การชมดอกไม้เป็นประเพณีที่มีมายาวนานในประเทศญี่ปุ่น ชาวญี่ปุ่นมักจะออกมาปิกนิกใต้ต้นไม้หรือที่สวนเพื่อพบปะสังสรรค์ ซึ่งเป็นกิจกรรมที่แสดงให้เห็นถึงการชื่นชมธรรมชาติร่วมกัน โดยญี่ปุ่นเป็นประเทศที่มีดอกไม้เฉพาะฤดูกาลที่แตกต่างกันไป เช่น ซากุระในฤดูใบไม้ผลิ เนโมฟีลาในปลายเมษายน ทุ่งลาเวนเดอร์ในฤดูร้อน หรือพุ่มโคเชียสีแดงในฤดูใบไม้ร่วง ซึ่งจะให้ประสบการณ์ที่แตกต่างกันไป ในบทความนี้จะมาแนะนำ 7 สวนดอกไม้ญี่ปุ่นแบบจัดเต็ม พร้อมพิกัดและช่วงเวลา ให้เพื่อนๆ ได้วางแผนเที่ยวชมดอกไม้ที่ทัวร์ญี่ปุ่นกันล่วงหน้า พร้อมแล้วก็ไปอ่านกันได้เลย
ทำไมต้องชมสวนดอกไม้ญี่ปุ่น
ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่ขึ้นชื่อในเรื่องของธรรมชาติที่งดงามและมีฤดูกาลเปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นหิมะขาวในช่วงฤดูหนาว ใบไม้หลากสีในช่วงฤดูใบไม้ร่วง หรือแสงแดดอุ่นในฤดูใบไม้ผลิ แต่สิ่งหนึ่งที่ถือเป็นเสน่ห์เฉพาะตัวของญี่ปุ่นซึ่งดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกก็คือ สวนดอกไม้ที่บานสะพรั่งตามฤดูกาลที่สามารถเที่ยวชมได้ตลอดทั้งปี การได้เดินชมสวนดอกไม้ในญี่ปุ่นนั้น ไม่ได้เป็นเพียงกิจกรรมเพื่อความสวยงามและเพื่อการพักผ่อนหย่อนใจเท่านั้น แต่ยังเป็นการซึมซับวัฒนธรรมของชาวญี่ปุ่นที่มีต่อธรรมชาติอีกด้วย
แนะนำสถานที่ชมสวนดอกไม้ญี่ปุ่น
1. ชมซากุระที่สวนอุเอโนะ
สวนอุเอโนะ (Ueno Park) หนึ่งในสวนสาธารณะที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งที่อยู่ในเขตไทโตะ โตเกียว เป็นสวนสาธารณะขนาดใหญ่ที่เหมาะสำหรับการพักผ่อนหย่อนใจท่ามกลางธรรมชาติ ที่รายล้อมไปด้วยต้นซากุระกว่า 1,000 ต้นตลอดสองข้างทาง นอกจากนี้ภายในสวนอุเอโนะก็จะยังมีกิจกรรมมากมายให้ได้ทำอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นพายเรือ เที่ยวสวนสัตว์อุเอโนะ ไหว้พระขอพร เยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเดินทางมาเพื่อชมดอกซากุระซึ่งเป็นดอกไม้ที่มีชื่อเสียงเป็นอย่างมากที่ญี่ปุ่น

ช่วงเวลาแนะนำและพิกัด
ช่วงเวลาแนะนำ | ปลายเดือนมีนาคม – ต้นเดือนเมษายน |
พิกัด | แผนที่ |
เวลาทำการและค่าเข้าชม
เวลาทำการ :
- สวนอุเอโนะเปิดให้เข้าชมตั้งแต่เวลา 05.00 – 23.00 น.
- วัดและศาลเจ้าเปิดประมาณ 09.00 – 17.00 น.
- สวนสัตว์อุเอโนะและพิพิธภัณฑ์ต่างๆ เปิดประมาณ 09.30 – 17.00 น.
ค่าเข้าชม : ไม่มีค่าใช้จ่ายสำหรับเข้าสวน แต่จะมีค่าใช้จ่ายสำหรับกิจกรรมต่างๆ
สามารถอ่านรีวิวสวนอุเอโนะเพิ่มเติมได้เลย >> พาชมซากุระ สวนอุเอโนะ เมืองโตเกียว อัปเดทปี 2025
2. ชมดอกทิวทิปที่ Sakura Tulip Festa
เทศกาล Sakura Tulip Festa เป็นเทศกาลที่จัดในช่วงชมดอกทิวลิปอยู่ที่เมืองซากุระ จังหวัดชิบะ ถือเป็นหนึ่งในกิจกรรมฤดูใบไม้ผลิที่น่าประทับใจที่สุดในภูมิภาคคันโตของญี่ปุ่น โดยเทศกาลนี้จะจัดที่ Sakura Furusato Square ภายในงานเทศกาลจะมีดอกทิวลิปกว่า 700,000 ต้น จากหลายสายพันธุ์กว่า 100 ชนิด และมีกังหันลมเนเธอร์แลนด์ตั้งอยู่บริเวณกลางสวน ให้ได้ถ่ายรูปสวยๆ เช็คอินกัน นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมต่างๆ ให้ได้ลองทำด้วย เช่น การเช่าชุดดัตช์แบบดั้งเดิมเพื่อถ่ายภาพ การเช่าจักรยานปั่นชมสวน และการล่องเรือชมวิวรอบทะเลสาบอินบะ การเก็บทิวลิป การแสดงออร์แกน และบูธขายอาหารและของที่ระลึกท้องถิ่น เป็นต้น ใครที่อยากชื่นชมความสวยงามของดอกทิวลิปหลากสีและหลายสายพันธุ์แบบจุใจก็ห้ามพลาดเลย

ช่วงเวลาแนะนำและพิกัด
ช่วงเวลาแนะนำ | ต้นเดือนเมษายน – กลางเดือนเมษายน |
พิกัด | แผนที่ |
เวลาทำการและค่าเข้าชม
เวลาทำการ : 09.00 – 16.00 น.
ค่าเข้าชม : ไม่มีค่าใช้จ่าย
3. ชมดอกชิบะซากุระที่ Fuji Shibazakura Festival
ดอกชิบะซากุระหรือพิงค์มอส ไม่ใช่หนึ่งในสายพันธุ์ของดอกซากุระ แต่เป็นพืชตระกูลมอส ที่เติบโตขึ้นตามพื้นดินที่ปกคลุมพื้นที่ในแนวราบ ดอกมีขนาดเล็ก และกลีบดอกมีลักษณะคล้ายกับดอกซากุระ ซึ่งสถานที่ที่สามารถชมวิวของชิบะซากุระได้อย่างสวยงามและเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวมากมายที่อยากแนะนำก็คือที่บริเวณคาวากุจิโกะ จังหวัดยามานาชินั่นเองนั่นเอง โดยในบริเวณนี้จะมีการจัดเทศกาล ฟูจิชิบะซากุระ (Fuji Shibazakura Festival) ที่เต็มไปด้วยดอกชิบะซากุระมากมาย สามารถมองเห็นทุ่งดอกไม้สีชมพูสดใส พร้อมกับฉากหลังภูเขาไฟฟูจิได้อย่างสวยงาม จึงเป็นสถานที่ชมชิบะซากุระที่อยากแนะนำให้มาเที่ยวกันสักครั้ง
สามารถอ่านรีวิวสวนอุเอโนะเพิ่มเติมได้เลย >> พาชมซากุระ สวนอุเอโนะ เมืองโตเกียว อัปเดทปี 2025

ช่วงเวลาแนะนำและพิกัด
ช่วงเวลาแนะนำ | กลางเดือนเมษายน – เดือนพฤษภาคม |
พิกัด | แผนที่ |
เวลาทำการและค่าเข้าชม
เวลาทำการ : 08.00 – 17.00 น.
ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ 1,000 – 1,300 เยน / เด็ก 500 – 700 เยน *ขึ้นอยู่กับวันด้วย
4. ชมดอกวิสทีเรียที่สวนดอกไม้อาชิคางะ
ดอกวิสทีเรียหรือดอกฟูจิ เป็นพืชตระกูลถั่ว สกุลไม้ดอก มีลักษณะเป็นดอกไม้สีม่วงที่ห้อยยาวลงมาเป็นพวง แต่ละดอกจะมีขนาดประมาณ 2 เซนติเมตร และมีหลายสายพันธุ์ ซึ่งถือเป็นหนึ่งในดอกไม้ที่มีความสวยงามของประเทศญี่ปุ่น โดยสถานที่ที่แนะนำหากต้องการมาชมดอกวิสทีเรียก็คือ สวนดอกไม้อาชิคางะ (Ashikaga Flower Park) ตั้งอยู่ที่จังหวัดโทชิงิ อยู่ห่างจากโตเกียวประมาณ 80 กิโลเมตร สามารถเดินทางจากโตเกียวได้อย่างสะดวกสบาย ซึ่งถือเป็นสวนดอกวิสทีเรียที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น เต็มไปด้วยต้นวิสทีเรียกว่า 350 ต้นที่ห้อยลงมาจากซุ้มไม้ มีทั้งสีม่วง สีชมพู สีขาว และสีเหลือง มีบรรยากาศที่สงบและร่มรื่นมาก โดยไฮไลต์ของที่นี่จะอยู่ที่ต้นวิสทีเรียขนาดใหญ่ อายุกว่า 150 ปี เป็นจุดที่นักท่องเที่ยวจะต้องแวะมาถ่ายรูปเช็คอินกันให้ได้ ในตอนกลางคืนก็จะมีการประดับไฟประมาณ 5 ล้านดวงให้ได้ชม ทำให้บรรยากาศรอบๆ มีความแตกต่างไปจากตอนกลางวัน แต่ก็มีความสวยงามไม่แพ้กัน นอกจากนี้ก็ยังมีดอกไม้ประจำฤดูกาลอื่นๆ ให้ได้ชมกันอีกด้วย

ช่วงเวลาแนะนำและพิกัด
ช่วงเวลาแนะนำ | กลางเดือนเมษายน – กลางเดือนพฤษภาคม |
พิกัด | แผนที่ |
เวลาทำการและค่าเข้าชม
เวลาทำการ :
- รอบกลางวันจะเปิดเวลา 08.00 – 18.00 น.
- รอบงานประดับไฟตอนกลางคืนจะเปิดเวลา 17.30 – 21.00 น.
ค่าเข้าชม :
- รอบกลางวัน ผู้ใหญ่ 1,200 – 2,300 เยน , เด็ก 600 – 1,200 เยน
- รอบงานประดับไฟตอนกลางคืน ผู้ใหญ่ 600 – 1,400 เยน , เด็ก 300 – 700 เยน
*ค่าเข้าชม เวลาทำการ และเวลาจัดแสดงงานประดับไฟจะเปลี่ยนแปลงไปตามช่วงการบานของดอกไม้*
5. ชมดอกเนโมฟีล่าที่สวนฮิตาชิ ซีไซด์ ปาร์ค
การชมดอกเนโมฟีล่าที่สวนฮิตาชิ ซีไซด์ ปาร์ค (Hitachi Seaside Park) จังหวัดอิบารากิ ห่างจากโตเกียวประมาณ 130 กิโลเมตร และใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง ถือเป็นหนึ่งในกิจกรรมที่แนะนำเมื่อเดินทางมาที่ญี่ปุ่นในช่วงฤดูใบไม้ผลิเลย โดยช่วงกลางเดือนเมษายนไปจนถึงต้นเดือนพฤษภาคมจะเป็นช่วงที่ดอกเนโมฟีล่าหรือชื่อเรียกในภาษาอังกฤษว่า Baby blue-eyes กำลังบานปกคลุมเนินมิฮาราชิด้วยสีฟ้าสดใสของดอกเนโมฟีล่าประมาณ 5 ล้านดอก นอกจากนี้ก็ยังสามารถปั่นจักรยานรอบสวนชมความสวยงามของดอกเนโมฟีล่าได้แบบชิลๆ และยังสามารถซื้อของฝากหรือขนมธีมเนโมฟีล่าในโซนร้านค้าได้อีกด้วย เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบธรรมชาติและการถ่ายภาพเป็นอย่างมาก

ช่วงเวลาแนะนำและพิกัด
ช่วงเวลาแนะนำ | กลางเดือนเมษายน – ต้นเดือนพฤษภาคม |
พิกัด | แผนที่ |
เวลาทำการและค่าเข้าชม
เวลาทำการ : 09.30 – 17.00 น. *เวลาเปิดอาจจะเปลี่ยนตามฤดูกาล
ค่าเข้าชม :
- ผู้ใหญ่ 700 เยน
- ผู้สูงอายุ (อายุ 65 ปีขึ้นไป) 460 เยน
- เด็กที่มีอายุต่ำกว่า 15 ปี เข้าชมฟรี *ค่าเข้าชมนอกฤดูกาลจะแตกต่างกันไป
6. ชมดอกลาเวนเดอร์ที่ฟาร์มโทมิตะ
ฟาร์มโทมิตะ (Tomita Farm) ตั้งอยู่ที่เมืองฟุราโนะ จังหวัดฮอกไกโด นับเป็นฟาร์มดอกลาเวนเดอร์ที่สวยและโด่งดังที่สุดของญี่ปุ่นเลยก็ว่าได้ ภายในฟาร์มโทมิตะจะมีทุ่งลาเวนเดอร์ทั้งหมด 3 แห่ง แต่ที่โดดเด่นและดึงดูดนักท่องเที่ยวมากมายก็คือ ทุ่งอิโรโดริ (Irodori Field) ที่ประกอบไปด้วยทุ่งดอกไม้ทั้งหมด 7 สี ได้แก่ ดอกลาเวนเดอร์สีม่วง ดอกป๊อปปี้สีแดง ดอกดาวกระจายสีชมพู ดอกดาวเรืองสีเหลือง และดอกไม้สีสันสดใสอื่นๆ ไล่ระดับกันเป็นแนวโค้ง เป็นภาพวิวที่มีความสวยงามเป็นอย่างมาก ใครที่เดินทางมาที่ฟาร์มแห่งนี้ในช่วงดอกลาเวนเดอร์ก็อย่าลืมมาลองชิมขนมและเครื่องดื่มจากลาเวนเดอร์กันได้ รวมถึงสามารถเลือกซื้อผลิตภัณฑ์จากฟาร์มเป็นของฝากได้อีกด้วย

ช่วงเวลาแนะนำและพิกัด
ช่วงเวลาแนะนำ | ต้นเดือน – กลางเดือนกรกฎาคม |
พิกัด | แผนที่ |
เวลาทำการและค่าเข้าชม
เวลาทำการ : 08.30 – 17.30 น. (เวลาอาจเปลี่ยนแปลงตามฤดูกาล)
ค่าเข้าชม : ไม่มีค่าใช้จ่าย
7. ชมพุ่มโคเชียที่สวนฮิตาชิ ซีไซด์ ปาร์ค
ในช่วงประมาณเดือนตุลาคมของทุกปีซึ่งถือเป็นช่วงฤดูใบไม้ร่วง เนินมิฮาราชิภายในสวนฮิตาชิ ซีไซด์ ปาร์คก็จะเต็มไปด้วยสีส้มสีแดงของพุ่มโคเชียกว่า 30,000 ต้น ซึ่งจะสร้างทิวทัศน์ให้มีความสวยงามเป็นอย่างมาก โดยช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดในการชมพุ่มโคเชียสีแดงคือกลางเดือนตุลาคม ซึ่งจะมีการจัดงาน Kochia Carnival ตลอดเดือนตุลาคม พร้อมมีกิจกรรมต่างๆ ให้ได้ทำ เช่น การชมงานประดับไฟยามค่ำคืน และการแสดงดนตรีสดให้ได้ชมและได้รับฟังกันอีกด้วย

ช่วงเวลาแนะนำและพิกัด
ช่วงเวลาแนะนำ | ปลายเดือนกันยายน – กลางเดือนตุลาคม |
พิกัด | แผนที่ |
เวลาทำการและค่าเข้าชม
เวลาทำการ : 09.30 – 17.00 น. *เวลาเปิดอาจจะเปลี่ยนตามฤดูกาล
ค่าเข้าชม :
- ผู้ใหญ่ 700 เยน
- ผู้สูงอายุ (อายุ65 ปีขึ้นไป) 460 เยน, เด็กอายุต่ำกว่า 15 ปีเข้าฟรี
- เด็กที่มีอายุต่ำกว่า 15 ปี เข้าชมฟรี *ค่าเข้าชมนอกฤดูกาลจะแตกต่างกันไป
สรุป
เมื่อเดินทางมาประเทศญี่ปุ่นการชมสวนดอกไม้ญี่ปุ่นถือเป็นสิ่งที่ไม่ควรพลาดเลย เพราะว่าเป็นประเทศที่มีดอกไม้ประจำฤดูกาลสวยๆ ให้ได้ชมตลอดทั้งปี เหมาะสำหรับทุกเพศทุกวัย หากใครสนใจชมสวนดอกไม้ที่ญี่ปุ่นเพื่อพักผ่อนหย่อนใจ สามารถแอดไลน์ LINE ID : @lovelysmiletour เพื่อสอบถามเพิ่มเติมได้เลย