แนะนำ 5 จุดท่องเที่ยวสวน การ์เด้นส์ บาย เดอะ เบย์

แชร์บทความนี้

อีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อว่า สวน การ์เด้นส์ บาย เดอะ เบย์ (Gardens by the Bay) นี้ ถือว่าเป็นแลนด์มาร์คสำคัญอีกที่หนึ่งในสิงคโปร์เลยก็ว่าได้ค่ะ โดยสวนแห่งนี้ได้ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกและเป็นหนึ่งในโปรแกรมทัวร์สิงคโปร์ของนักท่องเที่ยวโดยส่วนใหญ่ ที่เดินทางมาเที่ยวที่ประเทศสิงคโปร์กันเลยทีเดียวค่ะ ด้วยการออกแบบสวนที่น่าทึ่ง ผสมผสานปัตยกรรมทันสมัยและพืชพรรณต่าง ๆ ไว้ด้วยกันได้อย่างลงตัว และนอกจากนี้ในสวนแห่งนี้ยังมีพืชพรรณนานาชนิดจากทุกมุมโลกมารวมไว้ที่นี่ แถมได้รับรางวัลการันตีในระดับนานาชาติมากมายค่ะ ในบทความนี้จะพามาทำความรู้จักกับสวนแห่งนี้ และแนะนำ 5 จุดท่องเที่ยว ภายในสวน การ์เด้นส์ บาย เดอะ เบย์ กันค่ะ

1. ประวัติความเป็นมา การ์เด้นส์ บาย เดอะ เบย์

สวน การ์เด้นส์ บาย เดอะ เบย์ นี้เป็นโครงการก่อสร้างสวนสาธารณะขนาดใหญ่ของรัฐบาลสิงคโปร์ค่ะ จุดประสงค์คือเพื่อเป็นแหล่งพักผ่อนหย่อนใจและดึงดูดนักท่องเที่ยวทัวร์สิงคโปร์ให้มาเที่ยวมากขึ้นค่ะ ประวัติความเป็นของสวนนี้ก็คือ ในปี 2001 รัฐบาลสิงคโปร์ได้เริ่มมีนโยบายพัฒนาพื้นที่ริมอ่าวมารีน่าให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวใหม่ จึงประกาศจัดตั้งสวนสาธารณะบริเวณนี้ ต่อมาในปี 2005 ได้จัดประกวดผลงานออกแบบสวน ซึ่งทีมสถาปนิกชาวอังกฤษ Andrew Grant, Wilkinson Eyre และ Leisure Plan Globe จากสหรัฐฯ ชนะการประกวดในครังนี้ และได้ก่อสร้างด้วยงบประมาณก่อสร้างรวม 1 พันล้านดอลลาร์สิงคโปร์ (ราว 24,000 ล้านบาท) ค่ะ

แผนที่ภายในสวน

แผนที่ การ์เด้นส์ บาย เดอะ เบย์
แผนที่ภายใน Garden By The Bay credit : klook.com

2. แนะนำสถานที่เที่ยวภายใน การ์เด้นส์ บาย เดอะ เบย์

2.1 ซุปเปอร์ทรี (Supertree Grove)

เป็นจุดไฮไลท์และแลนด์มาร์กสำคัญของสวน การ์เด้นส์ บาย เดอะ เบย์ ประเทศสิงคโปร์เลยค่ะ ภายในซุปเปอร์ทรีนี้ประกอบไปด้วยประติมากรรมจากต้นไม้ยักษ์ขนาดใหญ่ที่เรียกว่า “ซูเปอร์ทรี” (Supertree) จำนวน 18 ต้น สร้างจากโครงเหล็กและอะลูมิเนียมหุ้มด้วยวัสดุสเตนเลสสตีล มีความสูงตั้งแต่ 25 เมตร ถึง 50 เมตรด้วยกันค่ะ

supertree
credit : gardensbythebay.com

ในซูเปอร์ทรีนี้มีสิ่งอำนวยความสะดวกและจุดชมวิวที่น่าสนใจ ได้แก่

1. OCBC Skyway เป็นทางเดินลอยฟ้ายาว 128 เมตร สูงจากพื้นราว 22 เมตร เชื่อมต่อระหว่างซูเปอร์ทรีสองต้น ให้นักท่องเที่ยวได้เดินชมวิวท้องฟ้าและซูเปอร์ทรีในมุมสูง

2. ทางเดินเลียบริมน้ำระหว่างซูเปอร์ทรี ที่มีน้ำพุและแสงสีประดับอยู่ค่ะ

จุดเด่นของซูเปอร์ทรีนี้คือ ในทุกคืนจะมีการแสดงแสง สี เสียง ในเวลา 19.45 น. และ 20.45 น. เรียกว่าแสดงนี้ว่า “การ์เด้น ราปซอดี้” (Garden Rhapsody) ที่ซุปเปอร์ทรีจะมีสีสันและดรตรีประกอบสุดอลังการค่ะ

garden rhapsody
ภาพการแสดง แสง สี ยามค่ำคืน credit : headout.com

ซูเปอร์ทรีโกรฟจึงนับเป็นไฮไลท์ที่พลาดไม่ได้สำหรับนักท่องเที่ยวที่มาเยือนสวน การ์เด้นส์ บาย เดอะ เบย์ กันเลยค่ะ

เวลาทำการทางเดินลอยฟ้า เปิดทุกวัน เวลา 09:00 – 21:00 น.
การแสดงแสงสีทุกวัน เวลา 19:45 – 20:45 น.

2.2 คลาวด์ฟอเรสต์ (Cloud Forest)

โดมนี้เป็นหนึ่งในนิทรรศการหลักของสวน การ์เด้นส์ บาย เดอะ เบย์ ค่ะ เป็นพิพิธภัณฑ์สวนพฤกษชาติขนาดใหญ่ที่อยู่ในที่ร่ม ที่สามารถจำลองสภาพแวดล้อมของป่าได้อย่างลงตัวและสวยงามค่ะ

cloud forest การ์เด้นส์ บาย เดอะ เบย์
credit : gardensbythebay.com

โดยภายในคลาวด์ฟอเรสต์จะมีสิ่งที่น่าสนใจ ดังนี้ค่ะ

  1. น้ำตกสูง 35 เมตร เป็นน้ำตกในร่มที่สูงที่สุดในโลก สร้างด้วยแรงดันน้ำและเทคนิคพิเศษ ให้ความรู้สึกราวกับอยู่ท่ามกลางป่าฝนบนเขาสูง
  2. ประติมากรรมทางธรณีวิทยา จำลองหน้าผาหิน และภูเขาหินปูน สูงประมาณ 12 เมตร
  3. สวนพฤกษชาตินานาพันธุ์ จากป่าเมฆแถบเอเชีย อเมริกากลาง และอเมริกาใต้ จัดแสดงพรรณไม้กว่า 200,000 ต้น จากกว่า 1,000 สปีชีส์
  4. สะพานและม้านั่งจำลองหมู่บ้านชนเผ่า เพื่อเรียนรู้วิถีชีวิตผู้คนในป่าเขา และ
  5. เส้นทางเดินชมพรรณพืชระดับพื้นดิน ใต้ดิน และระดับกิ่งไม้

คลาวด์ฟอเรสต์ได้ทำการควบคุมอุณหภูมิและความชื้นให้คงที่ตลอดค่ะ เพื่อรักษาสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมสำหรับพรรณไม้ สถานที่นี้จึงเป็นทั้งแหล่งเรียนรู้ เก็บรักษาพรรณพืช และแหล่งพักผ่อนหย่อนใจที่สวยงามมากเลยทีเดียวค่ะ

เวลาทำการ :  ทุกวัน 09:00 – 21:00 น.

2.3 ฟลาวเวอร์โดม (Flower Dome)

โดมนี้เป็นอีกหนึ่งนิทรรศการสำคัญของสวนแห่งนี้ค่ะ เป็นโดมขนาดยักษ์ที่จำลองสภาพภูมิอากาศและสภาพแวดล้อมให้คล้ายกับแถบเมดิเตอร์เรเนียน และจัดแสดงพรรณไม้จากทั่วโลกค่ะ

flower dome
credit : saigontourist.net

ลักษณะสำคัญของฟลาวเวอร์โดม มีดังนี้

  1. โดมกระจกขนาดใหญ่เส้นผ่านศูนย์กลาง 124 เมตร สูง 38 เมตร ปกคลุมพื้นที่ 1.2 เฮกตาร์
  2. ควบคุมอุณหภูมิให้อยู่ระหว่าง 23-25 องศาเซลเซียส และความชื้นสัมพัทธ์ 60-80% เหมาะสำหรับการเจริญเติบโตของพรรณไม้
  3. จำลองสภาพอากาศแบบเมดิเตอร์เรเนียนและสวนแบบยุโรปตะวันตก จัดแสดงพรรณไม้มากกว่า 1 ล้านต้น จาก 3,000 สปีชีส์
  4. พื้นที่จัดสวนต่างๆ เช่น สวนทุ่งดอกไม้ไร้ฤดู บาเลนซิก้า กาเด้นส์ ทุ่งดอกทิวลิป สวนไวน์ สวนนีรันดา เป็นต้น
  5. พิพิธภัณฑ์จำลองบ้านไร่ จากยุคต่างๆ เช่น บ้านปูนโบราณ บ้านตระกูลมรดกจากสมัยการล่าอาณานิคม เป็นต้น
  6. มีแพนอราม่าจากจุดชมวิวด้านบน และคาเฟ่ริมสระน้ำ

เรียกได้ว่าฟลาวเวอร์โดมคือแหล่งรวมดอกไม้และพรรณพืชนานาพันธุ์ที่สวยงาม และตกแต่งอย่างประณีตภายใต้สถาปัตยกรรมโดมขนาดยักษ์อันทันสมัย เป็นอีกหนึ่งจุดหมายปลายทางไฮไลท์ภายในสวนสาธารณะยักษ์แห่งสิงคโปร์นี้ค่ะ

เวลาทำการ : ทุกวัน 09:00 – 21:00 น.

2.4 เฮอริเทจการ์เด้นส์ (Heritage Gardens)

เป็นส่วนหนึ่งของสวนแห่งนี้ ที่จำลองและจัดแสดงสวนในรูปแบบต่างๆ เพื่อสะท้อนถึงวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ของกลุ่มชาติพันธุ์หลักในสิงคโปร์ค่ะ ภายในประกอบด้วย

heritage gardens
credit : gardensbythebay.com

1) จีนการ์เด้น (Chinese Garden)

สวนในแบบจีนดั้งเดิม มีสระน้ำ สะพาน ศาลเจ้า ก๋งกั้ง ประติมากรรมสัตว์หิมพานต์ และต้นไม้สวนจีน เช่น พิโลกซิลอน ปรง เป็นต้น

2) มาลายูการ์เด้น (Malay Garden)

จำลองสวนแบบมลายูดั้งเดิม มีศาลาพักผ่อน น้ำพุ อ่างน้ำ ต้นปาล์ม ต้นฝรั่ง และพรรณไม้เขตร้อนชื้น

3) อินเดียนการ์เด้น (Indian Garden)

สวนในรูปแบบอินเดีย ประดับด้วยเจดีย์ รูปปั้นพระพิฆเนศ ศาลาโถงแบบอินเดีย น้ำพุ และพรรณพืชอินเดียนานาพันธุ์

4) โคโลเนียลการ์เด้น (Colonial Garden)

สวนตกแต่งสไตล์ยุโรปในสมัยอาณานิคม มีศาลาไม้ โรงกระจก สนามหญ้า น้ำพุ และไม้ดอกไม้ประดับสวนจากยุโรป

เฮอริเทจการ์เด้นส์จึงเป็นพื้นที่ที่รวบรวมเอกลักษณ์ของสวนในรูปแบบแบบต่างๆ ที่บ่งบอกถึงความหลากหลายทางวัฒนธรรมของสิงคโปร์ค่ะ ทำให้ผู้เข้าชมหรือนักท่องเที่ยวได้เรียนรู้ประวัติศาสตร์และวิถีชีวิตของกลุ่มชาติพันธุ์ต่าง ๆ ผ่านการจัดสวนอย่างสวยงามค่ะ

เวลาทำการ : ทุกวัน  05:00 – 02:00 น.

2.5 ดรากอนฟลายแอนด์คิงฟิชเชอร์เลก (Dragonfly & Kingfisher Lake)

เป็นทะเลสาบธรรมชาติขนาดใหญ่และสวยงามภายในสวน การ์เด้นส์ บาย เดอะ เบย์ ค่ะ ภายในประกอบไปด้วยทะเลสาบขนาดใหญ่กว้าง 1 เฮกตาร์ มีเกาะกลางน้ำ และสะพานไม้เชื่อมโยงเส้นทางเดินรอบทะเลสาบ และสถานที่แห่งนี้เป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของนกกระสา เต่า ปลา และแมลงปอ จึงมีชื่อดรากอนฟลาย (แปลว่า แมลงปอ) นอกจากนี้ภายในมีพรรณไม้น้ำและปลูกพืชผักสวนครัวด้วยค่ะ คิงฟิชเชอร์เลก (Kingfisher Lake) เป็นคลองขนาดใหญ่ยาว 700 เมตร อยู่ติดกับทะเลสาบ มีหาดทรายและจุดนั่งพักชมวิว และเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของนากินปลานกนางแอ่น จึงมีชื่อคิงฟิชเชอร์ (นกนางแอ่น)และริมคลองยังมีการปลูกต้นไม้ใหญ่และไม้พุ่มอยู่เป็นจำนวนมากค่ะ.

dragonfly and kingfisher lake
credit : gardensbythebay.com

ทั้งดรากอนฟลายเลกและคิงฟิชเชอร์เลกได้รับการออกแบบให้เป็นแหล่งอนุรักษ์ระบบนิเวศน์และสัตว์นานาชนิด เสริมทัศนียภาพอันร่มรื่น เป็นจุดพักผ่อนหย่อนใจในทำเลที่สวยงามกลางสวนสาธารณะขนาดใหญ่แห่งนี้

3. ร้านอาหารแนะนำ

หลักจากเดินเล่นชมสวนต่างๆจนเหนื่อยแล้วนั้น ทางสวนจะมีร้านอาหารภายในสวนแห่งนี้อีกด้วย แนะนำเป็นร้านที่มีชื่อว่า Satay by the Bay ค่ะ โดยจะเป็นร้านอาหารหลักภายในศูนย์อาหาร Satay by the Bay ซึ่งตั้งอยู่ริมอ่าวมาริน่าเบย์ค่ะ ทางร้านจะมีอาหารจำหน่ายหลากหลาย เช่น สะเต๊ะ (Satay) ซึ่งเป็นอาหารประจำชาติยอดนิยมของสิงคโปร์ โดยมีทั้งสะเต๊ะเนื้อไก่ เนื้อวัว และเนื้อแกะให้เลือกรับประทาน พร้อมกับซอสจิ้มรสเผ็ดและกระนำปัทน์ค่ะ นอกจากสะเต๊ะแล้ว ยังมีเมนูอาหารมาลายูและอาหารสิงคโปร์อื่นๆ เช่น ลักซ่า, ข้าวมันไก่, ขนมปังปิ้ง อีกด้วยค่ะ

ร้านอาหาร การ์เด้นส์ บาย เดอะ เบย์
credit : tripadvisor

โดยบรรยากาศของร้านจะเป็นลักษณะร้านเปิดโล่ง มีที่นั่งริมอ่าวมาริน่า ได้ชมวิวสวยของสิงคโปร์ๆระหว่างทางอาหารค่ะ และเป็นหนึ่งในจุดชมวิวพระอาทิตย์ตกที่สวยงามของสิงคโปร์อีกด้วยค่ะ

gardens by the bay food court
credit : gardensbythebay.com

4.วิธีการเดินทาง

มีหลายวิธีในการเดินทางไปยังสวน Garden by the Bay ในประเทศสิงคโปร์ ดังนี้ค่ะ

4.1 รถไฟฟ้า MRT

  • ลงสถานีBayfront ซึ่งอยู่บนเส้นทาง Circle Line และ Downtown Line
  • จากสถานีมีทางเดินลอดคนเชื่อมต่อไปยังสวนโดยตรง

4.2 รถเมล์สาธารณะ

สามารถขึ้นรถเมล์สาย 400, 402, 408, 428 และลงที่ Gardens by the Bay Bus Stop

4.3 เรือข้ามฟาก

  • มีบริการเรือด่วนข้ามอ่าวมารีน่า วิ่งจากตัวเมืองสิงคโปร์ ตรงข้ามกับโรงแรมใบหยกทางตอนใต้
  • ลงที่สถานีเรือด่วนโกดั๊กซิตี้

4.4 แท็กซี่

นอกจากนี้หากต้องการความสะดวกสบายแนะนำแท็กซี่ หรือ Grab/Gojek ได้เช่นกันค่ะ

การใช้รถไฟฟ้า MRT หรือรถเมล์เป็นวิธีการเดินทางที่สะดวกและประหยัดที่สุด เนื่องจากมีสถานีอยู่ไม่ไกลจากสวน เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวทั่วไปค่ะ

สรุป

ประเทศสิงคโปร์นั้นเป็นประเทศเล็กๆ แต่เต็มไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวที่หลากหลาย ตั้งแต่ตึกและสภาปัตยกรรมที่ทันสมัย รวมไปถึงวัดวาที่เหมาะสำหรับสายมูโดยเฉพาะ ประเทศสิงคโปร์ยังมีสวน การ์เด้นส์ บาย เดอะ เบย์ แห่งนี้ที่เป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์คหลักของทางสิงคโปร์อีกด้วยค่ะ หากใครสนใจทัวร์สิงคโปร์ สามารถคลิกที่ลิงก์เพื่อดูโปรแกรมหรือแอดไลน์ LINE ID : @lovelysmiletour เพื่อสอบถามเพิ่มเติมได้เลยค่ะ

แชร์บทความนี้