ชมความมหัศจรรย์และความสวยงามทางธรรมชาติระดับ 5A ได้แก่ หุบเขาอวตาร ที่อุทยานแห่งชาติจางเจียเจี้ย สถานที่ที่เป็นแรงบันดาลใจในการสร้างฉากภูเขาลอยฟ้าแห่งดาวแพนดอร่าในภาพยนตร์เรื่อง Avatar และเป็นอุทยานทางธรรมชาติที่ได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก ใครที่กำลังแพลนไปเที่ยวที่เมืองจางเจียเจี้ยหรือกำลังสนใจมาเที่ยวที่อุทยานแห่งนี้อยู่สามารถอ่านรีวิวจากบทความนี้ได้เลย
1.ประวัติ
อุทยานแห่งชาติจางเจียเจี้ย หรือ อุทยานแห่งชาติอู่หลิงหยวน เป็นอุทยานแห่งชาติแห่งแรกและเป็นหนึ่งในอุทยานแห่งชาติที่ดีที่สุดของจีน ก่อตั้งขึ้นในปี 1982 และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกในปี 1992 มีเนื้อที่กว่า 9,500 ตารางกิโลเมตร เต็มไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติมากมาย เช่น เทียนจื่อซาน (หุบเขาอวตาร) เทียนเเหมินซาน (ประตูสวรรค์) สะพานแก้ว ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวระดับ 4-5 A ที่ใครมาเเที่ยวที่เมืองจางเจียเจี้ยต้องไม่พลาด
พามารู้จัก หุบเขาอวตาร ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวไฮไลท์ของบทความนี้กัน ที่นี่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวระดับ 5A ที่มีชื่อเสียงและได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวทีวร์จางเจียเจี้ยเป็นอย่างมาก หุบเขาแห่งนี้ชื่อว่า เทียนจื่อซาน แต่ที่เรียกว่า หุบเขาอวตาร เพราะว่าที่นี่เป็นแรงบันดาลใจในการทำฉากภูเขา Hallelujah และอาณาจักรแพนดอร่า ในภาพยนตร์เรื่องอวตาร Avatar ในปี 2010 นั่นเอง
หุบเขานี้เต็มไปด้วยแท่งภูเขาหินทรายที่พุ่งขึ้นมาจากพื้นดินรวมแล้วกว่า 3,000 ยอด โดยยอดที่สูงที่สุดมีความสูงกว่า 1,262 เมตรจากระดับน้ำทะเล ซึ่งเกิดจากการกัดเซาะของสภาพอากาศยาวนานหลายปี ก่อให้เกิดปรากฏการณ์ทางสภาพภูมิประเทศ ที่มีเสาหินทรายกระจัดกระจายอยู่ทั่วพื้นที่กว่า 360 ตารางกิโลเมตร ซึ่งแต่ละยอดเขาจะมีความสูงเฉลี่ย 500-1,000 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล
2.จุดไฮไลท์
2.1 ขึ้นลิฟท์แก้วไป่หลงที่สูงและเร็วที่สุดในโลก
เมื่อมาที่หุบเขาอวตารแห่งนี้แล้ว เราจะได้ขึ้นลิฟท์แก้ว Outdoor ที่ขึ้นชื่อว่าสูงที่สุดและเร็วที่สุดในโลกชื่อว่า ลิฟท์แก้วไป่หลง ซึ่งลิฟท์นี้จะเป็นลิฟท์แก้วกลางแจ้งที่พาเราขึ้นไปยังจุดชมวิวหุบเขาอวตารที่มีความสูงถึง 330 เมตร เวลาภายในเวลา 10 นาทีเท่านั้น ใครที่อยากได้คลิปสวยๆขณะลิฟท์กำลังขึ้นแนะนำให้ยืนอยู่ติดริมกระจกที่หันหน้าออกไปยังวิวข้างนอก รับรองว่าจะได้เห็นวิวยอดเขาสวยงามตอนลิฟท์กำลังขึ้นอย่างแน่นอน
2.2 จุดชมวิวหุบเขาอวตาร (Southern Sky Column)
จุดชมวิวหุบเขาอวตารจะมีด้วยกัน 2 จุดใหญ่ๆ ได้แก่ จุดที่ 1 คือ บริเวณก่อนทางเข้าขึ้นลิฟท์แก้ว จุดที่ 2 คือ จุดชมวิวหลัก ซึ่งจุดที่ 1 ที่เป็นบริเวณก่อนทางขึ้นลิฟท์แก้วจะเป็นจุดที่เห็นแท่งเขาหินทรายหลากหลายแท่งสวยงามมากและมีคนรอถ่ายรูปกันเยอะสุดๆและสำหรับจุดที่ 2 จะเป้็นจุดชมวิวหลังจากที่เราขึ้นลิฟท์แก้วมาแล้ว จุดนี้จะสวยงามมากเพราะเราจะได้เห็นแท่งเขาหินทรายอย่างใกล้ชิด สวยงามเหมือนอยู่ในอาณาจักรแพนดอร่าในเรื่องอวตารเลย
2.3 สะพานหนึ่งในใต้หล้า (The First Bridge Under The Sun)
เทียนเสี้ยตี้อี้เฉียว (สะพานหนึ่งในใต้หล้า หรือ สะพานใต้ฟ้าอันดับ 1) เป็นสะพานหินที่เป็นทางเชื่อมเขาสองลูกไว้ด้วยกัน เกิดเป็นวิวเขาที่โค้งเชื่อมกันอย่างสวยงาม ใครไปที่สะพานนี้จะเห็นว่าบนสะพานจะมีลูกกุญแจอยู่เต็มไปหมด ซึ่งเป็นความเชื่อของหนุ่มสาวที่ว่าถ้าเอาลูกกุญแจไปคล้องด้วยกันแล้วจะไม่มีวันพรากจากกัน โรแมนติกสุดๆ
3.รีวิวแบบเที่ยวกับทัวร์
หลังจากที่ผ่านประตูทางเข้าเข้ามาแล้ว เราจะต้องมารอขึ้นรถบัสของอุทยานเพื่อไปยังทางขึ้นลิฟท์แก้วไป่หลง โดยจะใช้เวลาในการนั่งรถประมาณ 30 นาที ซึ่งหลังจากที่ถึงทางขึ้นลิฟท์แก้วแล้วอาจจะต้องเดินไปยังตัวลิฟท์และต้องรอคิวโดยใช้เวลารอไม่นานมาก เมื่อลิฟท์มาแล้วสำหรับใครที่อยากได้คลิปสวยๆขณะลิฟท์กำลังขึ้นแนะนำให้ยืนอยู่ติดริมกระจกที่หันหน้าออกไปยังวิวข้างนอกจะได้คลิปที่วิวสวยๆอย่างแน่นอน
หลังจากที่ออกจากลิฟท์แก้วมาแล้วเราต้องเดินไปยังจุดชมวิวหลักโดยใช้เวลาประมาณ 20 นาที ซึ่งระหว่างทางอาจจะได้เจอลิงออกมาทักทายด้วย เมื่อมาถึงจุดชมวิวหลักแล้ว ที่นี่จะมีทางเดินให้เราได้เดินไปเรื่อยๆท่ามกลางวิวแท่งภูเขาหินทรายสวยงามอยู่ทางด้านซ้ายมือ อาจจะมีขึ้นลงบันไดบ้างเล็กน้อย สามารถเดินถ่ายรูปกันได้ตามสบายเลย
เดินตามทางมาเรื่อยๆจะเจอกับ สะพานหนึ่งในใต้หล้า ตรงนี้จะเป็นภูเขาที่เหมือนกับสะพานเชื่อมภูเขาทั้งสองลูกเอาไว้ด้วยกัน สามารถเดินทางลงบันไดไปชมวิวแบบใกล้ชิดด้านล่าง หรือจะข้ามสะพานเพื่อไปชมวิวอีกฝั่งได้ แต่จะสังเกตเห็นลูกกุญแจคล้องเต็มไปหมดเพราะที่นี่เป็นความเชื่อของหนุ่มสาวว่าถ้ามาคล้องกุญแจที่นี่จะทำให้รักยืนยาวนั่นเอง
4.ช่วงเวลาที่เหมาะกับการเดินทาง
สามารถท่องเที่ยวได้ตลอดทั้งปี โดยช่วงที่เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวมากที่สุดคือ ช่วงเดือนก.ย – พ.ย หรือช่วงฤดูใบไม้ร่วง เพราะช่วงนี้อากาศจะค่อนข้างเย็นสบายไม่หนาวมากและยังเหมาะกับการชมใบไม้เปลี่ยนสีด้วย หากใครอยากมาสัมผัสอากาศหนาวเย็นและชมความสวยงามของหิมะสีขาวโพลนที่ปกคลุมยอดเขา แนะนำให้มา ช่วงเดือนธ.ค-ก.พ ก็จะได้เห็นภาพความสวยงามในช่วงฤดูหนาว
5.ข้อมูลเพิ่มเติม
| เวลาทำการ | 07.00 น. – 18.00 น. |
| ที่ตั้ง | เลขที่ 279 ถนนจินเปียน เขตหวู่หลิงหยวน เมืองจางเจียเจี้ย |
| แผนที่ | ดูแผนที่ Google Maps |
สรุป
หุบเขาอวตาร เป็นอีกหนึ่งในลิสต์สถานที่ท่องเที่ยวจุดไฮไลท์เมื่อมาเที่ยวที่เมืองจางเจียเจี้ยแล้วต้องไม่พลาด ที่แห่งนี้เป็นความสวยงามที่เกิดจากธรรมชาติสร้างสรรค์ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นแท่งภูเขาหินทรายแหลมพุ่งขึ้นมาจากพื้นดินมากกว่า 3,000 ยอดและยังมีสถานท่องเที่ยวทางธรรมชาติอีกมากมายที่อยู่ภายในอุทยานแห่งนี้ ใครที่สนใจทัวร์จางเจียเจี้ย เพื่อมาเที่ยวที่อุทยานแห่งนี้ สามารถติดต่อสอบถามข้อมูลทางไลน์ @lovelysmiletour ได้เลย