รีวิวปราสาทคุมาโมโต้ บ้านเกิดคุมะมง

แชร์บทความนี้

เมื่อพูดถึงสถานที่ท่องเที่ยวในญี่ปุ่น ปราสาทคุมาโมโต้ (kumamoto castle) ในเมืองคุมาโมโต้ เป็นอีกหนึ่งในจุดหมายปลายทางที่ไม่ควรพลาด ด้วยความงดงามตระการตาของสถาปัตยกรรมแบบดั้งเดิมที่ผสมผสานกับประวัติศาสตร์ที่เข้มข้นและน่าประทับใจ หากใครที่กำลังมีแพลนไปเที่ยวทัวร์ญี่ปุ่น ต้องไม่พลาดที่จะไปเยี่ยมชมปราสาทแห่งนี้เลยค่ะ

1. ประวัติความเป็นมา

ปราสาทคุมาโมโต้เป็นปราสาทที่มีอายุยาวนานกว่า 400 ปี จัดได้ว่าเป็นปราสาทที่ใหญ่เป็นอันดับ 3 ของญี่ปุ่น มีพื้นที่กว้างใหญ่ประมาณ 980,000 ตารางเมตร โดยปราสาทแห่งนี้สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1601-1607 ใช้เวลาก่อสร้างยาวนานถึง 7 ปี โดย คาโตะ คิโยมาซะ แม่ทัพใหญ่ในยุคเซนโงคุ โดยได้รับการออกแบบให้เป็นป้อมปราการเพื่อใช้ป้องกันข้าศึก โดยมีคูน้ำ ทางเข้าคดเคี้ยว ป้อมปราการสูงใหญ่ และกำเเพงหินที่เป็นจุดเด่น แต่ในปี ค.ศ. 1877 เกิดเหตุการณ์กบฎซัตสึมะ ปราสาทจึงได้ถูกเผาทำลาย ทำให้โครงสร้างไม้ดั้งเดิมของปราทพังทลาย ในปี ค.ศ. 1960 ได้มีการบูรณะปราสาทขึ้นมาใหม่ โดยใช้โครงสร้างคอนกรีตวัสดุและวิธีการสร้างอาคารภายนอกแบบดั้งเดิม การบูรณะทั้งหมดเสร็จในปี ค.ศ. 2008

ปราสาทคุมาโมโต้
ปราสาทคุมาโมโต้ Credit : kumamoto-guide.jp

แต่ในปี 2016 ได้มีเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งใหญ่ ทำให้ตัวปราสาทได้รับความเสียหายอย่างหนัก ทางการณี่ปุ่นได้มีการซ่อมแซมปราสาทอย่างเต็มที่เพื่อให้ปราสาทแห่งนี้ได้กลับมาสวยงามอีกครั้ง การซ่อมแซมตัวปราสาทแล้วเสร็จในปี 2021 ส่วนตัวอาคารอื่นๆ และกำแพงหินขนาดใหญ่คาดว่าจะใช้เวลาอีกประมาณ 20 ปีในการซ่อมเเซม

2. ภายในปราสาทปราสาทคุมาโมโต้

ภายในปราสาทมีทั้งหมด 6 ชั้นรวมชั้นใต้ดินและสูงประมาณ 30 เมตร และหอคอยหลักขนาดเล็กประกอบไปด้วยทั้งหมด 4 ชั้นพร้อมกับชั้นใต้ดิน มีความสูงอยู่ที่ประมาณ 19 เมตร ภายในปราสาทจะมีอะไรบ้าง ไปดูกันเลย

  • ห้องชั้นใต้ดิน (The Basement) ห้องชั้นใต้ดินเป็นทางเข้าของปราสาท ซึ่งชั้นนี้เคยเป็นห้องครัวในสมัยเอโดะ ในปี ค.ศ. 1603-1868 ชั้นนี้จะมองเห็นกำแพงของปราสาทและบ่อน้ำ จะมีโครงสร้างขนาดใหญ่ที่รองรับโครงสร้างของด้านบน
The Basement
ห้องชั้นใต้ดิน Credit : castle.kumamoto-guide.jp
  • ชั้นที่ 1 ยุคคาโตะ (The Kato Era) ชั้นนี้จะเป็นชั้นที่มีพื้นที่ใหญ่ที่สุด เป็นการจัดแสดงประวัติความเป็นมาในการก่อสร้างปราสาทในสมัยของ คาโตะ คิโยมาซะ การสร้างปราสาท เบื้องหลังการก่อสร้าง และการออกแบบปราสาท ที่เน้นในเรื่องของการป้องกันข้าศึก และทนทานต่อการถูกปิดล้อมได้อย่างดี
castle construction
โครงสร้างปราสาทในยุคคาโตะ Credit : castle.kumamoto-guide.jp
  • ชั้นที่ 2 ยุคโฮโซกาวะ (The Hosokawa Era) เป็นชั้นที่จำลองพื้นที่รอบๆ ของปราสาท ในยุคของโฮโซกาวะ นอกจากนี้ยังมีการจัดนิทรรศการ รวบรวมผลงานศิลปะ คลังอาวุธ ชุดเกราะ หนังสือประวัติศาสตร์ เป็นต้น ซึ่งบางส่วนจัดแสดงอยู่ที่ชั้น 2
Physical models
โมเดลจำลองรอบๆปราสาท Credit : castle.kumamoto-guide.jp
armory exhibit
คลังเครื่องมืออาวุธ Credit : castle.kumamoto-guide.jp
  • ชั้นที่ 3 ยุคโมเดิร์น (The Modern Era) ชั้นนี้จะเป็นการจัดแสดงประวัติความเป็นมาของปราสาทตั้งแต่ยุคเมจิในปี ค.ศ. 1868-1912 รวมถึงการบริหารจัดการภายใต้กองทัพญี่ปุ่น การกบฎซัตสึมะและการถูกเผาทำลายในปี 1877 การบูรณะปราสาทขึ้นมาใหม่ในปี 1960 และการเกิดเหตุการณ์แผนดินไหวในปี 2016 ทั้งหมดมีการจัดแสดงและคำอธิบายของการสร้างใหม่ในชั้นนี้
history of Kumamoto Castle
การจัดแสดงความเป็นมาของปราสาท Credit : castle.kumamoto-guide.jp
  • ชั้นที่ 4 ยุคร่วมสมัย (The Present Day) ที่ชั้น 4 จัดแสดงเกี่ยวกับยุคปัจจุบันและเป็นชั้นสุดท้ายของการจัดนิทรรศการ การเเซ่มแซมและการบูรณะปราสาทในยุคโชวะปี 1926-1989 และยุคเฮเซ 1989-2019 และการเกิดความเสียหายจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวในปี 2016 ในความพยายามที่จะบูรณะปราสาทอย่างต่อเนื่อง
The Present Day
นิทรรศการแสดงเกี่ยวกับยุคปัจจุบัน Credit : castle.kumamoto-guide.jp

ชั้น 5 (ซึ่งใช้สำหรับเปลี่ยนลิฟต์เท่านั้น) ตรงขึ้นไปที่ชั้น 6 และชั้นบนสุดของตัวอาคารหลัก

  • ชั้นที่ 6 ชั้นชมวิว (Viewing Area) ชั้นบนสุดเป็นชั้นชมวิวสามารถมองเห็นวิวรอบๆเมืองคุมาโมโต้ ได้แบบพาโนราม่า 360 องศา บนนี้สามารถสแกนเครื่องหมาย AR ได้ เมื่อสแกนแล้วจะสามารถมองเห็นภาพทิวทัศน์จากหอคอยปราสาทตั้งแต่ต้นยุคเมจิ ซึ่งสร้างขึ้นโดยใช้ภาพถ่ายเก่าๆ ที่ซ้อนทับกับทิวทัศน์ในปัจจุบัน
Viewing Area
ชั้นชมวิวบนหอคอยปราสาท Credit : kyushuandtokyo.org

3. บริเวณรอบนอกปราสาท

3.1 สวนรอบปราสาท

นอกจากนั้นแล้วบริเวณรอบนอกปราสาทยังมีสวนสาธารณะขนาดใหญ่ที่อยู่ติดกับปราสาท มีสระน้ำ และต้นไม้เก่าแก่หลากหลายสายพันธุ์ ให้นักท่องเที่ยวได้เดินเล่นชมวิวะรรมชาติสวยๆ บอกเลยว่าถ้ามาในช่วงฤดูใบไม้ผลิจะได้ชมดอกซากุระบานและเดินเล่นรับลมเย็ยๆไปพร้อมกัน หรือถ้าในช่วงฤดูใบไม้ร่วงบริเวณนี้ก็จะเห็นใบไม้เปลี่ยนสีด้วยเช่นกัน

Sakura at kumamoto castle
ซากุระรอบๆปราสาท ช่วงฤดูใบไม้ผลิ Credit : thenavigatio.com
leaves changing color at kumamoto castle
ใบไม้เปลี่ยนสีรอบปราสาท Credit : flickr.com

3.2 ถนนช้อปปิ้งซากุระโนะบาบะ โจไซเอน

ไม่ไกลจากปราสาท จะมีย่านช้อปปิ้งที่ชื่อว่า Sakura No Baba Josaien  ตั้งอยู่บริเวณเชิงเขาของตัวปราสาท เป็นแหล่งช้อปปิ้งที่มีเอกลักษณ์ สไตล์ย้อนยุค มีร้านค้าเก่าแก่มากมาย ไม่ว่าจะเป็นร้านค้า ร้านอาหาร สินค้าพื้นเมืองมากมาย เหมาะสำหรับเดินเล่นและซื้อของฝาก นอกจากนี้ยังมีของที่ระลึกอย่างคุมะมงที่เป็นมาสคอตประจำเมืองคุมาโมโต้จำหน่ายอีกด้วย

Sakura No Baba Josaien
ถนนช้อปปิ้งซากุระโนะบาบะ โจไซเอน Credit : kumamoto-guide.jp
kumamon
สินค้าคุมะมง Credit : visit-kyushu.com

4. ที่ตั้งและพิกัด

ปราสาทคุมาโมโต้เป็นปราสาทสถาปัตยกรรมแบบญี่ปุ่น ตั้งอยู่ในเขตชูโอ เมืองคุมาโมโต้ จังหวัดคุมาโมโต้

ที่อยู่1-1 Honmaru, Chuo Ward, Kumamoto, 860-0002 ญี่ปุ่น
แผนที่ดูแผนที่ Google Maps

5. วันเวลาทำการและค่าเข้าชม

ค่าเข้าชม ผู้ใหญ่ 800 เยน
เด็ก 300 เยน
เวลาทำการเวลา 09:00 – 17:00 น.
(เข้าชมรอบสุดท้ายเวลา 16:30 น.) 
เว็บไซต์ทางการhttps://castle.kumamoto-guide.jp/

6. เที่ยวช่วงเดือนไหนดี

ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการเที่ยวชมปราสาท คือ

  1. ฤดูใบไม้ผลิ (เดือนมีนาคม-พฤษภาคม)
    ช่วงนี้ซากุระบานสะพรั่ง ทำให้บรรยากาศโดยรอบปราสาทสวยงามมาก นักท่องเที่ยวนิยมมาชมซากุระและถ่ายรูปกับปราสาท
  2. ฤดูร้อน (กลางเดือนมิถุนายน-สิงหาคม)
    ช่วงนี้มีงาน ฟิวริ มัตสึริ หรืองานเทศกาลประจำเมือง มีขบวนพาเหรดอันยิ่งใหญ่และการแสดงต่างๆมากมาย
  3. ฤดูใบไม้ร่วง (ตุลาคม-พฤศจิกายน)
    ใบไม้เปลี่ยนสีสวยงาม เหมาะสำหรับชมวิวทิวทัศน์และถ่ายภาพสวยๆ
  4. ฤดูหนาว (ธันวาคม-กุมภาพันธ์)
    บรรยากาศโรแมนติก หิมะปกคลุมปราสาท ทำให้ดูสวยงามเป็นพิเศษ แต่อากาศค่อนข้างหนาวเย็น

หากต้องการชมดอกซากุระควรไปช่วงฤดูใบไม้ผลิ ส่วนใครชอบงานเทศกาลวัฒนธรรมญี่ปุ่นไปช่วงฤดูร้อน ถ้าชอบชมใบไม้เปลี่ยนสีควรไปช่วงฤดูใบไม้ร่วง และหากอยากเห็นหิมะขาวปกคลุมปราสาทแนะนำให้ไปช่วงฤดูหนาว

7. วิธีการเดินทาง

การเดินทางไปยังปราสาท นั้นค่อนข้างสะดวกสบาย มีหลายวิธีให้เลือก ดังนี้

  1. รถไฟ นั่งรถไฟชินคันเซ็นจากสถานีรถไฟโตเกียวไปลงที่สถานีคุมาโมโต้ ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง หรือสามารถนั่งรถไฟความเร็วสูงชินคันเซ็นจากโตเกียวมายังฟุกุโอกะ แล้วต่อรถไฟไปคุมาโมโต้ ใช้เวลารวมประมาณ 2 ชั่วโมงครึ่ง
  2. รถบัส มีรถบัสวิ่งจากสนามบินฟุกุโอกะไปยังสถานีคุมาโมโต้โดยตรง ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 20 นาที หรือสามารถนั่งรถบัสจากเมืองใกล้เคียงอย่างฟุกุโอกะหรือไปยังสถานีรถไฟใกล้ๆก่อน แล้วต่อรถไฟไปคุมาโมโต้
  3. รถยนต์ ขับรถจากโตเกียวไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ตามทางด่วนโตเกียว-นาโกย่า เข้าสู่ทางด่วนคยูชูเอ็กซ์เพรสเวย์ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 5-6 ชม.

สรุป

ในปัจจุบันปราสาทคุมาโมโต้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของเมือง นักท่องเที่ยวสามารถชื่นชมสถาปัตยกรรมที่งดงาม เรียนรู้ประวัติศาสตร์ในอดีต รวมถึงชมทัศนียภาพโดยรอบของปราสาท ทำให้ปราสาแห่งนี้เป็นสัญลักษณ์สำคัญของวัฒนธรรมญี่ปุ่นที่คงความงดงามและคุณค่ามรดกตกทอดมาจนถึงปัจจุบัน ทาง Lovely Smile Tour มีโปรแกรมญี่ปุ่นให้เลือกมากมาย หากสนใจจองทัวร์หรือสอบถามข้อมูล สามารถแอดไลน์มาได้ที่ LINE ID : @lovelysmiletour หรือดูเเพ็กเกจทัวร์ญี่ปุ่นทั้งหมดในเว็บไซต์ได้เลย

แชร์บทความนี้