเตะ (Mt. Hakodate)

ภูเขาฮาโกดาเตะ เป็นภูเขาสูงที่มีวิวทิวทัศน์ที่สวยงาม ซึ่งถือเป็น 1 ใน 3 จุดชมวิวที่สวยที่สุดในญี่ปุ่น มีความสูง 334 เมตรจากระดับน้ำทะเล วิธีการเดินทางไปยังจุดชมวิวภูเขาจะมีวิธีการเดินทางหลายวิธี แต่วิธีที่นิยมที่สุดก็คือ การนั่งกระเช้าลอยฟ้าที่สถานีโมโตะมาจิ ใช้เวลาในการเดินทางเพียง 5 นาที ก็ถึงจุดชมวิว โดยกระเช้าลอยฟ้าจะมีออกทุกๆ 10 – 15 นาที ที่ภูเขาฮาโกดาเตะจะมีทั้งหมด 4 ชั้นด้วยกัน บริเวณชั้น 1 จะมีเลานจ์ด้านในสวนสาธารณะเรียวบิซึ่งเป็นที่นิยมในหมู่นักท่องเที่ยว เนื่องจากเป็นพื้นที่ที่สงบ คนไม่เยอะ ทำให้สามารถชมวิวทิวทัศน์ในตอนกลางคืนได้อย่างเพลิดเพลิน ชั้น 2 จะมีร้านขายของที่ระลึกและร้านอาหารที่จำหน่ายสินค้าดั้งเดิมจากภูเขาฮาโกดาเตะ ชั้น 3 มีเลานจ์น้ำชา และชั้น 4 มีเลานจ์ชมวิว หากเดินทางในช่วงเช้าก็จะเห็นวิวต้นไม้สีเขียว ท้องฟ้าใส และตึกมากมาย แต่ถ้าหากเดินทางในตอนกลางคืน จะได้เห็นวิวเมืองฮาโกดาเตะและตึกต่างๆ ที่เต็มไปด้วยแสงไฟ

ค่าเข้าชม– ค่าขึ้นกระเช้าลอยฟ้าตั๋วเที่ยวเดียว ผู้ใหญ่ 1,200 เยน และ เด็ก 600 เยน
– ค่าขึ้นกระเช้าลอยฟ้าไปและกลับ ผู้ใหญ่ 1,800 เยน และ เด็ก 900 เยน           
เวลาทำการเปิดทำการทุกวัน เวลา 10.00 – 22.00 น.
แผนที่ดูแผนที่ Google Maps
Mt. Hakodate
วิวเมืองฮาโกดาเตะตอนกลางคืน Credit : gltjp.com

3. โกดังอิฐแดงคาเนโมริ (Kanemori Red Brick Warehouses)

โกดังอิฐแดงคาเนโมริ เป็นย่านช้อปปิ้งที่ตั้งอยู่ริมอ่าวฮาโกดาเตะ ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์คของนักท่องเที่ยว เป็นแหล่งช้อปปิ้งที่เต็มไปด้วยโกดังอิฐสีแดง หลังคาจั่วสามเหลี่ยมสไตล์ยุโรป 7 หลัง ที่สร้างขึ้นในสมัยเมจิ ที่มีอายุกว่า 150 ปี ก่อตั้งโดยคุมาชิโระ วาตานาเบะ ภายในจะประกอบไปด้วยร้านค้าต่างๆ กว่า 50 ร้าน ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหาร คาเฟ่ ร้านขายของที่ระลึก ร้านทำเวิร์คช้อปหรืองานแฮนด์เมด พิพิธภัณฑ์ ไปจนถึงร้านบาร์ โดยโกดังอิฐแดงคาเนโมริ โกดังอิฐแดงคาเนโมริจะแบ่งออกเป็น 4 โซนด้วยกัน ได้แก่

  • โซนที่ 1 อ่าวฮาโกดาเตะ (Bay Hakodate) โซนนี้จะอยู่ติดกับอ่าวคาเนโมริ ซึ่งเป็นพื้นที่ล่องเรือ บริเวณรอบๆ จะมีร้านกาแฟ โบสถ์ และร้านค้าอยู่รอบๆ
Bay Hakodate
ล่องเรืออ่าวคาคาเนโมริ Credit : hakodate-kanemori.com
  • โซนที่ 2 คาเนโมริโยบุตสึกัง (Kanemori Youbutsukan) ประกอบด้วยไปด้วยโกดัง 2 แห่ง ซึ่งเป็นที่ตั้งของร้านกาแฟ ร้านค้าขายของสินค้าแฮนด์เมด และร้านเสื้อผ้า รวมทั้งมีตลาดนัดให้ได้เลือกซื้อของได้อย่างเพลิดเพลินอีกด้วย
Kanemori Youbutsukan
Credit : hakodate-kanemori.com
  • โซนที่ 3 จัตุรัสประวัติศาสตร์ (Hakodate History Plaza) อาคารภายในโซนนี้จะยังคงรักษาสภาพเหมือนในตอนที่ถูกสร้างขึ้นใหม่ในปีค.ศ. 1909 ตัวอาคารจะมีเพดานสูงและยังคงรักษาเสาไม้ไซเปรสอันเป็นเอกลักษณ์ของโกดังเอาไว้ ภายในก็จะมีโรงเบียร์ ที่นักท่องเที่ยวสามารถลองดื่มเบียร์สดที่ส่งตรงจากโรงงานในฮอกไกโดและช้อปปิ้งกันได้อย่างเพลิดเพลิน
Hakodate History Plaza
โรงเบียร์ Credit : hakodate-kanemori.com
  • โซนที่ 4 คานาโมริฮอลล์ (Kanamori Hall) เป็นห้องโถงอเนกประสงค์ขนาดประมาณ 440 ตารางเมตร สามารถรองรับคนได้ประมาณ 200 คน สามารถใช้ในการจัดคอนเสิร์ต ละครเวที การบรรยาย จัดฉายภาพยนตร์ การประชุม ตลอดจนนิทรรศการ และงานเลี้ยงรับรอง
Kanamori Hall
คานาโมริฮอลล์ Credit : hakodate-kanemori.com
โกดังอิฐแดงคาเนโมริ
โกดังอิฐแดงคาเนโมริ
ค่าเข้าชมไม่มีค่าใช้จ่าย  
เวลาทำการเปิดทำการทุกวัน ร้านค้าส่วนใหญ่เปิด 09.30 – 19.00 น.
แผนที่ดูแผนที่ Google Maps

4. เนินฮาจิมันซากะ (Hachimanzaka Slope)

เนินฮาจิมันซากะ เป็นเนินลาดชันลงไปทางทะเลด้านล่าง บริเวณ 2 ข้างทางจะเต็มไปด้วยต้นไม้ ซึ่งเป็นอีกสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวมากมาย หากมองจากเนินฮาจิมันซากะ จะมองเห็นวิวของท่าเรือ น้ำทะเลสีใส และภูเขา นอกจากจะเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวแล้ว ที่นี่ยังเป็นที่นิยมในการถ่ายโฆษณาและถ่ายภาพยนต์มากมาย หากเดินทางในช่วงฤดูหนาว ที่บริเวณข้างทางจะมีการประดับไฟไว้ตามต้นไม้ เป็นจุดชมเทศกาล Hakodate Light Up ที่มีชื่อเสียงอีกด้วย

ค่าเข้าชมไม่มีค่าใช้จ่าย         
เวลาทำการเปิดทำการทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง
แผนที่ดูแผนที่ Google Maps
เนินฮาจิมันซากะ
เนินฮาจิมันซากะ

5. ศาลเจ้าฮาโกดาเตะฮาจิมังกู (Hakodate Hachimangu Shrine)

ศาลเจ้าฮาโกดาเตะฮาจิมังกู เป็นศาลเจ้าเก่าแก่ที่มีอายุถึง 360 ปี ตั้งอยู่บริเวณเชิงเขาของภูเขาฮาโกดาเตะ สร้างขึ้นช่วงกลางศตวรรษที่ 15 เพื่อสักการะเทพเจ้าฮาจิมังในคฤหาสน์ในฮาโกดาเตะ ซึ่งเป็นเทพที่เคารพบูชาของผู้คนท้องถิ่นมายาวนานในฐานะเทพผู้พิทักษ์แห่งการพัฒนา การเดินเรือ และการประมง นอกจากนี้คนญี่ปุ่นเชื่อว่าศาลเจ้าแห่งนี้เป็นที่สถิตของเทพเจ้าผู้พิทักษ์บ่อน้ำพุร้อนยูโนะคาวะ ซึ่งเป็นแหล่งน้ำพุร้อนที่มีชื่อเสียงของเมืองอีกด้วย ที่ศาลเจ้านี้จะมีสัญลักษณ์ประจำก็คือ ดอกเบญจมาศสีทอง 16 กลีบ ซึ่งเป็นดอกไม้ที่อยู่บนหน้าปกพาสปอร์ตของคนญี่ปุ่นนั่นเอง

ค่าเข้าชมไม่มีค่าเข้าชม  
เวลาทำการเปิดทำการทุกวัน เวลา 07.00 – 19.00 น.
แผนที่ดูแผนที่ Google Maps
Hakodate Hachimangu Shrine
ศาลเจ้าฮาโกดาเตะฮาจิมังกู Credit : villadellequerce.it

6. ยะจิกะชิระออนเซ็น (Yachigashira Onsen)

ยาจิกาชิระออนเซ็น เป็นออนเซ็นที่ตั้งอยู่บริเวณเชิงเขาฮาโกดาเตะ โดยน้ำพุร้อนของที่นี่จะไหลตรงมาจากแหล่งน้ำพุร้อนธรรมชาติ ทำให้น้ำเป็นสีน้ำตาลเนื่องจากว่ามีธาตุเหล็กผสมอยู่ด้วย ภายในจะประกอบไปด้วยห้องซาวน่า บ่อน้ำร้อนกลางแจ้งทรง 5 แฉก ที่สร้างเลียบแบบป้อมโกเรียวคาคุ บ่อน้ำเย็น พื้นที่ผักผ่อน และห้องอาหารซึ่งอยู่บริเวณชั้น 1 บรรยากาศภายนอกจะเต็มไปด้วยธรรมชาติและอยู่ใกล้กับป้ายรถรางยาจิกาชิระ จึงทำให้ยะจิกะชิระออนเซ็นเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่เดินทางง่ายและเหมาะกับการพักผ่อนเป็นอย่างมาก

ค่าเข้าชม– ผู้ใหญ่ 420 เยน
– เด็ก 140 เยน
– เด็กเล็ก 70 เยน          
เวลาทำการเปิดทำการเวลา 06.00 – 22.00 น. (แผนกต้อนรับปิด 21.00 น.)
ปิดทำการทุกวันอังคารที่ 2 และ 4 ของเดือน
แผนที่ดูแผนที่ Google Maps
ยะจิกะชิระออนเซ็น
ยะจิกะชิระออนเซ็น Credit : Thermal Spas

7. ตลาดเช้าฮาโกดาเตะ (Hakodate Asaichi)

ตลาดเช้าฮาโกดาเตะ เป็นตลาดที่ได้รวบรวมร้านค้ากว่า 250 ร้าน ที่จำหน่ายสินค้าและอาหารทะเลสดที่ขึ้นชื่อของเมืองฮอกไกโด โดยตลาดแห่งนี้จะเปิดตั้งแต่เช้าตรู่จนถึง 14.00 น. ไฮไลท์ของที่นี่ก็คือเมนูชื่อดังอย่างข้าวหน้าอาหารทะเลหรือไคเซนด้งซึ่งจะมีให้ทานแค่เฉพาะช่วงเช้า นอกจากนี้ที่ตลาดยังมีโซนตกหมึกที่อยู่บริเวณกลางตลาด ซึ่งหมึกเป็นของขึ้นชื่อของเมืองฮาโกดาเตะ โดยนักท่องเที่ยวสามารถทดลองตกหมึกได้ เมื่อตกหมึกขึ้นมาแล้วจะมีเชฟทำซาชิมิแบบสดให้ได้ทานตรงนั้นเลย นอกจากจะมีอาหารทะเลให้ทานกันแบบสดๆ แล้ว ที่ตลาดก็ยังมีผลไม้ตามฤดูกาลให้ได้ลองทานกันอีกด้วย

ค่าเข้าชมไม่มีค่าเข้าชม    
เวลาทำการมกราคม – เมษายน เวลา 06.00 – 14.00 น.
พฤษภาคม – ธันวาคม เวลา 17.00 – 14.00 น.
แผนที่ดูแผนที่ Google Maps
ตลาดเช้าฮาโกดาเตะ
ตลาดเช้าฮาโกดาเตะ Credit : en.visit-hokkaido.jp

8. สวนพฤกษศาสตร์เขตร้อนฮาโกดาเตะ (Hakodate Tropical Botanical Garden)

สวนพฤกษศาสตร์เขตร้อนฮาโกดาเตะ ตั้งอยู่บริเวณน้ำพุร้อนยุโนคาว่าจึงเหมาะแก่การเพาะปลูกพืชเขตร้อน ภายในจะมีเรือนกระจกขนาดใหญ่ที่มีพืชหลากหลายชนิด รวมไปถึงพืชพันธุ์หายากกว่า 3,000 สายพันธุ์ในฮอกไกโด อีกสิ่งที่เป็นไฮไลท์ของที่นี่ก็คือการชมลิงแสมญี่ปุ่นแช่ออนเซ็นในช่วงต้นเดือนธันวาคมถึงเดือนพฤษภาคมซึ่งเป็นช่วงโกลเด้นวีคของประเทศญี่ปุ่น โดยสามารถให้อาหารลิงได้ด้วย จะมีค่าใช้จ่ายอยู่ที่ 100 เยน

ค่าเข้าชม– ผู้ใหญ่ 300 เยน
– เด็กและนักศึกษา 100 เยน      
เวลาทำการเดือนเมษายน – ตุลาคม เวลา 09.30 – 18.00 น.
เดือนพฤศจิกายน – มีนาคม เวลา 09.30 – 16.30 น.
หยุดช่วง 29 ธันวาคม – 1 มกราคม ของทุกปี
แผนที่ดูแผนที่ Google Maps
Hakodate Tropical Botanical Garden 2
ภายในเรือนกระจก Credit : visit-hokkaido.jp
สวนพฤกษศาสตร์เขตร้อนฮาโกดาเตะ
ชมลิงแสมญี่ปุ่นแช่บ่อน้ำพุร้อน Credit : kosublog.com

9. สวนสาธารณะมิฮาราชิ (Miharashi Park)

สวนสาธารณะมิฮาราชิ หรือสวนโคเซ็ตสึ (Kosetsu Garden) เป็นสวนสาธารณะที่มีการตกแต่งสไตล์ญี่ปุ่น ไม่ว่าจะเป็นอาคารเก่าแก่รูปแบบญี่ปุ่น สวนหย่อมและต้นไม้มากมายกว่า 150 ชนิด ซึ่งเป็นสวนแห่งเดียวในฮอกไกโดที่รัฐบาลประกาศให้เป็นมรดกทางวัฒนธรรม และเป็นอีกหนึ่งในสถานที่ชมใบไม้เปลี่ยนสียอดนิยมของเมืองฮอกไกโด ระหว่างปลายเดือนตุลาคมถึงกลางเดือนพฤศจิกายน ตั้งแต่เวลา 16.00 – 21.00 น. จะมีเทศกาล Hakodate MOMI-G Festa จะมีการตกแต่งไฟในสวนและตามต้นเมเปิ้ลเป็นระยะทาง 100 เมตร นอกจากจะได้ชมความสวยงามของต้นไม้นานาชนิดแล้ว ที่สวนโคเซ็ตสึยังมีงานหัตถกรรมเสริมสร้างประสบการณ์การเรียนรู้ให้ได้ลองทำ และยังมีการแสดงดนตรีสดอีกด้วย

ค่าเข้าชมไม่มีค่าบริการ
เวลาทำการเปิดทำการทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง
แผนที่ดูแผนที่ Google Maps
สวนสาธารณะมิฮาราชิ
สวนสาธารณะมิฮาราชิ Credit : hakodate.travel

10. อุทยานแห่งชาติโอนุมะ (Onuma Quasi National Park)

อุทยานแห่งชาติโอนุมะ เป็นอุทยานที่เต็มไปด้วยธรรมชาติต่างๆ มากมาย รายล้อมไปด้วยต้นไม้สีเขียว ทะเลสาบ และยังมองเห็นวิวภูเขาไฟโคมะงาตาเกะ ซึ่งถือเป็นจุดชมวิวยอดนิยมทั้งนักท่องเที่ยวจากหลายประเทศและนักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่นเอง นอกจากสามารถชมวิวแล้ว ยังมีกิจกรรมมากมายให้ได้ทำตามฤดูกาลอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นปีนเขา พายเรือแคนู ปั่นจักยาน และเล่นสกี

ค่าเข้าชมไม่มีค่าบริการ
เวลาทำการเปิดทำการทุกวัน เวลา 10.00 – 22.00 น.
แผนที่ดูแผนที่ Google Maps
อุทยานแห่งชาติโอนุมะ
อุทยานแห่งชาติโอนุมะ Credit : fun-japan.jp

สรุป

ฮาโกดาเตะเป็นหนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมของนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาที่ฮอกไกโด เต็มไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่มีทิวทัศน์สวยงาม สถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ ไปจนถึงบ่อน้ำพุ หากใครสนใจสามารถแอดไลน์ LINE ID : @lovelysmiletour เพื่อสอบถามเพิ่มเติมได้เลย

แชร์บทความนี้