16 ที่เที่ยวเวียดนามกลางยอดฮิต อัปเดตล่าสุด

แชร์บทความนี้

ประเทศเวียดนาม เป็นหนึ่งในประเทศอาเซียนที่ได้รับความนิยมจากคนไทยในการไปท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก ด้วยราคาตั๋วเครื่องบิน อาหาร ที่พักที่ไม่แพง การเดินทางภายในประเทศสะดวกมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ทัวร์เวียดนามกลาง ซึ่งได้รับความสนใจมากๆ ซึ่งเวียดนามกลางจะแบ่งเป็น 3 เมืองหลักๆ คือ ดานัง ฮอยอัน และเว้ แต่ละเมืองจะมีที่เที่ยวอะไรบ้าง ลองมาดูกัน

เมืองดานัง (Da Nang)

การเดินทางจากเมืองไทยไปเวียดนามกลาง จะต้องนั่งเครื่องไปลงที่เมืองดานัง และถ้าพูดถึงเมืองดานัง ที่เที่ยวแรกที่ทุกคนจะต้องเคยได้ยิน หรือได้เห็นตามสื่อต่างๆ คงนี้ไม่พ้น บานาฮิลล์ นั่นเอง หรือบางคนจะบอกว่า อยากไปเที่ยว สะพานมือๆ แต่จริงๆ ก็ยังมีสถานที่เที่ยวอีกหลายที่ที่น่าสนใจ ลองดูกัน

1. บานาฮิลล์ (ฺBana Hills)

สถานที่เที่ยวแรกที่ทำให้คนรู้จักเวียดนามกลาง คือ บานาฮิลล์ นั่นเอง เป็นสถานที่ตากอากาศยอดฮิตที่ต้องมาเที่ยวสักครั้ง โดยสถานที่จะตั้งอยู่บนเขา ต้องนั่งกระเช้าขึ้นไป ซึ่งระหว่างนั่งกระเช้า สามารถเห็นวิวธรรมชาติสวยๆ แค่นี้ก็ประทับใจแล้ว ด้านบนจะมีกิจกรรมหลายอย่าง อาทิเช่น เครื่องเล่นต่างๆ ที่สวนสนุก Fantasy Park นั่งรถราง พิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้ง สวนดอกไม้ ศาลเจ้า พระพุทธรูป โบสถ์ โรงหมักไวน์ เป็นต้น

เวียดนามกลาง bana hills
บานาฮิลล์ (Bana Hills)

แต่จุดไฮไลท์ของบานาฮิลล์ ที่ต้องมาถ่ายรูปสักครั้ง คือ สะพานมือ หรือสะพานทอง (Golden Bridge) ซึ่งเป็นสะพานที่สร้างอยู่ริมเขา สามารถมองเห็นวิวสวยๆ โดยรอบได้ ส่วนช่วงหน้าหนาว ก็จะมีหมอกหนาฟินสุดๆ

สะพานมือ
สะพานมือ

นอกจากนี้ ด้านบนบานาฮิลล์ ยังสามารถไปนอนพักได้อีกด้วย โดยจะมีโรงแรม Mercure Danang French Village Bana Hills เพียงแห่งเดียว บอกเลยว่า ห้องเต็มเร็วมาก ใครอยากมาพัก แนะนำรีบจองล่วงหน้าไว้ก่อนได้เลย สามารถเช็คราคาห้องพักที่ปุ่มด้านล่าง

 Mercure Danang French Village Bana Hills
Mercure Danang French Village Bana Hills
 Mercure Danang French Village Bana Hills
สิ่งอำนวยความสะดวกภายในห้องพัก

ดูรีวิว >> Mercure Danang French Village Bana Hills

2. Sontra Marina Cafe

ในยุคที่ใครๆ ก็ชอบไปถ่ายรูปที่คาเฟ่สวยๆ หรือไปลองชิมกาแฟตามสถานที่ต่างๆ มาเวียดนามกลาง ต้องลองมาคาเฟ่ดังประจำเมืองดานัง นั่นคือ Sontra Marina Cafe คาเฟ่ริมทะเลสวยๆ ที่ตกแต่งอาคารด้วยสีขาวตัดด้วยขอบสีฟ้าสไตล์ซานโตรินี่ เป็นอีกหนึ่งจุดถ่ายรูปสวยๆ ที่ไม่ควรพลาด

Sontra Marina Cafe คาเฟ่ดานัง
credit : Sontra Marina

3. คาเฟ่ Hon Da Thuyen Café

เป็นอีกหนึ่งคาเฟ่ที่กำลังเป็นที่นิยามของนักท่องเที่ยว Hon Da Thuyen Café ซึ่งอยู่บนเขาระหว่างทางจากดานังไปเว้ จะสามารถเห็นวิวอ่าวดานังสวยๆ ให้ถ่ายรูปชิคๆ ริมผาได้

Hon Da Thuyen Café
Hon Da Thuyen Café
Hon Da Thuyen Café
นั่งชิลมองเห็นวิวอ่าวดานัง

4. สะพานมังกร (Dragon Bridge)

สะพานมังกรเป็นสัญลักษณ์ที่ตั้งอยู่ในเมืองดานัง เวียดนามกลาง สะพานนี้ทอดข้ามแม่น้ำฮันและมีรูปร่างเหมือนมังกร มีโครงโลหะที่ส่องสว่างด้วยไฟ LED หลากสีสันในตอนกลางคืน สะพานมังกรเป็นสะพานที่ยาวที่สุดในเวียดนาม โดยมีความยาวกว่า 666 เมตร เปิดให้เข้าชมในปี 2013 และตั้งแต่นั้นมา จึงกลายเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวทัวร์เวียดนามกลางที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในดานัง

สะพานมังกร ดานัง
สะพานมังกร

หนึ่งในไฮไลท์ของสะพานมังกร คือ จะมีการแสดงแสงไฟหลากหลายสีสันและหัวของมังกรพ่นไฟและน้ำ ซึ่งจะจัดขึ้นเวลา 21:00 น. ทุกวันเสาร์และอาทิตย์ นอกจากการออกแบบที่น่าประทับใจและการแสดงยามค่ำคืนแล้ว สะพานมังกรยังเป็นเส้นทางคมนาคมขนส่งที่สำคัญสำหรับเมืองดานังอีกด้วย เชื่อมต่อย่านใจกลางเมืองกับคาบสมุทร Son Tra แนะนำว่า ให้ไปลองเดินถ่ายรูปช่วงหัวค่ำ จะได้เห็นบรรยากาศและแสงสวยๆ จากสะพานมังกร

สะพานมังกร
สะพานมังกรตอนกลางคืน

5. สะพานแห่งความรัก (Love Bridge)

เป็นสะพานที่ถูกประดับตกแต่งด้วยเสารูปหัวใจบริเวณริมแม่น้ำฮาน และเมื่อมองจากสะพานแห่งความรัก จะสามารถเห็นวิวของสะพานมังกรแบบเต็มๆ นอกจากนี้ ยังมีความเชื่อกันว่า การข้ามสะพานกับคนที่คุณรักจะนำความโชคดีและกระชับความสัมพันธ์ให้ยั่งยืน ด้วยเหตุนี้ คู่รักหลายคู่จึงมาที่สะพานแห่งความรักเพื่อถ่ายรูปสุดโรแมนติก และคล้องกุญแจแห่งความรักไว้บนราวเพื่อเป็นสัญลักษณ์แห่งความรักของพวกเขา

สะพานแห่งความรัก
สะพานแห่งความรัก

6. วัดลิงห์อึ๋ง (Linh Ung Pagoda)

วัดลิงห์อึ๋ง เป็นวัดพุทธที่ตั้งอยู่ในคาบสมุทร Son Tra ห่างจากเมืองดานังในภาคกลางของเวียดนามประมาณ 10 กิโลเมตร วัดแห่งนี้เป็นที่รู้จักจากทัศนียภาพอันงดงามของทะเลตะวันออก และมีรูปปั้นเจ้าแม่กวนอิมสูง 67 เมตร ตั้งอยู่ริมทะเลสวยงาม เดิมทีวัดถูกสร้างขึ้นในศตวรรษที่ 18 แต่ถูกทำลายในช่วงสงครามเวียดนาม และถูกสร้างขึ้นใหม่ในช่วงต้นทศวรรษ 2000 ปัจจุบันเป็นหนึ่งในวัดที่ใหญ่และสวยงามที่สุดในภูมิภาค และใหญ่ที่สุดในเมืองดานัง โดยมีอาคาร ศาลเจ้า และสวนจำนวนมากกระจายอยู่ทั่วพื้นที่ขนาดใหญ่ ทำให้ที่นี่กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในเวียดนามกลาง

วัดลิงห์อึ๋ง
วัดลิงห์อึ๋ง
วัดลิงห์อึ๋ง
ศาลเจ้าภายในวัดลิงห์อึ๋ง

7. ตลาดฮาน (Han Market)

มาถึงเมืองดานังแล้ว ถ้าอยากช้อปปิ้ง ซื้อของฝาก ต้องมาที่ตลาดฮาน (Han Market) โดยของฝากยอดนิยมจะเป็นชา กาแฟ เส้นเฝอสำเร็จรูป รวมถึงเสื้อผ้า กระเป๋า ชุดอ่าวหญ่าย ราคาไม่แพง ถูกกว่าซื้อที่สนามบินดานัง

ตลาดฮาน
ตลาดฮาน
ของฝากตลาดฮาน
ตัวอย่างสินค้าในตลาดฮาน เช่น ชา กาแฟ

เมืองฮอยอัน (Hoi An)

หลายๆ ท่านคงจะรู้จักชื่อเมืองนี้จากละครเรื่อง ฮอยอัน ฉันรักเธอ ซึ่งเป็นเป็นเมืองมรดกโลก ที่เหมาะกับการมาเดินเที่ยวถ่ายรูป เก็บบรรยากาศ สถานที่ที่นิยมมาเที่ยวกัน มี 2 ที่ ดังนี้

8. ล่องเรือกระด้ง (Cam Thanh Water Coconut Village)

มาถึงเมืองฮอยอัน กิจกรรมยอดฮิตคือ การได้มาลองนั่งเรือกระด้ง ที่หมู่บ้านกั๊มทาน (Cam Thanh Water Coconut Village) ให้ได้ชมบรรยากาศสวนมะพร้าว และวิถีชีวิตชาวบ้าน รวมทั้งยังมีการควงเรือกระด้งประกอบดนตรี ใครอยากให้ควงเรือ แจ้งคนพายได้เลย

เรือกระด้ง
เรือกระด้ง

9. เมืองโบราณฮอยอัน (Hoi An Ancient Town)

อีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวสวยๆ ที่ได้รับการขึ้นเป็นเมืองมรดกโลก เมืองโบราณฮอยอัน (Hoi An Ancient Town) ซึ่งจะเป็นเหมือนถนนคนเดิน ที่มีตึกสวยๆ บ้านโบราณอายุกว่า 200 ปี มีร้านอาหาร ร้านกาแฟ ร้านขายของฝาก จุดถ่ายรูปยอดฮิตจะเป็นมุม สะพานญี่ปุ่น ซึ่งอดีตเป็นชุมชนของชาวญี่ปุ่นที่สร้างขึ้นมานานกว่า 400 ปี ใครชอบมาถ่ายรูปแนวสตรีทสวยๆ ต้องมาที่นี่เลย

เมืองโบราณฮอยอัน
เมืองโบราณฮอยอัน
ทัวร์เวียดนามกลาง ฮอยอัน
สะพานญี่ปุ่น

เมืองเว้ (Hue)

เป็นอีกเมืองที่คนส่วนใหญ่ยังไม่ค่อยรู้จักกัน การเดินทางจากเมืองดานังมาที่เมืองเว้ จะใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง เป็นเมืองที่มีโบราณสถานต่างๆ ให้ได้ชื่นชม รวมทั้งยังมีกิจกรรมล่องเรือแม่น้ำหอม ฟังเพลงพื้นเมืองเวียดนาม ลองมาดูสถานที่เที่ยวหลักๆ ของเมืองเว้กัน

10. พระราชวังเว้

พระราชวังเว้ ตั้งอยู่ในเมืองเว้ ภาคกลางของเวียดนาม สร้างขึ้นในช่วงต้นศตวรรษที่ 19 ภายใต้ราชวงศ์เหงียน ซึ่งปกครองเวียดนามตั้งแต่ปี 1802 – 1945 เป็นที่ประทับของจักรพรรดิและราชวงศ์ และยังเป็นสถานที่จัดพิธีและเหตุการณ์สำคัญอีกด้วย ปัจจุบัน อาคารด้านในต่างๆ ได้ถูกทำลายในช่วงสงคราม แต่ก็ยังอาคารด้านหน้าให้ได้ชม เป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมและได้รับการยอมรับให้เป็นมรดกโลกจากองค์การยูเนสโก

Complex of Hue Monuments
พระราชวังเว้
ภายในพระราชวังเว้
ภายในพระราชวังเว้ อาคารต่างๆ ถูกทำลาย

11. พระราชวังอันดินห์ (An Dinh Palace)

พระราชวังอันดินห์ (An Dinh Palace) หรือที่รู้จักในชื่อ An Dinh Residence เป็นพระราชวังเก่าแก่ที่ตั้งอยู่ในเมืองเว้ ประเทศเวียดนาม สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2460 โดยราชวงศ์เหงียนสำหรับจักรพรรดิไคดิงห์ จักรพรรดิองค์ที่ 12 ของเวียดนาม พระราชวังแห่งนี้ได้รับการออกแบบในรูปแบบสถาปัตยกรรมผสมผสานระหว่างเวียดนามและฝรั่งเศส โดยผสมผสานองค์ประกอบแบบเวียดนามดั้งเดิมเข้ากับลวดลายการตกแต่งแบบยุโรป

พระราชวังอันดินห์
พระราชวังอันดินห์ (An Dinh Palace) | credit: https://vietnamtrips.com/hue/an-dinh-palace-hue

พระราชวังอันดินห์ ถูกใช้เป็นที่พำนักหลายชั่วอายุคนของราชวงศ์เหงียน และต่อมาถูกใช้เป็นที่พำนักของเจ้าหน้าที่ฝรั่งเศสหลายคนในช่วงยุคอาณานิคม ช่วงสงครามเวียดนาม และพระราชวังถูกใช้เป็นสำนักงานใหญ่ของรัฐบาลเวียดนามใต้ในเมืองเว้ ปัจจุบัน พระราชวังอันดินห์เปิดให้ชนเข้าชม โดยมีการจัดแสดงประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของเมืองเว้และราชวงศ์เหงียน ผู้เข้าชมสามารถเดินชมห้องต่างๆ ได้ ซึ่งมีงานแกะสลักที่ประณีต เฟอร์นิเจอร์หรูหรา และงานศิลปะที่สวยงาม

พระราชวังอันดินห์
ภายในพระราชวังอันดินห์ | credit: https://hoianprivatetaxi.com/an-dinh-palace/

12. หมู่บ้านธูป (Incense Village)

หมู่บ้านธูปหรือที่รู้จักกันในชื่อหมู่บ้าน Phuoc Tich เป็นหมู่บ้านเล็กๆ ที่อยู่ห่างจากเมืองเว้ประมาณ 30 กิโลเมตร เป็นหมู่บ้านประวัติศาสตร์ที่มีอายุย้อนไปถึงศตวรรษที่ 15 และมีชื่อเสียงด้านเครื่องปั้นดินเผาและงานฝีมือทำเครื่องหอม โดยช่างฝีมือที่นี่ใช้ส่วนผสมจากธรรมชาติ เช่น ไม้จันทน์ อบเชย และกานพลู เพื่อสร้างธูปคุณภาพสูงที่ใช้ในวัดและสถานที่ทางศาสนาต่างๆ ทั่วประเทศเวียดนาม นักท่องเที่ยวทัวร์เวียดนามกลางสามารถชมขั้นตอนการทำธูปตั้งแต่การบดส่วนผสมไปจนถึงการขึ้นรูปและทำให้แห้ง

หมู่บ้านธูป
หมู่บ้านธูป | credit: https://phongnhalocals.com/thuy-xuan-incense-village/

นอกจากเครื่องปั้นดินเผาและการทำธูปแล้ว หมู่บ้านธูปยังเป็นที่รู้จักในด้านอาหารแบบพื้นเมือง อาทิเช่น เค้กบัญล็อก ก๋วยเตี๋ยวบุนโบเว้ และแพนเค้กบัญคอย หมู่บ้านธูปจึงเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่นิยมมาถ่ายรูปสวยๆ และมาลองทานอาหารพื้นเมือง

13. สุสานจักรพรรดิไคดิงห์ (Tomb of Emperor Khai Dinh)

สุสานจักรพรรดิไคดิงห์ เป็นสุสานหลวงที่ตั้งอยู่ในเมืองเฮืองถวี ห่างจากเมืองเว้ในภาคกลางของเวียดนามประมาณ 10 กิโลเมตร เป็นสุสานที่น่าประทับใจและมีเอกลักษณ์ที่สุดแห่งหนึ่งในภูมิภาคนี้ ซึ่งเป็นที่รู้จักจากการผสมผสานสถาปัตยกรรมแบบเวียดนามดั้งเดิมเข้ากับองค์ประกอบการตกแต่งแบบยุโรป สุสานตั้งอยู่บนเนินเขาที่มองเห็นทิวทัศน์ชนบทโดยรอบ และจะมีบันไดยาวที่เป็นรูปปั้นมังกรตั้งตระหง่านขนาบข้าง

สุสานจักรพรรดิไคดิงห์ ทัวร์เวียดนามกลาง
ด้านหน้าสุสานจักรพรรดิไคดิงห์

สุสานแห่งนี้สร้างขึ้นในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 โดยจักรพรรดิไคดิงห์ซึ่งปกครองเวียดนามตั้งแต่ปี 2459 – 2468 การออกแบบของสุสานได้รับอิทธิพลอย่างมากจากการเสด็จประพาสยุโรปของจักรพรรดิ และมีรูปแบบสถาปัตยกรรมที่ผสมผสานระหว่างตะวันออกและตะวันตก ได้แก่ โกธิค เรอเนซองส์ และอาร์ตเดโค อาคารหลักของหลุมฝังศพนี้เรียกว่า พระราชวังเทียนดิงห์ เป็นโครงสร้าง 3 ชั้นที่ทำจากคอนกรีตเสริมเหล็ก ผนังและเพดานประดับด้วยกระเบื้องโมเสกอันประณีตที่ทำจากแก้วและกระเบื้องเซรามิค ภายในห้องโถงใหญ่ซึ่งเป็นที่ตั้งของสุสานของจักรพรรดิ จะตกแต่งด้วยรูปปั้นของจักรพรรดิและราชวงศ์ ตลอดจนภาพจิตรกรรมฝาผนังสีสันสดใสที่แสดงฉากจากประวัติศาสตร์และตำนานของเวียดนาม

Tomb of Emperor Khai Dinh building
อาคารหลักของสุสาน
สุสานจักรพรรดิไคดิงห์
ภายในสุสานจักรพรรดิไคดิงห์

ลักษณะเด่นอื่นๆ ของสุสานจักรพรรดิไคดิงห์ ได้แก่ ลานภายใน รูปปั้นหิน และรายละเอียดที่ซับซ้อนขององค์ประกอบตกแต่ง หลุมฝังศพล้อมรอบด้วยสวนเขียวขจีและมีทิวทัศน์ที่สวยงามของชนบทโดยรอบ ทำให้ที่นี่เป็นสถานที่เงียบสงบและสวยงาม

รูปปั้นหิน
รูปปั้นหิน
สุสานจักรพรรดิไคดิงห์
บรรยากาศภายนอก

โดยรวมแล้ว สุสานจักรพรรดิไคดิงห์เป็นสถานที่ที่ไม่ควรพลาดสำหรับผู้ที่สนใจประวัติศาสตร์ สถาปัตยกรรม และวัฒนธรรมเวียดนาม การผสมผสานที่เป็นเอกลักษณ์ขององค์ประกอบการออกแบบตะวันออกและตะวันตก รายละเอียดการตกแต่งที่น่าประทับใจ และตำแหน่งที่สวยงาม ทำให้สุสานแห่งนี้เป็นสุสานที่งดงามและน่าทึ่งที่สุดแห่งหนึ่งในเวียดนาม

14. เจดีย์เทียนมู่ (Thien Mu Pagoda)

เจดีย์เทียนมู่ เป็นวัดพุทธเก่าแก่ที่ตั้งอยู่บนเนินเขาที่มองเห็นแม่น้ำหอม ห่างจากเมืองเว้ในภาคกลางของเวียดนามประมาณ 5 กิโลเมตร เป็นหนึ่งในเจดีย์ที่โดดเด่นและมีชื่อเสียงที่สุดในประเทศ เป็นที่รู้จักในด้านสถาปัตยกรรมที่สวยงาม และประวัติศาสตร์อันยาวนาน เดิมทีเจดีย์ถูกสร้างขึ้นในช่วงต้นศตวรรษที่ 17 แต่ได้รับการบูรณะและขยายครั้งใหญ่ตลอดหลายศตวรรษที่ผ่านมา โดยอาคารหลายหลังมีอายุย้อนไปถึงศตวรรษที่ 19 กลุ่มเจดีย์ประกอบด้วยอาคารหลายหลัง รวมทั้งศาลเจ้าหลัก หอระฆัง หอกลอง ตลอดจนวัดและศาลเจ้าขนาดเล็กอีกหลายแห่ง

เจดีย์เทียนมู่ เว้ เวียดนามกลาง
เจดีย์เทียนมู่ (Thien Mu Pagoda)

ลักษณะเด่นของเจดีย์เทียนมู่ คือ หอคอยแปดเหลี่ยมเจ็ดชั้น ซึ่งสูง 21 เมตร หอคอยแต่ละชั้นอุทิศให้กับพระพุทธเจ้าที่แตกต่างกัน โดยมีรูปปั้นและศาลเจ้าในแต่ละชั้น

เจดีย์เทียนมู่
หอคอยแปดเหลี่ยมเจ็ดชั้น

เจดีย์แห่งนี้ยังเป็นที่รู้จักในด้านสวนที่สวยงามและสภาพแวดล้อมที่เงียบสงบ มีต้นไม้ ดอกไม้ และสระน้ำมากมายที่สร้างบรรยากาศที่เงียบสงบสำหรับผู้มาเยือนเพื่อผ่อนคลายและทำสมาธิ เจดีย์เทียนมู่เป็นศูนย์กลางทางจิตวิญญาณและวัฒนธรรมที่สำคัญในเวียดนาม และดึงดูดผู้แสวงบุญและนักท่องเที่ยวจำนวนมากทุกปี

สวน เจดีย์เทียนมู่
สวนด้านใน

15. ล่องเรือแม่น้ำหอม (Hue traditional music on Perfume river)

เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่ทัวร์เวียดนามกลางนิยมพามา การล่องเรือแม่น้ำหอม จะเป็นเรือหัวมังกรใช้เวลาล่องประมาณ 30 นาที ระหว่างล่องเรือ เราจะได้เห็นบรรยากาศ 2 ฟากฝั่งของเมืองเว้ และยังได้ดูการแสดงดนตรีพื้นบ้านของชาวเวียดนามอีกด้วย

cruise perfume river
ล่องเรือมังกร
ล่องเรือแม่น้ำหอม
การแสดงดนตรีระหว่างล่องเรือ

16. ตลาดดงบา (Dong Ba Market)

ตลาดดงบา เป็นตลาดที่คึกคักตั้งอยู่ในใจกลางเมืองเว้ของเวียดนามกลาง เป็นหนึ่งในตลาดที่เก่าแก่และใหญ่ที่สุดในภูมิภาค ตลาดแบ่งออกเป็นส่วนต่างๆ โดยจะมีของสด เนื้อสัตว์ อาหารทะเล ชา กาแฟ เครื่องเทศ สิ่งทอ งานฝีมือ และของที่ระลึก ตลาดแห่งนี้ยังมีชื่อเสียงในด้านอาหารริมทาง โดยมีพ่อค้าแม่ค้ามากมายที่ขายของพื้นเมือง เช่น บันห์คอย (แพนเค้กไส้กุ้งและถั่วงอก) และ บุนโบเว้ (ก๋วยเตี๋ยวเนื้อรสเผ็ด) หากได้มาที่ตลาดดงบา เตรียมเงินมาซื้อของฝากกันได้เลย

ตลาดดงบา
ตลาดดงบา | credit: https://danangprivatecar.com/dong-ba-market-in-hue/
dong ba market shopping
ตัวอย่างสินค้าและร้านค้าในตลาดดงบา | credit: https://adventurejourney.vn/vietnam-travel-blog/

สรุป

เวียดนามกลาง เป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ เดินทางสบายๆ ไม่ต้องนั่งรถเหนื่อย ค่าใช้จ่ายต่างๆ ก็ไม่แพง ถือว่า ตอบโจทย์คนที่อยากหาที่เที่ยวต่างประเทศใกล้ๆ ใช้เวลาเที่ยว 3-4 วันสบายๆ รีวิว 16 ที่เที่ยวเวียดนามกลางนี้ ตอบโจทย์วันหยุดของคุณแน่นอน หากสนใจแพ็กเกจทัวร์ หรือต้องการให้จัดกรุ๊ปส่วนตัว สามารถแอดไลน์ขอรายละเอียดได้เลย

แชร์บทความนี้