5 จุดไฮไลท์ห้ามพลาดเมื่อมาโตเกียวสกายทรี

แชร์บทความนี้

โตเกียวสกายทรี (Tokyo Sky Tree) ถือเป็นจุดแลนด์มาร์กแห่งหนึ่งของเมืองโตเกียว ซึ่งส่วนใหญ่ทัวร์ญี่ปุ่นที่มาเที่ยวที่โตเกียวก็จะต้องมาแวะเช็คอิน และยังเป็นหอคอยที่สูงที่สุดในโลกอีกด้วย เป็นจุดชมวิวยอดนิยมที่สามารถสามารถมองเห็นสถานที่สำคัญๆ ในโตเกียวได้ เช่น วัดอาซากุสะ แม่น้ำสุมิดะ และสามารถมองเห็นภูเขาฟูจิอีกด้วยค่ะ แถมบริเวณรอบๆ ก็ยังมีแหล่งช็อปปิ้งให้ได้เลือกซื้อสินค้ามากมาย ในบทความนี้ก็จะมาแนะนำจุดไฮไลท์ของสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมอย่างโตเกียวสกายทรีกันค่ะ

สารบัญ

  1. ประวัติความเป็นมา
  2. เวลาเปิดทำการ
  3. อัตราค่าบริการ
  4. จุดไฮไลท์
  5. วิธีการเดินทาง

สรุป

ประวัติความเป็นมา

โตเกียวสกายทรี เป็นหอคอยกระจายสัญญาณโทรทัศน์และวิทยุที่สูงที่สุดในโลก มีความสูงถึง 634 เมตร ตั้งอยู่ในเขตสุมิดะ เมืองโตเกียว โดยตัวเลข 634 ที่เป็นความสูงของหอคอยสามารถอ่านได้อีกแบบในภาษาญี่ปุ่นว่า มุซะชิ ซึ่งเป็นชื่อเรียกเมืองโตเกียวในสมัยก่อนนั่นเองค่ะ ที่นี่ได้เปิดให้เข้าชมเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม ค.ศ. 2012 แนวคิดในการออกแบบของหอคอยมาจากการผสมผสานระหว่างสิ่งก่อสร้างแบบใหม่และสิ่งก่อสร้างแบบเก่า ได้มีการนำรูปแบบของเจดีย์ 5 ชั้น ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของวัฒนธรรมแบบดั้งเดิมญี่ปุ่นมาผสมกับส่วนฐานรากที่เป็นรูปแบบคล้ายคลึงกับโตเกียวทาวเวอร์ นอกจากนี้โครงสร้างยังเป็นโครงสร้างที่มีความแข็งแรงมากซึ่งสามารถลดแรงสั่นไหวในกรณีที่เกิดแผ่นดินไหวได้ถึง 50% เลยค่ะ

โตเกียวสกายทรี

เวลาเปิดทำการ

สามารถเข้าชมได้ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 10:00-20:00 น. โดยเข้าชมรอบสุดท้ายได้ในเวลา 19:00 น.

อัตราค่าบริการ

ประเภทตั๋ววันอายุ 18 ปี ขึ้นไปอายุ 12-17 ปีอายุ 6-12 ปี
TOKYO SKYTREE Combo ticket
ชั้น 350 และ 450
วันธรรมดา3,100 เยน
(1,550 เยน)
2,350 เยน
(1,200 เยน)
1,450 เยน
(750 เยน)
วันหยุด3,400 เยน
(1,700 เยน)
2,550 เยน
(1,300 เยน)
1,550 เยน
(800 เยน)
TOKYO SKYTREE TEMBO DECK ชั้น 350วันธรรมดา2,100 เยน
(1,050 เยน)
1,550 เยน
(800 เยน)
950 เยน
(500 เยน)
วันหยุด2,300 เยน
(1,050 เยน)
1,650 เยน
(850 เยน)
1,000 เยน
(500 เยน)
TOKYO SKYTREE TEMBO GALLERIA ชั้น 450วันธรรมดา1,000 เยน
(500 เยน)
800 เยน
(400 เยน)
500 เยน
(250 เยน)
วันหยุด1,100 เยน
(550 เยน)
900 เยน
(450 เยน)
550 เยน
(300 เยน)

* สำหรับเด็กอายุ 5 ปี หรือต่ำกว่า 5 ปี ไม่คิดค่าบริการ
* สำหรับราคาในวงเล็บ จะเป็นราคาของผู้ทุพพลภาพ

วิธีในการเข้าชมก็คือสามารถขึ้นลิฟต์มาที่ชั้น 4 เพื่อซื้อตั๋วที่หน้าเคาน์เตอร์ หรือใครที่จะซื้อผ่านเว็บ Klook.com ล่วงหน้าก็สามารถนำคิวอาร์โค้ดมาแสกนได้เลยค่ะ

จุดไฮไลท์

จุดที่ 1 จุดชมวิว โตเกียวสกายทรีมีจุดชมวิวสองระดับ ระดับแรกก็คือ Tembo Deck เป็นจุดชมวิวที่มีความสูง 350 เมตร สามารถชมวิวทิวทัศน์ของโตเกียวจากมุมสูง ที่สูงจนมองเห็นภูเขาไฟฟูจิแบบพาโนรามา พื้นบางที่เป็นกระจกใสทำให้มองลงไปเห็ยวิวด้านล่างได้ด้วยค่ะ ที่ชั้นนี้สามารถซื้อของฝาก หรือนั่งชิลที่คาเฟ่และทานอาหารพร้อมชมวิวไปด้วยได้ โดยจะมีร้านอาหาร Musashi Sky Restaurant ซึ่งขายอาหารแนวฟิวชั่นระหว่างญี่ปุ่นและฝรั่งเศสค่ะ สำหรับใครที่มาทัวร์โตเกียวและกำลังมองหาของที่ระลึก ที่นี่ก็จะมีร้าน The Skytree Shop หรือร้านขายของที่ระลึก สินค้าลิขสิทธิ์เฉพาะของโตเกียวสกายทรีให้ได้ซื้อกลับไปค่ะ โดยจะมีให้ซื้ออยู่ที่ชั้น 1, ชั้น 5 และ ชั้น 345 ที่เป็นส่วนหนึ่งของ Tembo Deck ค่ะ

Tembo Deck 1
Tembo Deck Credit : thegate12

ระดับที่สอง Tembo Galleria เป็นจุดชมวิวที่มีความสูง 450 เมตร เป็นทางเดินที่มีผนังอีกฝั่งเป็นกระจกใส สามารถชมวิวได้ 360 องศา บริเวณ Tembo Galleria จะมีการจัดนิทรรศการและการแสดงแสงสีให้ได้ชม ซึ่งจะเปลี่ยนไปเรื่อยๆ แล้วแต่ช่วงค่ะ

Tembo Galleria 1
Tembo Galleria Credit : thegate12

จุดที่ 2 พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ SUMIDA Aquarium อยู่บริเวณชั้น 5-6 โดยจะมีสัตว์น้ำมากมายให้ได้ชม ทั้งปลาหลายสายพันธุ์ แมงกะพรุน นกเพนกวิน ม้าน้ำ เต่า และยังมีสัตว์อื่นๆ ให้ได้ชมอีกเพียบเลยค่ะ จุดเด่นของที่นี่จะอยู่ที่แทงค์น้ำขนาดใหญ่ที่มีแมงกะพรุนหลากหลายสายพันธุ์กว่า 500 ตัวให้ได้ชม แมงกะพรุนก็จะเรืองแสงเป็นสีขาวและสีฟ้า ทำให้เหมือนดวงดาวที่อยู่บนท้องฟ้าในตอนกลางคืน สวยงามมากๆ ค่ะ ที่นี่ยังมีโชว์ต่างๆ ที่จัดแสดงเพื่อให้ความรู้ด้วย ไม่ว่าจะเป็นโชว์การทำอาหารให้กับสัตว์น้ำและการเพาะเลี้ยงตัวอ่อนในห้องแลป ซึ่งสามารถเข้าชมได้อย่างใกล้ชิดเลยค่ะ ในส่วนของโซนแมงกะพรุน ที่นี่ก็จะเปลี่ยนธีมในการจัดแสดงไปเรื่อยๆ แล้วแต่ช่วงค่ะ แต่ว่าพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ SUMIDA Aquarium ไม่ได้เปิดให้เข้าฟรีนะคะ จะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมอยู่ที่ท่านละ 2,300 เยน และจะเปิดให้เข้าชมได้ตั้งแต่ 10.00 น. – 20.00 น. สำหรับใครที่มาแล้วอยากจะเก็บไฮไลท์ของที่นี่ให้ครบก็แนะนำเลยค่ะ

penguin 1
โซนแสดงเพนกวิน Credit : sumida-aquarium
jellyfish
โซนแมงกะพรุน Credit : sumida-aquarium

มาต่อกันที่ จุดที่ 3 ท้องฟ้าจำลองเท็นกุ (KONICA MINOLTA PLANETRIUM “TENKU”) จะอยู่ที่ชั้น 7 ของหอคอย เป็นท้องฟ้าจำลองที่ผลิตโดยผู้ผลิตท้องฟ้าจำลองรายใหญ่ ภายในก็จะมีเทคโนโลยีที่ทันสมัย มีจอภาพแบบ 360 องศา ที่สามารถดูดาวต่างๆ ได้แบบ 360 องศา และระบบเสียงของที่นี่ก็จะเป็นแบบ 3 มิติ ทำให้เหมือนอยู่ในอวกาศจริงๆ นอกจากนี้ที่นี่ก็ยังมีโซนของฝากให้ได้ซื้อกันอีกด้วยค่ะ ท้องฟ้าจำลองจะเปิดให้เข้าชมได้เวลา 11.00 น. – 20.00 น. ใครที่อยากศึกษาและนอนชมท้องฟ้าจำลองก็อย่าลืมแวะมาที่ชั้น 7 กันนะคะ

tenku 1
ท้องฟ้าจำลองเท็นกุ Credit : link-ticket.tokyo-skytree

จุดที่ 4 พิพิธภัณฑ์ไปรษณีย์ (Postal Museum) เป็นพิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงสแตมป์เกือบ 330,000 ดวง มีจัดนิทรรศการที่เล่าประวัติความเป็นมาของระบบไปรษณีย์ของญี่ปุ่น และยังมีการจัดแสดงเครื่องใช้และสิ่งของที่เกี่ยวกับไปรษณีย์ของญี่ปุ่นในสมัยก่อนอีกด้วยค่ะ สำหรับพิพิธภัณฑ์ไปรษณีย์ก็จะอยู่ที่ชั้น 9 ค่าบริการสำหรับผู้ใหญ่จะอยู่ที่ 300 เยน เด็กชั้นมัธยมและประถมจะมีค่าใช้จ่าย 100 เยนเท่านั้นค่ะ

postal 2 1
พิพิธภัณฑ์ไปรษณีย์ Credit : postalmuseum

จุดที่ 5 โตเกียวโซระมะจิ (Tokyo Solamachi) เป็นจุดที่สายช็อปปิ้งไม่ควรพลาดเลยค่ะ ถือเป็นแหล่งช็อปปิ้งขนาดใหญ่อีกที่นึงเลย ภายในจะมีทั้ง ร้านค้า ร้านอาหารมากมายให้ได้เลือกซื้อเลือกทาน รวมไปถึงสถานบันเทิงต่างๆ ที่นี่ก็มี เรียกได้ว่าครบจบในที่เดียว สินค้าที่วางขายข้างในก็จะมีทั้งขนม ของที่ระลึก หรือของที่ค่อนข้างเป็นเอกลักษณ์จะไม่เหมือนกับร้านขายของทั่วไปที่นี่กฒีให้ได้เลือกซื้อค่ะ โดยโตเกียวโซระมะจิจะอยู่บริเวณฐานของโตเกียวสกายทรี ชั้น 2 – 3

Tokyo Soramachi
โตเกียว โซะระมะจิ Credit : thegate12

วิธีการเดินทาง

  • นั่งรถไฟใต้ดิน Tokyo Metro สาย Hanzomon มาลงที่สถานี Oshiage
  • นั่งรถไฟใต้ดิน Toei สาย Asakusa มาลงที่สถานี Oshiage
  • นั่งรถไฟสาย Tobu SKYTREE มาลงที่สถานี TOKYO SKYTREE

สรุป

โตเกียวสกายทรี ถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่นึงที่ไม่ควรพลาดจริงๆ ค่ะ เพราะว่าสามารถชมวิวของโตเกียวได้จากมุมสูง และสามารถชมได้แบบ 360 องศากันเลย มีจุดถ่ายรูปสวยๆ ให้ได้เก็บภาพบรรยากาศเยอะ มีร้านค้าต่างๆ ให้ได้เลือกซื้อของฝาก ไม่ว่าจะมาเที่ยวช่วงกลางวันก็จะเห็นวิวของตึกและต้นไม้ต่างๆ หรือจะมาเที่ยวในตอนกลางคืนก็จะเห็นเป็นวิวของตึกและไฟประดับมากมาย บริเวณใกล้เคียงก็ยังมีแม่น้ำสุมิดะให้ได้เดินเล่นชิลๆ หรือจะไปไหว้พระขอพรที่วัดอาสากุซะก็ได้เช่นกันค่ะ ถ้าหากสนใจทัวร์โตเกียวสามารถกดที่ลิงก์หรือโทรสอบถามเพิ่มเติมได้เลยค่ะ

แชร์บทความนี้