10 สถานที่ดูซากุระญี่ปุ่น อัปเดตล่าสุด

แชร์บทความนี้

ฤดูใบไม้ผลิในญี่ปุ่นถือเป็นช่วงเวลาที่สวยงามและโรแมนติกที่สุดของปี เพราะเป็นฤดูกาลที่ดอกซากุระเริ่มผลิบานทั่วประเทศ ตั้งแต่ภาคใต้ไปจนถึงภาคเหนือ ภาพของดอกไม้สีชมพูอ่อนที่บานสะพรั่งเต็มต้น ไม่เพียงสร้างความประทับใจให้กับชาวญี่ปุ่นเท่านั้น แต่ยังดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกให้หลั่งไหลเข้ามาชมความงามนี้อย่างไม่ขาดสาย ในบทความนี้จึงได้รวบรวม 10 สถานที่ชมซากุระในทัวร์ญี่ปุ่น ที่มีทั้งเสน่ห์ทางธรรมชาติและกลิ่นอายทางวัฒนธรรม จะมีที่ไหนบ้าง ไปอ่านกันเลย

1. สวนอุเอโนะ (Ueno Park)

หากพูดถึงสถานที่ชมดอกซากุระยอดนิยมในเมืองโตเกียว คงไม่มีใครที่ไม่รู้จัก สวนอุเอโนะ (Ueno Park) สวนสาธารณะขนาดใหญ่ใจกลางเมืองที่ขึ้นชื่อเรื่องความสวยงามของดอกซากุระในฤดูใบไม้ผลิ ด้วยต้นซากุระมากกว่า 1,000 ต้น ที่เรียงรายตลอดสองฝั่งทางเดิน ทำให้ที่นี่กลายเป็นอุโมงค์สีชมพูในช่วงปลายเดือนมีนาคมถึงต้นเมษายน

บรรยากาศของสวนอุเอโนะในช่วงฤดูใบไม้ผลิ
บรรยากาศของสวนอุเอโนะในช่วงฤดูใบไม้ผลิ

นักท่องเที่ยวจะนิยมมานั่งปูเสื่อปิกนิกสังสรรค์ใต้ต้นซากุระกัน ซึ่งถือเป็นวัฒนธรรมฮานามิ หรือการชมดอกไม้ที่เป็นเอกลักษณ์ของญี่ปุ่น นอกจากจะมีดอกซากุระสวยๆ ให้ได้ชมแล้ว ภายในสวนยังมีกิจกรรมและสถานที่น่าสนใจมากมาย เช่น การพายเรือในสระชิโนบาสุ (Shinobazu Pond), การไหว้พระที่วัดคันเอจิ (Kaneiji Temple), เยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์แห่งชาติโตเกียว รวมไปถึงสวนสัตว์อุเอโนะที่เด็กๆ ชื่นชอบ จึงทำให้สวนอุเอโนะแห่งนี้เป็นสถานที่ชมดอกซากุระที่นักท่องเที่ยวทัวร์โตเกียวนิยมเดินทางมาในช่วงฤดูใบไม้ผลิ

พายเรือชมดอกซากุระที่สวนอุเอโนะ
พายเรือชมดอกซากุระที่สวนอุเอโนะ

2. สวนจิโดริกะฟุจิ (Chidorigafuchi Park)

สวนจิโดริกะฟุจิ (Chidorigafuchi Park) ตั้งอยู่ใกล้พระราชวังอิมพีเรียลใจกลางโตเกียว ซึ่งเป็นอีกหนึ่งในจุดชมวิวซากุระที่มีความงดงามที่สุดในญี่ปุ่น ด้วยบรรยากาศที่เงียบสงบ รายล้อมไปด้วยต้นซากุระกว่า 260 ต้นจากหลากหลายสายพันธุ์ที่ปลูกเรียงรายตามแนวคูน้ำเก่าแก่ของปราสาท จนมีลักษณะเป็นอุโมงค์ดอกไม้ยาวกว่า 700 เมตร ทำให้เป็นอีกจุดชมวิวดอกซากุระที่อยากแนะนำเลย

บรรยากาศของสวนจิโดริกะฟุจิ
บรรยากาศของสวนจิโดริกะฟุจิ

นักท่องเที่ยวสามารถเดินชมความสวยงามของดอกซากุระและถ่ายรูปได้อย่างเพลิดเพลิน ตั้งแต่ในช่วงปลายมีนาคมไปจนถึงต้นเมษายน โดยเฉพาะในช่วงเย็นจะมีการประดับไฟตลอดแนวทางเดิน ทำให้บรรยากาศโรแมนติกยิ่งขึ้นไปอีก อีกหนึ่งไฮไลต์ของที่นี่คือการพายเรือในคูน้ำ ซึ่งจะได้สัมผัสกับภาพวิวของต้นซากุระที่โน้มกิ่งลงมาใกล้กับผิวน้ำ เกิดเป็นวิวที่สวยงามอย่างมาก จึงทำให้สวนจิโดริกะฟุจิจะกลายเป็นจุดหมายยอดนิยมของนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกในช่วงฤดูใบไม้ผลิ

สามารถถ่ายรูปสวยๆ กับดอกซากุระได้อย่างจุใจ
สามารถถ่ายรูปสวยๆ กับดอกซากุระได้อย่างจุใจ

3. คาวากุจิโกะ (Kawaguchiko)

หากใครที่กำลังมองหาสถานที่ชมซากุระที่สามารถมองเห็นภูเขาไฟฟูจิเป็นฉากหลัง ทะเลสาบคาวากุจิโกะ (Lake Kawaguchiko) ถือเป็นจุดหมายยอดนิยมที่ไม่ควรพลาด โดยเฉพาะบริเวณริมฝั่งทิศเหนือของทะเลสาบ ซึ่งมีต้นซากุระประมาณ 200 ต้นเรียงรายไปตามแนวทางเดินเลียบทะเลสาบ สร้างบรรยากาศที่โรแมนติกและงดงามราวภาพวาด โดยเฉพาะในช่วงต้นถึงกลางเดือนเมษายน ซึ่งเป็นช่วงที่ดอกซากุระบานเต็มที่ ในช่วงนี้ยังมีการจัดเทศกาล Fuji-Kawaguchiko Cherry Blossom Festival บริเวณริมทะเลสาบ โดยจะมีการประดับไฟในยามค่ำคืน ทำให้สามารถชมซากุระแบบไลท์อัพได้อย่างสวยงาม นอกจากนี้ยังมีตลาดท้องถิ่นที่จำหน่ายสินค้าแฮนด์เมด ของฝาก และอาหารพื้นเมืองให้ได้เลือกซื้อกันเพลินๆ อีกด้วย

วิวของภูเขาไฟฟูจิกับดอกซากุระที่คาวากุจิโกะ
วิวของภูเขาไฟฟูจิกับดอกซากุระที่คาวากุจิโกะ

4. ปราสาทโอซาก้า (Osaka Castle)

ปราสาทโอซาก้า (Osaka Castle) ถือเป็นหนึ่งในสถานที่ชมดอกซากุระยอดนิยมที่สุดของภูมิภาคคันไซ ด้วยความอลังการของสถาปัตยกรรมประวัติศาสตร์ที่รายล้อมไปด้วยธรรมชาติอันงดงาม โดยเฉพาะบริเวณสวนนิชิโนะมารุ (Nishinomaru Garden) ที่จะเต็มไปด้วยต้นซากุระมากกว่า 300 ต้นที่บานในช่วงปลายมีนาคมถึงต้นเมษายน ซึ่งถือเป็นไฮไลต์ของที่นี่เลย นักท่องเที่ยวสามารถเดินเล่นรอบบริเวณเพื่อชมความงามจากมุมต่างๆ รอบปราสาท ถ่ายรูปสวยๆ หรือจะเลือกนั่งปูเสื่อปิกนิกใต้ต้นไม้เพื่อสัมผัสประสบการณ์ฮานามิ แบบชาวญี่ปุ่นก็ได้เช่นกัน

Osaka Castle 1

5. เส้นทางนักปราชญ์ (Philosopher’s Path)

เส้นทางนักปราชญ์ (Philosopher’s Path) หนึ่งในจุดชมซากุระยอดนิยมในเมืองเกียวโต เป็นทางเดินเลียบคลองที่มีระยะทางประมาณ 1.5 – 2 กิโลเมตร เชื่อมระหว่างวัดกินคะคุจิ (Ginkaku-ji) หรือวัดเงิน ไปถึงวัดนันเซนจิ (Nanzen-ji) มีต้นซากุระประมาณ 400 – 500 ต้น ตั้งเรียงรายอยู่บริเวณสองข้างทางเดิน ทำให้มีลักษณะเหมือนอุโมงค์ดอกไม้ที่ร่มรื่นและเหมาะกับการเดินเล่นผ่อนคลาย โดยชื่อเส้นทางสายนี้มีชื่อเรียกมาจากปราชญ์ชื่อดังนิเชดะ คิโตะ (Nishida Kitaro) ที่เคยใช้ทางเดินสายนี้เป็นที่ครุ่นคิดระหว่างทางไปสอนหนังสือ จึงกลายเป็นสัญลักษณ์ของการเดินเพื่อใคร่ครวญและผ่อนคลายจิตใจนั่นเอง นอกจากสามารถเดินชมซากุระได้อย่างเพลิดเพลินแล้ว ตลอดเส้นทางยังเต็มไปด้วยร้านกาแฟเล็กๆ แกลเลอรี ร้านขนม และร้านขายของที่ระลึกสไตล์เกียวโต ซึ่งให้นักท่องเที่ยวได้หยุดพัก ลิ้มลองของอร่อย หรือเลือกซื้อของฝากท่ามกลางบรรยากาศอันแสนรื่นรมย์

Philosophers Path 1

6. สวนสึรุมิ เรียวคุจิ (Tsurumi Ryokuchi Park)

สวนสึรุมิ เรียวคุจิ (Tsurumi Ryokuchi Park) เป็นสวนสาธารณะขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ทนใจกลางเมืองโอซาก้า มีพื้นที่กว่า 120 เฮกตาร์ ในอดีตสวนแห่งนี้เคยเป็นสถานที่จัดงานดอกไม้นานาชาติ EXPO’90 “The International Garden and Greenery Expo” เมื่อปี 1990 ที่ผ่านมา ซึ่งหลังจบงานทางการได้ปรับปรุงให้กลายเป็นสวนสาธารณะถาวร เพื่อให้ประชาชนได้มาใช้พักผ่อนและชมความงามของธรรมชาติ ภายในสวนจะมีดอกไม้หลากหลายสายพันธุ์ที่จะผลัดเปลี่ยนกันออกดอกตลอดทั้งปี และยังมีดอกซากุระกว่า 1,100 – 1,400 ต้น กระจายอยู่ทั่วสวน ที่จะเริ่มบานในช่วงปลายมีนาคมถึงต้นเมษายน บรรยากาศของสวนสึรุมิ เรียวคุจิในช่วงซากุระบานเต็มไปด้วยความเงียบสงบและร่มรื่น เหมาะสำหรับการเดินเล่น พักผ่อน หรือจัดปาร์ตี้ฮานามิกับครอบครัวและเพื่อนฝูงได้อย่างสบายใจ

บรรยากาศของสวนสึรุมิ เรียวคุจิ
บรรยากาศของสวนสึรุมิ เรียวคุจิ ในฤดูใบไม้ผลิ Credit : en.photo-ac.com
มีดอกไม้หลายชนิดให้ได้ชม
มีดอกไม้หลายชนิดให้ได้ชม Credit : mitsuwaya.tesen.jp

นอกจากนี้ยังมีแลนด์มาร์กอย่างสวนเรือนกระจก (Sakuya Konohana Kan) ซึ่งรวบรวมพันธุ์พืชจากทั่วโลกให้ชมตลอดทั้งปี รวมถึงเส้นทางวิ่ง สนามกีฬา และลานกิจกรรมต่างๆ ที่เปิดให้บริการฟรีหรือเสียค่าเข้าเพียงเล็กน้อยอีกด้วย ด้วยวิวของแม่น้ำและดอกซากุระจำนวนมาก ทำให้บรรยากาศที่สงบ ร่มรื่น เหมาะกับการพักผ่อนหย่อนใจเป็นอย่างมาก จึงเป็นอีกสถานที่ชมดอกซากุระยอดนิยมของนักท่องเที่ยวมากมาย ทั้งชาวญี่ปุ่น และนักท่องเที่ยวต่างชาติเลย

สวนเรือนกระจก Sakuya Konohana Kan
สวนเรือนกระจก Sakuya Konohana Kan Credit : en.osaka-info.jp

7. สวนโกะเรียวคาคุ (Goryokaku Park)

สวนโกะเรียวคาคุ (Goryokaku Park) ตั้งอยู่ที่เมืองฮาโกดาเตะ ฮอกไกโด เป็นสวนสาธารณะที่สร้างอยู่ในป้อมดาว 5 แฉก (star-shaped fort) โดยในอดีตเป็นป้อมปราการที่สร้างขึ้นในช่วงปลายสมัยเอโดะ เพื่อป้องกันเมืองจากการรุกรานทางทะเล ปัจจุบันได้ถูกปรับเปลี่ยนให้กลายเป็นสวนสาธารณะยอดนิยมที่เต็มไปด้วยความร่มรื่นและความสงบ ภายในสวนจะมีต้นซากุระประมาณ 1,500 – 1,600 ต้น ซึ่งส่วนมากเป็นสายพันธุ์ Somei Yoshino ที่ปลูกเรียงตามแนวคูน้ำรอบป้อมปราการ ทำให้เมื่อถึงฤดูใบไม้ผลิช่วงปลายเดือนเมษายนถึงต้นพฤษภาคม พื้นที่ทั้งหมดจะกลายเป็นสีชมพูของดอกซากุระ จุดไฮไลต์ของสวนแห่งนี้จะอยู่ที่หอคอยโกะเรียวคาคุ (Goryōkaku Tower) เป็นหอคอยที่สูงประมาณ 107 – 110 เมตร เป็นจุดชมวิวจากมุมสูงที่สามารถมองเห็นรูปทรงดาวของป้อมและซากุระที่รายล้อมได้อย่างเต็มตา พร้อมชมวิวของเมืองฮาโกดาเตะ เทือกเขา Yokotsu และทะเล Tsugaru ได้แบบ 360 องศา

วิวสวนโกะเรียวคาคุจากมุมสูง
วิวสวนโกะเรียวคาคุจากมุมสูง Credit : nippon.com

8. สวนมัตสึมาเอะ (Matsumae Park)

สวนมัตสึมาเอะ (Matsumae Park) ตั้งอยู่ที่เมืองมัตสึมาเอะ ทางตอนใต้ของฮอกไกโด เป็นหนึ่งในจุดชมซากุระที่มีชื่อเสียงของฮอกไกโด โดดเด่นทั้งด้านความงดงามและเอกลักษณ์ทางประวัติศาสตร์ เพราะตั้งอยู่รอบปราสาทมัตสึมาเอะ (Matsumae Castle) ซึ่งเป็นปราสาทญี่ปุ่นดั้งเดิมเพียงแห่งเดียวในฮอกไกโด และเป็นสัญลักษณ์สำคัญของเมือง

สวนสาธารณะมีความกว้างถึง 150,000 ตารางเมตร ภายในสวนมีต้นซากุระกว่า 10,000 ต้น จากกว่า 250 สายพันธุ์ ทำให้สามารถชมดอกไม้ได้อย่างจุใจต่อเนื่องตั้งแต่ต้นเดือนเมษายนจนถึงกลางเดือนพฤษภาคม ทำให้เป็นหนึ่งในจุดชมซากุระที่หลากหลายสายพันธุ์ และยาวนานที่สุดแห่งหนึ่งในญี่ปุ่น โดยได้รับการจัดอันดับให้เป็นหนึ่งใน 100 สถานที่ชมซากุระยอดนิยมของญี่ปุ่น (Top 100 Sakura Spots of Japan) อีกด้วย

บรรยากาศของสวนมัตสึมาเอะฤดูใบไม้ผลิ
บรรยากาศของสวนมัตสึมาเอะฤดูใบไม้ผลิ Credit : visit-hokkaido.jp

ไฮไลต์ของสวนจะอยู่ที่เทศกาลมัตสึมาเอะ ซากุระ เฟสติวัล (Matsumae Sakura Festival) ภายในงานจะมีการจัดแสดงวัฒนธรรมท้องถิ่น การแสดงพื้นบ้าน ร้านค้าอาหาร และกิจกรรมสำหรับนักท่องเที่ยว รวมถึงการประดับไฟในยามค่ำคืน รอบตัวปราสาทที่ช่วยเพิ่มบรรยากาศโรแมนติกให้สวยงามมากขึ้น

การประดับไฟในยามค่ำคืนที่สวนมัตสึมาเอะ
การประดับไฟในยามค่ำคืน Credit : visit-hokkaido.jp
การแสดงพื้นบ้าน
การแสดงพื้นบ้าน Credit : visit-hokkaido.jp

9. สวนไมซุรุ (Maizuru Park)

สวนไมซุรุ (Maizuru Park) เป็นสวนสาธารณะขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองฟุกุโอกะ ภูมิภาคคิวชู รายล้อมด้วยซากปราสาทฟุกุโอกะ (Fukuoka Castle Ruins) ซึ่งเป็นปราสาทเก่าแก่จากยุคเอโดะ แม้ตัวปราสาทจะเหลือเพียงกำแพงหินและฐานป้อมปราการ แต่บรรยากาศโดยรอบยังคงเต็มไปด้วยเสน่ห์ของประวัติศาสตร์และธรรมชาติที่ผสานกันได้อย่างลงตัว

สวนไมซุรุ
สวนไมซุรุ Credit : crossroadfukuoka.jp

ในฤดูใบไม้ผลิ สวนแห่งนี้จะกลายเป็นหนึ่งในจุดชมซากุระยอดนิยมที่สุดของภูมิภาคคิวชู ด้วยจำนวนต้นซากุระกว่า 1,000 ต้น จากหลากหลายสายพันธุ์ที่บานสะพรั่งตั้งแต่ช่วงปลายเดือนมีนาคมจนถึงต้นเดือนเมษายน นักท่องเที่ยวสามารถเดินชมดอกซากุระที่เรียงรายตามทางเดินรอบซากปราสาท ชมวิวทิวทัศน์จากเนินสูง หรือเลือกปูเสื่อปิกนิกใต้ต้นซากุระในบรรยากาศเงียบสงบ สบาย และร่มรื่นได้ นอกจากนี้จะมีการจัดเทศกาลชมดอกซากุระที่จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี โดยจะมีการประดับไฟยามค่ำคืน ทำให้ซากุระดูงดงามระยิบระยับท่ามกลางแสงไฟ มีร้านอาหารท้องถิ่น รถขายของกิน และกิจกรรมวัฒนธรรมมากมาย สร้างความคึกคักให้กับพื้นที่ทั้งในตอนกลางวันและกลางคืน

บรรยากาศของสวนไมซุรุ
บรรยากาศของสวนไมซุรุ Credit : crossroadfukuoka.jp

10. สวนอุมิโนะนาคามิจิ ซีไซด์ (Uminonakamichi Seaside Park)

สวนอุมิโนะนาคามิจิ ซีไซด์ (Uminonakamichi Seaside Park) เป็นสวนสาธารณะขนาดใหญ่ริมอ่าวฮากาตะ (Hakata Bay) ในเมืองฟุกุโอกะ มีพื้นที่กว้างขวางกว่า 300 เฮกตาร์ บรรยากาศภายในสวนเต็มไปด้วยธรรมชาติหลากหลายรูปแบบ ทั้งป่า สนามหญ้า สวนดอกไม้ สวนสัตว์ขนาดเล็ก และโซนสำหรับกิจกรรมกลางแจ้ง ในฤดูใบไม้ผลิ สวนแห่งนี้ถือเป็นจุดชมซากุระยอดนิยมของภูมิภาค ด้วยต้นซากุระกว่า 1,600 – 2,000 ต้น ส่วนใหญ่เป็นสายพันธุ์ Somei Yoshino และ Oshima ที่จะเริ่มบานสะพรั่งตั้งแต่ปลายเดือนมีนาคมไปจนถึงต้นเมษายน โดยจะเรียงตัวกันเป็นแนวอุโมงค์ซากุระตามทางเดินและลานหญ้ากว้าง และหลังจากซากุระเริ่มร่วง จะเป็นช่วงที่เนโมฟีล่าสีฟ้า (Baby Blue Eyes) กว่า 1.2 ล้านต้นเริ่มออกดอกบาน ซึ่งจะบานเรียงกันจนกลายเป็นทุ่งสีฟ้าตัดกับดอกซากุระ ทำให้ที่นี่เป็นอีกหนึ่งสถานที่ยอดนิยมสำหรับการถ่ายภาพและชมวิวในฤดูใบไม้ผลิเลย

สวนอุมิโนะนาคามิจิ ซีไซด์
วิวของดอกซากุระและดอกเนโมฟีล่า Credit : crossroadfukuoka.jp
สวนอุมิโนะนาคามิจิ ซีไซด์
สามารถเช่าจักรยานได้ Credit : crossroadfukuoka.jp

สรุป

ญี่ปุ่นมีสถานที่ชมซากุระมากมายทุกภูมิภาค แต่ละแห่งก็จะมีเสน่ห์เฉพาะตัว ทั้งต้นซากุระพันธุ์ต่างๆ ฉากหลังปราสาท ภูเขา หรือแม่น้ำ ใครที่มีโอกาสมาเที่ยวที่ญี่ปุ่นในช่วงฤดูใบไม้ผลิ การได้ชมซากุระบานสะพรั่งท่ามกลางทิวทัศน์ธรรมชาติและวัฒนธรรมดั้งเดิม จะทำให้เกิดความประทับใจอย่างแน่นอน หากสนใจสอบถามเกี่ยวกับทัวร์ญี่ปุ่นสามารถแอดไลน์ @lovelysmiletour เพื่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้เลย

แชร์บทความนี้