สถานที่เที่ยวเกียวโตนั้นมีอยู่มากมาย เมืองที่ขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองที่มีทั้งประวัติศาสตร์และมีวัฒนธรรมอันเก่าแก่แห่งนี้มีทั้งวัด ศาลเจ้า และสถานที่สำคัญอื่นๆ ให้นักท่องเที่ยวได้เยี่ยมชมเยอะแยะมากมาย ไม่ว่าคุณจะสนใจในสถาปัตยกรรม ศิลปะแบบเก่าของญี่ปุ่น หรือเพียงแค่ต้องการดื่มด่ำกับบรรยากาศของสถานที่ท่องเที่ยวเกียวโตเมืองหลวงเก่าของประเทศญี่ปุ่นนี้ก็ตาม เมืองนี้ก็เป็นอีกเมืองที่มีสิ่งที่น่าสนใจอยู่เยอะมากมายเลยทีเดียว บทความนี้จะมาแนะนำ สถานที่ท่องเที่ยวทัวร์ญี่ปุ่น เกียวโต ยอดนิยม 10 แห่ง ให้ได้อ่านกัน
สารบัญ
- ศาลเจ้าฟุชิมิอินาริ (Fushimi Inari Shrine)
- วัดคิโยมิซุ (Kiyomizu-dera Temple)
- ป่าอาราชิยามะ (Bamboo Grove)
- ย่านกิออน (Gion)
- ปราสาทนิโจ ( Nijo Castle)
- พระราชวังอิมพีเรียลเกียวโต (Kyoto Imperial Palace)
- วัดโทฟุคุจิ (Tofukuji Temple)
- วัดคินคะคุจิ (Kinkakuji Temple)
- วัดกินคะคุจิ (Ginkaku-ji Temple)
- วัดเรียวอันจิ(Ryoan-ji Temple)
1. ศาลเจ้าฟุชิมิอินาริ (Fushimi Inari Shrine)
หรือที่คนไทยชอบเรียกกันว่า “ศาลเจ้าแดงหรือศาลเจ้าจิ้งจอก” ศาลเจ้าแห่งนี้ถือว่าเป็นหนึ่งในไฮไลท์สำคัญของเมืองเกียวโตเลยก็ว่าได้ โดยศาลเจ้าฟุชิมิอินาริมีความเก่าแก่มากกว่าพันปีมาแล้วด้วยกัน ศาลเจ้าฟุชิมิอินาริมีชื่อเสียงจากเสาโทริอิสีแดงสดนับพันต้นที่เรียงเป็นทางสวยงาม จึงเป็นจุดเช็คอินของสถานที่เที่ยวทัวร์เกียวโตที่ต้องไปเยือนเลยก็ว่าได้
ศาลเจ้าแห่งนี้สร้างเพิ่ออุทิศแด่อินาริ เทพเจ้าแห่งเกษตรกรมมและความอุดมสมบูรณ์ โดยมีรูปปั้นและสัญลักษณ์จิ้งจองอยู่มากมาย นับว่าเป็นศาลเจ้าที่เป็นเอกลักษณ์มากทีเดียว
นอกจากนี้เสาโทริอินี้เป็นสัญลักษณ์ของความโชคดีของผู้คนอีกด้วย ศาลเจ้าฟุชิมิอินารินี้มีทางเดินเงียบสงบและงดงามเป็นอย่างมาก ศาลเจ้าแห่งนี้เปิดให้เข้าชมฟรี นักท่องเที่ยวสามารถแวะมาเยี่ยมชมความสวยงามที่เป็นเอกลัษณ์นี้ได้ตลอด 24 ชม.
2. วัดคิโยมิซุ (Kiyomizu-dera Temple) ที่เที่ยวเกียวโตยอดฮิต
วัดคิโยมิสุหรือวัดน้ำใส เป็นวัดที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกขององค์การยูเนสโก วัดเก่าแก่แห่งนี้ตั้งอยู่บนเนินเขาทำให้นักท่องเที่ยวสามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ที่สวยงามของเมืองจากตำแหน่งที่สูงได้ วัดนี้สร้างขึ้นครั้งแรกในปี 778 และมีการสร้างใหม่หลายครั้งตั้งแต่นั้นมา สิ่งที่น่าสนใจก็คือนักท่องเที่ยวสามารถขอพรโดยการดื่มน้ำบริสุทธิ์จากน้ำตกโอโตวะ 3 สาย โดยน้ำตกแต่ละสายก็จะมีความเชื่อต่างกัน เช่น 1. อายุยืน 2.ความประสบความสำเร็จในการเรียน 3.ชีวิตคู่ และบริเวณวัดแห่งนี้มีมุมถ่ายรูปสวยๆเยอะแยะมากมาย ด้วยความเป็นวัดสีแดงสวยงาม และมีต้นไม้อยู่รอบๆ ทำให้มีความรู้สึกแตกต่างกันออกไปในแต่ละฤดูเมื่อมาเที่ยวชมวัดแห่งนี้
โดยวัดนี้จะสวยมากในฤดูใบไม้ผลิที่มีดอกซากุระบาน มองจากมุมสูงของวัดจะเห็นกอดซากุระสีชมพูเต็มไปหมด ส่วนช่วงฤดูไบไม้ผลิที่ใบไม้เริ่มเปลี่ยนสีเป็นสีส้มและสีเหลืองก็จะมองไปเห็นเมืองที่ดูอบอุ่นและมีความโรเมนติกขึ้นมา วัดเปิดทุกวันตั้งแต่ 6.00 น. ถึง 18.00 น. ค่าเข้าชม 400 เยน นอกจากนี้นักท่องเที่ยวยังสามารถแวะซื้อของฝากในบริเวณระหว่างทางที่เดินไปวัดได้อีกด้วย
3. ป่าอาราชิยามะ (Bamboo Grove)
ป่าไผ่แห่งนี้ตั้งอยู่ในเขตชานเมืองทางตะวันตกของเกียวโต ป่าที่เงียบสงบและสวยงามแห่งนี้มีลักษณะเป็นต้นไผ่สูงและเป็นจุดเช็คอินที่เหมาะกับคนที่ชอบการเดินเล่นชิว ๆ กับบรรยากาศป่าไผ่ที่เงียบสงบ ป่าแห่งนี้จะมีทางเดินเล็ก ๆ โดยมีป่าไผ่สีเขียวขจีอยู่บริเวณสองข้างทาง ป่าไผ่อาราชิมะตั้งอยู่ใกล้กับสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมหลายแห่ง รวมทั้งวัดเทนริวจิและสวนลิง โดยป่าไผ่แห่งนี้เปิดให้เข้าชมฟรีและเปิดตลอด 24 ชั่วโมง นักท่องเที่ยวสามารถแวะชมและท่องเที่ยวใหนได้ตลอด นอกจากนี้บริเวณอาราชิมะยังเต็มไปด้วยคาเฟ่ ตลอดจนร้านอาหาร เหมาะสำหรับการพักผ่อนและรีเล็กซ์เป็นอย่างมาก เป็นอีกหนึ่งที่เที่ยวเกียวโตที่สายชิลล์และรักความสงบควรมาสักครั้ง
4. ย่านกิออน (Gion)
หนึ่งในย่านเกอิชาที่มีชื่อเสียงที่สุดของเกียวโต กิออนเป็นย่านที่มีเสน่ห์ซึ่งเต็มไปด้วยบ้านไม้มาจิยะและโรงน้ำชาแบบดั้งเดิมอยู่มากมาp โดยย่านนี้จะแบ่งออกเป็น 2 โซน นั่นก็คือ ย่านชิราคาวา เป็นย่านที่เหมาะกับการเดินเล่นและชมบรรยากาศแบบดั้งเดิมของเมืองเกียวโต ถัดมาก็คือย่านฮานามิ-โคจิ เป็นย่านที่ค่อนข้างคึกคัก มีผู้คนเดินและนักท่องเที่ยวไปเดินมาเป็นจำนวนมาก มีร้านอาหารอยู่บริเวณรอบๆ แต่บอกไว้เลยว่าราคาค่อนข้างแพงเพราะร้านส่วนใหญ่ให้บริการด้วยเกอิชาและจะให้บริการเฉพาะสมาชิกของร้านเท่านั้น
โดยเอกิชานั้นจะแต่งตัวในชุดญี่ปุ่นแบบดั้งเดิม ใบหน้าแต่งด้วยสีขาว ทางปากสีแดง ผมจะม้วนกลม เปิดหน้าผาก และสวมชุดกิโมโนที่มีผ้าโอบิผูกอยู่ด้านหลัง แต่เห็นเอกิชาเดินอยู่ทั่วไปในย่านนี้นักท่องเที่ยวจะไม่สามารถถ่ายรูปกับเอกิชาได้นะ เนื่องจากเป็นกฎของทางญี่ปุ่นเพราะเมื่อก่อนมีนักท่องเที่ยวรบกวนเกอิชาอยู่บ่อยๆ หากฝ่าฝืนจะถูกปรับ 10,000 เยนเลยทีเดียว
ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการเยี่ยมชมกิออนคือช่วงเย็น เมื่อโคมไฟจะถูกจุดและเกอิโกะและไมโกะ (เกอิโกะฝึกหัด) เดินอยู่ทั่วไป สร้างบรรยากาศที่แปลกใหม่และและคลาสิกสุดๆ ใครต้องการบรรยากาศแบบญี่ปุ่นตั้งเดิม ต้องไม่พลาดสถานที่แห่งนี้ค่ะ
5. ปราสาทนิโจ ( Nijo Castle)
ปราสาทนิโจเป็นสถานที่ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนมรดกโลกขององการ์ยูเนสโก้อีกแห่ง และได้รับการอนุรักษ์ไว้อย่างดี ปราสาทนิโจเป็นปราสาทที่เต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมที่สวยงาม ปราสาทแห่งนี้เคยเป็นที่พำนักของโชกุนโทคุกาวะมาก่อน โดยสร้างขึ้นในปี 1603 ถือเป็นปราสาที่เก่าแก่มากแห่งหนึ่งเลยก็ว่าได้ ผู้เยี่ยมชมสามารถสำรวจอาคารต่างๆ ของปราสาท รวมทั้งพระราชวัง นิโนมารุ และพระราชวัง ฮนมารุ
ปราสาทแห่งนี้มีสวนอยู่รอบ ๆ ที่ตกแต่งได้อย่างสวยงามไม่แพ้ตัวปราสาทเลย รอบ ๆ ปราสาทจะมีสวนต้นพลัมที่มีจำนวนมากกว่าร้อยต้น โดยต้นพลัมจะออกดอกในช่วงปลายเดือนกุมภา-ต้นเดือนมีนา และต้นเมเปิ้ลที่จะเปลี่ยนสีในช่วงฤดูใบไม้ร่วง เป็นปราสาทที่สวยงามมากอีกแห่งหนึ่งอยู่ในใจเมืองเกียวโตเลยก็ว่าได้ โดยปราสาทนิโจแห่งนี้เปิดให้เข้าชมทุกวันตั้งแต่ 8.45 น. ถึง 17.00 น. นักท่องเที่ยวสามารถมาเยือนได้ทุก ๆ วัน
6. พระราชวังอิมพีเรียลเกียวโต (Kyoto Imperial Palace)
พระราชวังอิมพิเรียลเกียวโตอดีตเคยเป็นที่ประทับของจักรพรรดิแห่งญี่ปุ่นก่อนที่ทั้งจักรพรรดิและเมืองหลวงจะย้ายไปยังกรุงโตเกียว วังแห่งนี้สร้างขึ้นในปี 794 และเป็นที่ประทับของราชวงศ์มานานหลายศตวรรษ นอกจากนี้พระราชวังแห่งนี้ยังถือเป็นเครื่องพิสูจน์ถึงประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมอันยาวนานของเกียวโตได้เป็นอย่างดี โดยนักท่องเที่ยวสามารถเที่ยวชมรอบๆพระราชวังได้ นอกจากนี้วังยังมีสระน้ำขนาดใหญ่ และสวนที่ตกแต่งเป็นอย่างดีให้นักท่องเที่ยวหรือประชาชนได้เข้าชมและพักผ่อนหย่อนใจ โดยพระราชวังอิมพอเรียลเกียวโตแก่งนี้เปิดให้เข้าชมฟรี เป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์กที่มีความสวยงามและห้ามพลาดของสถานที่เที่ยวเกียวโตเลยทีเดียวค่ะ
7. วัดโทฟุคุจิ (Tofukuji Temple)
หนึ่งในวัดของศาสนาพุทธนิกายเซนที่มีชื่อเสียงที่สุดในเกียวโต โดยวัดแแห่งนี้เคยเป็นวัดของครอบครัวฟูจิวาระ ผู้มีอิธิพลอย่างมากในในยุคนาราและเฮอัน วัดเก่าแก่นี้ถือว่าเป็นวัดที่มีเจดีย์ที่ใหญ่เป็นอันดับสองของญี่ปุ่น โดยมีความสูงกว่า 50 เมตร มีหอแปดเหลี่ยมที่ชื่อว่าโฮเอ็นคุโดะและนันเอ็นโดะที่มีรูปทรงแปลกประหลาดแต่กลับทำให้หอแห่งนี้เป็นที่ชื่นชอบของนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก
วัดโทฟุคุจิแห่งนี้เมื่อถึงถดูไม้ไม้ผลิจะสวยงามมากเช่นเดียวกับช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสีก็จะเต็มไปด้วยไปใบไม้สีส้มจากต้นเมเปิ้ล นอกจากนี้วัดแห่งนี้ยังเป็นมรดกโลกขององค์การยูเนสโกอีกด้วย
8. วัดคินคะคุจิ (Kinkakuji Temple)
วัดคินคะคุจิหรือที่รู้จักกันในชื่อวัดทอง เป็นวัดในศาสนาพุทธนิกายเซนที่ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของเมืองเกียวโต สิ่งที่เป็นไฮไลท์หลักเลยก็คือของตัวศาลาที่เป็นสีทองด้วยทองและตั้งอยู่โดดเด่นกลางสระน้ำขนาดใหญ่ บริเวณรอบ ๆ มีต้นไม้สีเขียวอยู่เต็มไปหมด ทำให้วัดนี้มีความเป็นเอกลักษณ์และสวยงามขึ้นมาเป็นอย่างมาก วัดแห่งนี้จะสวยเป็นพิเศษในวันที่แสงแดดจ้า โดยแสงแดดจะสะท้อนกับตัวศาลาและสระน้ำให้วัดแห่งนี้สว่างจ้าและสวยสุด ๆ กลายเป็นจุดไฮไลท์หนึ่งของเกียวโตเลยก็ว่าได้ ผู้คนอาจคุ้นตากับรูปลักษณ์ของวัดแห่งนี้เพราะเป็นวัดที่อยู่ในการ์ตูน เรื่องอิคคิวซัง การ์ตูนดังในสมัยก่อนนั่นเอง นักท่องเที่ยวสามารถสำรวจรอบบริเวณวัดแห่งนี้ รวมไปถึงสวนที่วัดจัดไว้ให้เที่ยวชมอย่างสวยงามได้
9. วัดกินคะคุจิ (Ginkaku-ji Temple)
เมื่อพูดถึงวัดทองกันแล้ว วัดอีกแห่งมีชื่อคล้าย ๆ กันก็คือวัดเงินหรือวัดพลับพลาเงินนั่นเอง ที่เป็นวัดพุทธนิกายเซนอีกแห่งที่ตั้งอยู่ในเกียวโตตะวันออก ในสมัยก่อนวัดแห่งนี้สร้างขึ้นเพื่อเป็นบ้านพักเกษียณอายุของโชกุน แต่ต่อมาได้ถูกเปลี่ยนให้เป็นเป็นวัดหลังจากที่ท่านเสียชีวิต แต่หลายคนอาจสงสัยว่าทำไมชื่อวัดเงินแล้วไม่มีสีเงินเลยสักนิด คำตอบก็คือ ได้มีคำสันนิฐานแบ่งออกเป็น 2 อย่างนัั่นก็คือ เดิมโชกุนตั้งใจและต้องการให้วัดนี้เป็นสีเงิน แต่ท่านดันเสียชีวิตซะก่อน กับอย่างที่สองก็คือช่วงเวลากลางคืนแสงจากดวงจันทร์ตกกระทบกับตัววัดทำให้มีแสงคล้ายสีเงินขึ้นมา ทำให้วัดนี้ถูกเรียกว่าวัดเงินนั่นเอง ถึงแม้จะชื่อว่าวัดเงินแต่จริงๆแล้ววัดแห่งนี้เป็นสีน้ำตาลตามสีของไม้ที่เป็นวัสดุที่นำมาก่อสร้าง ไม่มีสีเงินตามชื่อที่เรียกสักนิดเดียว จุดไฮไลท์หลักของวัดแห่งนี้คือสวนที่สวยงาม นับว่าเป็นจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีที่สวยมากๆอีกแห่งหนึ่ง รวมไปถึงสวนทรายสีเงิน โดยทรายจัดเรียงเป็นระเบียบสวยงามและสะอาดมากๆ บริเวณรอบๆมีสวนมอส และสวนรอบๆบริเวณสระน้ำเยอะแยะมากมาย ไม่อีกหนึ่งในจุดไฮไลท์ที่ไม่ควรพลาดเลยค่ะ
10. วัดเรียวอันจิ (Ryoan-ji Temple)
เป็นอีกหนึ่งในวัดพุทธในนิกายเชนที่ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของเกียวโต จุดไฮไลท์หลักของสถานที่แห่งนี้คือสวนหินที่มีลักษระเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้า ด้านในถูกปูด้วยกรวด ซึ่งประกอบด้วยหิน 15 ก้อนและกรวดสีขาวที่เรียงเป็นลวดลายซึ่งว่ากันว่าเป็นตัวแทนของเสือโคร่งที่อุ้มลูกข้ามแม่น้ำ และความมหัศจรรย์ของสวนแห่งนี้คือไม่ว่าจะมองมุมไหนก็ไม่สามารถมองหินได้ครบทุกก้อน นอกจากนี้นักท่องเที่ยวยังสามารถสำรวจสวนของวัดและอาคารอื่น ๆ ได้อีกด้วย
สรุป
เกียวโตเป็นเมืองที่เต็มไปด้วยมรดกทางวัฒนธรรมอันยาวนาน มีวัดวาอารามที่สวยงาม ศาลเจ้าที่มีเอกลักษณ์ รวมไปทิวทัศน์ทางธรรมชาติอันน่าทึ่ง เกียวโตจึงเป็นอีกเมืองที่สามารถมอบประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใครและหาไม่ได้จากที่ไหนในโลกให้กับนักท่องเที่ยวได้ นักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวเมืองเกียวโตนี้จะต้องหลงเสน่ห์และความสวยงามตามแบบฉบับญี่ปุ่นดั้งเดิมของเมืองนี้ได้อย่างแน่นอน ทางบริษัท Lovely Smile Tour มีโปรแกรมทัวร์ญี่ปุ่น ทัวร์เกียวโต ให้เลือกมากมาย สนใจจองหรือสอบถามสามารถแอดไลน์หรือโทรสอบถามได้เลยค่ะ