ถ้าพูดถึงประเทศญี่ปุ่น หลายคนก็คงจะนึกถึงเมืองเด่นๆ อย่างโตเกียว โอซาก้า ฮอกไกโด หรือฟุกุโอกะเป็นที่แรกๆ กันใช่ไหมคะ ซึ่งแต่ละเมืองก็จะมีทิวทัศน์ที่สวยงาม มีสถานที่ท่องเที่ยวมากมายแตกต่างกันไป แต่ทัวร์ญี่ปุ่นก็ยังมีอีกหลายเมืองที่น่าเที่ยวเช่นกันค่ะ อย่างเช่นนาโกย่า เมืองที่ใหญ่เป็นลำดับที่ 4 ของญี่ปุ่น และเมืองอุตสาหกรรมที่เป็นต้นกำเนิดรถยี่ห้อดังอย่างโตโยต้า ในบทความนี้จะมาแนะนำ 10 ที่เที่ยวนาโกย่า ที่รับรองว่าถูกใจทั้งเด็กและผู้ใหญ่แน่นอน ถ้าพร้อมแล้วก็มาเริ่มกันเลย
สารบัญ
- หุบเขาโครังเค (Korankei Gorge)
- หมู่บ้านซังซูอะซุเกะยาชิกิ (Sanshu Asuke Yashiki Village)
- ปราสาทนาโกย่า (Nagoya Castle)
- สวนดอกไม้นาบานะ โนะ ซาโตะ (Nabana no Sato)
- วัดโอสุคันนอน (Osu Kannon Temple)
- เลโก้แลนด์ เจแปน รีสอร์ท (Legoland Japan Resort)
- ย่านซากาเอะ (Sakae)
- สวนป่าไอจิ (Aichi Prefecture Forest Park)
- จิบลิ พาร์ค (Ghibli Park)
- พิพิธภัณฑ์และโรงงานโตโยต้า (Toyota Factory Tour and Museums)
1. หุบเขาโครังเค (Korankei Gorge)
หุบเขาโครังเค ตั้งอยู่ติดกับภูเขาอิอิโมริใกล้เมืองนาโกย่า ซึ่งถือเป็นหนึ่งในจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีที่ดีที่สุดในภูมิภาคชูบุ บริเวณโดยรอบหุบเขาจะล้อมรอบไปด้วยแม่น้ำและต้นเมเปิ้ลกว่า 4,000 ต้น จุดชมวิวที่สวยที่สุดคือเส้นทางริมแม่น้ำโทโมเอะ จะมีสะพานไม้ไทเกะสึเคียวหรือสะพานไม้สีแดงให้ได้เดินชมความงามของต้นเมเปิ้ล ช่วงที่ใบเมเปิ้ลจะเปลี่ยนเป็นสีแดงและสีส้มจะเป็นช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสีหรือช่วงกลางเดือนถึงปลายเดือนพฤศจิกายนของทุกปี ถ้ามาอยากชมธรรมชาติที่งดงาม ให้มาทัวร์นาโกย่า หุบเขาโครังเค รับรองไม่ทำให้ผิดหวังแน่นอนค่ะ
2. หมู่บ้านซังซูอะซุเกะยาชิกิ (Sanshu Asuke Yashiki Village)
หมู่บ้านซังซูอะซุเกะยาชิกิ เป็นหมู่บ้านที่อยู่ใกล้ๆ กับหุบเขาโครังเค โดยหมู่บ้านแห่งนี้ถือว่าเป็นพิพิธภัณฑ์ที่รวบรวมและเก็บรักษาบ้านเก่าเอาไว้จำนวนมาก บรรยากาศก็จะเหมือนกับเดินชมหมู่บ้านในอดีตเลยค่ะ ภายในหมู่บ้านก็จะมีกิจกรรมต่างๆ ให้ได้ชมและได้ลองทำอย่างใกล้ชิด ไม่ว่าจะเป็นทำรองเท้าฟาง สานตะกร้าไม้ไผ่ ย้อมผ้า ทำกระดาษสา รวมไปถึงการทำร่ม และยังมีกิจกรรมอื่นๆ อีกมากมายให้ได้ลองทำ โดยจะมีค่าเข้าชมหมู่บ้าน 300 เยนต่อท่าน ที่หมู่บ้านแห่งนี้เปิดให้เข้าชมได้ตั้งแต่เวลา 09.00 น. – 17.00 น. สำหรับใครที่อยากลองมาสัมผัสกับวิถีชีวิตของคนชนบท ก็อย่าลืมแวะมากันนะคะ
3. ปราสาทนาโกย่า (Nagoya Castle) ที่เที่ยวนาโกย่ายอดฮิต
ปราสาทนาโกย่า เป็นหนึ่งในปราสาทที่มีความสวยงามและมีประวัติของญี่ปุ่น ถูกสร้างขึ้นในช่วงต้นของยุคเอโดะ อาคารส่วนใหญ่จะถูกทำลายในการโจมตีทางอากาศในปี ค.ศ. 1945 ต่อมาได้รับการฟื้นฟูด้วยคอนกรีตเสริมเหล็กในปี ค.ศ.1959 จนมาถึงปัจจุบัน โดยปราสาทแห่งนี้จะมีทั้งหมด 7 ชั้น ภายในจะมี พระราชวัง พิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงนิทรรศการเกี่ยวกับประวัติความเป็นมาของปราสาท สวนหย่อม และจุดชมธรรมชาติสวยๆ ให้ได้ชมกันด้วย สำหรับใครที่อยากเข้าชมสถานที่ที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์อย่างปราสาทนาโกย่าก็สามารถเข้าได้ตั้งแต่เวลา 9:00 น. – 16:30 น.ค่าเข้าชมอยู่ที่ 500 เยนต่อท่านเท่านั้นค่ะ
4. สวนดอกไม้นาบานะ โนะ ซาโตะ (Nabana no Sato)
สวนดอกไม้นาบานะ โนะ ซาโตะ เป็นสวนดอกไม้ที่ได้รวบรวมดอกไม้หลากหลายชนิดไว้ในที่เดียวกัน โดยดอกไม้ในสวนนี้จะสวยงามมากที่สุดในช่วงฤดูใบไม้ผลิและฤดูใบไม้ร่วง ในช่วงนี้ในช่วงเวลานี้ดอกทิวลิป ดอกคอสมอส ดอกเดซี่ และดอกบีโกเนียกำลังบานสวยเลยค่ะ สำหรับช่วงฤดูร้อนหรือฤดูอื่นๆ ดอกไม้ก็จะมีให้ชมอย่างหลากหลายเช่นกันค่ะ และอีกหนึ่งไฮไลท์ที่ทำสวนดอกไม้นาบานะ โนะ ซาโตะเป็นที่นิยมก็คือ งานประดับไฟฤดูหนาว ค่ะ โดยดอกไม้และต้นไม้ภายในสวนจะถูกตกแต่งไปด้วยไฟ LED กว่า 8 ล้านดวง โดยงานนี้จะจัดขึ้นทุกปีในช่วงกลางเดือนตุลาคมถึงเดือนพฤษภาคม ใครที่ชอบสวนดอกไม้และอยากได้รูปถ่ายสวยๆ มาลงโซเชียลล่ะก็อย่าลืมแวะมาที่สวนดอกไม้นาบานะ โนะ ซาโตะกันนะคะ
5. วัดโอสุคันนอน (Osu Kannon Temple)
วัดโอสุคันนอน เป็นวัดพุทธยอดนิยมที่เก่าแก่แห่งหนึ่งในเมืองนาโกย่า สิ่งที่ทำให้วัดนี้มีชื่อเสียงก็คือเทพคันนอน เป็นพระพุทธรูปไม้แกะสลัก ที่มีความเชื่อว่าเป็นเทพแห่งความเมตตา ภายใต้ห้องโถงใหญ่ของวัด จะเป็น ห้องสมุดชินปูคุจิ (Shinpukuji Library) ที่ใช้จัดเก็บหนังสือภาษาญี่ปุ่นและภาษาจีน กว่า 15,000 เล่ม โดยหนังสือเหล่านี้ถือเป็นสมบัติของชาติและมรดกทางวัฒนธรรม รวมถึงสำเนาที่เก่าแก่ที่สุดของพงศาวดารโคจิคิที่รวบรวมประวัติศาสตร์ต้นกำเนิดของญี่ปุ่นอีกด้วย
บริเวณใกล้ๆ กันกับวัดก็จะมี ถนนช็อปปิ้งโอสุ (Osu Shopping Arcade) ย่านช็อปปิ้งที่มีอายุประมาณ 400 กว่าปีและเป็นย่านช็อปปิ้งที่เป็นที่นิยมในกลุ่มวัยรุ่น ภายในย่านช็อปปิ้งนี้ได้รวมร้านค้าต่างๆ ไว้มากมายกว่า 1,200 ร้าน ไม่ว่าจะเป็นร้านเสื้อผ้า ร้านน้ำหอม เครื่องสำอาง รองเท้า อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ คอมพิวเตอร์ สินค้าเกี่ยวกับการ์ตูนอนิเมะ รวมไปถึงชุดคอสเพลย์ และยังมีร้านอาหารต่างๆ ให้ได้เลือกซื้อเลือกทานกันอีกด้วยค่ะ โดยถนนช็อปปิ้งโอสุจะเปิดเวลา 11.00 น. – 20.00 น.
6. เลโก้แลนด์ เจแปน รีสอร์ท (Legoland Japan Resort)
หากกำลังหาที่เที่ยวนาโกย่าที่ตอบโจทย์เด็กๆ แนะนำที่นี่เลย เลโก้แลนด์ เจแปน รีสอร์ท เป็นสวนสนุกธีมเลโก้ กลางแจ้งแห่งแรกในญี่ปุ่น ที่มีเครื่องเล่นให้เล่นอย่างจุใจถึง 40 เครื่อง โดยแบ่งออกเป็น 8 โซน ดังนี้
- โซน Factory ที่เรียนรู้เรื่องราวของเลโก้
- โซน Bricktopia ที่มีหอสังเกตการณ์สูง 60 เมตร สามารถชมวิวมุมสูงของที่นี่ได้
- โซน Adventure เป็นโซนที่ได้รวบรวมเครื่องเล่นสนุกๆ ไว้มากมาย
- โซน Knight’s Kingdom ที่มี The Dragon รถไฟเหาะ
- โซน Pirate Shores โซนที่ทำให้รู้สึกเหมือนได้เป็นโจรสลัด
- โซน Miniland เป็นโซนที่ได้รวบรวมเมืองใหญ่ๆ ของญี่ปุ่นมาจำลองด้วยเลโก้ขนาดเล็ก
- โซน LEGO®City เมืองเลโก้ที่มีทั้งเครื่องบิน รถ เรือ ไปจนถึงสวนน้ำ และโซนสุดท้าย
- โซน LEGO NINJAGO WORLD เป็นโซนที่เต็มไปด้วยเครื่องเล่นหวาดเสียว และยังมี Shop Lego ขนาดใหญ่ให้เลือกซื้อของกันอีกด้วย
อีกจุดไฮไลท์ของที่นี่ ก็จะมีอควาเรี่ยม ซีไลฟ์ นาโกย่า (Sea Life Nagoya) ที่ตั้งอยู่ภายใน LEGOLAND Japan Hotel ซึ่งถือว่าเป็นอีกจุดที่ห้ามพลาดเลยค่ะ เพราะที่นี่ไม่ได้เป็นแค่พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำแต่ยังเป็นเป็นแหล่งเรียนรู้เกี่ยวกับสัตว์น้ำและมหาสมุทรอีกด้วย โดยที่อควาเรี่ยมแห่งนี้ได้รวบรวมสัตว์น้ำหลายสายพันธุ์กว่า 50 จากสถานที่ต่างๆ กว่า 50 แห่งทั่วโลกที่จำลองมาไว้ในนี้ ภายในจะแบ่งออกเป็น 11 โซนด้วยกัน
จุดที่ห้ามพลาดเลยจะอยู่ที่โซนเทพนิยายญี่ปุ่นเรื่อง Urashima Taro ที่มีพระราชวังใต้น้ำของมังกรให้ได้ชมกันค่ะ นอกจากจะได้ชมสัตว์น้ำหลายสายพันธุ์ได้อย่างใกล้ชิดแล้วยังมีกิจกรรมมากมายให้เด็กๆ ได้ทำและมีส่วนร่วมอีกด้วย เป็นอีกหนึ่งที่เที่ยวนาโกย่าที่รับรองว่าถูกใจทั้งเด็กและผู้ใหญ่แน่นอนค่ะ
7. ย่านซากาเอะ (Sakae)
ย่านซากาเอะ เป็นย่านท่องเที่ยวและย่านช็อปปิ้งชื่อดังที่รวบรวมร้านค้าไว้มากมาย ทั้งร้านอาหาร ร้านขายสินค้าแฟชั่น และร้านสินค้าแบรนด์เนม โดยจุดไฮไลท์หรือจุดแลนด์มาร์กของที่นี่ก็คือ หอคอยนาโกย่าทีวีทาวเวอร์ (Nagoya TV Tower) และโอเอซิส 21 (Oasis 21) หอคอยนาโกย่าทีวีทาวเวอร์เป็นหอคอยส่งสัญญาณโทรทัศน์ที่เก่าแก่ที่สุดของญี่ปุ่น มีความสูง 180 เมตร และมีจุดชมวิว Skydeck ที่ความสูง 90 เมตร และ Skybalcony ที่ความสูงถึง 100 เมตร
ในส่วนของโอเอซิส 21 จะเป็นอาคารที่มีรูปทรงทันสมัย บริเวณโดยรอบจะมีสวนสีเขียว มีจุดเด่นตรงหลังคากระจกขนาดใหญ่รูปวงรีที่คล้ายกับรูปทรงของยานอวกาศที่เรียกว่า Spaceship-Aqua โดยสามารถเดินขึ้นไปชมวิวด้านบนได้ค่ะ ด้านล่างก็จะเต็มไปด้วยร้านค้า ร้านอาหาร พื้นที่จัดกิจกรรม และท่ารถบัสไปยังสนามบินและเมืองอื่นๆ ค่ะ นอกจากนี้ก็ยังมี Sunshine Sakae ศูนย์การค้าขนาด 7 ชั้นที่มีชิงช้าสวรรค์ขนาด 52 เมตรตั้งอยู่ด้านนอกอีกด้วย
8. สวนป่าไอจิ (Aichi Prefecture Forest Park)
สวนป่าไอจิ หรือวนอุทยานประจำจังหวัดไอจิ เป็นสวนขนาดใหญ่ที่มีต้นไม้มากมาย โดยที่นี่จะแบ่งออกเป็น 2 ส่วนหลัก สำหรับส่วนที่ 1 ก็คือ สวนสาธารณะทั่วไป เป็นลานกลางแจ้งที่มีไว้เพื่อทำกิจกรรมต่างๆ ที่ได้จัดขึ้น หรือจะนั่งปิคนิคทานอาหารพร้อมกับชมวิวก็ได้เช่นกันค่ะ และในส่วนที่ 2 จะเป็นสวนพฤกษศาสตร์นี่จะมีค่าเข้า เป็นจุดที่ทั้งโซนป่าไม้ที่มีธีมชื่อต่างๆ และสวนดอกไม้ตามฤดูกาลที่มีการตกแต่งสไตล์ยุโรปให้ได้ชมอีกด้วย
9. สวนสนุก ธีมพาร์ค จิบลิ พาร์ค (Ghibli Park)
จิบลิ พาร์ค เป็นสวนสนุกที่ตกแต่งให้เป็นธีม Studio Ghibli เป็นที่เที่ยวนาโกย่าที่ตั้งอยู่ที่สวน Expo 2005 Aichi Commemorative Park ในเมืองนากาคุตะ จังหวัดไอจิ ข้างในจะมีเครื่องเล่นและโซนต่างๆ มากมาย สำหรับโซนที่อยากจะแนะนำว่าห้ามพลาด จะมีทั้งหมด 3 โซนดังนี้ค่ะ
โซนที่ 1 Ghibli’s Grand Warehouse
เป็นโซนที่จะเล่าความเป็นมาของ Studio Ghibli มีแกลเลอรีของ Studio Ghibli, ห้องเด็กเล่น, ห้องภาพยนตร์, คาเฟ่ และร้านขายของ Studio Ghibli
โซนที่ 2 Hill of Youth
โซนนี้เป็นโซนที่มี World Emporium ซึ่งเป็นหนึ่งในสถานที่จากการ์ตูนเรื่อง Whisper of the Heart และ the Cat Bureau จากการ์ตูนเรื่อง The Cat Returns นอกจากนี้ยังมี Elevator Tower ที่เปิดให้ขึ้นไปชมวิวได้แบบพาโนราม่าอีกด้วย
โซนที่ 3 Dondoko Forest
จะเป็นโซนที่ตกแต่งเป็นธีม My Neighbor Totoro มีบ้านจำลอง Satsuki และ Mei ที่ทำออกมาที่เหมือนหลุดออกมาจากการ์ตูนทั้งข้างนอกข้างใน บอกเลยว่าใครที่ชอบเจ้าแมวสีเทาอย่างโตโตโร่ห้ามพลาดเลยค่ะ สำหรับแฟน Studio Ghibli ที่สวนสนุกแห่งนี้เป็นที่ที่ไม่ควรพลาดเลยค่ะ
10. พิพิธภัณฑ์และโรงงานโตโยต้า (Toyota Factory Tour and Museums)
พิพิธภัณฑ์และโรงงานโตโยต้า อีกหนึ่งที่เที่ยวนาโกย่ายอดฮิต เป็นพิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงนิทรรศการประวัติความเป็นมาของโตโยต้า โครงสร้างของรถยนต์ ขั้นตอนการผลิตรถยนต์ และนิทรรศการรถยนต์รุ่นต่างๆ ของโตโยต้า โดยจะแบ่งออกเป็น 3 ส่วนหลักๆ ส่วนแรกจะเป็นพิพิธภัณฑ์โตยาต้าไคคัน (Toyota Kaikan Museum) จะจัดแสดงผลิตภัณฑ์จากโตโยต้ารุ่นใหม่ เทคโนโลยีต่างๆ รวมไปถึงหุ่นยนต์
ต่อมาจะเป็นในส่วนของพิพิธภัณฑ์อุตสาหกรรมและเทคโนโลยีโตโยต้า (Toyota Techno Museum) ภายในพิพิธภัณฑ์จะแนะนำประวัติของโตโยต้า รวมถึงจัดนิทรรศการเกี่ยวกับเทคโนโลยียานยนต์ต่างๆ และกระบวนการผลิตรถยนต์แต่ละคัน ส่วนสุดท้ายจะเป็นพิพิธภัณฑ์รถยนต์ (Toyota Automobile Museum) ภายในจะจัดแสดงรถยนต์รุ่นต่างๆ ของโตโยต้า ทั้งที่รุ่นที่ขายในญี่ปุ่น ยุโรป และอเมริกา ตั้งแต่ในอดีตจนถึงปัจจุบันเลยค่ะ
สรุป
นาโกย่าถือเป็นอีกเมืองที่มีสถานที่ท่องเที่ยวหลากหลายไม่แพ้เมืองอื่นๆ ในญี่ปุ่น ในบทความนี้ก็จะเป็นสถานที่เที่ยวนาโกย่าเพียงบางส่วนเท่านั้น นาโกย่ายังมีที่เที่ยวที่น่าสนใจอีกมากมายให้ได้ไปสัมผัส ถ้าสนใจที่ไหนเป็นพิเศษและอยากตามไปถ่ายรูปเช็คอินก็หาเวลาว่างแล้วเก็บกระเป๋าไปเที่ยวกันค่ะ รับรองว่าไม่มีผิดหวังแน่นอน หากสนใจทัวร์ญี่ปุ่น นาโกย่า สามารถคลิกที่ลิงก์หรือโทรสอบถามเพิ่มเติมได้เลย