การเดินทางเที่ยวตามรอยหนังฝรั่งเป็นวิธีที่ยอดเยี่ยมในการไปสัมผัสกับบรรยากาศในสถานที่จริงที่สวยงาม ที่เห็นในหนังจนอยากตามรอยไปเที่ยวด้วยตัวเอง ซึ่งบทความนี้เราจะมาแนะนำกับ 10 ที่เที่ยวตามรอยหนังฝรั่งสุดฮิตในเส้นทางทัวร์ยุโรปที่ไม่เพียงแต่เต็มไปด้วยเสน่ห์จากหนัง แต่ยังเป็นการมอบประสบการณ์การเดินทางที่น่าจดจำในโลกแห่งความจริงอีกด้วย จะมีที่ไหนบ้างดูรีวิวนี้ก่อนได้เลย
1. ฮอบบิตัน (Hobbiton)
หากใครที่เป็นแฟนภาพยนตร์เรื่อง The Lord of the Rings และ The Hobbit ไม่ควรพลาดกับ ฮอบบิตัน หรือหมู่บ้านฮอบบิตัน (Hobbiton Movie Set) ที่นี่คือหมู่บ้านฮอบบิตจริงๆ ที่ใช้ถ่ายทำในภาพยนตร์ และยังคงถูกเก็บรักษาไว้อย่างสมบูรณ์จนเหมือนหลุดเข้าไปในโลก Middle-earth ฮอบบิตันตั้งอยู่ที่เมือง Matamata ประเทศนิวซีแลนด์ ท่ามกลางทุ่งหญ้าสีเขียวกว้างใหญ่และเนินเขา จุดเด่นคือ บ้านฮอบบิตหลังเล็กประตูไม้กลมหลากสี ที่เรียงรายอยู่บนเนิน บางหลังก็ถูกตกแต่งด้วยอุปกรณ์ประกอบฉากจริงๆ จากหนัง ไม่ว่าจะเป็นรั้วไม้ โต๊ะน้ำชา หรือของกระจุกกระจิกที่ทำให้บรรยากาศสมจริงสุดๆ
หนึ่งในไฮไลท์คือการได้เดินชม Green Dragon Inn โรงเตี๊ยมที่ปรากฏในเรื่อง ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถแวะจิบเบียร์คราฟต์ เครื่องดื่มไร้แอลกอฮอล์ หรือขนมพื้นเมืองได้ บรรยากาศภายในอบอุ่นราวกับหลุดเข้าไปในฉากหนังจริงๆ
| ที่ตั้ง | 501 Buckland Road, Matamata 3472 นิวซีแลนด์ |
| แผนที่ | ดูแผนที่ google map |
| เว็บไซต์ | https://www.hobbitontours.com/ |
2. สถานีรถไฟคิงส์ครอส (King’s Cross Station)
หากพูดถึงสถานที่ท่องเที่ยวตามรอยหนังฝรั่งที่แฟนหนังทั่วโลกต้องแวะเที่ยว หนึ่งในนั้นคือ สถานีรถไฟคิงส์ครอส (King’s Cross Station) ตั้งอยู่ใจกลางกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ที่กลายเป็นจุดหมายปลายทางยอดฮิตของเหล่าแฟนคลับ Harry Potter เพราะนี่คือสถานีที่ “แฮร์รี่กับเพื่อน ๆ” ขึ้นรถไฟสายด่วนฮอกวอตส์จากชานชาลา 9¾ นั่นเอง สถานีคิงส์ครอสอาจดูเป็นเพียงสถานีรถไฟขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยผู้คนสัญจรไปมา แต่สำหรับแฟนหนังแล้ว ที่นี่เต็มไปด้วยเสน่ห์ โดยมี แลนด์มาร์กสำคัญคือจุดถ่ายรูปชานชาลา 9¾ ซึ่งมีรถเข็นกระเป๋าที่ทำท่ากำลังทะลุผนังให้คุณได้โพสท่าเหมือนกำลังมุ่งหน้าไปยังฮอกวอตส์ บริเวณนี้มักจะมีคิวถ่ายรูปยาว แต่ก็เป็นประสบการณ์ที่แฟนตัวจริงไม่ควรพลาด
นอกจากนี้ ภายในสถานียังมี ร้าน The Harry Potter Shop ที่ตกแต่งเหมือนร้านไม้กวาดบินหรือร้านขายของเวทมนตร์ใน Diagon Alley เต็มไปด้วยของที่ระลึก ทั้งเสื้อคลุมพ่อมด ไม้กายสิทธิ์ ไปจนถึงของสะสมหายากที่ถูกใจแฟนทุกวัย
| ที่ตั้ง | Euston Rd., London N1 9AL สหราชอาณาจักร |
| แผนที่ | ดูแผนที่ google map |
| เว็บไซต์ | www.networkrail.co.uk |
3. ปราสาทนอยชวานชไตน์ (Neuschwanstein Castle)
หากใครที่กำลังมองหาสถานที่ท่องเที่ยวที่งดงามราวกับหลุดออกมาจากนิทานปรัมปรา และเป็นจุดตามรอยหนังที่แท้จริง ไม่มีที่ใดจะเทียบได้กับ ปราสาทนอยชวานชไตน์ (Neuschwanstein Castle) ที่ตั้งอยู่บนเทือกเขาแอลป์ของแคว้นบาวาเรีย ประเทศเยอรมนี ปราสาทแห่งนี้ไม่ได้เป็นเเค่สถาปัตยกรรมที่ตระการตาเท่านั้น แต่ยังเป็นแรงบันดาลใจหลักในการสร้าง ปราสาทเจ้าหญิงนิทรา (Sleeping Beauty Castle) ที่โด่งดังของ วอลต์ ดิสนีย์ (Walt Disney) อีกด้วย
โดยปราสาทถูกสร้างขึ้นในศตวรรษที่ 19 โดยพระเจ้าลุดวิกที่ 2 แห่งบาวาเรีย ซึ่งเป็นกษัตริย์ที่หลงใหลในศิลปะ ดนตรี และเทพนิยาย ทำให้ทุกห้อง ทุกมุม เต็มไปด้วยรายละเอียดอันวิจิตร ทั้งจิตรกรรมฝาผนังลวดลายตำนานเยอรมัน ไปจนถึงห้องบัลลังก์ที่หรูหราตระการตา สมกับฉายา “ปราสาทแห่งเทพนิยาย” ที่คนส่วนใหญ่ตั้งให้
ปราสาทแห่งนี้มีความโดดเด่นคือ ทำเลที่ตั้งสุดอลังการ ตัวปราสาทตั้งอยู่บนหน้าผาสูง สามารถมองเห็นวิวภูเขา ทะเลสาบ และป่าทึบ เมื่อมองจากด้านนอก โดยเฉพาะจาก สะพานมาเรียนบรึคเคอ (Marienbrücke) จะเห็นปราสาทที่สวยงามเหมือนภาพโปสการ์ดจนแทบไม่อยากเชื่อว่ามีอยู่จริง
| ที่ตั้ง | Neuschwansteinstraße 20, 87645 Schwangau, เยอรมนี |
| แผนที่ | ดูแผนที่ google map |
| เว็บไซต์ | www.neuschwanstein.de |
4. พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ (Louvre Museum)
พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ (Louvre Museum) ณ กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ไม่ได้เป็นเเค่พิพิธภัณฑ์ที่ใหญ่และมีผู้เข้าชมมากที่สุดในโลกเท่านั้น แต่ยังเป็นหนึ่งใน โลเคชั่นหลัก ที่เต็มไปด้วยปริศนาและเรื่องราวที่น่าตื่นเต้นสำหรับคอหนังที่ต้องการตามรอยภาพยนตร์ดังอย่าง “The Da Vinci Code” (รหัสลับดาวินชี) การไปเที่ยวชมลูฟวร์จึงเป็นมากกว่าการชมงานศิลปะ แต่คือการก้าวเข้าสู่ฉากหนังไขปริศนาที่ตรึงใจคนทั้งโลก
ไฮไลท์แรกคือ พีระมิดแก้ว (Glass Pyramid) ออกแบบโดยสถาปนิก I. M. Pei ซึ่งกลายเป็นแลนด์มาร์กสำคัญที่ทันสมัยและตัดกับสถาปัตยกรรมแบบพระราชวังเดิมได้อย่างลงตัว จุดนี้เองที่กลายเป็นฉากเปิดเรื่องของ The Da Vinci Code ที่น่าจดจำ และภายในพิพิธภัณฑ์จัดแสดงผลงานศิลปะชื่อดังกว่า 35,000 ชิ้น ไม่ว่าจะเป็น Mona Lisa หรือ Venus de Milo สำหรับแฟนหนัง การเดินในโถงยาวและห้องจัดแสดงต่าง ๆ คือการตามรอยการผจญภัยของโรเบิร์ต แลงดอนราวกับอยู่ในฉากจริง
| ที่ตั้ง | 75001 Paris, ฝรั่งเศส |
| แผนที่ | ดูแผนที่ google map |
| เว็บไซต์ | https://www.louvre.fr/ |
5. เวนิส (Venice)
เวนิส เมืองแห่งสายน้ำของอิตาลี ได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในเมืองที่สวยที่สุดในโลก และยังถูกใช้เป็นฉากในภาพยนตร์ดังมากมาย เช่น The Tourist, Spider-Man: Far from Home และ Casino Royale เสน่ห์ของเวนิสอยู่ที่ คลองแคบ โกโดลา (Gondola), บ้านเรือนสไตล์เรอเนสซองส์ และจัตุรัสซานมาร์โก (Piazza San Marco) ที่คึกคักเสมอ การล่องเรือชมวิวสองฝั่งคลองทำให้รู้สึกเหมือนเดินเข้าไปอยู่ในฉากหนังจริงๆ โดยเฉพาะยามเย็นที่แสงอาทิตย์สะท้อนกับผืนน้ำ บรรยากาศโรเเมนติก สวยงามเกินบรรยาย นอกจากนี้สถาปัตยกรรมเก่าแก่และตรอกซอกซอยที่เต็มไปด้วยสีสัน ยังทำให้เวนิสเป็นฉากโปรดของผู้กำกับฮอลลีวูดหลายคนอีกด้วย
| แผนที่ | ดูแผนที่ google map |
| เว็บไซต์ | https://www.visitvenezia.eu/en |
6. ซานโตรินี (Santorini)
ซานโตรินี เกาะสวรรค์แห่งทะเลอีเจียนของกรีซ ขึ้นชื่อเรื่องบ้านสีขาวเรียงรายอยู่บนหน้าผาสูง ตัดกับหลังคาสีฟ้าสดใสและวิวทะเลสุดกว้างใหญ่ และเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกที่งดงามที่สุดในโลก ความสวยงามแห่งนี้ทำให้ซานโตรินีกลายเป็นฉากโรแมนติกในหนังฝรั่งและมิวสิคัลชื่อดัง เช่น The Sisterhood of the Traveling Pants และ Mamma Mia ไฮไลท์ของที่นี่คือการเดินเล่นชมหมู่บ้านโอยา (Oia) ที่เต็มไปด้วยตรอกซอกซอยน่ารัก คาเฟ่ และร้านอาหารบรรยากาศดี โดยเฉพาะช่วงพระอาทิตย์ตกดินที่คนต่างรอชมวิวสวยเหมือนหลุดออกมาจากโปสการ์ด การได้ยืนอยู่ตรงนั้นจะทำให้คุณเข้าใจทันทีว่าทำไมที่นี่ถึงถูกใช้เป็นโลเกชันหนังโรแมนติกหลายเรื่อง
| แผนที่ | ดูแผนที่ google map |
| เว็บไซต์ | https://www.santorini.net/ |
7. ซาลซ์บูร์ก (Salzburg)
ซาลซ์บูร์ก เป็นเมืองเล็กที่อยู่ทางตะวันตกของออสเตรีย คือหนึ่งในจุดหมายที่แฟนหนัง The Sound of Music ต้องมาเที่ยวสักครั้ง เมืองนี้เป็นทั้งบ้านเกิดของโมซาร์ท และยังเป็นฉากสำคัญในหนังเพลงระดับตำนานที่โลกไม่ลืม ซาลซ์บูร์กมีความโดดเด่นด้วย ภูเขาสูงสลับซับซ้อน แม่น้ำซาลซัค และบ้านเมืองเก่าในสไตล์บาร็อก ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก ไฮไลท์ที่แฟนหนังห้ามพลาดคือ สวนมิราเบล (Mirabell Gardens) ที่มาเรียและเด็ก ๆ ร้องเพลง “Do-Re-Mi” รวมถึงคอนแวนต์ Nonnberg Abbey และทุ่งหญ้าเขียวขจีที่ใช้ถ่ายทำฉากเปิดอันโด่งดัง
ถึงแม้จะไม่ใช่แฟนภาพยนตร์ แค่ได้เดินเล่นในเมืองเก่าที่เต็มไปด้วยซอยเล็กๆ คาเฟ่หอมกรุ่น และปราสาท Hohensalzburg ที่ตั้งอยู่เหนือเมือง ก็เพียงพอให้ได้สัมผัสบรรยากาศจริงๆ สักครั้ง
| แผนที่ | ดูแผนที่ google map |
| เว็บไซต์ | https://www.salzburg.info/en |
8. เกาะซิซิลี (Sicily)
เกาะซิซิลีแห่งประเทศอิตาลี คือหนึ่งในโลเลชั่นสำคัญของภาพยนตร์ Aquaman ที่ถ่ายทำฉากไล่ล่าระหว่างอาเธอร์ (Jason Momoa) และเมรา (Amber Heard) ท่ามกลางฉากหลังสุดตระการตาของเมืองโบราณริมทะเล เมืองที่ใช้ถ่ายทำคือ Taormina และ Erice สองเมืองเก่าที่ตั้งอยู่บนเนินเขา มองเห็นวิวทะเลเมดิเตอร์เรเนียนสุดอลังการ ฉากในหนังที่ตัวละครวิ่งไล่กันตามหลังคาและตรอกซอกซอยแคบๆ คือภาพจริงของเมือง Erice ที่ยังคงกลิ่นอายยุคกลางไว้ครบถ้วน ส่วน Taormina นั้นขึ้นชื่อเรื่องวิวภูเขาไฟเอตนา (Mount Etna) และโรงละครกรีกโบราณที่มักใช้เป็นฉากหลังในหนังและซีรีส์ระดับโลกหลายเรื่อง
นอกจากตามรอยหนังแล้ว ซิซิลียังมีเสน่ห์ในแบบของตัวเอง ทั้งชายหาดสีฟ้าคราม เมืองเก่าที่เงียบสงบ และอาหารท้องถิ่นรสเลิศอย่างพาสต้าและคานโนลี (Cannoli) ที่ขึ้นชื่อไปทั่วโลก
| แผนที่ | ดูแผนที่ google map |
| เว็บไซต์ | https://www.visitsicily.info/ |
9. ดูบรอฟนิก (Dubrovnik)
ดูบรอฟนิก เมืองชายฝั่งทะเลเอเดรียติกในโครเอเชีย ได้รับฉายาว่า “ไข่มุกแห่งทะเลเอเดรียติก” ด้วยกำแพงหินโบราณ บ้านเรือนสีส้ม และวิวทะเลฟ้าใสที่งดงาม เมืองนี้ไม่ได้มีชื่อเสียงเพียงแค่เป็นมรดกโลกยูเนสโกเท่านั้น แต่ยังเป็นโลเคชั่นที่แฟนหนังฝรั่งและซีรีย์รู้จักกันดี โดยเฉพาะ King’s Landing จากซีรีย์ Game of Thrones และฉากแอ็กชันจาก Star Wars: The Last Jedi การเดินบน กำแพงเมืองเก่า (City Walls) คือประสบการณ์ที่ทำให้ได้เห็นภาพเดียวกับในซีรีส์ ทั้งตรอกซอกซอย โบสถ์เก่า และวิวทะเลที่สวยงามรอบเมือง นอกจากนี้ยังสามารถตามรอยฉากดังอย่างบันได Jesuit Stairs ที่ใช้ถ่ายทำ “Walk of Shame” จนกลายเป็นจุดถ่ายรูปยอดฮิตของแฟนๆ อีกด้วย
| ที่ตั้ง | Šipčine 2 20000 Dubrovnik, Croatia |
| แผนที่ | ดูแผนที่ google map |
| เว็บไซต์ | https://visitdubrovnik.hr/ |
10. พลาซ่า เด เอสปันญา เซบิยา (Plaza de España)
พลาซ่า เด เอสปันญา (Plaza de España) แลนด์มาร์กสำคัญของเมืองเซบิยา ประเทศสเปน คือจัตุรัสกว้างใหญ่ที่สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1929 โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมกึ่งเรอเนสซองส์ผสมศิลปะมัวร์ มีอาคารรูปครึ่งวงกลม ลานกว้าง และคลองเล็กๆ พร้อมสะพานที่ตกแต่งอย่างวิจิตร ทำให้ที่นี่กลายเป็นหนึ่งในจัตุรัสที่สวยที่สุดในยุโรป ความงดงามนี้เองที่ทำให้พลาซ่า เด เอสปันญากลายเป็นโลเคชั่นในภาพยนตร์ระดับโลก ไม่ว่าจะเป็น Lawrence of Arabia (1962) หรือ Star Wars: Episode II – Attack of the Clones ที่ใช้ที่นี่เป็นฉากดาวนาโบ (Naboo) ที่ชื่อดัง แฟนหนังจึงนิยมมาตามรอยและถ่ายภาพในมุมเดียวกับฉากหนัง
การเดินเล่นรอบลานกว้างจะทำให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสบรรยากาศแบบสเปนแท้ๆ ทั้งนักดนตรีริมทาง ศิลปินฟลามิงโก และมุมถ่ายรูปสวยๆ มากมาย โดยเฉพาะช่วงเย็นที่แสงอาทิตย์ส่องกระทบอาคารสีทองแดงยิ่งเพิ่มความอลังการไปอีก
| ที่ตั้ง | Av. Isabel la Católica, 41004 Sevilla, สเปน |
| แผนที่ | ดูแผนที่ google map |
| เว็บไซต์ | www.andalucia.org |
สรุป
โดยสรุปแล้ว การเที่ยวตามรอยสถานที่ถ่ายทำหนังดังไม่ใช่เเค่ทำให้เราได้เห็นโลเคชั่นสวยงามที่เคยอยู่บนหน้าจอ แต่ยังเป็นประสบการณ์การเดินทางที่มีเสน่ห์เฉพาะตัว ทั้ง 10 ที่เที่ยวตามรอยหนังฝรั่งสุดฮิตนี้ จึงไม่ใช่แค่ทริปท่องเที่ยวธรรมดา แต่คือการเดินทางที่เชื่อมโยงโลกของหนังเข้ากับความจริงได้อย่างน่าประทับใจ หากใครสนใจไปเที่ยวทัวร์ยุโรป สามารถทักมาสอบถามข้อมูลหรือแอดไลน์มาได้ที่ LINE ID : @lovelysmiletour ได้เลย