เมื่อวันที่ 1-2 มิถุนายนที่ผ่านมา ได้มีโอกาสได้เดินทางไปไหว้พระทำบุญ ที่ประเทศพม่า เส้นทางทัวร์พม่า ย่างกุ้ง 2 วัน 1 คืน เดินทางโดยสายการบินนกแอร์ (DD) การเดินทางไปทัวร์พม่าใช้เวลาไม่นาน นั่งเครื่องแค่ประมาน 1 ชั่วโมง จากสนามบินดอนเมือง (กรุงเทพ) สู่ สนามบินย่างกุ้ง (พม่า)
ทัวร์พม่า เดินทางโดยสายการบินนกแอร์
ข้อแนะนำก่อนไปทัวร์พม่า
แนะนำการเดินทางไปเที่ยวทัวร์พม่าเพิ่มเติม เวลาที่พม่านั้นจะช้ากว่าเวลาที่ไทย 30 นาที และสกุลเงินที่พม่าใช้เรียกว่า เงินจ๊าด (Kyat) หากท่านใดเดินทางมากับทัวร์สามารถเตรียมเงินไทยมาแลกเป็นเงินจ๊าดกับทางไกด์ท้องถิ่นได้เลย หรือสามารถแลกที่สนามบินก็ได้เช่นกัน อัตราแลกเปลี่ยนจะอยู่ประมาณ 1 บาท = 40 จ๊าด
เตรียมเงินบาท ไปแลกเงินจ๊าดที่ไกด์ทัวร์พม่าได้เลย
การแต่งกายในการมาท่องเที่ยวทัวร์พม่า ทำบุญไหว้พระ แนะนำให้ทุกท่านแต่งกายด้วยความสุภาพ เสื้อมีแขน กางเกงขายาว หากเป็นกระโปรงแนะนำว่าต้องเป็นกระโปรงที่ยาวคลุมเข่าลงไป สิ่งที่ห้ามเลย คือ เสื้อแขนกุด เสื้อกล้าม เสื้อสายเดี่ยว และ กางเกงขาสั้น รวมทั้ง กระโปรงสั้นทุกแบบ หากท่านใส่กางเกงยีนส์ แนะนำว่าไม่ควรมีรอยขาดหรือแฟชั่นมากเกินไป
สังเกตการแต่งตัวของนักท่องเที่ยวที่ไปเที่ยวทัวร์พม่า
ในส่วนของรองเท้านั้น แนะนำว่าให้ใส่เป็นรองเท้าแตะธรรมดาๆ ที่ราคาไม่แพงไป เพราะวัดที่พม่านั้นส่วนใหญ่ทุกท่านจะต้องถอดเท้าตั้งแต่ทางเข้าวัดเป็นต้นไป และวัดที่พม่านั้นห้ามใส่ถุงเท้าในวัด หรือหากท่านใดใส่รองเท้าผ้าใบไป แนะนำให้เตรียมรองเท้าแตะสำรองไว้ไปเปลี่ยน
โปรแกรมทัวร์พม่า ย่างกุ้ง 2 วัน 1 คืน
เมื่อเดินทางถึงพม่า ก็ทำการผ่านด่านคนเข้าเมือง และ รับกระเป๋าที่สายพาน หลังจากรับกระเป๋ากันเรียบร้อยแล้ว เราก็ขึ้นรถเตรียมตัวเดินทางไหว้พระทำบุญตามโปรแกรมทัวร์พม่าของเราได้เลย
วันที่ 1 ของการเดินทางทัวร์พม่า
1. วัดพระหินอ่อน หรือ Kyauk Taw Gyee pagoda
เป็นพระที่แกะสลักจากหินขาวเพียงก้อนเดียวจากฝีมือการแกะสลักของช่างที่เมืองมัณฑะเลย์ ทรงประทับนั่ง และในส่วนของพระหัตถ์ขวาจะบรรจุพระสารีริกธาตุที่มาจากสิงคโปร์ และ ศรีลังกา
2. ช้างเผือก หรือ Royal White Elephant Garden
ช้างเผือกมีลักษณะเหมือนช้างธรรมดาทั่วไป เพียงแต่จะมีนัยน์ตาสีขาว เล็บสีขาว และสีจะอ่อนกว่าช้างทั่วไป ในความเชื่อทางพระพุทธศาสนา เชื่อกันว่าเป็นสัญลักษณ์แห่งความมงคล 108 เราสามารถซื้อผลไม้ถวายช้างเผือกได้โดยจะมีเข้าหน้าที่ที่ดูแลช้างเป็นคนนำไปให้ช้างเอง
3. เจดีย์กาบาเอ หรือ Kaba Aye Pagoda
เจดีย์นี้ถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นที่สังคายนาพระไตรปิฎกครั้งที่ 6 เมื่อประมาน 70 ปีที่แล้ว ปละวัดนี้เป็นวันที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ และพระธาตุของพระสารีบุตรและพระโมคลา ซึ่งปกติทางวัดจะไม่เปิดให้คนทั่วไปเข้าสักการะพระพบรมสารีริกธาตุ จะเปิดก็แต่เฉพาะวันพระเท่านั้น ซึ่งโชคดีมากๆ วันที่ทัวร์พม่าเดินทางไปที่วัดเป็นวันพระพอดี เลยได้ไม่โอกาสเข้าไปสักการะพระบรมสารีริกธาตุ
4. มหาปาสนคูหา หรือ Maha Pasana Cave
มหาปาสนคูหาตั้งอยู่ที่ทางด้านหลังของเจดีย์กาบาเอ เป็นห้องประชุมขนาดใหญ่ใช้สำหรับการสังคายนาพระตาปิฎก เข้ามาด้านในจะรู้สึกเย็นมากๆ เหมือนเข้ามาในถ้ำจริงๆ ซึ่งสถานที่แห่งนี้ในการประชุมแต่ละครั้ง สามารถจุคนได้เป็นหมื่นๆ คน ทุกวันนี้จะใช้สถานที่นี้เป็นสนามสอบของพระสงฆ์ของพม่า
5. อาหารกลางวัน (มื้อที่ 1) อาหารไทยในพม่า ชื่อว่าร้าน WHITE RICE
พื้นที่ของร้านนี้มีความกว้างใหญ่ และอยู่ในทำเลที่ดี บรรยากาศร้านสงบร่มรื่นมากๆ อาหารก็อร่อยมาก ยกตัวอย่างเช่น ขาหมูพะโล้ ผัดผัก ยำเห็ดหูหนูขาว ไก่ผัดเม็ดมะม่วง เป็นต้น เป็นอีกร้านที่ทัวร์พม่านิยมพาลูกค้ามารับประทานอาหาร
6. ขอพรเทพทันใจ และ เทพกระซิบ ณ เจดีย์โบตาทาวน์
เริ่มแรกเลยเมื่อมาสถานที่แห่งนี้ เราจะได้ไปถวายสักการะแด่พระเกศาธาตุ ที่ถูกบรรจุไว้ในมณฑปครอบแก้วใส เพื่อให้ทุกท่านได้เข้าไปสักการะอย่างใกล้ชิด หลังจากนั้น เดินทางวิหารด้านขวา เพื่อมากราบไหว้พระพุทธรูปทองคำ เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัยที่งดงามยิ่งนัก
– สักการะองค์เทพทันใจ (นัตโบโบจี)
วิธีการสักการะรูปปั้นเทพทันใจ (นัตโบโบจี) เครื่องสักการะต่างๆ สามารถแจ้งไกด์ทัวร์พม่าให้จัดเตรียมให้ได้ โดยวิธีสักการะให้เอาดอกไม้ ผลไม้ โดยเฉพาะมะพร้าวอ่อน กล้วย หรือผลไม้อื่นๆ มาสักการะเทพทันใจจะชอบมาก จากนั้นก็ให้เอาเงินจะเป็นดอลล่า บาท หรือจ๊าด ก็ได้ (แต่แนะนำให้เอาเงินบาทดีกว่าเพราะเราเป็นคนไทย) แล้วเอาไปใส่มือของเทพทันใจสัก 2 ใบ ไหว้ขอพรแล้วดึกกลับมา 1 ใบ เอามาเก็บรักษาไว้ จากนั้นก็เอาหน้าผากไปแตะกับนิ้วชี้ของเทพทันใจ จะสมตามความปราถนาที่ขอไว้
– สักการะเทพกระซิบ หรือ เมี๊ยะนานหน่วย
วิธีการสักการะองค์เทพกระซิบ บูชาด้วยน้ำนม ข้าวตอก ดอกไม้ และผลไม้ และกระซิบที่ข้างหูของท่านเพื่อขอพรตามความปรารถนาของทุกท่าน
7. มหาวิชยเจดีย์
อยู่ติดกับเจดีย์ชเวดากองทางทิศใต้ ซึ่งมีความเชื่อว่าที่แห่งนี้มีพระเกศาธาตุอีก 2 เส้น ซึ่งภายในเจดีย์มีห้องโถงใหญ่มาก เพดานเป็นท้องฟ้า และผนังรอบๆเป็นต้นโพธิ์ มีพุทธประวัติของพระพุทธเจ้า ตรงกลางประดิษฐานพระพุทธรูป 8 องค์ จึงทำให้ที่มหาเจดีย์แห่งนี้เป็นที่นับถือของชาวเมือง และนักท่องเที่ยวทัวร์พม่ามาสักการะกราบไหว้บูชากันอย่างเนืองแน่น
8. เจดีย์ชเวดากอง หรือ Shwedagon Pagoda
เจดีย์คู่บ้านคู่เมืองที่เป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวพม่า เป็นเจดีย์ที่มีอายุเก่าแก่กว่า 2,000 ปี เป็นที่ประดิษฐานพระเกศาธาตุ 8 เส้นของพระพุทธเจ้า เจดีย์แห่งนี้มีทองคำโอบหุ้มอยู่น้ำหนักถึง 1,100 กิโลกรัม รอบๆ ฐานพระมหาเจดีย์รายล้อมด้วยเจดีย์องค์เล็กๆ นับร้อยองค์ มีซุ้มประตูสี่ด้าน ยอดฉัตรองค์พระมหาเจดีย์ประกอบด้วยเพชรและพลอยมากมาย เป็นพระธาตุประจำปีเกิดปีมะเมีย (ซึ่งเราเกิดปีมะเมีย) และยังเป็น 1 ใน 5 มหาบูชาสถานสูงสุดของพม่า ซึ่งมีทั้งผู้คนชาวพม่า และชาวต่างชาติพากันสักการะทั้งกลางวันและกลางคืนอย่างไม่ขาดสาย
9. อาหารเย็น (มื้อที่ 2)
เป็นร้านอาหารที่ อิ่มอร่อยอีกเช่นเคย เมนูแนะนำของร้านนี้เลย คือ ยำปลาดุกฟู ผัดกระเพราหมูสับ (อร่อยมากๆ) ผัดผัก เป็ดย่างจานโตๆ น้ำพริกปลาทู และ กุ้งผัดซอสศรีราชา
หลังจากอิ่มอร่อยกับอาการเย็นเรียบร้อยแล้ว เราก็เดินทางเข้าพักที่ โรงแรม Best Western Green Hill ระดับ 4 ดาว
โรงแรมนี้สะอาดตาตั้งแต่เดินก้าวเท้าเข้ามาเลยค่ะ ล้อบบี้ข้างล่างมีความใหญ่โตกว้างขวาง พอขึ้นมาที่ห้องพักก็สวยงามสะอาดตามากๆเช่นกัน บริเวณห้องพักมีความกว้างขวาง เข้ามาจะพบกับเตียงนอนที่นิ่มสบาย โต๊ะเครื่องแป้ง ชุดโซฟาและทีวี ภายในห้องน้ำมีสิ่งอำนวยความสะดวกไว้ให้ครบครัน ไม่ว่าจะเป็น ผ้าเช็ดตัว เช็ดหัว สบู่ แชมพู แปรงสีฟัน หมวกคลุมผม ถือได้ว่าเป็นโรงแรมที่ประทับใจมากๆ ที่หนึ่งจากทั้งหมดที่เคยพักมา ถือเป็นอีกหนึ่งโรงแรมยอดฮิตที่ทัวร์พม่านิยมใช้บริการ
วันที่ 2 ของการเดินทางทัวร์พม่า
วันที่ 2 ของการเดินทางแล้ว เริ่มต้นเช้าวันใหม่ที่สดใสด้วย อาหารเช้าของทางโรงแรม ห้องอาหารของทางโรงแรมจะอยู่ที่ชั้นล่าง ชั้นเดียวกับล้อบบี้ มีอาหารให้เลือกทานมากมาย ไม่ว่าจะเป็นไทย จีน และอาหารพื้นเมืองของพม่าที่เรียกว่า “โมฮิงกา” เป็นขนมจีนน้ำยาปลาเหมือนบ้านเรา แต่จะมีลูกเล่นเพิ่มขึ้นมาโดยการกินคู่กับหยวกกล้วย และถั่วทอดต่างๆ อร่อยไปอีกแบบ ใครได้มีโอกาสมาพม่าแนะนำให้ลองทานหลังจากทานอาหารเช้า และ ทำการเชคเอ้าท์จากโรงแรมเรียบร้อยแล้ว ก็เดินทางทำบุญไหว้พระกันต่อในวันที่ 2 เริ่มกันเลยยยยยยย !!!
1. ตลาดสก๊อตมาร์เก็ต หรือ Bogyoke Aung San Market
ตลาดในร่มที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยว ตลาดแห่งนี้เป็นแหล่งช้อปปิ้งขึ้นชื่อของพม่า มีสินค้ามากมายให้เลือกซื้อเลือกสรรกันอย่างจุใจ ที่ขึ้นชื่อของตลาดแห่งนี้เลย คือ หยกพม่า พระพุทธรูปไม้หอมแกะสลัก แป้งทานาคา ผ้าปักพื้นเมือง เครื่องเงิน ไข่มุก ผ้าถุงพม่า ขนมขบเขี้ยวต่างๆ ชาพม่า (อร่อยมาก) สามารถเลือกซื้อกลับไปเป็นของฝากได้เลย
2. พระงาทัตยี หรือ Nga Htat Gyi Pagoda
ซึ่งเป็นพระพุทธรูปองค์ใหญ่ คือ หลวงพ่องาทัตยี แปลว่าหลวงพ่อที่สูงเท่าตึก 5 ชั้น เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัยที่แกะสลักจากหินอ่อน ทรงเครื่องแบบกษัตริย์ เครื่องทรงเป็นโลหะ ส่วนเครื่องประกอบด้านหลังเป็นไม้แกะสลักทั้งหมด โดยแกะสลักเป็นลวดลายต่างๆ จำลองแบบมาจากพระพุทธรูปทรงเครื่องสมัยยะตะนะโบง ของมัณฑะเลย์
3. อาหารกลางวัน (มื้อที่ 4) ร้าน WESTERN PARK RUBY
ร้านอาหารไทยร้านนี้รสชาติและความหลากหลายของอาหารดีมากๆ เช่นกัน ถือเป็นร้านยอดฮิตที่ไกด์ทัวร์พม่าแนะนำ ร้านนี้มีความพิเศษตรงที่ มีเมนูสลัดกุ้งมังกร เป็ดปักกิ่ง และ ปลาทอดสามรส ซึ่งอร่อยมากๆ และนอกจากนี้ยังมี ผัดผักรวมมิตร ปูผัดผงกะหรี่ และ ยำสามกรอบ อีกด้วย
4. พระนอนตาหวาน หรือ พระพุทธไสยาสน์เจาทัตยี (Kyauk Htat Gyi Reclining Buddha)
ซึ่งเป็นพระนอนที่มีความสวยงามที่สุดและดวงตาสวยที่สุดของประเทศพม่า องค์พระมีลักษณะแบบพระพม่าคือ หน้าหวาน และที่โดดเด่นขององค์นี้คือ ตาหวาน สีสันหน้าตาตลอดจนสีเล็บสดใสทีเดียว อย่างไรก็ตาม หากพิจารณาโดยละเอียดจะเห็นความประณีตของคนสร้างอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นรอยพับ การทับซ้อนของจีวร และที่งดงามเก๋มากคือลวดลายอักขระบนฝ่าเท้า วัดพระนอนแห่งนี้ เป็นที่ศึกษาพระธรรมของพระสงฆ์ทั้งระดับต้นถึงระดับสูง มีพระสงฆ์พำนักอยู่ที่วัดนี้ถึงกว่า 600 คน
5. วัดบารมี
วัดบารมีแห่งนี้ มีพระภัททันตะ กิตติวาระ เป็นเจ้าอาวาสวัด เมื่อมาถึงวัดแล้วเดินขึ้นไปที่ชั้นบน ทุกท่านจะได้สักการะพระเกศาของพระพุทธเจ้าที่เชื่อว่ายังมีชีวิตอยู่จริง วัดนี้ยังได้ชื่อว่าเป็นที่เก็บองค์พระบรมสารีริกธาตุไว้มากที่สุด ท่านเจ้าอาวาสจะเป็นผู้ประกอบพิธีให้พวกเราได้เห็นว่า พระเกศาธาตุยังมีชีวิตอยู่จริง หลังเสร็จพิธี ท่านได้มอบพระธาตุให้พวกเราได้ไปบูชาเพื่อเป็นสิริมงคลกับชีวิตอีกด้วยค่ะ และที่วัดแห่งนี้ ยังมีมุมที่ให้ทุกท่านได้มาลองขอพรยกพระ โดยการขอนั้นทางไกด์แนะนำว่า ครั้งแรกที่ขอนั้นขอให้ยกพระองค์นี้ไม่ขึ้น และ ให้ขออีกครั้ง (โดยขอเรื่องเดียวกัน) โดยครั้งที่ 2 นี้ขอให้ยกพระองค์นี้ขึ้น เรื่องนี้เป็นความเชื่อส่วนตัวของแต่ละคน
6. วัดพระเขี้ยวแก้วจุฬามณี หรือ วัดชเวตอเมียต (Shwe Taw Myat)
วัดแห่งนี้นับเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองของย่างกุ้ง โดยใช้สถาปัตยกรรมแบบโบราณของทางพุกาม องค์เจดีย์เป็นปราสาท 8 เหลี่ยม ปลายเจดีย์ประดับทองคำแท้ ทางด้านล่างก่อนเดินขึ้นไปบนเจดีย์นั้น จะมีให้เราได้ร่วม “ชักรอกเรือบุญ”โดยผู้ที่จะทำบุญจะนำแผ่นทองมาใส่ในเรือหงส์ ก่อนที่จะชักรอกให้ลอยขึ้นฟ้าสู่ยอดเจดีย์ จากนั้นคนที่รออยู่ด้านบนก็จะนำทองไปปิดเจดีย์ค่ะ และเมื่อเดินขึ้นมา กลางโถงภายในเจดีย์จะเป็นที่ประดิษฐานของพระเขี้ยวแก้วอันศักดิ์สิทธิ์ เด่นสง่าสวยงามมากๆ
หลังจากที่เราสักการะพระเขี้ยวแก้วเสร็จเรียบร้อยแล้ว เดินลงมาด้านล่าง จะมีพ่อค้าแม่ค้ามานั่งขายขนมท้องถิ่นที่เรียกว่า “บาเยีย” รสชาติของมันจะคล้ายๆกับถั่วทอดแผ่น และ คล้ายๆ ทอดมันแบบที่ไทย แต่ลักษณะของมันจะเป็นลูกกลมขนาดประมาณนิ้วโป้งเรา ลองซื้อชิมดู อร่อย กินเล่นๆ เคี้ยวเพลินๆ
สรุป
เที่ยวครบโปรแกรมของวันที่ 2 เรียบร้อยแล้ว เราก็ได้เวลาเดินทางไปสนามบินย่างกุ้ง เพื่อเตรียมตัวเดินทางกลับไทย การเดินทางมาทัวร์พม่าครั้งแรกนี้ รู้สึกประทับใจมาก นอกจากความประทับใจที่มีตลอด 2 วันในการเดินทางแล้ว ยังรู้สึกอิ่มบุญ อิ่มใจ ในการได้มาทำบุญไหว้พระในครั้งนี้ ท่านใดมีโอกาสลองมาเที่ยวพม่าดู แล้วจะหลงรักประเทศนี้โดยไม่รู้ตัว ทั้งนี้ สนใจจองทัวร์พม่า ย่างกุ้ง 2 วัน 1 คืน แอดไลน์ @lovelysmiletour มาได้เลย
รีวิวโดย หมวยหมวย