เชื่อว่า หลายๆ ท่านได้มีโอกาสไปเที่ยวต่างประเทศมาหลากหลายเส้นทาง แต่ยังไม่เคยลองสัมผัสการท่องเที่ยวพักผ่อนบนเรือสำราญ โดยยังไม่รู้ว่า เรือสำราญมีกิจกรรมอะไรให้ทำบ้าง ครั้งนี้ ทีมงานทัวร์สิงคโปร์ ของ Lovely Smile Tour จะมาแชร์ประสบการณ์ ทัวร์ล่องเรือสำราญ Genting Dream Cruise (เก็นติ้ง ดรีม) ซึ่งเป็นของบริษัท Dream Cruise โดยจะล่องเรือจากสิงคโปร์ ไปมาเลเซีย แล้วกลับมาที่สิงคโปร์ ซึ่งใช้เวลาทั้งหมด 3 วัน จะดีแค่ไหนลองติดตามอ่านรีวิวกันได้เลย
1. ขั้นตอนการขึ้นเรือสำราญ Genting Dream
สำหรับการล่องเรือสำราญในครั้งนี้ จะไปขึ้นเรือของ Genting Dream ซึ่งจะต้องไปขึ้นเรือที่ท่าเรือมารีน่า สิงคโปร์ ประมาณ 3 ทุ่ม ซึ่งถ้าใครอยากมีเวลาอิสระท่องเที่ยวทัวร์สิงคโปร์ก่อน ก็สามารถซื้อตั๋วเครื่องบินไฟลท์เช้าๆ ได้เลย และรอขึ้นเรือตอนเย็นๆ โดยช่วงหัวค่ำ เมื่อเดินทางไปถึงบริเวณท่าเรือ จะต้องทำการลงทะเบียนเพื่อรับบัตรที่ใช้บนเรือ (Cruise Card) ซึ่งคิวค่อนข้างยาวมาก แต่เนื่องจากตอนที่ไปสำรวจเส้นทาง ทางทีมงานทัวร์สิงคโปร์ได้รับเชิญจากทางบริษัท Genting จึงได้สิทธิพิเศษ ไม่ต้องรอคิว และเข้าไปรอในห้องรับรองได้เลย
จากนั้น รอทางเจ้าหน้าที่เรือมาเรียกให้ขึ้น จะต้องไปต่อแถวเพื่อตรวจพาสปอร์ตก่อนขึ้นเรือ ซึ่งคิวยาวอีกเช่นกัน แต่เนื่องจากเป็นแขกของทาง Genting จึงได้เข้าช่องพิเศษ และได้ขึ้นเรือเร็ว เมื่อเดินไปใกล้ๆ เรือ จะเห็นว่า เรือ Genting Dream มีขนาดใหญ่มาก เหมือนโรงแรมขนาดใหญ่ที่มาลอยอยู่ในน้ำ ระหว่างนี้ ก็เดินไปขึ้นเรือ จะมีเจ้าหน้าที่เรือมาต้อนรับลูกค้า และพาไปที่ห้องพัก ซึ่งลูกค้าทุกคนจะมีเจ้าหน้าที่คอยดูแล และช่วยแนะนำกิจกรรมต่างๆ บนเรือ ส่วนเล่มพาสปอร์ตทางเรือจะเก็บไว้ และใช้บัตร Cruise Card ที่ได้ตอนลงทะเบียนแทนพาสปอร์ตและใช้จ่ายบนเรือ
2. ตัวอย่างห้องพักบนเรือสำราญ
2.1 ห้อง Balcony Deluxe (ดีลักซ์ มีระเบียง)
ระหว่างเดินไปที่ห้องพักเพื่อเอากระเป๋าไปเก็บ จะสังเกตได้ว่า นักท่องเที่ยวบนเรือลำนี้ ส่วนใหญ่จะเป็นคนแขกประมาณ 70-80% นอกนั้นจะเป็นคนสิงคโปร์ คนจีน คนไทย ไปที่ห้องพัก ซึ่งได้เป็นห้องแบบ Balcony Deluxe (ห้องดีลักซ์ มีระเบียง) ค่าห้องประมาณ1,500-2,000 SGD มีระเบียง หรูหรา สิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน เป็นโรงแรมดีๆ นี่เอง มองออกไปตอนกลางคืน จะเห็นเป็นวิวของสิงคโปร์ แต่ก็จะมีได้กลิ่นบุหรี่อยู่บ้าง ถ้าเจอบางห้องที่มาสูบบุหรี่ที่ระเบียง
2.2 ห้อง The Palace Villa (ห้อง เดอะ พาเลซ วิลล่า)
เจ้าหน้าที่เรือได้พาเดินแนะนำห้องอาหารต่างๆ ซึ่งมีทั้งแบบอาหารอินเดีย อาหารจีน อาหารญี่ปุ่น พาเดินดูห้องที่จัดการแสดง ลานคาสิโน ห้องสปา และพาขึ้นไปดูห้องพักแบบวีไอพี The Palace Villa (เดอะ พาเลซ วิลล่า) ที่แพงที่สุดบนเรือ ค่าห้องประมาณ 2,000-3,000 SGD ซึ่งเป็นห้องที่มีสระว่ายน้ำส่วนตัว มีโซนอาหารเป็นของตัวเอง เรียกว่า หรูหราสุดๆ
3. กิจกรรมต่างๆ บนเรือสำราญ
3.1 ชมการแสดง
เรือจะล่องเลียบชายฝั่งจากสิงคโปร์ไปที่เมืองมะละกา ประเทศมาเลเซีย ซึ่งจะถึงมะละกาประมาณ 9 โมงเช้า คืนนี้ จึงสามารถทำกิจกรรมต่างๆ บนเรือได้ ซึ่งตอนที่ไปมีการแสดงของ Chinese Got Talent จึงตัดสินใจไปนั่งดูโชว์ จากนั้น เมื่อดูโชว์เสร็จ จึงกลับมาพักผ่อนที่ห้อง
3.2 เที่ยวมาเลเซีย
เช้าวันรุ่งขึ้น น้ำยังไม่อาบ เนื่องจากตื่นสายกัน จึงรีบไปหาข้าวเช้าทานกัน ซึ่งไปที่โซนอาหารจีน ซึ่งจะมีโจ้ก ซาลาเปา ผัดหมี่ ของทอดให้ทาน รสชาติอาหารอร่อยถูกปากคนไทย จากนั้น จึงขึ้นไปอาบน้ำแต่งตัว รอเรือเทียบท่าที่มะละกา สำหรับใครที่อยากไปเที่ยวซิตี้ทัวร์ในมะละกา จะต้องจ่ายค่าแพคเกจทัวร์เพิ่มคนละ 50 ดอลล่าร์สิงคโปร์ หรือถ้าใครจะจ้างรถตู้ไปเที่ยวเองก็ได้เช่นกัน ซึ่งครั้งนี้ได้เจ้าหน้าที่จากกัวลาลัมเปอร์นำรถตู้มารับไปเที่ยว
เดินทางจากท่าเรือไปกัวลาลัมเปอร์ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงครึ่ง ไปถึงก็ทานอาหารเที่ยงพอดี ที่ภัตตาคารชื่อ Grand Harbour เป็นภัตตาคารจีนมีซาลาเปา ติ่มซำ ข้าวผัด หมูแดง หมูกรอบ รสชาติอร่อยถูกปาก
จากนั้น จึงไปซิตี้ทัวร์ในกัวลาลัมเปอร์ ชมพระราชวังอิสตันน่า ไนการ่า (Istana Negara Malaysia Palace) ชมเมืองเก่าแถวจตุรัสเมอร์เดก้า (Merdeka Square) ถ่ายรูปกับตึกแฝดเปโตรนาส (Petronas Twin Towers) แวะซื้อของฝากที่ร้านที่ร้านช็อคโกแลต Harriston และไปทานอาหารเย็นที่ภัตตาคารญี่ปุ่นชื่อ Warakuya Japanese Restaurant และเดินทางกลับไปขึ้นเรือประมาณสองทุ่ม
3.3 รับประทานอาหารค่ำบนเรือ
เมื่อขึ้นเรือเรียบร้อยแล้ว ด้วยความอยากกินชาบูบนเรือ ซึ่งอยู่โซน Genting Dining Room จึงใช้สิทธิ์การได้บัตร VIP ไปลองชิมฟรี จึงลองสั่งน้ำต้มยำ กับน้ำซุปกระดูกหมูมาลองทาน พร้อมกับเซ็ตหมูและทะเลมากิน อิ่มกันแบบสุดๆ รสชาติอร่อยใช้ได้เลย นอกจากนี้ พาเดินไปดูโซนร้านอาหารจีนที่ภัตตาคาร Silk Road Cabaret เผื่อใครชอบทานอาหารจีน ชอบดูโชว์คาบาเร่ต์ ก็ลองมาทานได้
3.4 กิจกรรมอื่นๆ
เสร็จแล้วจึงไปเดินเล่นบนเรือทั้งโซนคาสิโน โซนลานกิจกรรมบนเรือ ซึ่งมีทั้งสระว่ายน้ำ และสนามบาส แต่มีคนเล่นเยอะ จึงไม่ได้ไปเล่น เลยตัดสินใจไปสปากัน เพื่อไปทำ Body Massage สามารถเลือกได้ว่า จะเลือกหมอนวดชายหรือหญิง เรียกได้ว่า สบายสุดๆ ราคาแล้วแต่แพคเกจที่เลือก คนละประมาณ 2,000 บาท เรียบร้อยแล้ว จึงแวะไปเล่นคาสิโน แวะไปดูผับ ลานโบว์ลิ่ง และกลับห้องพัก
3.5 เตรียมตัวเดินทางกลับ
ได้เวลาตอนเช้า อาบน้ำแต่งตัว เตรียมเก็บกระเป๋า และไปทานอาหารเช้า ซึ่งครั้งนี้ลองไปทานอาหารบุฟเฟ่ต์ในโซนวีไอพีที่ Palace Restaurant โดยจะมีสลัดบาร์ แฮม ไส้กรอก ขนมปังต่างๆ ให้ทาน ซึ่งจะหลากหลายกว่าโซนอาหารจีน จากนั้น ก็เดินเล่นดูบรรยากาศบนเรือไปเรื่อยๆ ได้เวลาตอนเที่ยงเตรียมเช็คเอ๊าท์ สรุปค่าใช้จ่ายต่างๆ โดยเอาบัตรไปเคลียร์ยอดและรับพาสปอร์ตคืน จากนั้นจึงเดินทางกลับเพื่อรอไปขึ้นเครื่อง
สรุป
การได้มีโอกาสมาเที่ยวเรือสำราญ Genting Dream ในครั้งนี้ ถือว่าเป็นการได้มาพักผ่อนแบบสบายๆ ใช้ชีวิตสโลว์ไลฟ์ ไม่ต้องเดินทางเยอะ อยู่ในห้องพักบ้าง ออกมาเดินเล่นบ้าง หาของกิน หากิจกรรมทำ ก็เพลิดเพลินไปอีกแบบ ใครที่กำลังสนใจ อยากให้ลองมาเที่ยวแบบนี้สักครั้ง จะมาเป็นรูปแบบของแพคเกจทัวร์สิงคโปร์ ล่องเรือสำราญ หรือจะแบบซื้อแพคเกจห้องพักของเรือสำราญโดยตรง แล้วจองตั๋วเครื่องบินเอง ก็ได้เช่นกัน ลองดูแล้วจะติดใจ กิจกรรมบนเรือยังมีอีกมากมาย มาแล้วประทับใจแน่นอน
รีวิวโดย นายเก้