10 ที่เที่ยวทัวร์อียิปต์ อัปเดตล่าสุด
ซีอาน เมืองโบราณแห่งแผ่นดินจีนที่เต็มไปด้วยมนต์เสน่ห์ทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมอันล้ำค่า ถือเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวทัวร์จีนที่ต้องการสัมผัสบรรยากาศของอดีตอันรุ่งเรืองของจีนยุคราชวงศ์ฉินและถัง อีกทั้งยังเป็นเมืองที่เต็มไปด้วยสิ่งมหัศจรรย์ของโลกและสถาปัตยกรรมจีนโบราณตลอดเส้นทาง ใครที่กำลังวางแผนไปเที่ยวซีอาน เตรียมลิสต์สถานที่ท่องเที่ยวที่เลิฟลี่สไมล์ทัวร์แนะนำตามนี้ได้เลย
สารบัญ
- หลุมศพใต้ดินแห่งอเล็กซานเดรีย (Catacombs of Kom El Shoqafa)
- มหาพีระมิดแห่งกีซา (Great Pyramid of Giza)
- มหาสฟิงซ์แห่งกีซา (Great Sphinx of Giza)
- พิพิธภัณฑ์แกรนด์อียิปต์ (Grand Egyptian Museum หรือ GEM)
- มหาวิหารอาบูซีมเบล (Abu Simbel Temples)
- มหาวิหารรามเสสที่ 2 (Temple of Ramses II หรือ Ramesseum)
- วิหารคอมออมโม (Temple of Kom Ombo)
- หุบผากษัตริย์ (Valley of the Kings)
- พิพิธภัณฑ์อียิปต์ (Egyptian Museum)
- ตลาดข่านเอลคาลีลี (Khan el‑Khalili)
สรุป
1. หลุมศพใต้ดินแห่งอเล็กซานเดรีย (Catacombs of Kom El Shoqafa)
หลุมศพใต้ดินแห่งอเล็กซานเดรีย หรือ Catacombs of Kom El Shoqafa ที่นี่คือหนึ่งในสิ่งมหัศจรรย์แห่งโลกยุคกลาง และเป็นการผสมผสานทางศิลปะระหว่างอียิปต์ โรมัน และกรีกไว้อย่างกลมกลืน ถูกค้นพบในปี ค.ศ. 1900 อย่างบังเอิญโดยชายคนหนึ่งที่ขี่ลาอยู่ในพื้นที่และลาตกลงไปในโพรง นั่นนำไปสู่การเปิดเผยสถานที่ฝังศพใต้ดินที่มีอายุกว่า 2,000 ปี ความโดดเด่นของหลุมศพใต้ดินนี้คือการผสานศิลปะแบบอียิปต์โบราณเข้ากับโรมันและกรีก ไม่ว่าจะเป็นเสาหินแบบโครินเทียน ประติมากรรมเทพเจ้า และภาพสลักบนผนัง

2. มหาพีระมิดแห่งกีซา (Great Pyramid of Giza)
มหาพีระมิดแห่งกีซา (Great Pyramid of Giza) หรือที่รู้จักกันในชื่อ พีระมิดของฟาโรห์คูฟู (Khufu) หนึ่งในแลนด์มาร์กสำคัญของอียิปต์ และเป็นสิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคโบราณเพียงหนึ่งเดียวที่ยังคงอยู่จนถึงปัจจุบันสร้างขึ้นในราวปี 2,560 ปีก่อนคริสตกาล เพื่อเป็นสุสานของพระองค์ พีระมิดแห่งนี้มีความสูงประมาณ 138.8 เมตรสร้างจากก้อนหินขนาดมหึมากว่า 2.3 ล้านก้อน แต่ละก้อนหนักเฉลี่ย 2.5 ตัน ภายในพีระมิดเป็นห้องฝังศพของกษัตริย์ที่สามาถเดินเข้าไปสำรวจได้ อีกทั้งยังสามารถขี่อูฐชมทัศนียภาพรอบ ๆ พีระมิดและถ่ายภาพคู่กับฉากหลังที่เป็นหนึ่งในสิ่งมหัศจรรย์ของโลกได้
3. มหาสฟิงซ์แห่งกีซา (Great Sphinx of Giza)
มหาสฟิงซ์แห่งกีซา (Great Sphinx of Giza) เป็นรูปปั้นที่ถูกสลักจากหินปูนทั้งก้อน โดยมีความยาวประมาณ 73 เมตร, สูง 20 เมตร และกว้าง 19 เมตร เชื่อกันว่าสร้างขึ้นในสมัยของฟาโรห์คาเฟร (Khafre) แห่งราชวงศ์ที่ 4 ด้วยรูปร่างของ สิงโตที่มีหัวเป็นมนุษย์ สฟิงซ์จึงกลายเป็นสัญลักษณ์แห่งพลัง อำนาจ และปริศนา เป็นอีกหนึ่งจุดเช็คอินของทัวร์อียิปต์ที่นักท่องเที่ยวได้มาแล้วต้องได้รูปสวยๆกลับไปแน่นอน
4. พิพิธภัณฑ์แกรนด์อียิปต์ (Grand Egyptian Museum หรือ GEM)
พิพิธภัณฑ์แกรนด์อียิปต์ (Grand Egyptian Museum – GEM) ตั้งอยู่ใกล้กับมหาพีระมิดแห่งกีซา และได้รับการขนานนามว่าเป็น พิพิธภัณฑ์อียิปต์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก พิพิธภัณฑ์แห่งนี้จัดแสดงโบราณวัตถุกว่า 100,000 ชิ้น รวมถึงวัตถุล้ำค่าจากยุคฟาโรห์ เช่น รูปปั้น, มัมมี่, เครื่องใช้โบราณ และงานศิลปะหายาก อีกทั้งยังมีห้องจัดแสดงแบบอินเทอร์แอคทีฟและเทคโนโลยีล้ำสมัยจำลองวิถีชีวิตของชาวอียิปต์ที่จะทำให้เราได้สัมผัสแสงสีเสียงที่ชวนดื่มด่ำ
5. มหาวิหารอาบูซีมเบล (Abu Simbel Temples)
มหาวิหารอาบูซิมเบล (Abu Simbel Temples) ประกอบด้วย 2 วิหารหลัก คือ วิหารใหญ่ สร้างขึ้นเพื่อถวายแด่ฟาโรห์รามเสสที่ 2 และวิหารเล็ก เพื่อเทิดพระเกียรติราชินีเนเฟอร์ตารี (Nefertari) พระมเหสีผู้เป็นที่รัก วิหารทั้งสองถูกแกะสลักเข้าไปในภูเขาหินอย่างอลังการราว 1,200 ปีก่อนคริสตกาล โดยใช้แรงงานจำนวนมหาศาล ไฮไลต์คือ รูปปั้นรามเสสที่ 2 ทั้ง 4 องค์ที่หน้าวิหารใหญ่ มีความสูงประมาณ 20 เมตร และในวันที่ 22 กุมภาพันธ์ และ 22 ตุลาคม ของทุกปี แสงอาทิตย์จะส่องตรงเข้าไปในวิหารใหญ่และกระทบกับรูปปั้นเทพเจ้าและฟาโรห์อย่างแม่นยำ สะท้อนถึงความรู้ด้านดาราศาสตร์ขั้นสูงของอียิปต์โบราณ
6. มหาวิหารรามเสสที่ 2 (Temple of Ramses II หรือ Ramesseum)
มหาวิหารรามเสสที่ 2 (Ramesseum) หรือที่รู้จักกันในชื่อ Temple of Ramses II มหาวิหารแห่งนี้อุทิศให้กับเทพอะมุน (Amun) และฟาโรห์รามเสสที่ 2 แสดงถึงอำนาจ ความศรัทธาที่ถูกจารึกไว้ผ่านสถาปัตยกรรมหินอันยิ่งใหญ่ สร้างขึ้นในราว ศตวรรษที่ 13 ก่อนคริสตกาล ในยุครุ่งเรืองของ ฟาโรห์รามเสสที่ 2 แห่งราชวงศ์ที่ 19 โดยเป็น วิหารศพ (mortuary temple) ซึ่งใช้ประกอบพิธีกรรมเพื่อระลึกถึงฟาโรห์หลังสิ้นพระชนม์ และเพื่อเชิดชูพระองค์ให้เป็นอมตะตามคติของชาวอียิปต์โบราณ แม้ปัจจุบันมหาวิหารจะเหลือเพียงซาก แต่รายละเอียดบนเสาและผนังที่ยังคงอยู่
7. วิหารคอมออมโม (Temple of Kom Ombo)
วิหารคอมออมโบ (Temple of Kom Ombo) วิหารโบราณที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว แตกต่างจากวิหารอื่น ๆ เพราะถูกสร้างขึ้นเพื่อถวายให้กับ เทพเจ้าสององค์ได้แก่ เทพเซเบค (Sobek) เทพจระเข้ ผู้เป็นเทพแห่งแม่น้ำและ เทพฮอรัสผู้ยิ่งใหญ่ (Haroeris หรือ Horus the Elder) เทพแห่งท้องฟ้าในวิหารเดียวกัน ทำให้ที่นี่เต็มไปด้วยเรื่องราว ประวัติศาสตร์ และศิลปะอันน่าทึ่งที่สะท้อนถึงความเชื่อของชาวอียิปต์โบราณ ที่นี่จัดแสดงมัมมี่จระเข้หลายสิบตัวพร้อมข้อมูลเกี่ยวกับเทพ Sobek และผนังด้านในมีภาพสลักเครื่องมือแพทย์ของชาวอียิปต์โบราณ เชื่อกันว่าใช้ในการรักษาและผ่าตัด เป็นหลักฐานแสดงถึงความก้าวหน้าทางวิทยาการในยุคนั้น
8. หุบผากษัตริย์ (Valley of the Kings)
หุบผากษัตริย์ (Valley of the Kings) ที่ฝังพระบรมศพของเหล่าฟาโรห์แห่งราชวงศ์ใหม่ (New Kingdom) มายาวนานกว่า 3,000 ปี หุบผากษัตริย์ถูกใช้เป็นที่ฝังพระศพของฟาโรห์และเชื้อพระวงศ์ในช่วง ราชวงศ์ที่ 18–20 (ประมาณ 1550–1070 ปีก่อนคริสตกาล) ซึ่งตรงกับยุคทองของอียิปต์โบราณ ด้วยความเชื่อว่า “ฟาโรห์จะกลับคืนชีวิตในปรโลก” สุสานเหล่านี้จึงถูกออกแบบมาอย่างประณีต สลักด้วยคัมภีร์แห่งความตาย (Book of the Dead) บทสวด เทพเจ้า และภาพชีวิตหลังความตาย เพื่อให้ฟาโรห์เดินทางสู่โลกหน้าอย่างปลอดภัย ปัจจุบันมีสุสานมากกว่า 60 แห่ง แต่จะเปิดให้เข้าชมหมุนเวียนประมาณ 8–10 แห่ง และแม้เวลาจะผ่านไปหลายพันปี แต่บางสุสานยังคงภาพเขียนผนังที่มีสีทอง น้ำเงิน และแดงอย่างชัดเจน แสดงเรื่องราวเกี่ยวกับเทพเจ้าและชีวิตหลังความตาย
9. พิพิธภัณฑ์อียิปต์ (Egyptian Museum)
พิพิธภัณฑ์อียิปต์ (Egyptian Museum) ตั้งอยู่ใจกลางกรุงไคโร และเป็นหนึ่งในพิพิธภัณฑ์ที่เก็บรวบรวมโบราณวัตถุอียิปต์โบราณมากที่สุดในโลก รวมกว่า 120,000 ชิ้น ตั้งแต่ยุคก่อนประวัติศาสตร์จนถึงยุคราชวงศ์โบราณ ไฮไลต์ของพิพิธภัณฑ์อียิปต์คือ สมบัติของฟาโรห์ตุตันคาเมน เป็นหนึ่งในคอลเล็กชันที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลก ประกอบด้วยหน้ากากทองคำแท้ รูปปั้น และของใช้ส่วนตัว อีกทั้งยังมีรูปปั้นฟาโรห์ เทพเจ้า และมัมมี่ที่ถูกเก็บรักษาไว้อย่างดี
10. ตลาดข่านเอลคาลีลี (Khan el‑Khalili)
ตลาดข่านเอลคาลีลี (Khan el-Khalili) เป็นตลาดโบราณที่มีประวัติยาวนานกว่า 600 ปีงแต่ยุคอาหรับ มัสยิด และโรงน้ำชาเก่าแก่รายล้อม ทำให้ที่นี่เต็มไปด้วยกลิ่นอายของวัฒนธรรมและการค้าขายแบบดั้งเดิม ที่นี่เต็มไปด้วยเครื่องประดับเงิน งานฝีมือ เครื่องเทศ หัตถกรรมพื้นบ้าน น้ำหอม และของที่ระลึกมากมาย ตลาดที่นี่มีร้านน้ำชาและโรงน้ำชาที่เก่าแก่ บรรยากาศแบบดั้งเดิม เหมาะกับการนั่งพักผ่อน ชิมชาอาหรับ และชมวิถีชีวิตคนท้องถิ่น
สรุป
ซีอาน เป็นเส้นทางท่องเที่ยวที่จะพาย้อนกลับสู่อดีตอันรุ่งโรจน์ของจีนผ่านสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม หากใครสนใจทัวร์ซีอาน สามารถทักมาสอบถามข้อมูลหรือแอดไลน์มาได้ที่ LINE ID : @lovelysmiletour ได้เลย