หากท่านใดที่กำลังวางแผนไปเที่ยวญี่ปุ่นแต่ไม่รู้จะไปที่เมืองไหนดี วันนี้เราจะมาแนะนำเป็นที่เที่ยวทัวร์ญี่ปุ่น ฟุกุโอกะ คุมาโมโตะ เบปปุ แบบ 5 วัน 3 คืนค่ะ ที่เมืองฟุกุโอกะก็ถือว่าเป็นเส้นทางยอดฮิตสำหรับนักท่องเที่ยว เพราะเป็นช่วงที่ฤดูใบไม้เปลี่ยนสี ที่สวยไม่แพ้กับที่เมืองอื่นๆเลยค่ะ รายละเอียดของทัวร์ญี่ปุ่นฟุกุโอกะ คุมาโมโตะ เบปปุ จะมีอะไรบ้าง ลองอ่านรีวิวกันได้เลยค่ะ
วันที่ 1 ของการเดินทาง
วันแรกของการเดินทาง โดยทางทัวร์ฟุกุโอกะจะนัดขึ้นเครื่องที่สนามบินดอนเมืองค่ะ โดยนัดหมายพร้อมกันเวลา 20.00 น. เมื่อไปถึงก็จะมีหัวหน้าทัวร์คอยต้อนรับอย่างอบอุ่น โปรแกรมนี้เราจะได้บินของสายการบินแอร์เอเชีย ซึ่งไฟลท์นี้จะบินไฟลท์ดึกและไปถึงที่ญี่ปุ่นในตอนเช้า โดยเครื่องออกเวลา 23:35 น. ใช้เวลาบินประมาณ 5 ชั่วโมง และจะไปถึงที่ญี่ปุ่นเวลา 07.05 น. ซึ่งเวลาที่ญี่ปุ่นจะเร็วกว่าเมืองไทยประมาณ 2 ชั่วโมงค่ะ อย่าลืมปรับเวลาด้วยนะคะ
วันที่ 2
หลังจากเดินทางมาถึงท่าอากาศยานนานาชาติฟุกุโอกะ เวลา 07.05 น. ซึ่งจะมาถึงที่นี่ตอนเช้าของวันที่ 2 จากนั้น จะมีขั้นตอนผ่านด่านตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) และรับกระเป๋าเดินทางเรียบร้อยแล้ว จะเดินทางไปยัง จังหวัดคุมาโมโตะ (kumamoto) จังหวัดคุมาโมโตะจะอยู่ในภูมิภาคคิวซู ซึ่งมีน้องมีดำคุมะมง เป็นมาสค็อตประจำจังหวัดที่โด่งดังไปทั่วโลกเลยค่ะ ผู้คนที่นี่จะนิยมเลี้ยงสัตว์และปลูกผักผลไม้ และมีการส่งออกแตงโมเป็นอันดับที่ 1 ขอบประเทศญี่ปุ่นอีกด้วยค่ะ
หลังจากใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 1.30 ชั่วโมง ได้แวะรับประทานอาหารกลางวันที่ร้านอาหาร และหลังจากทานอาหารเสร็จเรียบร้อย เดินทางไปชม ปราสาทคุมาโมโตะ ซึ่งเป็นปราสาทสถาปัตยกรรมแบบญี่ปุ่น เป็นปราสาทที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 3 ของญี่ปุ่นเลยค่ะ ซึ่งสร้างขึ้นในปี ค.ศ 1601 โดยคุณคาโตะ คิโยมา ใช้เวลาก่อสร้างถึง 7 ปี ปราสาทแห่งนี้รู้จักในอีกชื่อหนึ่งว่า กินนัมโจ หรือปราสาทกิงโกะ และในปี ค.ศ. 2016 ได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ ทำให้ปราสาทได้รับความเสียหายอย่างมากต้องปิดปรับปรุงไปหลายปี ปัจจุบันได้เปิดให้นักท่องเที่ยวได้มาเยี่ยมชมความสวยงามได้แล้วค่ะ
หลังจากนั้นเดินทางไปยังย่านช้อปปิ้งซากุระโนะบาบะ โจไซเอน เป็นย่านช้อปปิ้งสไตล์ย้อนยุค จุดเด่นของที่นี่จะเป็นสินค้าพื้นเมือง เครื่องใช้ และของฝากต่างๆ นอกจากนี้ยังมีร้านอาหาร ของกินต่างๆ โดยเฉพาะเมนูท้องถิ่น เช่น ไอศกรีมชาเขียว หรือราเมนเนื้อม้า สามารถเดินเล่นได้ตามอิสระเลยค่ะ
จากนั้นเราก็เดินทางไปที่คุมะมงสแควร์ เป็นสำนักงานของ Kumamoto prefecture sale manager ที่มีคุมะมงเป็นผู้จัดการฝ่ายขายนั่นเอง ภายในร้านจะมีร้านขายของที่ระลึก คาเฟ่ เป็นต้น ใครที่เป็นแฟนคลับหมีดำคุมะมงบอกเลยห้ามพลาดที่จะได้ของฝากติดไม้ติดมือกลับบ้านแน่นอนค่ะ
หลังจากนั้นจะเดินทางไปยังทุ่งหญ้าคุซะเซนริ ซึ่งใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.30 ชั่วโมง ซึ่งที่นี่จะเป็นทุ่งหญ้าที่กว้างใหญ่ และมีบึงน้ำ ไฮไลท์ของที่นี่คือ ปากปล่องภูเขาไฟนาคาดาเคะ ที่ยังคงร้อนกรุ่นอยู่ตลอดเวลา หากมาที่นี่จะพบกับฝูงม้าและฝูงวัวที่อยู่ท่ามกลางธรรมชาติ และนอกจากนี้ยังมีให้บริการนักท่องเที่ยวขี่ม้าเพื่อชมวิวทิวทัศน์ที่อยู่รอบๆบริเวณนี้ด้วย
และก็ได้เวลาเดินทางไปยังเมืองเบปปุ เมืองในจังหวัดโออิตะ ที่อยู่บนชายฝั่งทะเลตะวันออกของเกาะคิวซูค่ะ เป็นเมืองท่องเที่ยวที่มีน้ำพุร้อนยอดนิยมของญี่ปุ่น และนักท่องเที่ยวนิยมมาแช่ออนเซ็นที่เมืองนี้เยอะมากเลยค่ะ ซึ่งใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมงก็ได้มาถึงเมืองเบปปุ และได้แวะรับประทานอหารตามอัธยาศัย หลังจากนั้นก็จะเข้าที่พักโรงแรม ซึ่งที่พักจะได้เเช่น้ำแร่ออนเซ็นธรรมชาติ เพื่อผ่อนคลาย หลังจากที่ได้เดินทางเที่ยวมาทั้งวัน และช่วยให้ระบบหมุนเวียนโลหิตดีขึ้นด้วยค่ะ
วันที่ 3
หลังจากตื่นเช้าก็ได้ลงมารับประทานอาหารเช้าที่ห้องอาหารของโรงแรม และเตรียมตัวออกเดินทางไปยัง บ่อนรกเบปปุ จิโกกุ เมกุริ กันค่ะ ซึ่งบ่อน้ำพุร้อนแห่งนี้มีทั้งหมด 8 บ่อกันเลยค่ะ ซึ่งเป็นบ่อน้ำพุร้อนที่เกิดจาการระเบิดของภูเขาไฟ และร้อนเกินกว่าจะลงอาบได้ค่ะ ซึ่งทางทัวรืจะให้เข้าชมด้วยกันอยู่ 2 บ่อ เนื่องจากต้องทำเวลา และต้องไปยังเมืองอื่นต่อด้วยค่ะ
หลังจากที่ชมบ่อนรกเสร็จเรียบร้อย เราก็ได้เดินทางไปยังเมืองยุฟุอิน Yufuin ซึ่งเป็นเมืองเล็กๆที่อยู่ในจังหวัดโออิตะ ซึ่งเมืองนี้เต็มไปด้วยสถานที่น่ารักๆมากมายเลยค่ะ และหนึ่งในสถานที่ที่ไม่ควรพลาดเลยก็คือ หมู่บ้านยุฟุอินฟลอรัลวิลเลจ ซึ่งเราก็ได้แวะที่นี่กันค่ะ บอกเลยว่าหมู่บ้านแห่งนี้ให้ฟีลเหมือนอยู่ในเทพนิยายเลยค่ะ ที่นี่ร้านค้าทุกหลังจะเป็นสีเหลืองที่มีแต่ร้านที่มีสินค้าเป็นเอกลักษณ์เลยค่ะ และไฮไลท์ของที่นี่จะเป็นบ้านอิฐคลาสสิคที่เรียงรายกันอยู่สองข้างทางบนถนนสายเล็กๆ ที่ประดับไปด้วยดอกไม้นานาชนิด ภายในหมู่บ้านมีร้านค้าต่างๆ ที่ตกแต่งได้อย่างน่ารัก เช่น ร้านไอศกรีม หรือร้านคาเฟ่น่ารักๆ อย่าง Alice tea หรือจะเป็นร้านขนม ที่มีเค้าโครงมาจากเรื่อง Kiki’s Delivery Service กลิ่นหอมของขนมปังหอมน่ากินสุดๆ นอกจากนี้ยังมี จุดพักเหนื่อยให้แช่ออนเซ็นเท้าอีกมากมายเลยค่ะ
หลังจากที่เดินเลยถนนช้อปปิ้งไปก็จะเห็น ทะเลสาบคิริน ที่อยู่ใกล้ๆกัน ทะเลสาบแห่งนี้น้ำใสมาก สามารถมองเห็นปลาที่กำลังว่ายอยู่ในน้ำ และบางช่วงจะเห็นหมอกบางๆ บอกเลยว่าสวยมากๆ สามารถเดินเล่นและถ่ายรูปได้ตามอัธยาศัยเลยค่ะ หลังจากนั้นรับประทานอาหารกลางวันที่หมู่บ้านยูฟุอินได้ตามอัธยาศัยเลยค่ะ ซึ่งไกด์หน้างานจะจ่ายให้ท่านละ 1000 เยนเลยค่ะ
จากนั้นเดินทางไปยังเมืองฟุกุโอกะ เป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดของเกาะคิวซู มีแหล่งท่องเที่ยวมากมายทั้งธรรมชาติ วัฒนธรรม แหล่งช้อปปิ้ง และอาหารที่หลาหลายมากค่ะ ซึ่งใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง ก็มาถึงที่ ศาลเจ้าดาไซฟุเทมมังกู ซึ่งเป็นวันชินโตเก่าแก่และมีชื่อเสียงที่สุดของเมืองนี้เลยค่ะ เทพเจ้าที่สถิตย์อยู่ในศาสแห่งนี้ คือ ซุกาวาระ โนะ มิจิซาเนะ ท่านเป็นนักวิชาการ นักกการเมือง และนักเขียนที่ชาวญี่ปุ่นให้ความเชื่อถือเป็นอย่างมากและมีผลงานที่โดดเด่น ในช่วงปี 800-900 เลยได้รับการยกย่องให้เป็นเทพเจ้าแห่งการศึกษานั่นเองค่ะ ซึ่งภายในศาลมีรูปปั้นวัวสัมฤทธิ์ในท่านั่งหมอบ เป็นอีกหนึ่งสัญลักษณ์ของของศาลนี้เลยค่ะ
จากนั้นเดินทางไปที่ ดิวตี้ฟรี ณ ฟุกุโอกะ เบย์ พลาซ่า ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง ให้อิสระได้เลือกซื้อสินค้าปลอดภาษี ทั้งเสื้อผ้า น้ำหอมต่างๆ ได้ตามอัธยาศัยเลยค่ะ
หลังจากช้อปปิ้งเสร็จเรียบร้อยก็เดินทางไปยัง กันดั้ม ปาร์ค ฟุกุโอกะ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 50 นาที ไฮไลท์ของที่นี่คือ ชมกันดั้มตัวใหม่ล่าสุดมีขนาดเท่าของจริงเลยค่ะ “Nu Gundam” และยังเป็นกันดั้มที่สูงที่สุดในญี่ปุ่นอีกด้วย ซึ่งตั้งอยู่ที่ ศูนย์การค้า Mitsui Shopping Park Lalaport Fukuoka ที่นี่ถือว่าเป็นแลนด์มาร์คแห่งใหม่ ถ้าใครมาเยือนที่เมืองนี้ไม่ควรพลาดแน่นอน สามารถเพลิดเพลินไปกับการถ่ายรูป เลือกซื้อสินค้าและรับประทานอาหารค่ำได้ตามอัธยาศัยเลยค่ะ หลังจากนั้นเดินทางไปยังที่พักและนอนพักผ่อน
วันที่ 4
มาถึงเช้าวันที่ 4 แล้ว ตื่นเช้าลงมารับประทานอาหารเช้า ที่ห้องอาหารของโรงแรม และเตรียมตัวออกเดินทางไปเที่ยวกันค่ะ ซึ่งวันนี้จะเป็นวันอิสระท่องเที่ยวแบบเต็มวัน ไม่มีรถบัสบริการ แต่จะมีไกด์แนะนำการเดินทางให้ค่ะ และสถานที่แรกที่เราจะไปก็คือ วัดโทโชจิ ซึ่งเป็นวัดที่เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศญี่ปุ่น และปัจจุบันได้รับดูแลรักษาเป็นแหล่งประวัติศาสตร์ของเมืองฟุกุโอกะด้วยค่ะ ภายในวัดจะมีพระพุทธรูปนั่งที่ทำจากไม้แกะสลัก สูงถึง 10.8 เมตร ซึ่งเป็นพระพุทธรูปนั่งทำจากไม้ที่สูงที่สุดในญี่ปุ่น ใชเ้วลาสร้างนานถึง 4 ปีและ เป็นที่รู้จักกันว่า ฟูกุโอกะ ไดบุสสึ หรือพระใหญ่แห่งฟูกุโอกะค่ะ
จากนั้น เดินทางไปยังห้างคาเเนลซิตี้ ซึ่งเป็นศูนย์การค้า และความบันเทิงขนาดใหญ่ ในห้างประกอบไปด้วยร้านค้า ร้านกาแฟ ร้านอาหาร โรงละคร และโรงภาพยนตร์ โรงแรม และคลองที่ไหลไหลผ่านกลางศูนย์การค้า ซึ่งเราก็ได้แวะรับประทานอาหารเย็นกันที่นี่ และหลังรับประทานอาหารเย็นก็ได้เดินทางกลับที่พักกันค่ะ
วันที่ 5
ตื่นเช้ารับประทานอาหาร ซึ่งอาหารเช้าจะได้เป็นแบบ Box set เนื่องจากบินไฟลท์เช้าและต้องออกก่อนที่เวลาห้องอาหารเปิดค่ะ หลังรับประทานอาหารเช้าเรียบร้อยแล้ว ออกเดินทางไปยัง ท่าอากาศยานนานาชาติ เวลา 08.15 น. ออกเดินทางกลับ กรุงเทพ โดยสารการบิน แอร์เอเชีย และเวลา 11.45 น. เดินทางถึง ท่าอากาศยานดอนเมือง โดยสวัสดิภาพ
สรุป
โดยสรุปแล้ว เมืองฟุกุโอกะเป็นเมืองที่มีสถานที่ท่องเที่ยวเยอะมากๆ ซึ่งโปรแกรมนี้ได้ไปเที่ยวทั้งหมด 5วัน 3คืนด้วยกัน บอกเลยว่าคุ้มค่าสุดๆ และยังมีเที่ยวอิสระ 1 วันเต็มๆ อยากไปเที่ยวที่ไหนสามารถของคำแนะนำการเดินทางจาไกด์ได้เลยค่ะ หากท่านใดที่กำลังวางแผนเดินทางไปเที่ยวญี่ปุ่นทางบริษัท Lovely Smile Tour มีโปรแกรมให้เลือกมากมายเลยค่ะ หากสนใจสามารถแอดไลน์หรือโทรมาสอบถามได้เลยนะคะ