พระราชวังอิมพีเรียล เป็นพระราชวังที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองโตเกียว ที่มีชื่อเสียงในด้านมรดกทางวัฒนธรรมและเป็นสถานที่สำคัญอันน่าทึ่งของประเทศญี่ปุ่น และยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่โดดเด่นที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ ทำให้นักท่องเที่ยวทัวร์ญี่ปุ่นได้มาสัมผัสวัฒนธรรมญี่ปุ่นและแสดงให้เห็นถึงความโดดเด่นทางสถาปัตยกรรมของที่นี่ ซึ่งในบทความนี้ เราจะมาเเนะนำการเยี่ยมชมพระราชวังที่น่าหลงใหลแห่งนี้กันค่ะว่ามีความสำคัญทางประวัติศาสตร์และคุณลักษณะที่ต้องไปเยี่ยมชมสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมแห่งนี้กันค่ะ
ประวัติความเป็นมา
พระราชวังอิมพีเรียล (Imperial Palace) เป็นสถานที่ประทับหลักของจักรพรรดิแห่งญี่ปุ่น พระราชวังแห่งนี้ก่อสร้างขึ้นในเขตพื้นที่เดิมของปราสาทเอโดะ ซึ่งเป็นที่อยู่ของโชกุนโทคุกาวะก่อนปี ค.ศ.1868 พระราชวังแห่งนี้มีพื้นที่กว่า 3.4 ตารางกิโลเมตร และล้อมรอบไปด้วยคูเมืองและกำแพงหินโบราณ อีกทั้งโดยบริเวณรอบๆของพระราชวังยังเป็นพื้นที่สวนขนาดใหญ่ที่มีการดูแลรักษาอย่างดีที่ปกคลุมไปด้วยสีเขียวชอุ่ม นอกจากนี้พระราชวังแห่งนี้ยังเป็นสถานที่สำหรับจัดงานพิธีสำคัญอีกด้วย
การเข้าชมภายในพระราชวังอิมพีเรียล
การเข้าชมพระราชวังชั้นใน สามารถลงทะเบียนได้ล่วงหน้า หรือต่อแถวรอลงทะเบียนที่ด้านหน้าพระราชวังได้เลยค่ะ หัวหน้าทัวร์โตเกียวจะช่วยแนะนำให้ โดยการเดินชมภายในนั้นจะต้องมีเจ้าหน้าที่นำทางไปค่ะ โดยภายในนั้นจะประกอบไปด้วยอาคารและสวนต่างๆ รวมถึงพระตำหนักที่ประทับจากภายนอกเท่านั้น และนอกจากนี้ภายในพระราชวังชั้นในยังมีร้านค้าที่ขายของที่ระลึกที่หายากอีกด้วย ซึ่งสามารถซื้อได้ก่อนที่ทัวร์จะเริ่มเท่านั้นค่ะ และในระหว่างที่เดินชมจะมีการบรรยายแนะนำข้อมูลต่างๆเป็นภาษาญี่ปุ่นและภาษาอังกฤษอีกด้วยค่ะ
การเข้าเยี่ยมชมพระราชวังสำหรับบุคคลทั่วไป
วันและเวลาทำการ | เปิดเข้าชม วันอังคาร-วันเสาร์ เข้าชมได้วันละ 2 รอบ รอบเช้าเริ่มเวลา 10.00 น. รอบบ่ายเริ่มเวลา 13.30 น. (จำกัดผู้เข้าชมรอบละประมาณ 500 คน) |
ค่าเข้าชม | ฟรี |
การเข้าชม | ลงทะเบียนล่วงหน้า https://sankan.kunaicho.go.jp/english/about/koukyo.html (จำกัดผู้เข้าชมรอบละประมาณ 200 คน) อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://sankan.kunaicho.go.jp/english/guide/koukyo.html ลงทะเบียนรับบัตรคิวด้วยตนเอง ที่ kikyo-mon Gate รอบเช้าแจกบัตรเข้าชมตั้งแต่เวลา 08.30 น. รอบบ่ายแจกบัตรเข้าชมตั้งแต่เวลา 12.00 น. (จำกัดผู้เข้าชมรอบละประมาณ 300 คน) |
สวนตะวันออก (The East Gardens of the Imperial Palace)
สวนตะวันออก หรือสวนโกะเกียว ฮิกะชิ เกียวเอ็น เป็นสวนที่อยู่ในเขตของพระราชวัง มีพื้นที่ประมาณ 210,000 ตารางเมตร ที่เปิดให้นักท่องเที่ยวได้เข้ามาเยี่ยมชมโดยไม่ต้องลงทะเบียนล่วงหน้า เปิดให้เข้าชมฟรีทุกวัน ยกเว้นวันจันทร์ วันศุกร์ และวันหยุดที่กำหนด สวนแห่งนี้มีการจัดสวนสไตล์ญี่ปุ่นและซากปรักหักพังของปราสาทเอโดะที่ทรงคุณค่าทางประวัติศาสตร์ที่ตกแต่งอย่างพิถีพิถัน เป็นสวนที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในการมาชมดอกซากุระในช่วงฤดูใบไม้ผลิ และใบไม้เปลี่ยนสีในช่วงฤดูใบไม้ร่วง และยังเพลิดเพลินไปกับความงามของพืชและสัตว์ที่ได้รับการดูแลอย่างเป็นอย่างดี
1.อนุสาวรีย์คูซูโนกิ มาซาชิเงะ (Statue of Kusunoki Masashige)
เมื่อเข้ามายังสวนตะวันออกแล้ว จะต้องมาชมอนุสาวรีย์ Kusunoki Masashige ที่ถูกสร้างขึ้นในทางด้านทิศตะวันออกเฉียงใต้ของพระราชวังชั้นนอก เป็นซามุไรคนสำคัญในประวัติศาตร์ ในช่วงสมัยจักรพรรดิโกะไดโงะ ซึ่งได้รับการยกย่องจากนักวิชาการในยุคเมจิว่าเป็นซามูไรที่มีความจงรักภักดีต่อจักรพรรดิแห่งญี่ปุ่น และได้มีการสร้างอนุสาวรีย์ขึ้นที่นี่ค่ะ นอกจากนี้ยังเป็นจุดถ่ายรูปยอดนิยมอีกด้วยค่ะ
2.สวนนิโนมารุ (Ninomaru Garden)
สวนนิโนมารุเป็นสวนที่ตั้งอยู่ในบริเวณสวนตะวันออกของพระราชวัง สวนแห่งนี้สร้างขึ้นในปี ค.ศ 1632 ซึ่งในสวนจะมีทั้งบ่อปลาคาร์ฟ และดอกไม้หลากหลายพันธุ์ที่บานสะพรั่งและสวยงามตามฤดูกาลที่แตกต่างกันออกไปเลยค่ะ ทำให้เพลิดเพลินกับการชมดอกไม้ที่นี่ได้ตลอดทั้งปีเลยค่ะ
3.ฐานหอคอยหินเทนชู (Tenshu Stone Tower Base)
ในระหว่างที่เดินชมภายในสวน ก็จะได้พบกับฐานหอคอยหินเทนชูที่เป็นซากหอคอยปราสาทเอโดะ สร้างขึ้นในปี ค.ศ 1638 ซึ่งเป็นหอคอยที่สูงที่สุดในประวัติศาสตร์ของญี่ปุ่น และในปี ค.ศ.1657 ได้ถูกไฟไหม้ไปทั่วเมืองและไม่ได้ถูกสร้างขึ้นใหม่ ตั้งแต่นั้นมาสิ่งที่เหลืออยู่ของปราสาท คือฐานรากหิน ซึ่งยังมีพื้นดำคล้ำและรอยไฟไหม้มาจนถึงทุกวันนี้ นักท่องเที่ยวสามารถเข้าชมโครงสร้างของหินได้ และสามารถขึ้นไปบนยอดฐานหินถ่ายภาพและชมบรรยกาศรอบๆภายในสวนได้ค่ะ
การเข้าชมสวนตะวันออก
ค่าเข้าชม | ฟรี |
วันเวลาทำการ | 1 มีนาคม –14 เมษายน 9:00 – 16:30 น. (ปิดรับเวลา 16:00 น.) 15 เมษายน –31 สิงหาคม 9:00 – 17:00 น. (ปิดรับเวลา 16:30 น.) 1 กันยายน –31 ตุลาคม 9:00 – 16:30 น. (ปิดรับเวลา 16:00 น.) 1 พฤศจิกายน –สิ้นเดือนกุมภาพันธ์ 9:00 – 16:00 น. (ปิดรับเวลา 15:30 น.) |
วันหยุด | หยุดวันจันทร์และวันศุกร์ |
บริเวณรอบนอกพระราชวัง
1.สะพานแว่นตา (Nijubashi Bridge)
ก่อนจะเข้าไปชมความงดงามภายในพระราชวังแนะนำให้แวะชมสะพานนิจูบาชิ หรือที่เรียกว่าสะพานแว่นตา เป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ที่นักท่องเที่ยวมาจะต้องมาแวะที่นี่ ซึ่งสะพานแห่งนี้มีความเก่าแก่ที่มีความโดดเด่น เมื่อก่อนเคยสร้างจากไม้ และมีแท่นรองรับตรงกลางทำให้ดูเป็นสะพานสองชั้น ปัจจุบันได้สร้างเป็นสะพานเหล็กและหิน อีกหนึ่งสาเหตุที่คนนิยมเรียกว่าสะพานแว่นตา เพราะว่าเมื่อเวลาที่สะพานสะท้อนเงาลงในน้ำจะทำให้เกิดเป็นรูปคล้ายกับเเว่นตานั่นเองค่ะ
สะพานแห่งนี้จะเปิดให้ข้ามได้เฉพาะโอกาศพิเศษ และงานเกี่ยวกับญี่ปุ่นเท่านั้นค่ะ สำหรับนักท่องเที่ยวหรือบุคคลทั่วไปจะเดินข้ามสะพานไปยังพระราชวังได้เพียง 2 ครั้งต่อปีเท่านั้นค่ะ คือ วันที่ 2 มกราคมเนื่องในวันขึ้นปีใหม่ และวันที่ 23 ธันวามคมซึ่งเป็นวันเกิดของจักรพรรดิ หรือแค่แวะมาถ่ายรูปก็ได้ตลอดเวลาเช่นกันค่ะ
2.ลานน้ำพุวาดะคุระ (Wadakura Fountain Park)
ลานนำพุวาดะตุระ เป็นอีกหนึ่งสถานที่ยอดนิยมที่อยู่บริเวณรอบนอกคูเมืองของพระราชวัง ลานน้ำพุแห่งนี้สร้างขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองพิธีอภิเษกสมรสของสมเด็จพระจักรพรรดิอากิฮิโตะและสมเด็จพระจักรพรรดินีมิจิโกะ ในปี ค.ศ. 1961 และของเจ้าชายนารูฮิโตะและเจ้าหญิงมาซาโกะ ในปี ค.ศ. 1995 ซึ่งนักท่องเที่ยวจะนิยมแวะมานั่งเล่น ถ่ายรูป และชมความโดนเด่นของแท่นน้ำพุ ยิ่งเป็นช่วงตอนกลางคืนบอกเลยว่าสวยงามและโดดเด่นมากๆเลยค่ะ
วิธีการเดินทาง
สวนชั้นนอกของพระราชวังที่มีขนาดใหญ่ และมีหลายประตูทำให้การเดินทางมาที่นี่สามารถนั่งรถไฟใต้ดินมาได้หลายแห่งเลยค่ะ
Ote-mon Gate เป็นประตูที่ได้รับความนิยม เนื่องจากจะเป็นประตูหลัก
เดินจากสถานี Otemachi (subway) ประมาณ 5 นาที
เดินจากสถานี Tokyo ประมาณ 15 นาที
Hirakawa-mon Gate/Kita-hanebashi-mon Gate
เดินจากสถานี Takebashi (subway Tozai) ประมาณ 5 นาที
สรุป
การเยี่ยมชมพระราชวังในเมืองโตเกียวประเทศญี่ปุ่น เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่ไม่ควรพลาดชม เพราะเป็นสถานที่เต็มไปด้วยความงดงาม ในสมัยของจักรพรรดิและมรดกทางวัฒนธรรมของญี่ปุ่น หากไปยังโตเกียวอย่าลืมแวะเที่ยวชมพระราชวังด้วยนะคะ รับรองเลยว่าคุณจะได้รับประสบการณ์ที่ยากจะลืมเลือน และจะทำให้คุณหลงใหลกับสถานที่สำคัญอันยิ่งใหญ่แห่งนี้แน่นอนค่ะ