บทความนี้เลิฟลี่สไมล์ทัวร์จะพาทุกท่านมารู้จักกับเมืองแห่งมรดกโลกหลายร้อยปี ได้แก่ “เมืองนิกโก้” และแนะนำ 6 สถานที่เที่ยวเมืองนิกโก้ที่ต้องไม่พลาดเมื่อมาที่เมืองนี้ เมืองแห่งประวัติศาสตร์เก่าแก่ที่มีเรื่องราวมากมายอีกหนึ่งเมืองของประเทศญี่ปุ่นจะมีสถานที่เที่ยวอะไรบ้าง ไปเที่ยวพร้อมๆกันเลยค่ะ
1.สะพานชินเคียว (Shinkyo Bridge)
เรียกได้ว่าเป็นจุดเเลนด์มาร์คสำคัญของเมืองนิกโก้เลยค่ะ โดยที่นี่จะมีสะพานสีแดงที่พาดผ่านแม่น้ำทั้งสองฝั่งและรายล้อมไปด้วยต้นไม้กับวิวภูเขาสวยงาม ซึ่งสะพานที่นี้ได้ชื่อว่าเป็นสะพานที่ดีที่สุดของญี่ปุ่นและได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกเมื่อปี 1999 ตามตำนานว่ากันว่าสะพานแห่งนี้ถูกบันดาลโดยเทพเจ้าแห่งขุนเขาทำให้สามารถข้ามสะพานไปยังทั้ง 2 ฝั่งนี้ได้เปรียบเสมือนการได้ข้ามแม่น้ำที่เป็นเส้นแบ่งเขตระหว่างดินแดนศักดิ์สิทธิ์กับโลกมนุษย์ค่ะ ด้วยประวัติอันยาวนานและความสวยงามของที่แห่งนี้จึงทำให้เป็นจุดท่องเที่ยวที่คนนิยมมาถ่ายรูปและเดินเล่นชมความสวยงามกันเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะในช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสี (ตุลาคม – พฤศจิกายน) ต้นไม้รอบๆจะสลับสีแดง สีส้ม สีเหลือง ตัดกับสะพาน ทำให้ที่แห่งนี้สวยงามมากขึ้นไปอีก ซึ่งใครที่สนใจไปถ่ายรูปบนสะพานก็จะมีการเก็บค่าขึ้นสะพานด้วยนะคะ ใครที่มาเที่ยวเมืองนี้ต้องไม่พลาดมาชมและมาถ่ายรูปกับสะพานแดงแห่งนี้เลยค่ะ
2.วัดนิกโก้ะซัง รินโนจิ (Nikkosan Rinnoji Temple)
หลังจากที่เที่ยวที่สะพานชินเคียวแล้ว สามารถข้ามฝั่งมาที่วัดรินโนจิต่อได้เลย โดยวัดนี้เรียกได้ว่าเป็นวัดที่สำคัญวัดหนึ่งของเมืองนิกโก้เลยค่ะ สร้างขึ้นโดยพระสงฆ์องค์แรกที่นำพระพุทธศาสนาเข้ามาที่เมืองนิกโก้ในช่วงศตวรรษที่ 8 ซึ่งเป็นที่ประดิษฐานของสิ่งล้ำค่าทางวัฒนธรรมและมีความศักดิ์สิทธิ์ ได้แก่ รูปแกะสลักไม้ Amida, Senju-Kannon(พระพุทธรูป Kannon พันมือ) และ Bato-Kannon(พระพุทธรูป Kannon ที่มีศีรษะเป็นม้า) ซึ่งถือว่าเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่สำคัญของวัดเลยก็ว่าได้ ภายในวัดจะมีอาคารหลักที่ชื่อว่า Sanbutsudo เป็นอาคารหลังใหญ่ที่เคลือบด้วยทองสวยงามและตรงข้ามของอาคารนี้จะเป็นหอสมบัติที่จัดแสดงนิทรรศการเกี่ยวกับพระพุทธศาสนา ใครที่แวะไปที่วัดแห่งนี้นอกจากจะได้ตระการตากับสิ่งศักดิ์สิทธิ์และล้ำค่าทางวัฒนธรรมของญี่ปุ่นแล้วยังสามารถเดินเล่นชมสวนเล็กๆอย่างสวน Shoyeon ได้เช่นเดียวกันโดยเฉพาะในช่วงเข้าสู่ฤดูใบไม้ร่วง สวนแห่งนี้ถือได้ว่าเป็นอีกสวนที่สวยงามที่สุดของญี่ปุ่นอีกที่หนึ่งเลยก็ว่าได้ ใครที่มาที่เมืองนิกโก้ต้องไม่พลาดสถานที่แห่งนี้อีกเช่นเดียวกันนะคะ
3.ศาลเจ้านิกโก้โทโชกู (Nikko Toshogu Shrine)
ศาลเจ้าแห่งนี้เป็นสุสานของผู้นำซามูไรที่โด่งดัง คือ โทกุกาวะ อิเอยาซุ ที่มีบทบาทในการรวมชาติของญี่ปุ่นและยังเป็นหนึ่งในบุคคลสำคัญของประวัติศาสตร์ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งศาลเจ้าแห่งนี้มีโครงสร้างที่ถูกแกะสลักอย่างสวยงามและพิถีพิถันในรายละเอียดเพื่อให้สมเกียรติและมีรูปแกะสลักที่มีสีสันสวยงามและหรูหรา โดยเจดีย์จะมีทั้งหมด 5 ชั้น เป็นสัญลักษณ์แทนธาตุต่าง ๆ บนโลกใบนี้ ได้แก่ ดิน น้ำ ไฟ ลม และความว่างเปล่า สำหรับใครที่มาเที่ยวที่นี่นอกจากจะได้ชมความอลังการของศาลเจ้าแห่งนี้แล้วยังจะได้ชมความสวยงามของภาพแกะสลักที่สวยงามและมีชื่อเสียงมากมาย เช่น ภาพแกะสลักดั้งเดิมที่เป็นต้นกไเนิดของหลักคำสอน “ไม่ฟัง ไม่พูด ไม่ดูสิ่งไม่ดี” ซึ่งใช้ลิงเป็นสัญลักษณ์แทนแต่ละช่วงชีวิตของมนุษย์ที่มีปัญญาต่างระดับกันไป นอกจากนี้ศาลเจ้าแห่งนี้ยังได้รับการแต่งตั้งให้เป็นมรดกโลกโดยยูเนสโกอีกด้วยนะคะ หลังจากที่ไปที่วัดรินโนจิเสร็จก็สามารถเดินมาที่ศาลเจ้านิกโก้โทโชกูต่อได้เพราะอยู่ในระแวกเดียวกันค่ะ
4.ศาลเจ้าฟูตะระซัง (Futarasan Shrine)
เป็นศาลเจ้าที่มีอายุเก่าแก่กว่าพันปีมาแล้วค่ะ ซึ่งความสวยงามของศาลเจ้าแห่งนี้จะเป็นแนวคลาสสิคสไตล์ดั้งเดิมของญี่ปุ่นที่ถ้าเกิดว่าศาลเจ้าไหนที่มีอายุไม่ถึงพันปีแบบนี้ก็จะหาความสวยงามแบบนี้ไม่ได้เลยค่ะ ซึ่งศาลเจ้าแห่งนี้ก็ยังถูกสร้างขึ้นจากพระสงฆ์องค์แรกที่ได้นำพระพุทธศาสนาเข้ามาในเมืองนิกโก้ เช่นเดียวกันกับ วัดรินโนจิและศาลเจ้านิกโก้โทโชกู สร้างเพื่ออุทิศแด่หนึ่งในเทพเจ้าภูเขาของนิกโก ใครอยากจะมาชมความสวยงามแบบดั้งเดิมของศาลเจ้าญี่ปุ่นที่อายุมากกว่าพันปีก็สามารถมาที่นี่ได้เลยนะคะ สามารถเดินทางได้โดยรถบัสหรือว่าท่านใดที่แวะวัดรินโนจิหรือว่าศาลเจ้านิกโก้โทโชกูเสร็จแล้วก็สามารถเดินเท้ามาที่ศาลเจ้าแห่งนี้ต่อได้เลยค่ะ เรียกได้ว่าไปที่เดียวแต่ได้เที่ยวสถานที่แห่งประวัติศาสตร์ดั้งเดิมของเมืองนิกโก้ครบเลยทีเดียวค่ะ
5.หมู่บ้านเอโดะ วอนเดอร์แลนด์ (EDO WONDERLAND Nikko Edomura)
เป็นสวนสนุกที่จะพาทุกท่านย้อนยุคไปในสมัยเอโดะ ไม่ว่าจะเป็นวัฒนธรรม สิ่งก่อสร้าง วิถีชีวิต โดยได้จำลองสิ่งเหล่านี้ในสมัยเอโดะ เราจะสามารถเห็นภาพบรรยากาศผู้คนแต่งตัวเป็นนินจา ซามูไรเดินอยู่ท่ามกลางอาคารบ้านเรือนแบบสมัยก่อน โดยที่นี่จะแบ่งออกเป็น 5 โซน ได้แก่ ไคโดะ (ถนนสู่เอโดะ), ชุคุบะ (โรงเตี๊ยมของเมือง), โชคะไง (ย่านตลาด), บุเคะ-ยะชิกิ (บริเวณพักอาศัยของซามูไร) และนินจา โนะ ซาโตะ (หมู่บ้านนินจา) โดยที่คุณจะสามารถสัมผัสบรรยากาศเหมือนย้อนกลับไปสมัยเอโดะได้ด้วยตนเองเลยค่ะ อีกหนึ่งกิจกรรมที่ได้รับความนิยมคือการแต่งตัวตามแบบต้นฉบับชาวเอโดะซึ่งที่นี่ก็มีบริการให้เช่าชุดสำหรับนักท่องเที่ยว ไม่ว่าจะใส่ทำกิจกรรมภายในสวนสนุกหรือว่าถ่ายรูปก็สามารถทำได้หมดเลยค่ะ นอกจากนี้ที่นี่ยังมีกิจกรรมอีกมากมายให้ได้เพลินเพลินกันตามฉบับยุคเอโดะ เช่น การแสดงขบวนแห่หญิงคณิกาโออิรัน การแสดงละครจากโรงละครของที่นี่ เป็นต้น ใครที่มาที่นี่ต้องไม่พลาดกับกิจกรรมและดื่มด่ำกับบรรยากาศที่จะพาเราย้อนกลับไปในยุคสมัยเอโดะที่ยิ่งใหญ่เลยนะคะ
เช็คราคาบัตรเข้าหมู่บ้านเอโดะ วอนเดอร์แลนด์ได้ที่นี่
6.น้ำตกเคะงน (Kegon no taki 華厳の滝)
เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่ต้องไม่พลาดเมื่อมาที่เมืองนิกโก้เลยค่ะ เพราะน้ำตกที่นี่สวยติดอันดับ 1 ใน 3 ของน้ำตกที่สวยที่สุดในญี่ปุ่นเลย โดยน้ำตกจะมีความสูงเกือบถึง 100 เมตร เกิดจากน้ำในทะเลสาบจูเซนจิที่มีต้นกำเนิดมาจากการละลายของเทือกเขานิกโก้ไหลมารวมกันแล้วตกลงมาสู่หน้าผาสูงชันที่เรียกว่า น้ำตกเคะงน นั่นเองค่ะ น้ำตกที่นี่จะมีลิฟท์ไว้บริการโดยสามารถใช้บริการได้ ในช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสีที่นี่เป็นอีกหนึ่งสถานที่เที่ยวยอดฮิตที่เป็นที่นิยมในการมาชมใบไม้เปลี่ยนสีอีกหนึ่งที่เลยค่ะ ใครที่สนใจมาชมความสวยงามของน้ำตกที่ติด 1 ใน 3 ของน้ำตกที่สวยที่สุดในญี่ปุ่นต้องไม่พลาดน้ำตกที่นี่เลยนะคะ
สรุป
โดยสรุปแล้ว เมืองนิกโก้เป็นอีกหนึ่งเมืองที่มีประวัติศาสตร์ กิจกรรมและสถานที่ท่องเที่ยวมากมายสำหรับนักท่องเที่ยวทุกเพศทุกวัย ไม่ว่าจะกำลังมองหาการผจญภัยหรือการพักผ่อน ที่เมืองนิกโก้มีครบทุกสิ่งทุกอย่างเลยค่ะ ดังนั้น หากท่านใดที่กำลังวางแผนเดินทางมาที่เมืองนิกโก้ หวังว่าบทความนี้จะสามารถแนะนำที่เที่ยวเมืองนิกโก้ให้กับทุกท่านได้นะคะหรือท่านใดที่ต้องการเที่ยวแบบโปรแกรมทัวร์ที่ได้รวบรวมไฮไลท์เด็ดของเมืองนี้ไว้ในโปรแกรมทัวร์แล้วทางบริษัท Lovely Smile Tour มี โปรแกรมที่เที่ยวเมืองนิกโก้ ให้เลือกมากมาย สนใจจองหรือสอบถามสามารถแอดไลน์หรือโทรสอบถามได้เลยค่ะ