ประเทศจีนเป็นอีกหนึ่งประเทศที่มีแหล่งท่องเที่ยวที่สวยงามมากมาย ทั้งสถานที่ที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ยาวนานและธรรมชาติที่งดงาม ด้วยความที่ประเทศจีนได้มีการประกาศฟรีวีซ่าให้กับคนไทย รวมถึงประเทศอื่นๆ และทำให้กลายเป็นจุดหมายปลายทางยอดฮิตสำหรับนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก ซึ่งในบทความนี้เราจะมาแนะนำ 10 ที่เที่ยวจีนยอดฮิต ปี 2024 หากใครที่กำลังมีแพลนไปเที่ยวทัวร์จีน อยากไปเที่ยวที่ไหนสามารถอ่านบทความนี้ก่อนได้เลย
สารบัญ
- ภูเขาหิมะมังกรหยก (Jade Dragon Snow Mountain)
- ทะเลสาบไป๋สุยเหอ (Baishuihe River)
- อุทยานจิ่วจ้ายโกว (Jiuzhaigou National Park)
- ภูเขาสี่ดรุณี (Four Girls Mountain)
- หมู่บ้านหิมะ (China Snow Town)
- เขาเทียนเหมินซาน (Tianmen Mountain)
- เมืองโบราณฟูหรงเจิ้น (Furong Zhen)
- พระราชวังกู้กง (Forbidden City)
- กำแพงเมืองจีน (The Great Wall Of China)
- เขาบู๊ตึ้ง (Wudang Mountain)
1. ภูเขาหิมะมังกรหยก (Jade Dragon Snow Mountain)
อุทยานภูเขาหิมะมังกรหยก หรือที่เรียกว่า “อวี้หลงเสวี่ยซน” เป็นแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติระดับ 5A ที่มีชื่อเสียงในมณฑลยูนาน ประเทศจีน ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของเมืองลี่เจียง มีลักษณะเป็นภูเขาสูงที่ตั้งตระหง่านทอดตัวยาว สามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจนได้ทั่วทุกจุดในเมืองลี่เจียง หากมองไกลๆ จะเห็นภูเขาเป็นรูปคล้ายๆมังกรกำลังเลื้อยอยู่ และมีหิมะสีขาวเหมือนกับหยกขาวปกคลุมยอดเขาตลอดทั้งปี ภูเขาหิมะมีความสูงเหนือระดับน้ำทะเลถึง 5,596 เมตร แต่จุดสูงสุดที่นักท่องเที่ยวสามารถขึ้นไปได้อยู่ที่ 4,506 เมตร ซึ่งทางอุทยานมีบริการนั่งกระเช้าพาขึ้นไปชมวิว หิมะบนยอดเขา ในระหว่างทางก็จะเห็นวิวในมุมที่แตกต่างกัน
นอกจากนี้บริเวณรอบๆ ภูเขาหิมะมังกรหยกยังเป็นที่ตั้งของหมู่บ้านชาวนาซี (Naxi) ซึ่งเป็นชนเผ่าพื้นเมืองของมณฑลยูนนาน นักท่องเที่ยวที่เที่ยวจีนสามารถสัมผัสวัฒนธรรมท้องถิ่น ศึกษาวิถีชีวิตและขนบธรรมเนียมดั้งเดิมของชาวนาซีและชมการเเสดงโชว์สุดอลังการ Impression of Lijiang ได้อีกด้วย
2. ทะเลสาบไป๋สุยเหอ (Baishuihe River)
ทะเลสาบไป๋สุยเหอ หรือทะเลสาบสีฟ้าเทอคอยซ์ ตั้งอยู่ฝั่งตะวันออกของภูเขาหิมะมังกรหยก มีความสูงจากระดับน้ำทะเลถึง 4,000 เมตร น้ำในทะเลสาบแห่งนี้เกิดจากการละลายของหิมะบนภูเขาหิมะมังกรหยกไหลลงมารวมกันยังทะเลสาบ น้ำใสสะอาดและบริสุทธิ์จนสามารถมองเห็นพื้นใต้น้ำได้ และน้ำในทะเลสาบจะมีความเย็นเฉียบตลอดทั้งปี นักท่องเที่ยวสามารถเดินชมความสวยงามของทะเลสาบได้ตลอดระยะทาง 3 กิโลเมตร หรือจะเลือกนั่งรถรับส่งไปยังจุดต่างๆได้ ซึ่งจะมีค่าบริการเพิ่มเติม
3. อุทยานจิ่วจ้ายโกว (Jiuzhaigou National Park)
อุทยานจิ่วจ้ายโกว เป็นอุทยานแห่งชาติและเป็นพื้นที่อนุรักษ์ธรรมชาติขนาดใหญ่ ตั้งอยู่ในมณฑลเสฉวนของประเทศจีน ซึ่งมีชื่อเสียงเรื่องธรรมชาติที่สวยงามของทะเลสาบ ลำธาร น้ำตกและหุบเขาที่ล้อมรอบด้วยภูเขาหิมะ ซึ่งที่นี่อยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเลถึง 2,500 เมตร คำว่าจิ่วจ้ายโกว หมายความว่า หุบเขาแห่งหมู่บ้านทั้งเก้า เนื่องจากสมัยก่อนเคยมีหมู่บ้านของชาวทิเบตมาอาศัยอยู่ 9 หมู่บ้านด้วยกัน และที่นี่ยังได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกในปี 1992 และได้รับยกย่องให้เป็นเขตสงวนชีวมณฑลโลกในปี 1997 อีกด้วย ซึ่งแต่ละช่วงฤดูกาลจะมีความสวยงามที่แตกต่างกัน แต่ช่วงเวลาที่เป็นไฮไลท์ที่สุดของที่นี่คือช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสี ใบไม้สีเหลืองตัดกับน้ำใสมรกตบอกเลยว่าสวยมากๆ ถือว่าเป็นที่เที่ยวจีนอีกหนึ่งเเห่งที่ใครไปเฉิงตูก็ไม่ควรพลาด
4. ภูเขาสี่ดรุณี (Four Girls Mountain)
ภูเขาสี่ดรุณี หรือชื่อในภาษาจีนเรียกว่า ซื่อกู่เหนียงซาน (Siguniangshan) เป็นกลุ่มยอดเขาที่เรียงรายกันอยู่ 4 ยอดเขา ที่ตั้งอยู่ในมณฑลเสฉวน ทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศจีน ที่มีความสูงเหนือระดับน้ำทะเลกว่า 6,000 เมตร ซึ่งชาวทิเบตนิยมเรียกกันในนามเทพแห่งความศักดิ์สิทธิ์ SKOLA แปลว่า เทพเจ้าผู้ปกปักรักษา บนยอดเขาทั้ง 4 ยอด ถูกปกคลุมไปด้วยหิมะขาวตลอดทั้งปี มองดูคล้ายกับหญิงสาวที่ปกคลุมหน้าด้วยผ้าขาว ดั่งกับตำนานของสี่สาวพี่น้อง และบริเวณตีนเขาถูกปกคลุมไปด้วยป่าที่อุดมสมบูรณ์ มีลำธารน้ำไหลผ่าน และทุ่งหญ้า มีความสวยงามคล้ายกับยุโรป หรือที่เรียกกันว่า “เทือกเขาแอลป์แห่งดินแดนตะวันออก” และเส้นทางยอดนิยมในการชมความสวยงามของภูเขาสี่ดรุณี คือเส้นทางหุบเขาซวงเฉียวโกว มีระยะทางประมาณ 34 กิโลเมตร ตลอดเส้นสามารถชมความสวยงามของหุบเขาหยินหยาง ทุ่งหญ้าเหนี่ยนหยูป้า และภูเขาหญิงตั้งครรภ์
5. หมู่บ้านหิมะ (China Snow Town)
หมู่บ้านหิมะ หรือที่มีชื่อเรียกกันว่า “ฟินเเลนด์แห่งภาคตะวันออก” ตั้งอยู่ในพื้นที่ภูเขาของเมืองฮาร์บินในมณฑลเฮยหลงเจียง อยู่ห่างจากตัวเมืองฮาร์บินประมาณ 280 กิโลเมตร เป็นหมู่บ้านเล็กๆที่ถูกปกคลุมไปด้วยหิมะตลอดช่วงฤดูหนาว ซึ่งหิมะที่นี่มีความพิเศษตรงที่มีความหนาและสวยงามเป็นพิเศษ เนื่องจากสภาพภูมิอากาศที่หนาวเย็นจัด โดยอุณหภูมิจะลดลงถึง -20 ถึง -30 องศาเซลเซียสในช่วงกลางคืน หิมะที่หนาและขาวละเอียดทำให้หมู่บ้านนี้ดูเหมือนดินแดนเทพนิยายที่ปกคลุมไปด้วยหิมะขาวโพลน นอกจากนี้ในหมู่บ้านยังมีถนนคนเดินเสวี่ยยุ่นเจีย เป็นถนนหลักของหมู่บ้านหิมะที่มีความยาวประมาณ 500 เมตร ที่เต็มไปด้วยร้านค้า สินค้าท้องถิ่น และร้านอาหารมากมาย
6. เขาเทียนเหมินซาน (Tianmen Mountain)
เขาเทียนเหมินซาน หรือรู้จักกันในชื่อ “ถ้ำประตูสวรรค์” ตั้งอยู่ในเมืองจางเจียเจี้ย มณฑลหูหนานของจีน เป็นหนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติที่น่าทึ่งและเป็นภูเขาที่สูงที่สุดในจางเจียเจี้ย โดยมีความสูงเหนือระดับน้ำทะเลถึง 1,519 เมตร ซึ่งทำให้ที่นี่เป็นหนึ่งในจุดชมวิวที่สามารถมองเห็นทิวทัศน์ของภูเขาและป่าที่งดงามรอบด้าน นอกจากนี้ “ประตูสวรรค์” ที่เป็นจุดเด่นของภูเขานี้ ยังมีความสูงราว 131.5 เมตร และมีความกว้างประมาณ 57 เมตร มีความลึกถึง 60 เมตร และมีบันใด 999 ขั้น จากบริเวณด้านล่างขึ้นไปด้านบนสู่ประตูสวรรค์ เป็นโพรงหินขนาดใหญ่ที่มีเอกลักษณ์และสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาเยี่ยมชมจากทั่วโลก
7. เมืองโบราณฟูหรงเจิ้น (Furong Zhen)
เมืองโบราณฟูหรงเจิ้น เป็นเมืองเก่าแก่ที่ตั้งอยู่บนหน้าผาเหนือน้ำตกฟูหรงในมณฑลหูหนาน เมืองจางเจียเจี้ย ทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีน ที่นี่มีประวัติศาสตร์ที่ยาวนานกว่า 2,000 ปี โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมโบราณและวัฒนธรรมของชนเผ่าถู่เจียและม้ง นักท่องเที่ยวสามารถเพลิดเพลินกับการเดินชมบ้านไม้เก่าแก่ และไฮไลท์ของที่นี่ คือ “น้ำตกฟูหรง” เป็นน้ำตกที่ไหลลงมาจากหน้าผาหินใจกลางเมืองโบราณฟูหรง และด้านหลังของน้ำตกจะมีทางเดินที่นักท่องเที่ยวสามารถเดินเข้าไปสัมผัสบรรยากาศและถ่ายรูปได้ น้ำตกที่นี่ความสูงประมาณ 60 เมตร และกว้าง 40 เมตร และช่วงกลางคืนทั่วทั้งหมู่บ้านจะถูกประดับไปด้วยแสงไฟสวยงาม
8. พระราชวังกู้กง (Forbidden City)
พระราชวังกู้กง หรือ พระราชวังต้องห้าม จากชื่อภาษาจีนสามารถแปลได้ว่า เมืองต้องห้ามสีม่วง ที่นี่เป็นหนึ่งในสถานที่สำคัญที่เเสดงถึงประวัติศาสตร์ ศิลปะ และวัฒนธรรมจีน ตั้งอยู่ในใจกลางเมืองปักกิ่ง ประเทศจีน การก่อสร้างพระราชวังกู้กงเริ่มต้นสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1406-1420 ใช้ระยะเวลาในการสร้างทั้งหมด 14 ปี ซึ่งมีความประสงค์จะสร้างพระราชวังที่ยิ่งใหญ่เพื่อเป็นศูนย์กลางการปกครองและเป็นสถานที่พำนักของจักรพรรดิ ทำให้กู้กงเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์สำคัญของประวัติศาสตร์จีน และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโกในปี ค.ศ. 1987 อีกด้วย
9. กำแพงเมืองจีน (The Great Wall Of China)
กำแพงเมืองจีน เป็นหนึ่งในสัญลักษณ์สำคัญของประเทศจีน และเป็นหนึ่งในสิ่งมหัศจรรย์ของโลกที่สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวมาชมความอลังการของกำแพงเมืองจีนได้ กำแพงหินได้ทอดตัวยาวผ่านทั้ง ภูเขา ทะเลทราย ทุ่งหญ้า และแม่น้ำ ซึ่งกำแพงเมืองจีนมีอายุมากกว่า 2,500 ปี โดยมีระยะทางยาวถึง 21,196.18 กิโลเมตร นับเป็นโครงสร้างที่สร้างขึ้นด้วยฝีมือมนุษย์ที่ยาวที่สุดในโลก กำแพงถูกแบ่งออกหลายเส้นทาง เส้นทางที่ได้รับความนิยมมากที่สุดคือ ด่านจูหยงกวน ที่ขึ้นชื่อในเรื่องทิวทัศน์สวย ที่ตั้งอยู่บนภูเขาสูงสลับใหญ่ไปมา และมีป้อมปราการอายุนับร้อยปีที่เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชม และกำแพงเมืองจีนยังได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรกโลกในปี ค.ศ. 1987
10. เขาบู๊ตึ้ง (Wudang Mountain)
เขาบู๊ตึ๊ง หรือ เขาอู่ตัง เป็นภูเขาศักดิ์สิทธิ์ตั้งอยู่ในมณฑลหูเป่ย์ ประเทศจีน เป็นแหล่งกำเนิดของศิลปะการต่อสู้และปรัชญาของลัทธิเต๋า ที่ปรมาจารย์เจินอู่ หรือเทพเจ้าเสวียนอู่ ได้บำเพ็ญตบะบนบอดเขาแห่งนี้ ทั้งนี้ปรมาจารย์เตียซำฮง ผู้ก่อต้งสำนักบู๊ตึ๊ง เป็นผู้คิดค้นวิชาไท้เก็กอีกด้วย โดยมีพื้นที่รวมทั้งหมดประมาณ 321 ตารางกิโลเเมตร ที่นี่มีชื่อเสียงในด้านความงามของธรรมชาติและประวัติศาสตร์ยาวนาน และได้รับการยกย่องเป็นหนึ่งในสถานที่ศักดิ์สิทธิ์สำคัญของจีน บู๊ตึ๊งเป็นที่ตั้งของวัดและสิ่งก่อสร้างทางศาสนาที่งดงาม ซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโกในปี ค.ศ. 1994 อีกด้วย
สรุป
จีนเป็นประเทศที่เที่เต็มไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวหลากหลายรูปแบบ ทั้งแหล่งประวัติศาสตร์ อารยธรรมโบราณ เมืองโบราณ รวมถึงธรรมชาติที่สวยงาม นี่เป็นเพียง 10 สถานที่ที่เที่ยวจีนได้แนะนำให้เท่านั้น ที่จีนยังมีอีกหลายสถานที่ที่สวยงามอีกมากมาย หากใครสนใจไปเที่ยวทัวร์จีน สามารถทักมาสอบถามข้อมูลหรือแอดไลน์มาได้ที่ LINE ID : @lovelysmiletour ได้เลย