เกาะที่มีชื่อว่า เกาะฟูก๊วก เป็นเกาะเล็ก ๆ ทางตอนใต้ของเวียดนามค่ะ เกาะแห่งนี้ใช้เวลาบินจากประเทศไทยแค่ประมาณ 1 ชั่วโมงด้วยกันค่ะ เป็นเกาะที่ค่อนข้างใหม่ มีเจ้าของเดียวกับคนสร้างเมืองตากอากาศชื่อดัง “บาน่าฮิลล์” ของเวียfนามกลางค่ะ โดยแห่งนี้นี้สภาพอากาศจะค่อoข้างคล้่ายที่ไทย รอบๆเกาะเต็มไปด้วยทะเลสีสวย และถือว่านักท่องเที่ยวจะยังไม่ค่อยเยอะมาก และน่าสนใจมากเลยทีเดียวค่ะ วันนี้จะพามาชมกันว่า บนเกาะแห่งนี้ มีอะไรน่าสนใจกับทัวร์เวียดนามใต้ 3 วัน 2 คืนนี้ค่ะ
วันที่ 1
สนามบินสุวรรณภูมิ – สนามบินฟูก๊วก – รับประทานอาหารกลางวัน – นั่งกระเช้าข้ามทะเล Hon Thom Cable Car – ชมสวนน้ำ และสวนสนุก Aquatopia Park – Vin Wonders Mediterranean Town ชมสะพานจูบ หรือ Kiss Bridge – รับประทานอาการเย็น – ตลาดนัดกลางคืน Duong Dong – เข้าที่พัก
สนามบินสุวรรณภูมิ
เริ่มต้นกันที่สนามบินสุวรรณภูมิกันค่ะ โดยไฟล์ทที่เดินทางไปฟูก๊วก เวียดนามใต้นี้ จะเป็นไฟล์ทบินเวลา 9.40 น. และทางทัวร์จะนัดเจอกันที่สนามบินเวลา 6.30 น. เมื่อเดินทางมาถึงแล้วจะได้เจอกับหัวหน้าทัวร์ก่อนค่ะ โดยหัวหน้าทัวร์จะแจก Tag กระเป๋า และเอกสารโปรแกรมการเดินทางให้ และพาไปเช็คอินที่เคาท์เตอร์สายการบินค่ะ โดยครั้งนี้จะเป็นการบินไปเวียดนามด้วยสายการบิน VietJet Air ค่ะ เมื่อเช็คอินเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็เป็นเวลาอิสระให้จัดการธุระส่วนตัว หรือใครอยากเข้าไปรอในเกตก็สามารถทำได้ค่ะ นั่งรอไปสักพัก ทางเจ้าหน้าที่บริเวณหน้าเกตก็เรียกขึ้นเครื่องเวลาประมาณ 8.35 น. ค่ะ และเครื่องออกเวลา 9.40 น. และเดินทางถึงสนามบินฟูก๊วกในเวลาประมาณ 11.00 น. ค่ะ
สนามบินฟูก๊วก
เมื่อเดินทางมาถึงสนามบินประเทศเวียดนามเรียบร้อยแล้วนั้น ก็ได้ผ่านด่าน ตม. ของทางเวียดนามค่ะ โดยการผ่าน ตม.ของเวียดนามนั้นไม่ยากเลยค่ะ เพียงแค่ยื่นหนังสือเดินทางให้แก่เจ้าหน้าที่ เจ้าหน้าที่ก็จะทำการปั้มที่หนังสือเดินทางให้แค่นั้นค่ะ เมื่อเรียบร้อยแล้วก็เดินทางมารอรับกระเป๋าเดินทางที่สายพานรับกระเป๋าของสนามบินค่ะ และเนื่องจากสนามบินแห่งนี้เป็นสนามบินที่ไม่ใหญ่มาก และมีเที่ยวบินมาลงจอดไม่เยอะเท่าไหร่นัก ทำให้ไม่เสียเวลารอกระเป๋าเลยค่ะ และเมื่อทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว ก็เดินทางออกมายังรถบัสที่มาจอดรออยู่แล้วที่ด้านหน้าสนามบิน โดยจะเป็นรถบบัสขนาดประมาณ 40-45 ที่นั่ง และออกเดินทางไปยังภัตตาคารอาหาร เพื่อรับประทานอาหารกลางวันกันค่ะ
รับประทานอาหารกลางวัน
เมื่อเดินทางออกจากสนามบินสักพัก ทัวร์ก็พามาร้านอาหารในเมืองของเกาะนี้กันค่ะ โดยอาหารที่เวียดนามจะเป็นแบบโต๊ะจีน อาหารที่เกาะแห่งนี้ส่วนใหญ่จะประกอบด้วยอาหารทะเลค่ะ เรื่องรสชาติอาหารจะอยู่ที่กลางๆ ไม่ค่อยมีรสจัดจ้านมากเหมือนที่ไทย แต่ถือว่าคนไทยพอทานได้และไม่รู้สึกว่าแปลกมากค่ะ โดยทางร้านจะเสิร์ฟแบบโต๊ะจีน อาหารจะค่อย ๆ ทยอยมาเสิร์ฟเรื่อย ๆ และขาดไม่ได้กับเมนูเปาะเปี๊ยะเวียดนามค่ะ โดยอาหารชนิดนี้นั้นประกอบไปด้วยแผ่นแป้ง เส้นขนมจีน ผักเครื่องเคียง น้ำซอส และเนื้อปลาสดค่ะ เรื่องรสชาติถือว่าค่อนข้างแปลกใหม่ แต่ก็อร่อยใช้ได้เลยค่ะ
นั่งกระเช้าข้ามทะเล Hon Thom Cable Car
หลังจากรับประทานอาหารเที่ยงเสร็จแล้วก็ออกเดินทางกันต่อ มาทางตอนใต้ของเกาะค่ะ เพื่อเดินทางไปยันเกาะฮอนเทิม (Hon Thom) ที่เป็นสถานที่ตั้งของสวนสนุกและสวนน้ำ Aquatopia Park ค่ะ เมื่อเดินทางมามาถึงแล้วทางไกด์และหัวหน้าทัวร์ได้ทำการแจกตั๋วเพื่อเดินทางไปยัน Aquatopia Park ค่ะ โดยตั๋วนี้จะทำให้สามารถเล่นเครื่องเล่นและสวนน้ำได้ทั่วเกาะเลยค่ะ
แนะนำให้ใครได้รับตั๋วนี้ไปแล้วให้ถ่ายรูปตั่วไว้ด้วยนะคะ เผื่อตั๋วสูญหายก็สามารถใช้รูปจากมือถือ เพื่อแสดงแก่เจ้าหน้าทีเพื่อนเลนสวนสนุกได้ค่ะ เมื่อแสกนตั๋วที่ด่านแรกเสร็จแล้วก็เดินไปยังที่รอกระเช้าเพื่อนั่งกระเช้าข้ามทะเลค่ะ โดยกระเช้าที่ใช้นี้จะค่อนข้างใหญ่และสามารถจุนักท่องเที่ยวได้ประมาณ 25-30 ท่านเลยทีเดียวค่ะ และเป็นกกระเช้าที่ยาวที่สุดในเวียดนาม ใช้เวลาในกระเช้าประมาณ 15 นาทีด้วยกันค่ะ บรรยากาศรอบ ๆ ของกระเช้าข้ามทะเลนี้สวยมาก ๆ เลยค่ะ สามารถมองเห็นทะเลสีครามได้สุดลูกหูลูกตา และสามารถมองเห็นหมู่บ้านชาวประมงท้องถิ่นของเวียดนามได้อีกด้วย
ชมสวนน้ำ และสวนสนุก Aquatopia Park
เมื่อเดินทางมาถึงสวนน้ำ ทางทัวร์จะจะพาเดินเข้าไปและทำการสแกนตั๋วเพื่อเข้าสวนน้ำและสวนสนุกกันค่ะ โดยสถานที่แห่งนี้จะค่อนข้างใหญ่ มีทั้งสวนนั้นให้นักท่องเที่ยวได้พาครอบครัวมาพักผ่อนหย่อนใจ โดยบริเวณสวนน้ำแห่งนี้ นักท่องเที่ยวสามารถนำชุดว่ายน้ำมาเปลี่ยนและเล่นสวนน้ำภายในนี้ได้ค่ะ
โดยจะมีหลายโซนด้วย ทั้งโซนเด็ก ล่องแก่ง และโซนสไลด์เดอร์หลากหลายรูปแบบค่ะ ภายในสวนน้ำก็มีพื้นที่อำนวนความสะดวกให้แก่นักท่องเที่ยวครบครัน เช่น ห้องน้ำ ห้องอาบน้ำ และส่วนของล็อคเกอร์ให้ด้วยค่ะ และนอกจากสวนน้ำยังมีสวนสนุกทีมีทั้งให้เล่นเพื่อชมวิวไปทั่วเกาะ และมีรถไฟเหาะ ให้นักท่องเที่ยวได้ลองเล่นกันอีกด้วยค่ะ
และนอกจากนี้ภายในนั้น จะมีสวนสนุกและสวนน้ำแล้ว ยังมีคาเฟ่ให้นักท่องเที่ยวได้หลบร้อนกัน มีศูนย์อาหาร Food Truck ที่ขายทั้งน้ำ ไอศครีม และมีร้านของฝากที่ขายสินค้าพื้นเมืองให้นักท่องเที่ยวได้ซื้อกลับไปด้วย เรียกได้ว่า ครบ และจบในที่เดียวเลยค่ะ
Vin Wonders Mediterranean Town ชมสะพานจูบ หรือ Kiss Bridge
เมื่อเดินเล่นภายในสวนน้ำจนพอใจแล้ว ทางไกด์ได้นัดมาเจอกันที่จุดนัดพบ เวลาประมาณ 16.30 น. เพื่อเดินทางและนั่งกระเช้าไปยันเกาะหลักเหมือนเดิมค่ะ และเมื่อเดินทางมาถึงก็เดินถ่ายรูปบริเวณ Vin Wonders Mediterranean Town สักพัก บริเวณนี้สวยงามมาก ๆ ค่ะ บ้านเมืองแถบนั้นจะให้บรรยากาศเหมือนอยู่ในอิตาลี หรือกรีกเลยทีเดียวค่ะ นักท่องเที่ยวสามารถแต่งตัวสวย ๆ เพื่อถ่ายรูปเช็คอินบริเวณนี้ได้ค่ะ
เพื่อถึงเวลาอันสมควรแล้ว ทางไกด์ก็พาเดินทางไปยันสะพานจูบด้วยรถกอล์ฟที่อยู่ไม่ไกลจากตัว Vin Wonders Mediterranean Town มากนัก โดยจะมีค่าเข้าประมาณ 400 บาทไทยค่ะ และสะพานแห่งนี้เหมาะแก่การเดินชมพระอาทิตย์ตกดิน เวลาประมาณ 5-6 โมงเย็นช่วงนี้แสงอาทิตย์จะสะท้อนกับทะเล และสะท้อนกับทาง Vin Wonders Mediterranean Town เรียกได้ว่าเป็นวิวที่สวยงามมาก ๆ เลยค่ะ
รับประทานอาการเย็น
จากนั้นก็ถึงเวลารับประทานอาหารเย็นกันค่ะ โดยภัตตาคารแห่งนี้ใช้เวลาเดินทางประมาณ 30 นาทีค่ะ อาหารจะเป็นรูปแบบโต๊ะจีนที่ประกอบไปด้วยอาหารทะเลเป็นส่วนใหญ่ค่ะ แต่จะมีเมนูพิเศษเป็นหม้อไฟปลาและเมนูยำแมงกระพรุนที่รสชาติค่อนข้างถูกปากคนไทยค่ะ และมีน้ำสมุนไพรที่รสชาติอร่อย ช่วยดับกระหายได้ทีเดียวค่ะ
ตลาด Duong Dong ตลาดนัดกลางคืนฟูก๊วก
จากนั้นก่อนเดินทางกลับโรงแรมทางทัวร์ก็ได้พาไปแวะเดินช้อปปิ้งที่ตลอดกลางคืนของทางฟูก๊วกค่ะ โดยตลาดแห่งนี้มีชื่อว่าตลาด Duong Dong ค่ะ ตลาดนี้จะอยู่ในซอยเล็ก ๆ และ 2 ข้างทางจะมีร้านอาหารสตรีทฟู้ดมากมาก ที่เด่น ๆ เลยจะเป็นร้านขายอาการทะเลสด ที่มีให้เลือกหลายร้าน ทางร้านจะจัดเป็นตู้ที่มีสัตว์ทะเลโชว์อยู่ และยังมีขนมพื้นบ้านต่าง ๆ ร้านไอศครีม ร้านของฝาก และร้านเสื้อผ้ามากมาย นักท่อเงที่ยวสามารถซื้อของฝากในบริเวณตลาดนี้ได้ค่ะ ด้วยความที่เป็นตลาดพื้นเมือง ทำให้ราคาสินค้าต่าง ๆ นั้นไม่แพงค่ะ และส่วนใหญ่ตลาดนี้จะยังรับเป็นเงินสดอยู่ค่ะ และไกด์จะให้เวลาเดินช้อปปิ้งบริเวณนี้ประมาณ 30 นาที และเดินทางกลับที่พักกันค่ะ
เข้าที่พัก
โรงแรมที่พักจะเป็นโรงแรมที่มีชื่อว่า VIN HOLIDAY FIESTA HOTEL เป็นโรงแรมระดับ 4 ดาวค่ะ โดยโรงแรมนี้จะอยู่ในเครือ VinPeral ตั้งและอยู่ใกล้กับบริเวณ GRAND WORLD PHU QUOC ที่มีแห่งช้อปปิ้งและของกินมากมาย และหากเดินไปอีกนิด ก็จะเจอทะเลของฟูก๊วกค่ะ เมื่อทำการเช็คอินและรับคีย์การ์ดเรียบร้อยแล้วแล้วก็ถึงเวลาพักผ่อนตามอัธยาศัยค่ะ
วันที่ 2
รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม – ซาฟารีเวิล ฟูก๊วก – รับประทานอาหารกลางวัน – สวนสนุก VIN WONDERS – อควาเรียมรูปเต่า – Bamboo Pavilion หรืออาคารสถาปัตยกรรมไม้ไผ่ – GRAND WORLD PHU QUOC – รับประทานอาการเย็น – เข้าที่พัก
ซาฟารีเวิล ฟูก๊วก
ตัวซาฟารีเวิร์ลนั้นอยู่ห่างจากที่พักประมาณ 20 นาทีค่ะ สวนสัตว์แห่งนี้เป็นสวนสัตว์ที่นักท่องเที่ยวสามารถเดินชมสัตว์หลากหลายสายพันธ์ุ และสามารถนั่งรถบัสของทางสวนสัตว์เพื่อชมสัตว์ได้ค่ะ
โดยรถบัสจะพาเข้าไปใกล้ชิดกับสัตว์นานาชนิดจากทั่วโลก เช่น สิงโต เสือ ม้าลาย ยีราฟ ต่างๆ นับว่าเป็นการเที่ยวชมสัตว์ที่น่าตื่นตาตื่นใจ แล้วน่าจะเหมาะสำหรับครอบครัวที่พาเด็ก ๆ มาเที่ยวชมค่ะ
รับประทานอาหารกลางวัน
หลังจากเที่ยวชมสวนสัตว์แล้วนั้น ก็มาพักรับประทานอาการเที่ยงกันก่อนค่ะ โดยร้านอาหารแห่งนี้นั้นจะอยู่ในสวนสนุก VIN WONDERS ค่ะ โดยจะเป็นร้านอาหารในลักษณะบุฟเฟ่ต์ในสวนสนุก หากต้องการเข้ารับประทานอาหารสามารถซื้อทานเพิ่มเติมได้ค่ะ ราคาสำหรับผู้ใหญ่จะอยู่ที่ 350,000 ดอง ราคาสำหรับเด็กจะอยู่ที่ 175,000 ดองค่ะ ลักษณะของร้านจะมี 2 ชั้นด้วยกัน และอาหารด้านในจะมีอาหารหลากหลายชนิดให้เลือกทาน ไม่ว่าจะเป็นอาหารท้องถิ่นเวียดนาม เช่น เฝอ และอาหารสไตล์อิตตาเลี่ยน และยังมีของหวาน ผลไม้ สลัดต่างๆ ให้เลือกมากมายค่ะ
สวนสนุก VIN WONDERS
สวนสนุก VIN WONDERS แห่งนี้ถือเป็นสวนสนุกที่ใหญ่ที่สุดของประเทศเวียดนามค่ะ โดยมีพื้นที่ขนาดใหญ่ประมาณ 5 แสนตารางเมตร และมีเครื่องเล่นหลากหลายชนืด ไม่ว่าจะเป็นรถไฟเพาะ ชิงช้าสวรรค์ขนาดยักษ์ ล่องแก่ง และยังมีมุมถ่ายรูปสวยๆให้ถ่ายรูปเยอะแยะมากมายค่ะ
ภายในยังมีร้านอาหาร ร้อนของฝาก ฟู้ดทรัคที่ขายทั้งน้ำและขนมมากมายค่ะ นักท่องเที่ยวสามารถเดินไปยังส่วนต่าง ๆ ของสวนสนุกได้อย่างอิสระค่ะ และในเวลาประมาณ 16.00 น. จะมีขบวดพาเหรกของทางสวนสนุก ที่มีนักแสดงแต่งตัวหลากหลายสีสัน เต้นประกอบดนตรีบริเวณทางเดินของสวนสุกอีกด้วยค่ะ
อควาเรียมรูปเต่า
อควาเรียมรูปเต่านี้เป้นส่วนหนึ่งของสวนสนุก VIN WONDERS ค่ะ โดยเป็นอาคารจัดแสดงสัตว์น้ำขนาดใหญ่ รวบรวมสัตว์น้ำนานาชนิดกว่า 3,000 สายบพันธ์มาไว้ในที่นี่ค่ะ เข้ามาภายในก็จะเห็นตู้อความเรียมขนาดใหญ่ ที่มีพันธ์ุปลายเล็กใหญ่หลากหลายชนิดว่าอยู่ภายในค่ะ
และเมื่อเดินไปรอบๆก็จะมีตู้ปลาจัดแสดงพันธ์ุปลาหลาหลายชนิด เรียงรายอยู่ที่โถงทางเดิน เรียกได้ว่าภายในอความเรียมนี้ถือเป็นที่หลบร้อนและให้ความเพลิดเพลินได้ดีมากเลยทีเดียวค่ะ และนอกจากนี้ภายในอความเรียมนี้ยังมีโชว์นางเงือกให้ได้ชมอีกด้วยค่ะโดยการแสดงจะเป็นโชว์ที่นักแสดงจะสวมชุดนางเงือก มีทั้งนักแสดงผู้หญิงและผู้ชาย ทำการดำน้ำและแสดงท่าทางประกอบดนตรีอลังการภายในตัวความเรียมด้านหน้าทางเข้า การแสดงใช้เวลาประมาณ 10 นาทีด้วยกันค่ะ
รอบการแสดงโชว์นางเงือก
| จันทร์ – ศุกร์ | 11.00 น. | 14.00 น. | – | – |
| เสาร์ – อาทิตย์ | 11.00 น. | 14.00 น. | 17.30 น. | 20.00 น. |
Bamboo Pavilion หรืออาคารสถาปัตยกรรมไม้ไผ่
หลังจากเดินทางในสนุกแล้ว ทางไกด์จะนัดมารวมกันที่จุดนัดพบเวลา 16.30 น. ค่ะ และออกเดินทางกันต่อไปเพื่อแวะชมอาคารสถาปัตยกรรมไม้ไผ่ ที่อยู่ใกล้กับบริเวณ GRAND WORLD ค่ะ อาคารแห่งนี้จะเป็นอาคารไม้ไผ่ที่สร้างมาจากไม้ไผ่คุณภาพดีกว่า 42,000 ต้นเลยทีเดียวค่ะ นักท่องเที่ยวสามารถถ่ายรูปบริเวณด้านหน้า และเดินเข้าไปชมกับความละเอียดและความน่าทึ่งของการสร้างอาคารนี้ได้ที่ภายในอาคาร และสามารถถ่ายรูปบริเวณรอบ ๆ ได้ค่ะ และด้านหลังของอาคารนี้ได้มีการจัดแสดงขบวนตัวการ์ตูนและตัวตลกต่าง ๆ ที่เคยเห้นตามสวนสนุก ทำให้บรรยากาศคึกคักและเต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวในช่วงเย็นค่ะ
GRAND WORLD PHU QUOC
เมื่อเดินไปอีกนิดจากอาคารสถาปัตยกรรไม้ไผ่ก็จะเข้าสู่ในส่วนของ GRAND WORLD PHU QUOC ค่ะ บริเวณนี้จะเป็นศูนย์รวมความบันเทิง ร้านอาหาร และแหล่งช้อปปิ้งของเกาะฟูก๊วกนี้เลยทีเดียวค่ะ โดยจะมีลักษณะเป็นอาคารที่ตกแต่งได้อย่างสวยงามและทันสมัย จะมีคลองอยู่ตรงกลาง ที่หากนักท่องเที่ยวต้องการล่องเรือชมความงามของ GRAND WORLD ก็สามารถทำได้ค่ะ หรือเลือกที่จะเดินไปรอบ ๆ เพื่อช้อปปิ้งด้วยบรรยากาศที่คึกคักและเต็มไปด้วยนักท่องเที่ยว และมีร้านอาหาร ร้านนวด หรือร้านขายของฝากมากมายได้เช่นกันค่ะ
บรรยากาศที่ GRAND WORLD นี้เหมาะจะมาในช่วงเย็น – ค่ำมากที่สุดค่ะ ด้วยอากาศที่จะไม่ร้อนเท่าในช่วงกลางวัน และหากมาเที่ยวในช่วงพระอาทิตย์ตกดิน ตึกต่าง ๆ จะสะท้อนกับแสงที่ส้มของพระอาทิตย์ ให้บรรยากาศที่สวยงามที่สุดค่ะ เหมาะแก่การถ่ายรูปเช็คอินค่ะ และในช่วงกลางคืน ที่บริเวณ GRAND WORLD นี้ก็จะมีการจัดแสดงแสดงสีแสดงประกอบดนตรีอลังการที่บริเวณคลองนี้ด้วยค่ะ
รับประทานอาการเย็น
เมื่อถึงเวลาประมาณ 19.30 น. ทางไกด์ก็นัดมาทานอาหารเย็นอีกครั้ง ที่ร้านอาหารที่อยู่ในบริเวณ GRAND WORLD ร้านอาหารนี้อยู่ไม่ไกลจากโรงแรมมากนัก สามารถเดินไปได้ค่ะ โดยร้านอาหารในช่วงเย็นจะเป็นลักษณะแบบโต๊ะจีนและจะเน้นไปทางอาหารทะเลเป็นส่วนใหญ่เช่นเคย และมีเมนูพิเศษเป็นเมนูชาบูหม้อไฟปลาค่ะ จากนั้นหากใครต้องการที่จะเดินเที่ยวต่อ หรือกลับโรงแรมตามอัธยาศัยค่ะ
วันที่ 3
รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม – ศาลเจ้าดิงชาว – เดินทางสูสนามบินฟูก๊วก เพื่อเดินทางกลับประเทศไทย
ศาลเจ้าดิงชาว
เมื่อรับประทานอาหารเช้าเสร็จแล้วก็เดินทางแวะไหว้สักการะสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของชาวเวียดนามก่อนทีจะเดินทางกลับประเทศไทยค่ะ โดยศาลเจ้าแห่งนี้มีชื่อว่าศาลเจ้าดิงชาว ตั้งอยู่ในวัดเขตวัดดิงชาว ใช้เวลาเดินทางจากโรงแรมประมาณ 30 นาทีค่ะ บริเวณรอบ ๆ จะเป็นทะเลสีสวย หากไหว้ศาลเจ้าเสร็จแล้วสามารถเดินทางที่หาดทรายบริเวณข้าง ๆ เพื่อชมทะเลได้ค่ะ
สรุป
เกาะแห่งนี้เรียกได้ว่าเป็นเกาะแห่งการพักผ่อนหย่อนใจ ที่เหมาะสำหรับครอบครัวหรือกลุ่มเพื่อนที่ต้องการเดินทางเที่ยวสุดสัปดาห์ระยะสั้น ๆ เที่ยวง่าย อาหารอร่อยถูกปาก สภาพอากาศคล้ายกับประเทศไทย เดินทางจากไทยไม่นานแค่ประมาณ 1 ชั่วโมง และมีสถานที่ท่องเที่ยวหลากหลาย และสวยงามให้ได้ชมบรรยากาศค่ะ หากสนใจทัวร์ฟูก๊วกสามารถแอดไลน์ LINE ID : @lovelysmiletour เพื่อสอบถามเพิ่มเติมได้เลย