10 ที่เที่ยวโฮจิมินห์ เวียดนามใต้ อัปเดตล่าสุด

โฮจิมินห์ หรือชื่อเดิมก็คือเมืองไซ่ง่อน อดีตเมืองหลวงเก่าของเวียดนาม เป็นเมืองที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในเวียดนามที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์และเต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมยุโรปที่เป็นเอกลักษณ์ มีธรรมชาติที่สวยงาม มีสถานที่ท่องเที่ยวมากมายให้ได้ไปเช็คอิน ในบทความนี้จะมี 10 สถานที่ท่องเที่ยวที่อยากแนะนำเมื่อเดินทางมาที่โฮจิมินห์ ทัวร์เวียดนามใต้ จะมีที่ไหนบ้างไปดูกันเลย

1. ไปรษณีย์กลางไซ่ง่อน (Saigon Central Post Office)

ไปรษณีย์กลางไซ่ง่อน เป็นที่ทำการไปณษณีย์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในเวียดนาม ตั้งอยู่ที่ใจกลางเมืองโฮจิมินห์ ใกล้กับโบสถ์นอร์ธเธอดัม สร้างขึ้นในปีค.ศ. 1896 และสร้างเสร็จในปีค.ศ. 1901 มีลักษณะสถาปัตยกรรมแบบโคโลเนียลซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมสไตล์ฝรั่งเศส ภายในจะเป็นโถงขนาดใหญ่ที่มีรูปผู้นำโฮจิมินห์ประดับอยู่ นอกจากบริการทางด้านไปรษณีย์แล้ว ที่ไปรษณีย์กลางไซ่ง่อนยังจำหน่ายแสตมป์เพื่อการสะสม โปสการ์ด ในบรรยากาศที่คึกคักอยู่ตลอดเวลา

ค่าเข้าชม	ไม่มีค่าใช้จ่าย
เวลาทำการ	วันจันทร์ – เสาร์ เวลา 07.30 – 18.00 น. วันอาทิตย์ เวลา 08.00 – 17.00 น.
แผนที่	ดูแผนที่ Google Maps

2. โบสถ์นอร์ธเธอดัม (Notre-Dame Cathedral Basilica of Saigon)

โบสถ์นอร์ธเธอดัม หรือมีชื่ออย่างเป็นทางการว่า อาสนวิหารแม่พระแห่งปฏิสนธินิรมล ตั้งอยู่ที่จัตุรัสคอมมูนปารีสอันคึกคักในตัวเมือง เป็นโบสถ์คาทอลิกที่มีความสวยงามแห่งหนึ่งในประเทศเวียดนามและได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งใน 19 อาสนวิหารที่งดงามที่สุดในโลกอีกด้วย โบสถ์นอร์ธเธอดัมสร้างขึ้นในช่วงค.ศ. 1863 – 1880 ในสมัยที่เวียดนามยังคงเป็นอาณานิคมของฝรั่งเศส สร้างขึ้นในสไตล์สถาปัตยกรรมนีโอโรมาเนสก์ โดยใช้วัสดุนำเข้าจากฝรั่งเศสทั้งหมดในการสร้าง โดดเด่นด้วยหอระฆังคู่ หน้าต่างกระจกสี และส่วนหน้าอาคารอิฐแดง มีความยาว 93 เมตร กว้าง 35 เมตร มีโดมสูง 21 เมตร และฐานรากสามารถรับน้ำหนักได้ 10 เท่าของน้ำหนักโครงสร้างทั้งหมด บริเวณด้านหน้าจะมีรูปปั้นพระแม่มารีซึ่งสร้างด้วยหินแกรนิตตั้งไว้บนแท่นวาง ด้วยความสวยงามนี้จึงทำให้เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่นักท่องเที่ยวทัวร์เวียดนามใต้นิยมเดินทางมาถ่ายรูปเช็คอินกัน

ค่าเข้าชม	ไม่มีค่าใช้จ่าย
เวลาทำการ	เปิดทำการทุกวัน เวลา 07:30 – 12:00 น., 13:30 – 17:00 น.
แผนที่	ดูแผนที่ Google Maps

3. วัดเทียนหัว (Thien Hau Pagoda)

วัดเทียนหัวหรือวัดเจ้าแม่สวรรค์ ตั้งอยู่ที่เขตไชน่าทาวน์ เป็นวัดลัทธิเต๋าเก่าแก่อายุเกือบ 300 ปี สร้างโดยผู้อพยพชาวจีนในปีค.ศ. 1760 เพื่ออุทิศให้กับเทียนหัว (Thien Hau) หรือมาซู (Mazu) เทพีแห่งทะเลตามความเชื่อของชาวจีน ที่คอยช่วยเหลือชาวประมงหรือผู้เดินเรือ ซึ่งวัดแห่งนี้เป็นวัดจีนที่เป็นที่เคารพบูชาของชาวเวียดนามเชื้อสายจีนในปัจจุบัน วัดเทียนหัวเป็นวัดที่มีลักษณะสถาปัตยกรรมจีน บริเวณหลังคาวัดจะตกแต่งด้วยตุ๊กตากระเบื้องลายครามขนาดเล็กที่มีความประณีต ซึ่งแสดงถึงศาสนาและตำนานของจีน มีโคมไฟและหุ่นไม้ของโรงละครจีนแขวนอยู่เหนือทางเข้า เมื่อเข้ามาจะพบกับกระถางธูปขนาดใหญ่อยู่หน้าแท่นบูชาและมีห้องโถงทั้งหมด 3 ห้องด้วยกัน

• ห้องโถงด้านหน้า มีแท่นบูชาของ Phuc Duc Chinh Than (เทพเจ้าแห่งแผ่นดิน) อยู่ทางขวา และแท่นบูชาของ Mon Quan Vuong Ta (เทพเจ้าแห่งการเฝ้าประตู) อยู่ทางซ้าย

• ห้องโถงกลาง ในห้องโถงกลางจะมีโกศแกะสลักจำนวน 5 อัน บริเวณด้านข้างจะมีรูปวาดมังกรและเกี้ยวโบราณที่ใช้สำหรับงานเทศกาลที่วัด

• ห้องโถงด้านหลัง เป็นห้องโถงหลักของวัดแห่งนี้ โดยภายในโถงด้านหลังจะแบ่งออกเป็น 3 ช่องย่อย ช่องตรงกลางจะมีรูปปั้นเทียนหัว ซึ่งแกะสลักจากบล็อกไม้โบราณ สูง 1 เมตร 2 ช่องซ้ายขวาจะมีรูปปั้นของกวนอู นายพลชาวจีน (Quan Thanh), พระโพธิสัตว์ในพุทธศาสนา (Dia Tang) และ เทพเจ้าแห่งความมั่งคั่ง (Than Tai)

นอกจากนี้ภายในจะมีจุดเด่นอีกอย่างก็คือขดธูปขนาดใหญ่จำนวนมากที่แขวนอยู่บนเพดาน วัตถุโบราณต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นกระถางธูป เสาหิน ระฆัง และภาพวาดโบราณ หากใครที่เดินทางมาช่วงวันที่ 22-24 มีนาคมของทุกปี จะเป็นวันเกิดของเทียนหัว จะมีการเชิญรูปปั้นเทียนหัวออกจากแท่นบูชาและแห่ไปตามไชน่าทาวน์ และจะมีการแสดงเชิดสิงโต เชิดมังกรให้ด้วยชมอีกด้วย

ค่าเข้าชม	ไม่มีค่าใช้จ่าย
เวลาทำการ	เปิดทำการทุกวัน เวลา 08.00 – 16.30 น.
แผนที่	ดูแผนที่ Google Maps

4. ถนนคนเดินเหงียนเว้ (Nguyen Hue Walking Street)

ถนนคนเดินเหงียนเว้ เป็นถนนคนเดินที่เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวและชาวเวียดนาม ตั้งที่เขตเซ็นทรัลหรือใจกลางเมือง ล้อมรอบไปด้วยอาคารสไตล์ยุโรป ที่มีพื้นที่กว้างขวางทอดยาวตั้งแต่ศาลาว่าการไปจต่างๆ ทั้งร้านอาหาร ร้านเสื้อผ้า คาเฟ่ และบาร์หรู เรียกได้ว่าตอบโจทย์กับทุกเพศทุกวัย นอกจากนี้ยังมีมุมสวยๆ ให้ได้ถ่ายรูป นั่งพักผ่อน ชมวิวเมือง เหมาะกับการพักผ่อนอย่างมาก เมื่อถึงตอนกลางคืนที่ถนนคนเดินจะมีการเปิดไฟประดับมากมาย มีการแสดงเต้นหรือดนตรีสดให้ได้รับชมและรับฟังอีกด้วย รับรองว่าจะได้รับความเพลิดเพลินจากถนนคนเดินแห่งนี้อย่างแน่นอน

ค่าเข้าชม	ไม่มีค่าใช้จ่าย
เวลาทำการ	เปิดทำการทุกวัน ร้านค้าส่วนใหญ่เปิด 07.00 – 23.00 น.
แผนที่	ดูแผนที่ Google Maps

5. คาเฟ่อพาร์ทเมนท์ (The Cafe Apartment)

คาเฟ่อพาร์ทเมนท์ เป็นหนึ่งในสถานที่ยอดนิยมของนักท่องเที่ยวมากมาย ใครที่เดินทางมาที่โฮจิมินห์ก็จะต้องแวะมาที่นี่เพื่อถ่ายรูปเช็คอินกัน คาเฟ่แห่งนี้ตั้งอยู่ที่ถนนเหงียนเว้ เป็นอพาร์ทเมนท์เก่า 9 ชั้น ที่เคยเป็นที่พักของรัฐบาลและทหารช่วงปีค.ศ. 1950 หรือช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ต่อมาได้ถูกรีโนเวทใหม่ให้กลายเป็นร้านอาหารและร้านกาแฟ ภายในจะมีคาเฟ่ ร้านอาหาร ร้านขายหนังสือ ซึ่งแต่ละร้านและแต่ละชั้นก็จะมีการตกแต่งที่แตกต่างกันไปตามเอกลักษณ์เฉพาะตัว

ค่าเข้าชม	ไม่มีค่าใช้จ่าย (ไม่รวมค่าอาหารหรือค่าบริการแต่ละร้าน)
เวลาทำการ	เปิดทำการทุกวัน ร้านค้าส่วนใหญ่เปิด 07.00 – 22.00 น.
แผนที่	ดูแผนที่ Google Maps

6. พิพิธภัณฑ์ศิลปะโฮจิมินห์ (Ho Chi Minh Fine Arts Museum)

พิพิธภัณฑ์ศิลปะโฮจิมินห์ สร้างขึ้นในปีค.ศ. 1929 เป็นพิพิธภัณฑ์ที่ได้รวบรวมผลงานวิจิตรศิลป์มากมายทั้งของประเทศเวียดนามและทั่วโลกกว่า 21,000 ชิ้น ซึ่งประกอบด้วยภาพวาดแบบดั้งเดิม ประติมากรรม และผลงานร่วมสมัยที่แสดงถึงประวัติศาสตร์และมรดกทางวัฒนธรรม ตัวอาคารของพิพิธภัณฑ์จะมีทั้งหมด 3 ชั้น เป็นสถาปัตยกรรมที่ผสมผสานระหว่างฝรั่งเศสและเวียดนามดั้งเดิม ซึ่งออกแบบโดยริเวรา สถาปนิกชาวฝรั่งเศส โดยและชั้นจะมีการจัดแสดงงานที่แตกต่างกันออกไป ชั้น 1 เป็นที่จัดแสดงนิทรรศการ ชั้น 2 เป็นที่จัดแสดงภาพวาดวิจิตรศิลป์ และชั้น 3 เป็นที่จัดแสดงประติมากรรมโบราณและงานฝีมือแบบดั้งเดิม ใครที่ชื่นชอบศิลปะหรือประวัติศาสตร์จะต้องชื่นชอบอย่างแน่นอน

ค่าเข้าชม	30,000 ดอง/ท่าน
เวลาทำการ	เเปิดทำการทุกวัน เวลา 08.30 – 17.00 น.
แผนที่	ดูแผนที่ Google Maps

7. โบสถ์ทันดินห์ (Tan Dinh Church)

โบสถ์ทันดินห์ หรือชื่ออย่างเป็นทางการคือโบสถ์แห่งพระหฤทัยแห่งพระเยซู สร้างขึ้นในสร้างขึ้นในสมัยที่เวียดนามเป็นอาณานิคมของฝรั่งเศส ปีค.ศ. 1876 เป็นโบสถ์โรมันคาทอลิกที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ในเมืองโฮจิมินห์ เป็นสถานที่ที่มีความสำคัญกับผู้ที่นับถือศานาคริสต์อย่างมาก โบสถ์แห่งนี้จะใช้ในการประกอบพิธีกรรมทางศาสนาต่างๆ นอกจากจะมีความสำคัญต่อชาวคริสต์แล้ว อีกหนึ่งจุดเด่นของที่นี่ก็คือตัวโบสถ์ที่มีสีชมพูสดใสจึงได้รับการขนานนามว่า “โบสถ์สีชมพู” และยังเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวมากมาย ลักษณะของสถาปัตยกรรมจะเป็นแบบผสมระหว่างนีโอโรมาเนสก์ นีโอโกธิคและนีโอเรอเนซองส์ มีความสูง 60 เมตร ซึ่งสามารถมองเห็นได้จากระยะไกล มียอดแปดเหลี่ยมพร้อมไม้กางเขนทองแดง บริเวณด้านบนจะมีหอระฆังขนาดใหญ่จำนวน 2 อัน ที่จะตีทุกๆ 1 ชั่วโมง ด้วยความสวยงามของโบสถ์แห่งนี้จึงทำให้เป็นสถานที่ที่คู่รักนิยมมาขอแต่งงานหรือถ่ายรูปพรีเวดดิ้งกันอีกด้วย

ค่าเข้าชม	ไม่มีค่าใช้จ่าย
เวลาทำการ	วันจันทร์ – วันศุกร์ เวลา 08.00 – 12.00 น., 14.00 – 17.00 น.
แผนที่	ดูแผนที่ Google Maps

8. เจดีย์บู้ลอง (Buu Long Pagoda)

เจดีย์บู้ลอง เป็นเจดีย์ที่สวยที่สุดในเวียดนาม สร้างขึ้นในปีค.ศ. 1942 โดยพระภิกษุนามว่า Thich Tam Anh ในอดีตเจดีย์แห่งนี้มีขนาดเล็ก อยู่ท่ามกลางภูเขาและต้นไม้มากมาย ต่อมาก็ได้เริ่มบูรณะและขยายพื้นที่ออกมาเป็นวงกว้างเพื่อรองรับผู้ที่ศรัทธาและนักท่องเที่ยวที่เพิ่มมากขึ้น จนมีขนาดใหญ่เท่าในปัจจุบัน จุดที่ทำให้โบสถ์แห่งนี้เป็นที่นิยมก็คือสถาปัตยกรรมของโบสถ์ที่มีการผสมผสานระหว่างสถาปัตยกรรมไทย พม่า อินเดีย และเวียดนามเข้าด้วยกัน จนมีความสวยงามที่เป็นเอกลักษณ์และมีความวิจิตร บริเวณด้านหน้าเจดีย์จะมีสระน้ำสีมรกตขนาดใหญ่ ตรงกลางของสระน้ำจะมีรูปปั้นพยานาคจำนวน 8 เศียร บรรยากาศภายในก็มีความสงบ ร่มรื่น เต็มไปด้วยต้นไม้สีเขียวมากมาย

ค่าเข้าชม	ไม่มีค่าใช้จ่าย
เวลาทำการ	วัเปิดทำการทุกวัน เวลา 08.00 – 18.00 น.
แผนที่	ดูแผนที่ Google Maps

9. ตลาดเบนถั่น (Ben Thanh Market)

ตลาดเบนถั่น ตั้งอยู่บนถนนเลเลยใกล้กับจัตุรัสโฮจิมินห์และแม่น้ำไซ่ง่อน เป็นตลาดเก่าแก่ที่ใหญ่ที่สุดในโฮจิมินห์ ซึ่งเป็นอาคารสุดท้ายที่ลงเหลืออยู่ตั้งแต่สมัยไซง่อน ในอดีตตลาดเบนถั่นเป็นที่รวมตัวกันของพ่อค้าแม่ค้าที่เดินทางมาตามแม่น้ำไซง่อนเพื่อนำสินค้ามาสู่ชาวเมืองในช่วงต้นคริสต์ศตวรรษที่ 17 หลังจากที่ฝรั่งเศสเข้ายึดป้อมปราการซาดิ่ญ ฝรั่งเศสก็ได้สร้างอาคารแห่งนี้ขึ้นในปี 1859 แต่เป็นอาคารที่มีโครงสร้างเป็นไม้และหลังคามุงจาก ต่อมาในปี 1870 ตลาดแห่งนี้ได้ถูกอัคคีภัยทำลายจนเสียหายอย่างหนักจนถูกรื้อถอนออกไป และได้มีการสร้างอาคารขึ้นใหม่โดยใช้โครงสร้างโลหะในปี 1912 และเปิดตัวอย่างเป็นทางการในปี 1914 ซึ่งถือเป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดในเมืองไซ่ง่อนและเป็นอีกหนึ่งแลนด์มากของที่นี่ จุดเด่นของตลาดก็คือนาฬิกาขนาดใหญ่ที่อยู่ด้านนอกตัวอาคาร ภายในจะมีสินค้าให้เลือกมากมาย ทั้งสินค้าหัตถกรรม สิ่งทอ เครื่องประดับ ของที่ระลึก รวมทั้งอาหารท้องถิ่น นอกจากนี้ยังมีตลาดกลางคืนเบนถั่นอีกด้วยค่ะ โดยจะอยู่ทางทิศตะวันออกและตะวันตกของตลาด ใครที่กำลังมองหาของที่ระลึกหรือของฝากก็สามารถแวะมาที่ตลาดเบนถั่นได้นะคะ

ค่าเข้าชม	ไม่มีค่าใช้จ่าย
เวลาทำการ	ตลาดเบนถั่น เปิดทำการทุกวัน เวลา 06.00 – 18.00 น. ตลาดกลางคืนเบนถั่น เปิดทำการทุกวันเวลา 17.00 – 22.00 น.
แผนที่	ดูแผนที่ Google Maps

10. จุดชมวิวเมืองไซ่ง่อน (Saigon SkyDeck, Bitexco Financial Tower)

จุดชมวิวเมืองไซ่ง่อน เป็นจุดชมวิวที่อยู่ในอาคาร Bitexco Financial Tower ที่มีความสูงถึง 178 เมตร โดยจุดชมวิวจะอยู่ที่ชั้น 49 ของอาคาร เมื่อเข้ามาด้านในจะมีลิฟต์ที่เร็วที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ด้วยความเร็ว 7 เมตรต่อวินาที เมื่อขึ้นมาถึงที่ชั้น 49 ก็จะถึงจุดชมวิวเมืองไซ่ง่อน ที่สามารถมองเห็นวิวจากมุมสูงได้แบบ 360 องศา นอกจากจะได้ชมวิวด้วยตาเปล่าแล้ว ยังมีกล่องโทรทรรศน์ให้ได้มองจุดนั้นๆ แบบใกล้ชิดอีกด้วย บริเวรณโดยรอบก็ยังมีร้านอาหาร ร้านขายของที่ระลึกให้ได้เลือกซื้อเลือกทาน

ค่าเข้าชม	ผู้ใหญ่ 240,000 ดอง/ท่าน เด็ก (อายุ 4-12 ปี) 160,000 ดอง/ท่าน ผูู้สูงอายุ (อายุ 65 ปีขึ้นไป) และคนพิการ 160,000 ดอง/ท่าน
เวลาทำการ	เปิดทำการทุกวัน เวลา 09.30 – 21.30 น.
แผนที่	ดูแผนที่ Google Maps

สรุป

โฮจิมินห์เป็นเมืองที่มีความน่าสนใจ มีความสวยงามทางธรรมชาติ มีความคึกคักเต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวมากมาย และยังสถาปัตยกรรมที่ผสมผสานระหว่างประเทศฝรั่งเศสกับประเทศเวียดนามอันเป็นเอกลักษณ์ หากใครที่สนใจทัวร์เวียดนามใต้ สามารถแอดไลน์ LINE ID : @lovelysmiletour เพื่อสอบถามเพิ่มเติมได้เลย