โตเกียวสกายทรี (Tokyo Sky Tree) ถือเป็นจุดแลนด์มาร์กแห่งหนึ่งของเมืองโตเกียว ซึ่งส่วนใหญ่ทัวร์ญี่ปุ่นที่มาเที่ยวที่โตเกียวก็จะต้องมาแวะเช็คอิน และยังเป็นหอคอยที่สูงที่สุดในโลกอีกด้วย เป็นจุดชมวิวยอดนิยมที่สามารถสามารถมองเห็นสถานที่สำคัญๆ ในโตเกียวได้ เช่น วัดอาซากุสะ แม่น้ำสุมิดะ และสามารถมองเห็นภูเขาฟูจิอีกด้วยค่ะ แถมบริเวณรอบๆ ก็ยังมีแหล่งช็อปปิ้งให้ได้เลือกซื้อสินค้ามากมาย ในบทความนี้ก็จะมาแนะนำจุดไฮไลท์ของสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมอย่างโตเกียวสกายทรีกันค่ะ
สารบัญ
ประวัติความเป็นมา
โตเกียวสกายทรี เป็นหอคอยกระจายสัญญาณโทรทัศน์และวิทยุที่สูงที่สุดในโลก มีความสูงถึง 634 เมตร ตั้งอยู่ในเขตสุมิดะ เมืองโตเกียว โดยตัวเลข 634 ที่เป็นความสูงของหอคอยสามารถอ่านได้อีกแบบในภาษาญี่ปุ่นว่า มุซะชิ ซึ่งเป็นชื่อเรียกเมืองโตเกียวในสมัยก่อนนั่นเองค่ะ ที่นี่ได้เปิดให้เข้าชมเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม ค.ศ. 2012 แนวคิดในการออกแบบของหอคอยมาจากการผสมผสานระหว่างสิ่งก่อสร้างแบบใหม่และสิ่งก่อสร้างแบบเก่า ได้มีการนำรูปแบบของเจดีย์ 5 ชั้น ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของวัฒนธรรมแบบดั้งเดิมญี่ปุ่นมาผสมกับส่วนฐานรากที่เป็นรูปแบบคล้ายคลึงกับโตเกียวทาวเวอร์ นอกจากนี้โครงสร้างยังเป็นโครงสร้างที่มีความแข็งแรงมากซึ่งสามารถลดแรงสั่นไหวในกรณีที่เกิดแผ่นดินไหวได้ถึง 50% เลยค่ะ
เวลาเปิดทำการ
สามารถเข้าชมได้ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 10:00-20:00 น. โดยเข้าชมรอบสุดท้ายได้ในเวลา 19:00 น.
อัตราค่าบริการ
ประเภทตั๋ว | วัน | อายุ 18 ปี ขึ้นไป | อายุ 12-17 ปี | อายุ 6-12 ปี |
TOKYO SKYTREE Combo ticket ชั้น 350 และ 450 | วันธรรมดา | 3,100 เยน (1,550 เยน) | 2,350 เยน (1,200 เยน) | 1,450 เยน (750 เยน) |
วันหยุด | 3,400 เยน (1,700 เยน) | 2,550 เยน (1,300 เยน) | 1,550 เยน (800 เยน) | |
TOKYO SKYTREE TEMBO DECK ชั้น 350 | วันธรรมดา | 2,100 เยน (1,050 เยน) | 1,550 เยน (800 เยน) | 950 เยน (500 เยน) |
วันหยุด | 2,300 เยน (1,050 เยน) | 1,650 เยน (850 เยน) | 1,000 เยน (500 เยน) | |
TOKYO SKYTREE TEMBO GALLERIA ชั้น 450 | วันธรรมดา | 1,000 เยน (500 เยน) | 800 เยน (400 เยน) | 500 เยน (250 เยน) |
วันหยุด | 1,100 เยน (550 เยน) | 900 เยน (450 เยน) | 550 เยน (300 เยน) |
* สำหรับเด็กอายุ 5 ปี หรือต่ำกว่า 5 ปี ไม่คิดค่าบริการ
* สำหรับราคาในวงเล็บ จะเป็นราคาของผู้ทุพพลภาพ
วิธีในการเข้าชมก็คือสามารถขึ้นลิฟต์มาที่ชั้น 4 เพื่อซื้อตั๋วที่หน้าเคาน์เตอร์ หรือใครที่จะซื้อผ่านเว็บ Klook.com ล่วงหน้าก็สามารถนำคิวอาร์โค้ดมาแสกนได้เลยค่ะ
จุดไฮไลท์
จุดที่ 1 จุดชมวิว โตเกียวสกายทรีมีจุดชมวิวสองระดับ ระดับแรกก็คือ Tembo Deck เป็นจุดชมวิวที่มีความสูง 350 เมตร สามารถชมวิวทิวทัศน์ของโตเกียวจากมุมสูง ที่สูงจนมองเห็นภูเขาไฟฟูจิแบบพาโนรามา พื้นบางที่เป็นกระจกใสทำให้มองลงไปเห็ยวิวด้านล่างได้ด้วยค่ะ ที่ชั้นนี้สามารถซื้อของฝาก หรือนั่งชิลที่คาเฟ่และทานอาหารพร้อมชมวิวไปด้วยได้ โดยจะมีร้านอาหาร Musashi Sky Restaurant ซึ่งขายอาหารแนวฟิวชั่นระหว่างญี่ปุ่นและฝรั่งเศสค่ะ สำหรับใครที่มาทัวร์โตเกียวและกำลังมองหาของที่ระลึก ที่นี่ก็จะมีร้าน The Skytree Shop หรือร้านขายของที่ระลึก สินค้าลิขสิทธิ์เฉพาะของโตเกียวสกายทรีให้ได้ซื้อกลับไปค่ะ โดยจะมีให้ซื้ออยู่ที่ชั้น 1, ชั้น 5 และ ชั้น 345 ที่เป็นส่วนหนึ่งของ Tembo Deck ค่ะ
ระดับที่สอง Tembo Galleria เป็นจุดชมวิวที่มีความสูง 450 เมตร เป็นทางเดินที่มีผนังอีกฝั่งเป็นกระจกใส สามารถชมวิวได้ 360 องศา บริเวณ Tembo Galleria จะมีการจัดนิทรรศการและการแสดงแสงสีให้ได้ชม ซึ่งจะเปลี่ยนไปเรื่อยๆ แล้วแต่ช่วงค่ะ
จุดที่ 2 พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ SUMIDA Aquarium อยู่บริเวณชั้น 5-6 โดยจะมีสัตว์น้ำมากมายให้ได้ชม ทั้งปลาหลายสายพันธุ์ แมงกะพรุน นกเพนกวิน ม้าน้ำ เต่า และยังมีสัตว์อื่นๆ ให้ได้ชมอีกเพียบเลยค่ะ จุดเด่นของที่นี่จะอยู่ที่แทงค์น้ำขนาดใหญ่ที่มีแมงกะพรุนหลากหลายสายพันธุ์กว่า 500 ตัวให้ได้ชม แมงกะพรุนก็จะเรืองแสงเป็นสีขาวและสีฟ้า ทำให้เหมือนดวงดาวที่อยู่บนท้องฟ้าในตอนกลางคืน สวยงามมากๆ ค่ะ ที่นี่ยังมีโชว์ต่างๆ ที่จัดแสดงเพื่อให้ความรู้ด้วย ไม่ว่าจะเป็นโชว์การทำอาหารให้กับสัตว์น้ำและการเพาะเลี้ยงตัวอ่อนในห้องแลป ซึ่งสามารถเข้าชมได้อย่างใกล้ชิดเลยค่ะ ในส่วนของโซนแมงกะพรุน ที่นี่ก็จะเปลี่ยนธีมในการจัดแสดงไปเรื่อยๆ แล้วแต่ช่วงค่ะ แต่ว่าพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ SUMIDA Aquarium ไม่ได้เปิดให้เข้าฟรีนะคะ จะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมอยู่ที่ท่านละ 2,300 เยน และจะเปิดให้เข้าชมได้ตั้งแต่ 10.00 น. – 20.00 น. สำหรับใครที่มาแล้วอยากจะเก็บไฮไลท์ของที่นี่ให้ครบก็แนะนำเลยค่ะ
มาต่อกันที่ จุดที่ 3 ท้องฟ้าจำลองเท็นกุ (KONICA MINOLTA PLANETRIUM “TENKU”) จะอยู่ที่ชั้น 7 ของหอคอย เป็นท้องฟ้าจำลองที่ผลิตโดยผู้ผลิตท้องฟ้าจำลองรายใหญ่ ภายในก็จะมีเทคโนโลยีที่ทันสมัย มีจอภาพแบบ 360 องศา ที่สามารถดูดาวต่างๆ ได้แบบ 360 องศา และระบบเสียงของที่นี่ก็จะเป็นแบบ 3 มิติ ทำให้เหมือนอยู่ในอวกาศจริงๆ นอกจากนี้ที่นี่ก็ยังมีโซนของฝากให้ได้ซื้อกันอีกด้วยค่ะ ท้องฟ้าจำลองจะเปิดให้เข้าชมได้เวลา 11.00 น. – 20.00 น. ใครที่อยากศึกษาและนอนชมท้องฟ้าจำลองก็อย่าลืมแวะมาที่ชั้น 7 กันนะคะ
จุดที่ 4 พิพิธภัณฑ์ไปรษณีย์ (Postal Museum) เป็นพิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงสแตมป์เกือบ 330,000 ดวง มีจัดนิทรรศการที่เล่าประวัติความเป็นมาของระบบไปรษณีย์ของญี่ปุ่น และยังมีการจัดแสดงเครื่องใช้และสิ่งของที่เกี่ยวกับไปรษณีย์ของญี่ปุ่นในสมัยก่อนอีกด้วยค่ะ สำหรับพิพิธภัณฑ์ไปรษณีย์ก็จะอยู่ที่ชั้น 9 ค่าบริการสำหรับผู้ใหญ่จะอยู่ที่ 300 เยน เด็กชั้นมัธยมและประถมจะมีค่าใช้จ่าย 100 เยนเท่านั้นค่ะ
จุดที่ 5 โตเกียวโซระมะจิ (Tokyo Solamachi) เป็นจุดที่สายช็อปปิ้งไม่ควรพลาดเลยค่ะ ถือเป็นแหล่งช็อปปิ้งขนาดใหญ่อีกที่นึงเลย ภายในจะมีทั้ง ร้านค้า ร้านอาหารมากมายให้ได้เลือกซื้อเลือกทาน รวมไปถึงสถานบันเทิงต่างๆ ที่นี่ก็มี เรียกได้ว่าครบจบในที่เดียว สินค้าที่วางขายข้างในก็จะมีทั้งขนม ของที่ระลึก หรือของที่ค่อนข้างเป็นเอกลักษณ์จะไม่เหมือนกับร้านขายของทั่วไปที่นี่กฒีให้ได้เลือกซื้อค่ะ โดยโตเกียวโซระมะจิจะอยู่บริเวณฐานของโตเกียวสกายทรี ชั้น 2 – 3
วิธีการเดินทาง
- นั่งรถไฟใต้ดิน Tokyo Metro สาย Hanzomon มาลงที่สถานี Oshiage
- นั่งรถไฟใต้ดิน Toei สาย Asakusa มาลงที่สถานี Oshiage
- นั่งรถไฟสาย Tobu SKYTREE มาลงที่สถานี TOKYO SKYTREE
สรุป
โตเกียวสกายทรี ถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่นึงที่ไม่ควรพลาดจริงๆ ค่ะ เพราะว่าสามารถชมวิวของโตเกียวได้จากมุมสูง และสามารถชมได้แบบ 360 องศากันเลย มีจุดถ่ายรูปสวยๆ ให้ได้เก็บภาพบรรยากาศเยอะ มีร้านค้าต่างๆ ให้ได้เลือกซื้อของฝาก ไม่ว่าจะมาเที่ยวช่วงกลางวันก็จะเห็นวิวของตึกและต้นไม้ต่างๆ หรือจะมาเที่ยวในตอนกลางคืนก็จะเห็นเป็นวิวของตึกและไฟประดับมากมาย บริเวณใกล้เคียงก็ยังมีแม่น้ำสุมิดะให้ได้เดินเล่นชิลๆ หรือจะไปไหว้พระขอพรที่วัดอาสากุซะก็ได้เช่นกันค่ะ ถ้าหากสนใจทัวร์โตเกียวสามารถกดที่ลิงก์หรือโทรสอบถามเพิ่มเติมได้เลยค่ะ