ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ของธรรมชาติและวัฒนธรรมอันลึกซึ้ง ไม่ว่าจะเดินทางในฤดูไหนก็มีความสวยงามอันเป็นเอกลักษณ์ให้ได้สัมผัส และหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่มีความงดงามและสามารถเดินทางได้ในทุกฤดูนั่นก็คือ “น้ำตกฟุคุโรดะ (Fukuroda Falls)” สถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่มีความเงียบสงบ มีบรรยากาศที่แตกต่างกันไปในตลอดทั้งปี จึงเป็นจุดหมายปลายทางที่นักท่องเที่ยวทั้งชาวญี่ปุ่นและชาวต่างชาติไม่ควรพลาดเมื่อมีโอกาสมาเที่ยวทัวร์ญี่ปุ่น ในบทความนี้จะมาแนะนำน้ำตกฟุคุโรดะให้เป็นที่รู้จักกันมากขึ้น ไปอ่านกันได้เลย
1. ข้อมูลทั่วไป
น้ำตกฟุคุโรดะ (Fukuroda Falls) หรือมีอีกชื่อหนึ่งว่า “น้ำตกโยโดะ” เป็นหนึ่งในสามน้ำตกที่มีชื่อเสียงที่สุดของญี่ปุ่น ตั้งอยู่ที่เมืองไดโกะ ทางตะวันตกเฉียงเหนือของจังหวัดอิบารากิ อยู่ห่างจากโตเกียวประมาณ 2-3 ชั่วโมงโดยรถไฟ
น้ำตกแห่งนี้มีความสูง 120 เมตร และกว้าง 73 เมตร รายล้อมไปด้วยธรรมชาติสวยงามที่จะเปลี่ยนแปลงไปในแต่ละฤดู น้ำตกนี้จะไหลผ่านชั้นหินขนาดใหญ่จำนวน 4 ชั้น จึงได้รับฉายาว่า “น้ำตกสี่ชั้น” นอกจากนี้ยังได้รับฉายาว่า “น้ำตกสี่ฤดู” (Yonki no taki) เพราะมีความสวยงามแตกต่างกันไปในแต่ละฤดู ไม่ว่าจะเป็นใบไม้ผลิที่เขียวชอุ่ม ฤดูร้อนที่สดใส ใบไม้เปลี่ยนสีในฤดูใบไม้ร่วง หรือผืนน้ำตกที่แข็งตัวในช่วงฤดูหนาว จึงทำให้น้ำตกฟุคุโรดะเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาที่ทัวร์อิบารากิ น้ำตกฟุคุโรดะยังถูกกำหนดให้เป็นจุดชมวิวระดับชาติอีกด้วย
นอกจากนี้น้ำตกฟุคุโรดะยังได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นจุดชมวิวระดับชาติ และถือเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาเที่ยวที่ทัวร์อิบารากิอีกด้วย การเข้าชมน้ำตกจะเริ่มต้นจากการเดินผ่านอุโมงค์ทางเดินที่นำไปยังจุดชมวิว ซึ่งตั้งอยู่ใกล้ชิดกับตัวน้ำตกโดยตรง นอกจากนี้ยังมีเส้นทางเดินไปยังสะพานแขวน และจุดชมวิวชั้นที่ 2 ซึ่งสร้างขึ้นในปี 2008 เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้ชมวิวน้ำตกแบบพาโนราม่า

2. งานประดับไฟ Daigo Light
งาน Daigo Light เป็นงานประดับไฟที่จัดทุกปีที่น้ำตกฟุคุโรดะ จะเป็นการตกแต่งน้ำตกให้มีความสวยงามไปด้วยการตกแต่งไฟ LED หลากสี พร้อมการแสดงแสงเลเซอร์ที่ส่องสว่างไปยังตัวน้ำตกและอุโมงค์ทางเดิน ช่วยสร้างบรรยากาศที่งดงามและโรแมนติกในยามค่ำคืน
งานนี้จะจัดขึ้นในช่วงฤดูใบไม้ร่วงและฤดูหนาวของทุกปี ไฮไลต์สำคัญจะอยู่ที่บริเวณอุโมงค์แห่งแสง (Tunnel of Light) ซึ่งเป็นทางเดินยาว 276 เมตรที่นำไปยังจุดชมวิว โดยจะถูกประดับตกแต่งด้วยไฟ LED รูปทรงดอกไม้และลวดลายต่างๆ สวยงามราวกับกำลังเดินผ่านอุโมงค์แห่งดวงดาวเลย



เวลเปิดไฟ
- เดือนตุลาคม – พฤศจิกายน: ตั้งแต่พระอาทิตย์ตกดินถึง 20:00 น.
- เดือนธันวาคม – มกราคม: ตั้งแต่พระอาทิตย์ตกดินถึง 19:00 น.
- อุโมงค์แห่งแสงเปิดให้เข้าชมตั้งแต่ 08.00 – 20.00 น. (ตุลาคม – พฤศจิกายน) และ 09.00 – 19.00 น. (ธันวาคม – มกราคม)
3. ความสวยงามของแต่ละฤดู
ฤดูใบไม้ผลิ
ในช่วงฤดูใบไม้ผลิ (ประมาณเดือนมีนาคม – เดือนพฤษภาคม) ต้นไม้ในบริเวณรอบๆ ก็จะเป็นสีเขียวชอุ่ม บางพื้นที่ก็จะมีสีชมพูของดอกซากุระให้ได้ชมด้วย อุณหภูมิไม่ร้อนหรือหนาวเกินไป เหมาะกับการเดินชมธรรมชาติ

ฤดูร้อน
ช่วงฤดูร้อน (ประมาณเดือนมถุนายน – เดือนสิงหาคม) อุณหภูมิจะเริ่มสูงขึ้น แต่ก็เป็นช่วงที่ท้องฟ้ามีความแจ่มใส ต้นไม้ในบริเวณรอบๆ ก็จะเป็นสีเขียวชอุ่ม ให้ความรู้สึกสดชื่นและร่มรื่นเป็นอย่างมาก ในช่วงนี้จะเป็นช่วงที่นักท่องเที่ยวเดินทางกันค่อนข้างน้อย ทำให้ได้สัมผัสกับความสงบของธรรมชาติกันได้เต็มที่

ฤดูใบไม้ร่วง
ในช่วงฤดูใบไม้ร่วง (ประมาณปลายเดือนตุลาคม – กลางพฤศจิกายน) ถือเป็นช่วงยอดนิยมของนักท่องเที่ยวเลย โดยนักท่องเที่ยวทั้งญี่ปุ่นและต่างชาติจะมาเที่ยวที่นี่กันเป็นจำนวนมาก บรรยากาศรอบๆ จะเต็มไปด้วยใบไม้สีแดง ส้ม และเหลือง ตัดกับน้ำตกสีขาว ทำให้บรรยากาศที่นี่ดูสงบและมีความอบอุ่นเป็นอย่างมาก โดยในช่วงนี้จะมีการจัดงานประดับไฟ Daigo Light ให้ได้ชมกันด้วย แสงไฟที่ส่องสว่างตลอดทั้งอุโมงค์และที่บริเวณน้ำตก ทำให้เกิดภาพที่โรแมนติกและมีความสวยงามเป็นอย่างมาก

ฤดูหนาว
ในช่วงฤดูหนาว (ประมาณเดือนธันวาคม – กุมภาพันธ์) ที่มีอุณหภูมิต่ำจนติดลบ อุณหภูมิอาจลดลงถึง -5°C หรือมากกว่านั้นโดยเฉพาะตอนกลางคืน จะทำให้น้ำตกบางส่วนหรือเกือบทั้งหมดแข็งตัวเป็นผืนน้ำแข็งขนาดใหญ่ ต้นไม้ในบริเวณใกล้เคียงก็จะปกคลุมไปด้วยหิมะสีขาว ซึ่งจะให้บรรยากาศและความสวยงามแตกต่างไปจากในช่วงฤดูอื่นๆ และในช่วงนี้ก็จะยังคงมีการจัดงานประดับไฟ Daigo Light ให้ได้ชมกันอยู่ ใครที่เดินทางในช่วงนี้ควรใส่เสื้อที่ให้ความอบอุ่นแก่ร่างกายและควรใส่รองเท้ากันลื่นไปด้วย

4. วิธีการเดินทาง
สถานีรถไฟที่ใกล้น้ำตกมากที่สุดคือสถานี Fukuroda โดยสามารถเดินทางได้โดยรถไฟสาย JR Suigun ลงที่สถานี Fukuroda จากนั้นนั่งรถบัสประมาณ 10 นาที โดยรถบัสออกจะออกทุกๆ 1-2 ชั่วโมง วิ่งไปจนถึงป้ายรถบัสทาคิโมโตะค่าโดยสารเที่ยวเดียวอยู่ที่ประมาณ 260 เยน และจากป้ายรถบัสทาคิโมโตะเดินต่อไปอีกประมาณ 5-10 นาที ก็จะถึงทางเข้าอุโมงค์ที่จะเชื่อมไปยังน้ำตก และนอกจากนี้ยังมีบริการแท็กซี่จากสถานีอีกด้วยโดยจะใช้เวลาประมาณ 10 นาที ค่าโดยสารเที่ยวเดียวประมาณ 1,300 เยน จะเหมากับผู้ที่ต้องการความเป็นส่วนตัวและไม่ต้องการเสียเวลาในการรอรถบัส
5. ค่าเข้าชมและเวลาทำการ
เวลาทำการ | – พฤษภาคม ถึง ตุลาคม : 08.00 – 18.00 น. – พฤศจิกายน : 08.00 – 17.00น. – ธันวาคม ถึง เมษายน : 09.00 – 17.00 น. |
ค่าเข้าชม | – ผู้ใหญ่ 300 เยน – เด็ก (อายุต่ำกว่า 15 ปี) 150 เยน |
สรุป
น้ำตกฟุคุโรดะ (Fukuroda Falls) หนึ่งในสามน้ำตกที่สวยที่สุดของญี่ปุ่น โดดเด่นด้วยน้ำตกสี่ชั้นที่เปลี่ยนโฉมตามฤดูกาลตลอดปี ไม่ว่าจะเป็นใบไม้ผลิที่เขียวชอุ่ม ฤดูร้อนที่สดใส ใบไม้เปลี่ยนสีในฤดูใบไม้ร่วง หรือผืนน้ำตกที่แข็งตัวในช่วงฤดูหนาว ต่างก็สร้างเสน่ห์ที่ไม่ซ้ำกันในแต่ละครั้งที่ไปเลย ใครที่สนใจสอบถามเพิ่มสามารถแอดไลน์ LINE ID : @lovelysmiletour ได้เลย