รีวิววัดอาซากุสะ วัดเก่าแก่ใจกลางเมืองโตเกียว ปี 2025

แชร์บทความนี้

ประเทศญี่ปุ่นเป็นประเทศที่เต็มไปด้วยเสน่ห์อันหลากหลาย ทั้งเทคโนโลยีล้ำสมัย วัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์ และวิถีชีวิตที่ผสมผสานอดีตกับปัจจุบันได้อย่างกลมกลืน มีสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย ซึ่งจุดหมายปลายทางสำคัญที่ไม่ควรพลาดที่จะมารีวิวในบทความนี้ก็คือ วัดอาซากุสะ วัดเก่าแก่ที่นักท่องเที่ยวนิยมเดินทางมาเป็นจำนวนมากตลอดทั้งปีเมื่อมาเที่ยวที่ทัวร์ญี่ปุ่น ที่วัดแห่งนี้จะมีที่มาความสำคัญ และมีไฮไลต์อะไรที่น่าสนใจบ้าง ไปดูกันเลย

1. ประวัติของวัดอาซากุสะ

วัดอาซากุสะ (Asakusa Temple) มีชื่ออย่างเป็นทางการว่าวัดเซนโซจิ (Sensoji Temple) ตั้งอยู่ที่อาซากุสะ เมืองโตเกียว โดยย้อนกลับไปเมื่อปี ค.ศ. 628 ตามตำนานเล่าว่า มีชาวประมง 2 คนจับปลาที่แม่น้ำสุมิดะ แล้วพบกับรูปปั้นพระโพธิสัตว์กวนอิมอยู่ในอวน แม้จะพยายามปล่อยคืนแม่น้ำกี่ครั้ง ก็กลับมาขึ้นอวนอีก จึงเชื่อว่าเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์และร่วมกันสร้างวัดเพื่อประดิษฐานองค์พระเจ้าแม่กวนอิม และเปิดให้ชาวบ้านมากราบไหว้ ต่อมาในปี ค.ศ. 645 ก็ได้บริจาคพื้นที่บ้านให้สร้างวัดเซ็นโซจิขึ้น ต่อมาวัดนี้ได้ถูกทำลายลงในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 และหลังจากนั้นก็มีการสร้างใหม่ขึ้นมาอีกเพื่อเป็นสัญลักษณ์ของการเกิดใหม่และความสงบสุข เพื่อเป็นที่ยึดเหนี่ยวของชาวญี่ปุ่นอีกด้วย ในปัจจุบันก็เป็นสถานที่ที่นักท่องเที่ยวนิยมเดินทางกันเมื่อมาเที่ยวทัวร์โตเกียว ใครที่ได้มาที่เมืองโตเกียวแล้วก็อย่าลืมมาไหว้พระขอพรที่วัดแห่งนี้กันได้

asakusa 9

2. จุดไฮไลต์ภายในวัด

ประตูคามินาริมง (Kaminarimon Gate)

ประตูคามินาริมง เป็นสัญลักษณ์อันโดดเด่นของวัด สร้างครั้งแรกในปี ค.ศ. 941 โดยท่านไทระ โนะ คิโนะมาสะ มีชื่ออย่างเป็นทางการว่าประตูฟูไรจินมง (Furaijinmon) บริเวณด้านข้างโคมแดงฝั่งขวาจะมีรูปปั้นของฟูจิน (เทพวแห่งลม) ฝั่งซ้ายจะมีรูปปั้นของไรจิน (เทพสายฟ้า) ที่คอยปกป้องวัด ประตูนี้จึงได้รับชื่อเรียกว่าประตูฟูไรจินมง ซึ่งคำว่า มง มีความหมายว่าประตูนั่นเอง ประตูคามินาริมงนี้เป็นหนึ่งในจุดเช็คอินยอดฮิตของนักท่องเที่ยวมากมายที่เดินทางมาที่นี่เลย เป็นโคมแดงขนาดใหญ่ที่สูงกว่า 3.9 เมตร เส้นผ่านศูนย์กลาง 3.3 เมตร และหนักประมาณ 700 กิโลกรัม โครงภายในทำมาจากไม้ไผ่

รีวิววัดอาซากุสะ
ประตูคามินาริมง

ถนนนากามิเสะ (Nakamise Street)

เมื่อเดินผ่านประตูคามินาริมง ก็จะพบกับถนนนากามิเสะ ซึ่งเป็นถนนช้อปปิ้งขนาดใหญ่ที่เก่าแก่ที่สุดในญี่ปุ่น ตัวถนนจะมีความยาวตลอดสายประมาณ 200 เมตรทอดยาวตั้งแต่ริมถนนมาจนถึงภายในวัด เต็มไปด้วยร้านขายของมากมายกว่า 90 ร้านตลอดทั้งสองฝั่ง ทั้งของฝาก ของที่ระลึก ชุดยูกาตะ ขนมพื้นบ้าน อาหารต่างๆ รวมไปถึงของใช้

รีวิววัดอาซากุสะ
ถนนนากามิเสะ

ประตูโฮโซมง (Hosomon Gate)

ประตูโฮโซมง จะเป็นประตูชั้นที่สองของวัด จะอยู่ตรงจุดสิ้นสุดของถนนนากามิเสะ หรือมีอีกชื่อเรียกหนึ่งว่า ประตูนิโอมง (Niomon Gate) เนื่องจากว่ามีรูปปั้นของนิโอ ซึ่งเป็นผู้พิทักษ์ที่มีท่าทางโกรธเกรี้ยวจำนวนสององค์ประดิษฐานอยู่ที่ทั้งสองด้านของประตู โดยตรงกลางของประตูโฮโซมง จะมีโคมไฟสีแดงขนาดใหญ่ที่มีคำว่า “โคะบุเนะมาจิ” (小舟町 / Kobunemachi) เขียนเอาไว้ ก็จะเป็นอีกจุดยอดนิยมของนักท่องเที่ยวให้มาถ่ายรูปเช่นกัน

รีวิววัดอาซากุสะ
ประตูโฮโซมง

วิหารหลักของวัด (Main Hall / Hondo)

วิหารหลักจะเป็นจุดศูนย์กลางของวัด ถูกบูรณะขึ้นมาใหม่ในปี ค.ศ. 1649 เนื่องจากอาคารหลังเดิมนั้นได้ถูกทำลายลงไปในช่วงสงคราม เป็นที่ประดิษฐานของพระโพธิสัตว์เจ้าแม่กวนอิม นักท่องเที่ยวสามารถขึ้นมาขอพระบนที่ด้านบนวิหารได้ โดยสามารถขอได้ทุกเรื่อง ทั้งเรื่องสุขภาพ การเงิน การเรียน หน้าที่การงาน นอกจากนี้บริเวณด้านขวามือก็จะมีร้านขายเครื่องรางด้วย โดยเครื่องรางทั้งหมดได้รับการปลุกเสกแล้ว เครื่องรางก็จะมีให้เลือกบูชากันหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นเครื่องราง ความรัก โชคลาภ หรือจะเป็น เครื่องรางเสริมดวง จะซื้อเก็บไว้ใช้เองหรือเป็นของฝากก็ได้เช่นกัน

รีวิววัดอาซากุสะ
บริเวณด้านหน้าของวิหารหลัก
รีวิววัดอาซากุสะ
นักท่องเที่ยวมากมายมาขอพรกับเจ้าแม่กวนอิม

เจดีย์ห้าชั้น (Five-Storied Pagoda)

เจดีย์ห้าชั้น ตั้งอยู่ที่บริเวณด้านซ้ายของวิหารหลัก เป็นหนึ่งในเจดีย์ที่มีความสวยงามที่สุดในญี่ปุ่น มีความสูงประมาณ 53.32 เมตร หรือเท่ากับตึกสูงประมาณ 15 – 20 ชั้น สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 942 ด้านบนสุดของเจดีย์จะเป็นที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุที่นำมาจากวัดอิสุรุมุณิยะประเทศศรีลังกาส่วนชั้น 2 ถึงชั้น 4 เป็นห้องพักผ่อนของผู้มีศรัทธา และสำนักงานของวัด ซึ่งจะสามารถเข้าไปในเจดีย์ห้าชั้นของวัดได้ปีละ 3 ครั้ง แต่จะจำกัดเฉพาะแค่คนที่ลงทะเบียนเท่านั้น

รีวิววัดอาซากุสะ
เจดีย์ห้าชั้น

โอมิคุจิ (Omikuji)

นอกจากนี้ภายในวัดยังมีจุดเสี่ยงเซียมซีหรือที่เรียกว่า โอมิคุจิกระจายอยู่ทั่ววัดอีกด้วย นักท่องเที่ยวสามารถมาเสี่ยงเซียมซีกันได้ โดยจะมีค่าใช้จ่าย 100 เยน คำทำนายก็จะมีภาษาอังกฤษให้อ่าน หากใครที่ได้รับคำทำนายที่ไม่ดี ก็จะให้นำใบคำทำนายไปผูกไว้กับรายแก้เคล็ด แต่ถ้าใครที่ได้รับคำทำนายที่ดีก็สามารถนำกลับได้

รีวิววัดอาซากุสะ
โอมิคุจิ หรือเสี่ยงเซียมซี

3. รายละเอียดเพิ่มเติม

เวลาทำการเปิดทุกวันตั้งแต่เวลา 06.00 – 17.00 น.
ค่าเข้าชมไม่มีค่าใช้จ่าย
ที่ตั้งแผนที่

4. วิธีการเดินทาง

สามารถนั่งรถไฟใต้ดินสาย Tokyo Metro Ginza Line / Toei Asakusa Line มาลงที่ Asakusa Station เดินเพียง 3-5 นาที ก็จะถึงบริเวณวัด

สรุป

วัดอาซากุสะ เป็นวัดเก่าแก่ที่มีประวัติมาอย่างยาวนาน เป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวญี่ปุ่นมากมาย และยังเป็นหนึ่งในจุดหมายของนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลกอีกด้วย ใครที่สนใจอยากมาไหว้พระขอพรที่วัดแห่งนี้ ก็สามารถแอดไลน์ LINE ID : @lovelysmiletour เพื่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้เลย

แชร์บทความนี้