รีวิวทะเลทรายขาวและทะเลทรายแดง แห่งเวียดนามใต้

เมื่อพูดถึงเวียดนาม หลายๆ คนก็จะนึกถึงธรรมชาติอันเขียวขจี วิวภูเขาสูง นาขั้นบันได น้ำตก หรือทะเลสาบสีสวย แต่อีกหนึ่งสถานที่ที่หลายคนนึกไม่ถึงก็คือทะเลทราย ซึ่งทะเลทรายนี้จะตั้งอยู่ที่เมืองมุยเน่ เวียดนามใต้ เป็นอีกสถานที่ที่มีความสวยงามไม่แพ้กับที่อื่นๆ ในเวียดนาม และเมื่อพูดถึงทะเลทราย หลายคนก็จะต้องคิดว่ามีอากาศร้อนเกินที่จะเที่ยวหรือไม่มีกิจกรรมอะไรให้ทำ ในบทความนี้จะมาแนะนำทะเลทรายทัวร์เวียดนามใต้และกิจกรรมที่แนะนำอยากให้ได้ลองทำกันค่ะ

1. ทะเลทรายขาว (White sand dunes)

ทะเลทรายขาว หรือที่ทุกคนรู้จักกันในชื่อซาฮาร่าแห่งเวียดนาม เป็นทะเลทรายที่ใหญ่ที่สุดในเวียดนาม มีพื้นที่ถึง 70 เฮกเตอร์ กว้างประมาณ 500 เมตร สูงถึง 10 – 13 เมตร ตั้งอยู่ที่เขตเมืองมุยเน่ จังหวัดบิ่ญถ่วน ซึ่งอยู่ห่างจากตัวเมืองมุยเน่ประมาณ 30 กิโลเมตร บริเวณใกล้เคียงจะมีทะเลสาบน้ำจืดขนาดใหญ่ที่เรียกว่าเบ๋าตรัง (Bau Trang) ในภาษาเวียดนามคำว่า ‘เบ๋า’ แปลว่า ทะเลสาบ และ ‘ตรัง’ แปลว่า ขาว คำว่า ‘เบ๋าตรัง’ จึงหมายถึงทะเลสาบที่ล้อมรอบด้วยหาดทรายขาว ซึ่งทะเลสาบเบ๋าตรังแบ่งออกเป็น 2 ส่วน ก็คือ ทะเลสาบ Bau Ba และทะเลสาบ Bau ​​Ong ซึ่งเปรียบเสมือนโอเอซิสของทะเลทรายแห่งนี้ บริเวณผิวน้ำส่วนใหญ่ของทะเลสาบจะเต็มไปด้วยดอกบัวสีชมพู มีต้นไม้สีเขียวขจีล้อมรอบ ทำให้เกิดภูมิทัศน์ที่สวยงามและน่าหลงใหล สิ่งที่ทำให้ทะเลทรายขาวแตกต่างจากทะเลทรายแดงก็คือ สีของเม็ดทรายจะเปลี่ยนไปตามแสง ณ ขณะนั้น ถ้าเป็นในช่วงเช้าตอนพระอาทิตย์ขึ้น ทะเลทรายก็จะเป็นสีอมส้ม ในระหว่างวันเม็ดทรายก็เป็นสีขาวออกเหลือง ตอนพระอาทิตย์ตกก็จะเห็นเป็นสีทอง ด้วยบรรยากาศที่เงียบสงบ ความสวยงามของธรรมชาติโดยรอบ จึงทำให้เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวมากมาย

เวลาทำการ	เปิดทำการทุกวัน เวลา 05.00 – 18.00 น.
แผนที่	ดูแผนที่ Google Maps

1.1 กิจกรรมที่แนะนำ

1.1.1 เล่นแซนด์บอร์ด

เป็นกิจกรรมที่เหมาะกับผู้ที่ชื่นชอบความตื่นเต้น จะเป็นการไถลลงจากเนินทรายด้วยกระดาน โดยค่าเช่าแซนด์บอร์ดจะอยู่ที่ 15,000 – 20,000 ดอง ใครที่ชอบความตื่นเต้นและท้าทายก็สามารถลองเล่นแซนด์บอร์ดกันได้นะคะ

1.1.2 ขับรถ ATV หรือรถจี๊ป

เนื่องจากว่าทะเลทรายเป็นทะเลทรายที่กว้างใหญ่ อากาศร้อน จึงไม่เหมาะกับการที่จะเดินเท้า ดังนั้นการเช่ารถ ATV หรือรถจี๊ปจึงถือเป็นอีกทางเลือกที่สะดวกสบาย หากขับรถมาเรื่อยๆ จนถึงยอดด้านบนสุดของทะเลทราย จะสามารถมองเห็นวิวเมืองมุยเน่ในมุมกว้างและยังเป็นจุดที่เหมาะกับการชมพระอาทิตย์ขึ้นและตกอีกด้วย โดยค่าเช่ารถ ATV สำหรับ 2 ที่นั่ง จะอยู่ที่ 600,000 ดอง และค่าเช่ารถจี๊ป 4 ที่นั่ง จะอยู่ที่ 800,000 ดอง นอกจากจะสามารถขับรถชมวิวทะเลทรายแล้ว ยังสามารถถ่ายรูปสวยๆ คู่กับรถได้อีกด้วย

1.1.3 ขี่อูฐ

การขี่อูฐเรียกได้ว่าเป็นอีกไฮไลท์ของที่นี่เลย ไม่ต้องเดินทางไปถึงดูไบก็สามารถลองขี่อูฐได้ ซึ่งเป็นกิจกรรมที่ได้เพิ่มเข้ามาเมื่อไม่นานมานี้เอง โดยนักท่องเที่ยวสามารถขี่อูฐเดินไปบริเวณรอบๆ หรือขี่อูฐเพื่อถ่ายรูปสวยๆ ได้ จะมีค่าบริการอยู่ที่ 200,000 ดองเท่านั้น

1.1.4 นั่งเรือชมทะเลสาบ Bau Ba

ใครที่อยากพักจากวิวทะเลทรายก็สามารถมาเช่าเรือเพื่อพายชมความสวยงามของทะเลสาบได้ เป็นกิจกรรมที่เหมาะกับผู้ที่ต้องการพักผ่อนและต้องการความสงบ นอกจากน้ำใสท้องฟ้าสวยแล้ว บริเวณทะเลสาบจะมีดอกบัวจำนวนมากให้ได้ชมอย่างใกล้ชิดอีกด้วย

1.1.5 ชมพระอาทิตย์ขึ้นและพระอาทิตย์ตก

การชมพระอาทิตย์ขึ้นและตก ถือเป็นไฮไลท์ของที่นี่เลยค่ะ วิวของพระอาทิตย์ และแสงที่ตกกระทบบนทะเลทราย ทำให้บรรยากาศโดยรอบมีความสวยงามและโรแมนติกอย่างมาก

1.2 การเดินทาง

ที่มุยเน่จะไม่ได้มีสนามบินให้ได้บินตรง ดังนั้นคนส่วนใหญ่จะลงที่สนามบินโฮจิมินห์ และนั่งรถต่อเข้ามาที่มุยเน่ โดยทั้ง 2 เมืองนี้จะอยู่ห่างกันประมาณ 230 กิโลเมตร จะแนะนำการเดินทาง 4 วิธี ดังนี้

• เดินทางโดยรถบัส วิธีนี้จะเป็นวิธีที่ประหยัดที่สุด โดยมีรถบัสทั้งหมด 18 รอบต่อวัน ใช้เวลาทั้งหมด 5 – 6 ชั่วโมง ทั้งนี้จะขึ้นอยู่กับสภาพการจราจรในช่วงนั้นๆ ค่าตั๋วจะอยู่ที่ประมาณ 120,000 – 180,000 ดอง
• เดินทางโดยรถบัสแบบนอน เป็นอีกวิธีที่คนนิยมมากที่สุด เพราะว่าเบาะรถที่นั่งจะเป็นลักษณะเหมือนเตียงนอน ที่สามารถเอนพักผ่อนได้โดยไม่ต้องนั่งให้เมื่อย มีที่สำหรับเก็บสัมภาระ มีแอร์ปรับอากาศ ไม่สามารถนำอาหารขึ้นไปทานได้ สามารถนำไปได้แค่เฉพาะน้ำเปล่า และจะไม่มีห้องน้ำบริการบนรถ แต่จะพาแวะจอดเพื่อเข้าห้องน้ำสาธารณะข้างทาง ค่าตั๋วจะอยู่ที่ 190,000 – 240,000 ดอง ขึ้นอยู่กับราคาของรถบัสแต่ละเจ้า
• เดินทางโดยรถไฟ การนั่งรถไฟจะใช้เวลาประมาณ 6 – 7 ชั่วโมง ซึ่งใช้เวลานานพอสมควร จึงเหมาะกับผู้ที่ไม่ได้เร่งรีบและชอบนั่งชมวิวธรรมชาติระหว่างทาง ค่าตั๋วรถไฟก็จะอยู่ที่ประมาณ 150,000 – 180,000 ดอง
• เดินทางโดยรถแท็กซี่ เหมาะสำหรับผู้ที่เดินทางเป็นกลุ่มและมีข้อจำกัดทางด้านเวลา ซึ่งวิธีนี้จะใช้เวลาประมาณ 4 ชั่วโมง ก็ถึงในตัวเมืองมุยเน่ ทั้งนี้จะขึ้นอยู่กับสภาพการจราจรในขณะนั้นด้วย และวิธีการนี้สามารถนั่งรถมาลงที่ทะเลทรายขาวโดยตรงได้เลย

หลังจากถึงตัวเมืองมุยเน่แล้ว สามารถนั่งรถสองแถว รถแท็กซี่ หรือเช่ารถเพื่อเดินทางมาที่ทะเลทรายขาว ซึ่งอยู่ห่างจากตัวเมืองประมาณ 30 กิโลเมตร ซึ่งใช้เวลาในการนั่งรถต่อประมาณ 30 – 40 นาทีเท่านั้น

2. ทะเลทรายแดง (Red sand dunes)

ทะเลทรายแดง ตั้งอยู่ที่เมืองฟานเถียต จังหวัดบิ่ญถ่วน ซึ่งอยู่ห่างจากตัวเมืองมุยเน่ประมาณ 20 กิโลเมตร มีพื้นที่ทั้งหมด 50 เฮกเตอร์ เนื้อทรายค่อข้างละเอียดและมีสีแดง สาเหตุที่ทะเลทรายมีสีแดงเกิดจากการสะสมกับของสนิมเหล็กจำนวนมากนั่นเอง อุณหภูมิโดยเฉลี่ยจะอยู่ที่ประมาณ 27 องศาเซลเซียส ดังนั้นช่วงที่เหมาะกับการเดินทางก็คือ ช่วงเช้าและช่วงบ่าย 15.00 น.เป็นต้นไป เพราะเป็นช่วงที่อากาศจะเริ่มเย็นและอากาศจะไม่ได้ร้อนเท่าช่วงเที่ยงวัน

เวลาทำการ	เปิดทำการทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง
แผนที่	ดูแผนที่ Google Maps

2.1 กิจกรรมที่แนะนำ

2.1.1 เล่นแซนด์บอร์ด

การเบ่นแซนด์บอร์ด เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่แนะนำให้ได้ลองทำ ราคาจะอยู่ที่ 10,000 – 15,000 ดอง ซึ่งถือเป็นกิจกรรมที่มีความน่าตื่นเต้นและท้าทาย ใครที่ชอบกิจกรรมท้าทาย ก็สามารถลองเล่นแซนด์บอร์ดกันได้ค่ะ

2.1.2 นั่งรถ ATV หรือรถจี๊ป

ถึงทะเลทรายแดงจะไม่ได้มีขนาดใหญ่เท่าทะเลทรายขาว แต่สภาพอากาศที่ค่อนข้างร้อนก็ไม่เหมาะกับการเดินเท้าเช่นกัน สำหรับใครที่ไม่อยากเดินเพื่อเข้าไปในโซนทะเลทราย รถ ATV และรถจี๊ปถือเป็นอีกทางเลือกที่สะดวก โดยหากเดินทางกัน 2 คน จะแนะนำเป็นรถ ATV ค่าเช่าจะอยู่ที่ 600,000 ดองต่อคัน แต่ถ้าใครที่เดินทางมาเป็นกลุ่มจะแนะนำเป็นรถจี๊ป ค่าเช่าจะอยู่ที่ 800,000 ดองต่อคัน โดยใครที่ไม่อยากขับเองก็จะมีพนักงานบริการขับรถให้ นอกจากจะได้ขับรถชมวิวทะเลทรายแล้ว สามารถถ่ายรูปกับรถ ATV หรือรถจี๊ป เพื่อเพิ่มความสวยงามให้กับรูปถ่ายได้อีกด้วย

2.1.3 ชมพระอาทิตย์ขึ้นและพระอาทิตย์ตก

ทะเลทรายแดงก็เป็นอีกที่ที่เหมาะกับการชมวิวพระอาทิตย์ขึ้นและตก แสงของพระอาทิตย์ที่กระทบกับทรายสีแดง ทำให้บรรยากาศโดยรอบมีความสวยงามอย่างมาก

2.2 การเดินทาง

เนื่องจากที่เมืองฟานเถียตจะไม่ได้มีสนามบินให้ได้บินตรง นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่จึงเลือกมาลงที่เมืองโฮจิมินห์ ซึ่งระยะทางระหว่างเมืองโฮจิมินห์มายังฟานเถียต 200 กิโลเมตร จะใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 4 – 6 ชั่วโมง แล้วแต่ประเภทของการเดินทางที่เลือกใช้ โดยวิธีการเดินทางที่แนะนำจะมีทั้งหมด 3 วิธี ดังนี้

• เดินทางโดยรถไฟ เป็นวิธีการเดินทางที่ประหยัดที่สุดและไม่เร่งรีบ เนื่องจากว่าเป็นวิธีที่ใช้เวลาในการเดินทางค่อนข้างนาน ประมาณ 5 – 6 ชั่วโมง ค่าใช้จ่ายจะอยู่ที่ประมาณ 70,000 – 100,000 ดองต่อคน สามารถซื้อตั๋วได้ที่สถานีรถไฟโฮจิมินห์ โดยจะมีรถไฟ 2 สาย ได้แก่ รถไฟหมายเลข SPT1 และ SPT4 ความแตกต่างอยู่ที่ตารางเวลา รถไฟหลายเลข SPT1 จะให้บริการในตอนเช้า และรถไฟหมายเลข SPT4 จะให้บริการในช่วงตอนเย็นสุดสัปดาห์ เมื่อเดินทางถึงสถานีรถไฟฟานเถียต ก็สามารถนั่งรถแท็กซี่ รถบัส หรือมอเตอร์ไซค์รับจ้างประมาณ 30 นาที เพื่อเข้ามาที่ทะเลทรายแดงได้เลย
• เดินทางโดยรถบัสปรับอากาศ เป็นอีกวิธีที่ราคาประหยัด โดยค่าใช้จ่ายจะอยู่ที่ 100,000 – 150,000 ดองต่อคน ซึ่งจะใช้เวลาประมาณ 4 – 5 ชั่วโมง จึงเดินทางมาถึงตัวเมืองฟานเถียต ทั้งนี้เวลาที่ใช้ในการเดินทางจะขึ้นอยู่กับสภาพการจราจรในช่วงนั้นๆ ด้วย เมื่อเดินทางมาถึงที่ตัวเมืองฟานเถียตก็สามารถนั่งรถแท็กซี่ รถบัส หรือมอเตอร์ไซค์รับจ้างประมาณ 30 นาที เพื่อเข้ามาที่ทะเลทรายแดงได้เลย
• เดินทางโดยรถแท็กซี่ เป็นวิธีที่เหมาะกับผู้ที่เร่งรีบ เดินทางเป็นหมู่คณะหรือต้องการความเป็นส่วนตัว เพราะเป็นวิธีการเดินทางที่รวดเร็วแต่ค่าใช้จ่ายก็จะสูงขึ้น วิธีนี้จะใช้เวลาเดินทางประมาณ 4 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับการจราจรในตอนนั้น ซึ่งวิธีนี้สามารถเดินทางไปที่ทะเลทรายแดงได้เลย ค่าใช้จ่ายจะอยู่ที่ 13,600 – 17,000 ดองต่อกิโลเมตร หรือประมาณ 2,000,000 – 3,000,000 ดองต่อคัน

3. คำแนะนำการเดินทาง

• แนะนำให้ทาครีมกันแดด หรือใส่หมวก เนื่องจากที่ทะเลทรายจะเป็นสถานที่กลางแจ้งเปิดโล่ง ไม่มีต้นไม้ จึงสามารถโดนแดดและได้รับรังสี UVA ได้ตลอดเวลา เพื่อป้องกันตัวเองจากแสงแดดจึงแนะนำให้พกครีมกันแดดหรือพกหมวกมาด้วยค่ะ
• พกแว่นกันแดดไปด้วย เพื่อป้องกันทรายหรือฝุ่นเข้าตาระหว่างท่องเที่ยว
• หลีกเลี่ยงการเดินเท้าเปล่าบนทราย เนื่องจากบริเวณทะเลทรายมีอากาศที่ค่อนข้างร้อนและอาจมีเศษขยะหรือสิ่งแปลกปลอม การเดินด้วยเท้าเปล่าอาจทำให้เกิดอันตรายได้ค่ะ
• ควรเตรียมอาหาร น้ำดื่ม หรือของทานเล่นไปเผื่อ เนื่องจากว่าบริเวณทะเลทรายจะเป็นพื้นที่ห่างไกล จะไม่ได้มีร้านอาหารในบริเวณใกล้เคียง
• ห้ามทิ้งขยะหรือขงที่ไม่ใช้แล้วบริเวณทะเลทราย
• ปฏิบัติตามคำแนะนำต่างๆ ของเจ้าหน้าที่เพื่อความปลอดภัย

4. ช่วงที่เหมาะกับการเดินทาง

ช่วงที่เหมาะแก่การเดินทาง จะแนะนำเป็นช่วงเดือนเมษายนถึงเดือนสิงหาคม ช่วงนี้จะเป็นช่วงที่ท้องฟ้าเปิด อากาศแจ่มใส เหมาะแก่การทำกิจกรรมกลางแจ้ง รวมไปถึงการถ่ายภาพเนินทรายได้อย่างสวยงาม โดยในแต่ละวันอากาศก็จะค่อนข้างร้อนและมีความแห้งแล้ง อุณหภูมิเฉลี่ยจะอยู่ที่ 27 องศา ช่วงเวลาที่เหมาะแก่การเดินทางจึงแนะนำเป็น 2 ช่วง ดังนี้

• ช่วงเช้า เวลา 04.30 – 08.30 น. เป็นช่วงที่อากาศจะค่อนข้างเย็นสบาย และเป็นช่วงที่สามารถมารอชมพระอาทิตย์ขึ้นได้อีกด้วย

• ช่วงเย็น เวลา 15.00 – 18.00 น. เป็นช่วงที่แดดร่ม อากาศจะไม่ร้อนเท่าช่วงเที่ยงวัน และยังเป็นช่วงที่สามารถรอชมพระอาทิตย์ตกได้อีกด้วย

สรุป

เวียดนามใต้ เป็นประเทศที่มีทิวทัศน์สวยงาม มีความหลากหลายทางภูมิประเทศ ทั้งภูเขาสูง ทะเล และทะเลทราย จึงเป็นที่นิยมของนักท่องจากหลายประเทศ หากใครที่สนใจอยากสัมผัสประสบการณ์ที่ทะเลทรายแบบไม่ต้องเดินทางไกล ทัวร์เวียดนามใต้จึงเป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจ สามารถแอดไลน์ LINE ID : @lovelysmiletour เพื่อสอบถามเพิ่มเติมได้เลย